กราบสวัสดีผู้ที่ (หลงผิด) เข้ามาอ่านทุกท่านนะครับ ก่อนอื่นใดขอเกริ่นถึงเรื่องราวที่ท่านกำลังใช้เวลาอันมีค่าของท่านในการอ่านกระทู้นี้ก่อนนะครับ เผื่อว่า ไม่ใช่ทางที่หา จะได้ไม่เสียเวลาเนอะ ไม่ว่ากัน
สถานที่ท่องเที่ยวที่ผมจะรีวิวต่อไปนี้นั้น เป็นการเดินทางของผมในฐานะของนักเรียนแลกเปลี่ยน ไม่รู้ว่า ดวงดี บุญหล่นทับ กรรมดีอันหนักหน่วงใดๆ เข้ามาสู่ในชีวิตผม อยู่ๆก็ผ่านการสมัครทุนได้เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ในดินแดนยุโรป 5 เดือนสะอย่างนั้น ดังนั้นเรื่องที่ผมจะรีวิวนั้น อาจไม่ครอบคลุมถึง วิธีการเดินทาง หรือสถานที่พักทั้งหมดนะครับ เพราะบางทีก็ นอนบ้านเพื่อนบ้าง เพื่อนขับรถให้บ้าง..... แล้วท่านจะได้พบอะไรในกระทู้นี้ และต่อๆไป???
ผมก็จะพาไปเที่ยว หลายๆที่ ที่ไม่ใช่ สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของยุโรปที่เราๆเคยได้ยินมาด้วยเหมือนกัน แต่ก็สวยงาม โรแมนติก และน่ารักไปอีกแบบ ผมว่าสถานที่เที่ยวแบบนั้นมีสเน่ห์ตรงที่ ไม่มีนักท่องเที่ยวนี่แหละครับ หลายครั้งที่ชาวบ้านแถวนั้นก็มองว่า คนเอเชียหัวดำ มาทำอะไรที่นี่?? 5555+
โดย สถานที่แรกที่ผมเลือกจะพาเพื่อนๆไปชมนะครับ คือ “อิตาลี” !!!! ประเทศนี้มีดีมากกว่า พิซซ่า พาสต้า และไอศกรีม !! ซึ่งที่ที่ผมจะพาไปนะครับเรียกว่า บริเวณ South Tyrol ชื่อ คือทางใต้ แต่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของ อิตาลีครับ ถ้าจะเขียนชื่อให้ถูกตามท้องถิ่นจริงๆ เขาเขียนเป็น ภาษาเยอรมันว่า Sϋdtirol แต่เดี๋ยวก่อนครับ งงไหมครับ? อยู่อิตาลีแต่ทำไมเขียนเป็นภาษาเยอรมัน
เท้าความก่อนนิดหน่อย Sϋdtirol เนี่ยเป็นบริเวณที่ติดกับประเทศออสเตรีย ซึ่งออสเตรีย ใช้ภาษาเยอรมัน และคนในพื้นที่นี้ก็ใช้ภาษาเยอรมันครับ ไม่ว่าจะเป็นป้ายบอกทาง เมนูอาหารในร้านค้า และอื่นๆ จะเป็นภาษาเยอรมันเกือบทั้งหมด ร้านสมัยใหม่ขึ้นมาหน่อย ก็จะมีภาษาอิตาลีกำกับครับ น่าตลกไหมครับ? อยู่อิตาลีแต่ใช้ภาษาเยอรมัน เท่าที่รู้มาจากเพื่อนนะครับ ผู้คนในพื้นที่นี้ มีความภูมิใจในการเป็นชาวTyrol หรือ Tyrolean อย่างมากครับ มากกว่าที่จะเรียกตัวเองว่าชาวอิตาลี (Italian) ด้วยความเป็นเอกเทศในด้านวัฒนธรรม และภาษา ของผู้คนในพื้นที่นี้ ทำให้ชาวอิตาลี หลายคนไม่พอใจ.... แต่ มากกว่านั้นผมไม่ขอพูดถึงนะครับ เพราะไม่รู้ 55555+ อันนี้ก็ฟังเพื่อนเล่ามา
ก่อนจะพาไปชมภาพของพื้นที่นี้นะครับนอกเรื่องแป๊ป จขกท อิจฉาเพื่อนคนนี้มาก นางพูด ได้ทั้ง เยอรมัน อิตาลี และอังกฤษ อลังการงานสร้างมาก 5555+
การเดินทางนะครับ จขกท นั่งรถไฟ จาก มิลาน (Milano) มาลงที่ Merano (คนละที่กันนะครับ มิลาน กับ เมคราโน่) ซึ่งเมืองนี้เป็นเมืองหนึ่งในบริเวณ Sϋdtirol ที่ผมเที่ยวเป็นหลัก
บรรยากาศใน Merano ครับ สงบ น่ารัก
โดยพื้นที่บริเวณนี้นะครับจะเป็นพื้นที่บริเวณเทือกเขา แอลป์ ซึ่ง วิว จะสวยมาก ที่สำคัญ “สามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดู” แต่ละฤดู จะมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ ของตัวเองครับ
มุมสูงจากยอดเขาครับ เห็นแปลงเกษตรลิบๆด้วย
เทือกเขาแอลป์เอามาฝากครับ ยอดลิปๆ เห็นหิมะด้วย แม้ว่าจะอยู่ในฤดูร้อนก็ตาม
จขกท คิดว่าถ้ามีโอกาส จะไปที่นี่อีกในช่วง ฤดูใบไม้ร่วงกับฤดูหนาวครับ ที่มานี่คือ ฤดูร้อน อากาศ ชิวๆ สบายๆ กิจกรรม ที่ทำกันส่วนใหญ่ แน่นอนครับ ปืนเขา ก็สนุกไปอีกแบบนะครับ
อากาศเย็นสบายครับ แต่สำหรับเขา แอบร้อนนิดๆถ้าออกกำลังกาย
เตรียม ขนมปัง ผลไม้ น้ำ มาปิกนิก ระหว่างทาง นั่งชมวิว ริมภูเขา slow life ดีครับ เดินก็ต้องเดินช้าๆนะครับ เดินเร็วแล้วเดี๋ยว... เหนื่อย 55555+
ปิคนิค วิวดีงามระดับ 10 พูดเลย
ข้างบนเองก็มีร้านอาหาร เหมือนกันนะครับ...... ใจจริง จขกท อยากจะบอกชื่อสถานที่มากเลยครับ..... ติดตรงที่ว่า จขกทเองก็ไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร 5555+ เพื่อนขับรถพามา ด้วย ความ งงๆ (นี่คือรีวิวประสาอะไร?)
วันที่ไปเหมือนมีงานเทศกาลเล็กๆของคนแถวนั้นด้วยนะๆ
ตกกลางคืนวันนั้นที่ไปดวงดีครับ มีงานเทศกาลพอดี ผมกับเพื่อนก็เดือน ไปที่ Merano อีกครั้งหลังจากปีนเขาเมื่อบ่าย เป็นงานเทศกาลฤดูร้อนซึ่ง จะมีปีละครั้ง และจะมีดอกไม้ไฟด้วยครับ สวยงามเอ็นจอยกับบรรยากาศฤดูร้อนของชาวยุโรป..... (ซึ่งพอๆกับฤดูหนาวที่ พระนครของเราเลย)
ซึ่ง คน เยอะ มาก !! เดินเบียดกัน ต้องระวังไม่ให้หลงกัน กับไปหลงคนที่เราไปเบียดครับ งานดีเยอะ 555+
คนเยอะมากกกกกกกก อย่างกับงานภูเขาทอง
แม่นางคนสวย สบตามยิ้มให้ด้วย น่ารักเชี๊ยะ
ชุดพื้นเมืองของผู้ชายก็เท่ไปอีกแบบนะ
จะเห็นว่าชุดพื้นบ้านของคนแถวนี้ เหมือนกับชาว บาวาเลี่ยน ที่ตอนใต้ของเยอรมัน ชุดน่ารักมาก อยากใส่เอง แต่หน้าไม่ให้ 5555+ เขาจะใส่ในช่วงที่มีงานเทศกาลสำคัญ ซึ่งหลายคนชอบที่จะใส่นะครับ แต่เพื่อนผมนางไม่ใส่ นางแอบอาย 555+
ไปนั่งฟังดนตรีสด ซึ่งเพลงที่เล่นก็เป็นจังหวะพื้นบ้าน ทำนอง สนุกสนาน... แต่ฟังไม่รู้เรื่อง 5555+ แล้วก็ชิมไวน์ ที่เขาทำเองครับ รสชาติก็....... ไม่อร่อย 555+ หรือลิ้นไม่ถึงอันนี้ตอบไม่ถูก แต่ได้บรรยากาศดีครับ
ของกินประจำถิ่นครับ Strauben อารมณ์เหมือนแป้งทอดโรยไอซ์ซิ่ง จิ้มแยม หรือไม่จิ้มก็ได้แล้วแต่คนชอบ ต้องกินกันหลายๆคนครับ กินคนเดียวไม่ไหว เลี่ยนไป 555+
วันต้อมาก็ไปเยี่ยมเยียนธุรกิจของเพื่อนครับ ในแถบนี้จะทำการเกษตรเป็นหลัก โดยเน้นการปลูก แอปเปิลครับ ไปทางไหนๆ ก็จะเจอสวนแอปเปิลเต็มไปหมด ซึ่งเท่าที่เคยฟังเพื่อนเล่านะครับ เฉพาะบริเวณ South Tyrol เป็นอันดับ 3 ในการผลิตแอปเปิลของยุโรป มหัศจรรย์มากนะครับ พื้นที่เล็กๆ แต่มีการผลิตเยอะมาก แล้วก็มามองย้อนที่ประเทศไทย....... การพัฒนาการเกษตรให้ได้ดีกว่านี้ก็คงดีเน้อ
นี่คือวิธีการปลูกแอปเปิลของเขาครับ
กินแอปเปิลสดจากต้นนี่ ต้องเรียกได้วา "กรอบสนั่น" ไม่เหมือนกับที่ซื้อในตลาดบ้านเรา เนื้อฟ่ามหมดและ 555+
มีแอปเปิลเนื้อแดงด้วยยยยย ไม่อร่อยหรอก เปรี้ยว เปลือกเหนียวแต่แค่มันดูแล้วอลัง แค่นั้นเอง 555+
มีเลี้ยงสัตว์เล็กๆด้วย หมูน้อยน่ารัก ไม่ได้เลี้ยงไว้กินนะ เลี้ยงไว้เฉยๆ
วันต่อมาก็ไปเที่ยวกันที่ Weissbrunnsee Fontana Bianca ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของชาวเยอรมันหลายคนครับ ขับรถก็เจอรถของนักท่องเที่ยวเยอรมัน ตลอดทาง
ป้ายสถานที่เลยจ้า
เป็นเหมือนอ่างเก็บน้ำครับ แต่ อากาศเย็นเล็กๆ บรรยากาศดี
เห็นพี่แกยืนเปลี่ยวกับหมาน้อยตัวหนึ่ง
ต้นไม้ที่นี่เก๋ดีนะ
ต้นนี้นี่ พี่เขาแก่มากกว่า 2000 ปีเลยนา
จุดเด่นของที่นี่คือมาดูต้นไม้ครับ ต้นนี้มีอายุมากกว่า 2000 ปีแล้ว เมื่อก่อนเคยมีลำต้นที่สูงกว่านี้ครับ แต่โดนฟ้าผ่าเลยเหลือต้นเท่าเนี๊ยะ เขาทราบเพราะว่า นำวงปีของยอดที่โดนฟ้าผ่ามานับครับ นับได้มากกว่า 2000 วง ต้นไม้ต้นนี้คงยืนมอง และฟังเสียงโลกตามประวัติศาสตร์มามากมาย คิดดูนะครับ อายุมากกว่าคริสจักรเสียอีก..... ให้อารมณ์เหมือนต้นไม้เจ้าปัญญาที่พบในนิยายพวก fairy tale เลย
เหมือนสันเขื่อนเลยๆ เดินเล่นได้ด้วยนะ
ร้านอาหารระหว่างทาง น่ารักอ่ะ
หมู่บ้านในหุบเขา น่ารักไปอีกแบบ
ตกเย็นก็มาทำพิซซ่ากินกันครับ พิซซ่าเขาต่างกับ พิซซ่าในไทยที่เราเคยกินอย่างมหาศาลครับ แค่แป้ง ทาซอสมะเขือเทศ แต่คนละแบบกับที่เรากินกันนะครับรสชาติจะเบาบางกว่า แปะ แค่มอวซาเรลล่าชีส กับเครื่องที่อยากกิน อบ เสร็จ 55555+
จบแล้วครับสำหรับการพาเที่ยว South Tyrol เดี๋ยวกระทู้หน้าจะพาเที่ยวที่ไหนอีกก็ ติดตามชมนะครับ ^ ^ ตอนนี้ จขกท ขออนุญาตไปเขียนงานส่งบอสก่อนครับ เขียนงานช้าอย่างเต่า เขียนกระทู้พานทิป นี่ลื่นไหล 5555+
[CR] แบกเป้ ท่องยุโรป เรียนรู้วัฒนธรรม ในที่ที่ทัวร์ไม่พาไป ในสไตล์นักเรียนแลกเปลี่ยน // Ep.1 Sudtyrol - Italy\\
สถานที่ท่องเที่ยวที่ผมจะรีวิวต่อไปนี้นั้น เป็นการเดินทางของผมในฐานะของนักเรียนแลกเปลี่ยน ไม่รู้ว่า ดวงดี บุญหล่นทับ กรรมดีอันหนักหน่วงใดๆ เข้ามาสู่ในชีวิตผม อยู่ๆก็ผ่านการสมัครทุนได้เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ในดินแดนยุโรป 5 เดือนสะอย่างนั้น ดังนั้นเรื่องที่ผมจะรีวิวนั้น อาจไม่ครอบคลุมถึง วิธีการเดินทาง หรือสถานที่พักทั้งหมดนะครับ เพราะบางทีก็ นอนบ้านเพื่อนบ้าง เพื่อนขับรถให้บ้าง..... แล้วท่านจะได้พบอะไรในกระทู้นี้ และต่อๆไป???
ผมก็จะพาไปเที่ยว หลายๆที่ ที่ไม่ใช่ สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของยุโรปที่เราๆเคยได้ยินมาด้วยเหมือนกัน แต่ก็สวยงาม โรแมนติก และน่ารักไปอีกแบบ ผมว่าสถานที่เที่ยวแบบนั้นมีสเน่ห์ตรงที่ ไม่มีนักท่องเที่ยวนี่แหละครับ หลายครั้งที่ชาวบ้านแถวนั้นก็มองว่า คนเอเชียหัวดำ มาทำอะไรที่นี่?? 5555+
โดย สถานที่แรกที่ผมเลือกจะพาเพื่อนๆไปชมนะครับ คือ “อิตาลี” !!!! ประเทศนี้มีดีมากกว่า พิซซ่า พาสต้า และไอศกรีม !! ซึ่งที่ที่ผมจะพาไปนะครับเรียกว่า บริเวณ South Tyrol ชื่อ คือทางใต้ แต่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของ อิตาลีครับ ถ้าจะเขียนชื่อให้ถูกตามท้องถิ่นจริงๆ เขาเขียนเป็น ภาษาเยอรมันว่า Sϋdtirol แต่เดี๋ยวก่อนครับ งงไหมครับ? อยู่อิตาลีแต่ทำไมเขียนเป็นภาษาเยอรมัน
เท้าความก่อนนิดหน่อย Sϋdtirol เนี่ยเป็นบริเวณที่ติดกับประเทศออสเตรีย ซึ่งออสเตรีย ใช้ภาษาเยอรมัน และคนในพื้นที่นี้ก็ใช้ภาษาเยอรมันครับ ไม่ว่าจะเป็นป้ายบอกทาง เมนูอาหารในร้านค้า และอื่นๆ จะเป็นภาษาเยอรมันเกือบทั้งหมด ร้านสมัยใหม่ขึ้นมาหน่อย ก็จะมีภาษาอิตาลีกำกับครับ น่าตลกไหมครับ? อยู่อิตาลีแต่ใช้ภาษาเยอรมัน เท่าที่รู้มาจากเพื่อนนะครับ ผู้คนในพื้นที่นี้ มีความภูมิใจในการเป็นชาวTyrol หรือ Tyrolean อย่างมากครับ มากกว่าที่จะเรียกตัวเองว่าชาวอิตาลี (Italian) ด้วยความเป็นเอกเทศในด้านวัฒนธรรม และภาษา ของผู้คนในพื้นที่นี้ ทำให้ชาวอิตาลี หลายคนไม่พอใจ.... แต่ มากกว่านั้นผมไม่ขอพูดถึงนะครับ เพราะไม่รู้ 55555+ อันนี้ก็ฟังเพื่อนเล่ามา
ก่อนจะพาไปชมภาพของพื้นที่นี้นะครับนอกเรื่องแป๊ป จขกท อิจฉาเพื่อนคนนี้มาก นางพูด ได้ทั้ง เยอรมัน อิตาลี และอังกฤษ อลังการงานสร้างมาก 5555+
การเดินทางนะครับ จขกท นั่งรถไฟ จาก มิลาน (Milano) มาลงที่ Merano (คนละที่กันนะครับ มิลาน กับ เมคราโน่) ซึ่งเมืองนี้เป็นเมืองหนึ่งในบริเวณ Sϋdtirol ที่ผมเที่ยวเป็นหลัก
บรรยากาศใน Merano ครับ สงบ น่ารัก
โดยพื้นที่บริเวณนี้นะครับจะเป็นพื้นที่บริเวณเทือกเขา แอลป์ ซึ่ง วิว จะสวยมาก ที่สำคัญ “สามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดู” แต่ละฤดู จะมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ ของตัวเองครับ
มุมสูงจากยอดเขาครับ เห็นแปลงเกษตรลิบๆด้วย
เทือกเขาแอลป์เอามาฝากครับ ยอดลิปๆ เห็นหิมะด้วย แม้ว่าจะอยู่ในฤดูร้อนก็ตาม
จขกท คิดว่าถ้ามีโอกาส จะไปที่นี่อีกในช่วง ฤดูใบไม้ร่วงกับฤดูหนาวครับ ที่มานี่คือ ฤดูร้อน อากาศ ชิวๆ สบายๆ กิจกรรม ที่ทำกันส่วนใหญ่ แน่นอนครับ ปืนเขา ก็สนุกไปอีกแบบนะครับ
อากาศเย็นสบายครับ แต่สำหรับเขา แอบร้อนนิดๆถ้าออกกำลังกาย
เตรียม ขนมปัง ผลไม้ น้ำ มาปิกนิก ระหว่างทาง นั่งชมวิว ริมภูเขา slow life ดีครับ เดินก็ต้องเดินช้าๆนะครับ เดินเร็วแล้วเดี๋ยว... เหนื่อย 55555+
ปิคนิค วิวดีงามระดับ 10 พูดเลย
ข้างบนเองก็มีร้านอาหาร เหมือนกันนะครับ...... ใจจริง จขกท อยากจะบอกชื่อสถานที่มากเลยครับ..... ติดตรงที่ว่า จขกทเองก็ไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร 5555+ เพื่อนขับรถพามา ด้วย ความ งงๆ (นี่คือรีวิวประสาอะไร?)
วันที่ไปเหมือนมีงานเทศกาลเล็กๆของคนแถวนั้นด้วยนะๆ
ตกกลางคืนวันนั้นที่ไปดวงดีครับ มีงานเทศกาลพอดี ผมกับเพื่อนก็เดือน ไปที่ Merano อีกครั้งหลังจากปีนเขาเมื่อบ่าย เป็นงานเทศกาลฤดูร้อนซึ่ง จะมีปีละครั้ง และจะมีดอกไม้ไฟด้วยครับ สวยงามเอ็นจอยกับบรรยากาศฤดูร้อนของชาวยุโรป..... (ซึ่งพอๆกับฤดูหนาวที่ พระนครของเราเลย)
ซึ่ง คน เยอะ มาก !! เดินเบียดกัน ต้องระวังไม่ให้หลงกัน กับไปหลงคนที่เราไปเบียดครับ งานดีเยอะ 555+
คนเยอะมากกกกกกกก อย่างกับงานภูเขาทอง
แม่นางคนสวย สบตามยิ้มให้ด้วย น่ารักเชี๊ยะ
ชุดพื้นเมืองของผู้ชายก็เท่ไปอีกแบบนะ
จะเห็นว่าชุดพื้นบ้านของคนแถวนี้ เหมือนกับชาว บาวาเลี่ยน ที่ตอนใต้ของเยอรมัน ชุดน่ารักมาก อยากใส่เอง แต่หน้าไม่ให้ 5555+ เขาจะใส่ในช่วงที่มีงานเทศกาลสำคัญ ซึ่งหลายคนชอบที่จะใส่นะครับ แต่เพื่อนผมนางไม่ใส่ นางแอบอาย 555+
ไปนั่งฟังดนตรีสด ซึ่งเพลงที่เล่นก็เป็นจังหวะพื้นบ้าน ทำนอง สนุกสนาน... แต่ฟังไม่รู้เรื่อง 5555+ แล้วก็ชิมไวน์ ที่เขาทำเองครับ รสชาติก็....... ไม่อร่อย 555+ หรือลิ้นไม่ถึงอันนี้ตอบไม่ถูก แต่ได้บรรยากาศดีครับ
ของกินประจำถิ่นครับ Strauben อารมณ์เหมือนแป้งทอดโรยไอซ์ซิ่ง จิ้มแยม หรือไม่จิ้มก็ได้แล้วแต่คนชอบ ต้องกินกันหลายๆคนครับ กินคนเดียวไม่ไหว เลี่ยนไป 555+
วันต้อมาก็ไปเยี่ยมเยียนธุรกิจของเพื่อนครับ ในแถบนี้จะทำการเกษตรเป็นหลัก โดยเน้นการปลูก แอปเปิลครับ ไปทางไหนๆ ก็จะเจอสวนแอปเปิลเต็มไปหมด ซึ่งเท่าที่เคยฟังเพื่อนเล่านะครับ เฉพาะบริเวณ South Tyrol เป็นอันดับ 3 ในการผลิตแอปเปิลของยุโรป มหัศจรรย์มากนะครับ พื้นที่เล็กๆ แต่มีการผลิตเยอะมาก แล้วก็มามองย้อนที่ประเทศไทย....... การพัฒนาการเกษตรให้ได้ดีกว่านี้ก็คงดีเน้อ
นี่คือวิธีการปลูกแอปเปิลของเขาครับ
กินแอปเปิลสดจากต้นนี่ ต้องเรียกได้วา "กรอบสนั่น" ไม่เหมือนกับที่ซื้อในตลาดบ้านเรา เนื้อฟ่ามหมดและ 555+
มีแอปเปิลเนื้อแดงด้วยยยยย ไม่อร่อยหรอก เปรี้ยว เปลือกเหนียวแต่แค่มันดูแล้วอลัง แค่นั้นเอง 555+
มีเลี้ยงสัตว์เล็กๆด้วย หมูน้อยน่ารัก ไม่ได้เลี้ยงไว้กินนะ เลี้ยงไว้เฉยๆ
วันต่อมาก็ไปเที่ยวกันที่ Weissbrunnsee Fontana Bianca ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของชาวเยอรมันหลายคนครับ ขับรถก็เจอรถของนักท่องเที่ยวเยอรมัน ตลอดทาง
ป้ายสถานที่เลยจ้า
เป็นเหมือนอ่างเก็บน้ำครับ แต่ อากาศเย็นเล็กๆ บรรยากาศดี
เห็นพี่แกยืนเปลี่ยวกับหมาน้อยตัวหนึ่ง
ต้นไม้ที่นี่เก๋ดีนะ
ต้นนี้นี่ พี่เขาแก่มากกว่า 2000 ปีเลยนา
จุดเด่นของที่นี่คือมาดูต้นไม้ครับ ต้นนี้มีอายุมากกว่า 2000 ปีแล้ว เมื่อก่อนเคยมีลำต้นที่สูงกว่านี้ครับ แต่โดนฟ้าผ่าเลยเหลือต้นเท่าเนี๊ยะ เขาทราบเพราะว่า นำวงปีของยอดที่โดนฟ้าผ่ามานับครับ นับได้มากกว่า 2000 วง ต้นไม้ต้นนี้คงยืนมอง และฟังเสียงโลกตามประวัติศาสตร์มามากมาย คิดดูนะครับ อายุมากกว่าคริสจักรเสียอีก..... ให้อารมณ์เหมือนต้นไม้เจ้าปัญญาที่พบในนิยายพวก fairy tale เลย
เหมือนสันเขื่อนเลยๆ เดินเล่นได้ด้วยนะ
ร้านอาหารระหว่างทาง น่ารักอ่ะ
หมู่บ้านในหุบเขา น่ารักไปอีกแบบ
ตกเย็นก็มาทำพิซซ่ากินกันครับ พิซซ่าเขาต่างกับ พิซซ่าในไทยที่เราเคยกินอย่างมหาศาลครับ แค่แป้ง ทาซอสมะเขือเทศ แต่คนละแบบกับที่เรากินกันนะครับรสชาติจะเบาบางกว่า แปะ แค่มอวซาเรลล่าชีส กับเครื่องที่อยากกิน อบ เสร็จ 55555+
จบแล้วครับสำหรับการพาเที่ยว South Tyrol เดี๋ยวกระทู้หน้าจะพาเที่ยวที่ไหนอีกก็ ติดตามชมนะครับ ^ ^ ตอนนี้ จขกท ขออนุญาตไปเขียนงานส่งบอสก่อนครับ เขียนงานช้าอย่างเต่า เขียนกระทู้พานทิป นี่ลื่นไหล 5555+