ขีปนาวุธรัสเซียที่ถล่ม ISIS ในซีเรีย

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
Vladimir Putin Tribute - Katyusha

เพลงที่นิยมร้องกันมากในรัสเซีย





การถล่มด้วยขีปนาวุธของรัสเซียในช่วงเดือนที่ผ่านมา
โดยมียุทธศาสตร์เพื่อสนับสนุน Assad
รัฐบาลซีเรียที่ชอบด้วยกฎหมาย
ได้สร้างความประหลาดใจให้กับคนจำนวนมาก
แต่เรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นเรื่องแปลกใจแต่อย่างใดเลย
แม้ว่ารัสเซียจะไม่ค่อยได้แสดงแสนยานุภาพ
ในด้านขีปนาวุธเหมือนกับชาติตะวันตก
แต่แน่นอนรัสเซียไม่เคยหยุดยั้งการพัฒนาแต่อย่างใด

ขีปนาวุธรัสเซียมีดีอย่างไรบ้าง
คำตอบต้องย้อนหลังไปในอดีต



เริ่มแรกสุดที่สร้างความประหลาดใจคือ
รัสเซียเริ่มต้นวิจัยพัฒนาขีปนาวุธ
ในทันทีที่สงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง
ท่ามกลางความขัดแย้งที่แหลมคม
ระหว่างค่ายสหรัฐกับค่ายโซเวียตรัสเซีย
ในช่วงสงครามเย็นที่กินเวลายาวนานเกินกว่าครึ่งศตวรรษ
สิ้นสุดลงยุค Mikhail Gorbachev



รัสเซียต้องการมีอาวุธไว้ป้องกันประเทศตนเอง/บริวาร
กับไว้โจมตีประเทศศัตรูในวิถีไกลจากฐานที่มั่น
ขีปนาวุธจึงเป็นคำตอบทั้งยุทธศาสตร์กับยุทธวิธี



ประเภทขีปนาวุธรัสเซียจากอดีตถึงปัจจุบัน


เรื่องเล่าไร้สาระ

มีคนเคยถามอดีตสหายพรรคคอมมิวนิสต์
ให้ช่วยอธิบายความแตกต่างของคำว่า
ยุทธศาตร์ กับ ยุทธวิธี
ได้รับคำตอบว่า

ยุทธศาสตร์ คือ ใช้หนึ่งรบสิบ
แบบสงครามกองโจรก่อกวนจัดการไปเรื่อย ๆ
ตามคติพจน์เหมาเจ๋อตุงว่า
เอ็งมาข้ามุด เอ็งหยุดข้าแหย่ เอ็งแย่ข้าไล่ตี

ยุทธวิธี คือ สิบรบหนึ่ง
เหมือนจับคนบ้าต้องใช้จำนวนคนมากจึงจะจับอยู่


รัสเซียได้พัฒนาขีปนาวุธที่มีประสิทธิภาพ
สามารถใช้งานได้จากเรือบิน เรือรบ เรือดำน้ำ และบนบก
เพื่อรองรับการรบในพื้นที่ต่าง ๆ
ที่ยังไม่สามารถบุกยึดพื้นที่จากฝายศัตรูได้
รวมทั้งการติดตั้งไว้ประจำเรือบิน เรือรบ เรือดำน้ำ
ที่ล่องลอยไปใกล้พื้นที่ศัตรูที่มีความขัดแย้งกับค่ายรัสเซีย



ขีปนาวุธป้องกันชายฝั่ง/บนบก กับขีปนาวูธโจมตีเรือรบ
Model Bastion coastal missile system with Yakhont anti-ship missile  ที่มา  https://goo.gl/PvZg4a


คาดว่ารัสเซียมีขีปนาวุธประจำเรือบิน เรือรบ เรือดำน้ำ และบนบก
จำนวนมากกว่าที่ฝ่ายตะวันตกประมาณการไว้มาก
ในเวลาเดียวกันรัสเซียก็ได้พัฒนา
ทำให้ขีปนาวุธสามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์
รวมทั้งสามารถดัดแปลงขีปนาวุธ
ให้ติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ได้อย่างรวดเร็ว
ด้วยยุทธวิธีทั้งสองแบบนี้ของรัสเซีย
ทำให้กลุ่ม NATO(ค่ายสหรัฐ) ต้องทุ่มทุนจำนวนมาก
กับต้องใช้เวลากว่าหลายปีในการพัฒนา
ระบบการป้องกันและเตือนภัยคุกคามจากรัสเซีย



ที่มา  https://goo.gl/PvZg4a  


การยิงขีปนาวุธจำนวน 26 ลูกของรัสเซีย
จากคลังแสงประจำกองเรือรบ
คือการเปิดตัวขีปนาวุธ 3M-14T
ที่แปลงโฉมมาจากขีปนาวุธตระกูล 3M-54 Kalibr
เป็นการยิงจากระบบ VLS (Vertical Launch System)
ขีปนาวุธ  3M-14 มีขนาดความยาวน้อยกว่า 9 เมตร
พร้อมอาวุธที่ติดดั้งที่หัวรบมีน้ำหนัก 450 กิโลกรัม
ระยะยิงที่ครอบคลุมพื้นที่เป้าหมาย 1,500 กิโลเมตร
และแล่นด้วยความเร็วต่ำกว่าเสียง Mach 0.8

เชื่อกันว่าขีปนาวูธนี้สามารถแล่นเร็วกว่าเสียงได้
เมื่อใกล้บรรลุเป้าหมายที่จะต้องการทำลายได้
ด้วยระบบนำวิถีที่แม่นยำเชื่อถือได้
คล้ายกับหลักการกระสุนที่มีหัวขนาดเล็ก
แต่วิ่งด้วยความเร็วสูงจะมีอำนาจทำลายสูงตามมา

นักวิเคราะห์ฝ่ายตะวันตกเชื่อว่า
ความสามารถของขีปนาวูธรัสเซีย
ที่ซ้อมยิงจากเรือรบที่กำลังแล่นเรืออยู่ในครั้งนี้
ประสบความสำเร็จอย่างมากทีเดียว
ในการทำลายล้างพื้นที่เป้าหมายของฝ่ายศัตรู



แม้ว่าขีปนาวุธในตระกูล 3M-54
จะเริ่มมีการติดตั้งและประจำการตั้งแต่ปี 2555
เชื่อว่านี่เป็นครั้งแรกที่มีการยิงขีปนาวุธจากเรือรบ
เข้าทำลายพื้นที่ศัตรูในสนามรบจริง

ในขณะเดียวกันสื่อมวลชนอเมริกาจำนวนมากกลับรายงานว่า
มีขีปนาวุธจำนวน 4 ลูกจาก 26 ลูกที่ยิงจากบนบกของประเทศอิหร่าน
แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานพิสูจน์ชัดจากรายงานของสื่อมวลชนดังกล่าว



Igor Konashenkov โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย
ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า

" เราได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพขีปนาวุธ
ในการโจมตีทำลายพื้นที่เป้าหมายได้
และขอยืนยันว่าขีปนาวุธทุกลูก
โจมตีและทำลายพื้นที่เป้าหมายที่เล็งไว้

แต่ใครก็ตามที่ให้การสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์
ให้กับกลุ่มก่อการร้าย ISIL (ISIS) ในซีเรีย
ก็มักจะบอกว่า มันระเบิดขึ้นมาเอง ”



ในขณะที่มีการทำสงครามน้ำลายกัน
แต่ก็มีประจักษ์พยานที่ยืนยันได้ชัดเจนว่า
ขีปนาวุธรัสเซียทำงานได้ดีและตรงเป้าหมาย



เรื่องเล่าไร้สาระ

กลาโหม มาจากภาษาเขมรแปลว่า ผู้บูชาไฟ
ผู้จะทำพิธีได้ต้องเป็นพราหม/นักบวช
หรือได้รับเกียรติแต่งตั้งจากกษัตริย์
ในการทำพิธีกรรมต่าง ๆ
รวมทั้งเอาฤกษ์เอาชัย
ก่อนเริ่มทำการรบ
ที่มา จิตร  ภูมิศักดิ์




A BGM-109 Tomahawk flying in November 2002   ที่มา   https://goo.gl/oWjAFD


ในการสัมภาษณ์ผ่านบันทึก http://military.com
Paul Schwartz รองอาวุโสและผู้เชี่ยวชาญเรื่องรัสเซีย
ศูนย์ศึกษานานาชาติด้านยุทธศาสตร์  http://goo.gl/pmkZ6b  ได้ระบุว่า

“ เรื่องสำคัญที่ไม่ควรลืมก็คือ
แม้แต่สหรัฐอเมริกาก็มีประวัติที่ไม่นานมานี้
มีการใช้ขีปนาวุธ Tomahawk
ที่สามารถทำลายเป้าหมายได้อย่างแม่นยำเช่นกัน "



ที่มา  https://goo.gl/oWjAFD  


" แต่รัสเซียมีระบบใหม่กว่าและทันสมัยกว่า
แม่นยำ/เชื่อถือได้มากกว่า  เพราะรัสเซียได้เรียนรู้/พัฒนา
หลายสิ่งหลายอย่างตั้งแต่ยุคสงครามเย็นแล้ว ”



ที่เก็บขีปนาวุธบนเรือรบ The VLS cells on board USS San Jacinto  ที่มา  https://goo.gl/01KpA0


ขณเดียวกันนักวิเคราะห์ Jeremy Binnie
ของ IHS Jane  http://goo.gl/8Ddxdg
ได้พูดกับสถานีวิทยุ NPR  http://goo.gl/ppU9u3  ระบุว่า

“ ผมคือหนึ่งในคนตะวันตกจำนวนน้อยรายมาก
ที่เคยเห็นสายพานการผลิตขีปนาวุธนี้
และชิ้นส่วนหลายอย่างของขีปนาวุธ Kalibr
ก็มาจากแหล่งผลิตต่าง ๆ ในตะวันตก
ผ่านทางประเทศยูเครน
และยิ่งการที่รัสเซียถูกปิดล้อมจากชาติตะวันตก
ยิ่งทำให้รัสเซียต้องสะสมอาวุธ
พร้อมที่จะเผชิญหน้าอย่างเต็มที่ "



การบรรจุขีปนาวุธ Tomahawk บนเรือรบ USS Curtis Wilbur   ที่มา  https://goo.gl/01KpA0


เรื่องเล่าไร้สาระ

จีน เกาหลี อินเดีย ญี่ปุ่น รัสเซีย ฯลฯ
มักนิยมใช้ระบบ reverse engineering
หรือใช้วาทะกรรมว่า  วิศวกรรมย้อนกลับ
คือ การแกะชิ้นส่วนออกมาทั้งหมด
แล้วประกอบเข้าไปใหม่ให้เหมือนเดิม
หรือพัฒนาขึ้นมาใหม่ให้ดีกว่าเดิม
เหมือนช่างไม้ที่ชอบพูดกันว่า
ยาวตัด สั้นต่อ ไม่พอซื้อ
การผลิตขึ้นมาเลียบแบบของที่นำมาแกะแบบ
ทำให้ร่นระยะเวลาในการพัฒนา
หรือคิดค้นสร้างขึ้นมาเองมาก



กำแพงเบอร์ลิน คือ  สัญญลักษณ์สงครามเย็น  ค่ายรัสเซีย กับ สหรัฐอเมริกา  ที่มา  https://goo.gl/Ws9PNF



พื้นที่ประเทศในเขตอิทธิพลรัสเซีย  ในยุคสงครามเย็น  ที่มา   https://goo.gl/Ws9PNF


Islamic State of Iraq and the Levant
(ISIL; Arabic: الدولة الإسلامية في العراق والشام‎)
หรือ Islamic State of Iraq and Syria (ISIS)
หรือ Islamic State of Iraq and ash-Sham
หรือ Islamic State (IS)
หรือ Daesh (داعش)

คือ กองกำลังติดอาวุธหัวรุนแรง
ประกาศต้องการตั้งรัฐอิสลาม
ที่มีผู้ปกครองเป็นกาหลิบ
เลียนแบบย้อนยุคแบบจักรวรรดิ์ออตโตมัน
ที่เป็นทั้งราชาและนักบวช
ในเขตพื้นที่ปกครองของกลุ่มนี้
จะมีการบังคับใช้กฎหมาย
ตามหลักการศาสนาอิสลามอย่างเคร่งครัด
เหมือนยุคตอลิบันปกครองอัฟกานิสถาน

กองกำลังติดอาวุธระยะแรก
เป็นนักรบมุสลิมอาหรับหัวรุนแรง
นิกายสุหนี่จาก Iraq และ Syria
กระแสข่าวบางแห่งยืนยันว่า
ซาอุดีอารเบีย คูเวต จอร์แดน ตุรกี
ให้ท้ายสนับสนุนกลุ่มนี้ทั้งการเงินและอาวุธ



ISIL ในช่วงเดือนมีนาคม 2558
สามารถยึดครองพื้นที่ Iraq และ Syria
และปกครองประชากรกว่า 10 ล้านคน
รวมทั้งยังมีอิทธิพลครอบงำกองกำลังติดอาวุธส่วนหนึ่ง
ใน Libya, Nigeria และจังหวัด Nangarhar
ภาคตะวันออกของ Afghanistan
กลุ่มนี้มีปฏิบัติการและพันธมิตรเกือบทุกมุมโลก
รวมทั้งที่ทวีปเอเซียตอนใต้ South Asia



ภาพ/ที่มา  https://goo.gl/O3yEiL





King Salman bin Abdulaziz Al Saud ขึ้นครองราชย์ในปี 2558
(มีข่าวว่าตอนนี้อยู่ในโรงพยาบาล)   ที่มา https://goo.gl/QG7eCx  



ประธานาธิบดีรัสเซีย Vladimir Putin คนที่ 3 จากขวา
กับ ผู้แทนกษัตริย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกลาโหม ของ Saudi Arabia
Mohammad bin Salman Al Saud  ยืนใกล้กับประธานาธิบดีรัสเซีย
ร่วมประชุมที่ Sochi (รัสเซีย) ในวันที่ 11 ตุลาคม 2558
เพื่อหารือข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับทางออกประเทศซีเรีย
ที่มา  Aleksey Nikolskyi / RIA Novosti https://goo.gl/MDfvKO


เรื่องเล่าไร้สาระ

ราชวงศ์ซาอู๊ด Saud
ผู้ปกครองเซาดี้(ซาอุดีอารเบีย)
ตั้งแต่ไหนแต่ใดมา
ไม่กล้ารบกับราชวงศ์บาห์เรน
อดีดเป็นพวกชนเผ่าเร่ร่อนเบดูอิน
แต่ชาตินักรบอาหรับกระหายเลือดอย่างแรง
เพราะเคยรบกับพวกนี้ทีไรแพ้พวกนี้ทุกที
จนหายอยากเหมือนนักเลงแพ้ทางมวย
หรืองูเหลือมแพ้เชือกกล้วย

ในตอนนี้เลยอยากล้างอาย/ล้างตาให้หายสงสัย
จึงก่อศึกสนับสนุนการรบภายในประเทศนี้อีกครั้ง
จะสังเกตเห็นว่าประเทศนี้เป็นติ่งอยู่ติดกับเซาดี้



Shaikh Hamad bin Isa Al Khalifa กษัตริย์  Bahrain  https://goo.gl/LLNHkd



เรียบเรียง/ที่มา

http://goo.gl/CLO688



กาหลิบคนสุดท้ายของจักรวรรดิ์ออตโตมัน
ตายที่ปารีส ศพย้ายไปฝังที่เมดินา เซาดี้
เป็นการสิ้นสุดยุคศาสนาชี้นำชาติ
โดยมุสตาฟา เคมาล บิดาตุรกี
ที่แยกศาสนาอิสลามนิกายสุหนี่ออกจากการเมือง
เป็นชาติแรกในประเทศนับถืออิสลาม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่