[CR] :: เก็บเงิน 22,000 บาท ตะลุย JAPAN Route Tokyo-Yokohama-Hakone-Nikko-Shibazakura แถม Malaysia Vol.1 ::

กระทู้รีวิว

เที่ยวญี่ปุ่น บันทึกนักเดินทาง เที่ยวต่างประเทศ

เกริ่นก่อนล่ะกันเนอะ
ออกตัวก่อนเลยล่ะกันตามธรรมเนียม “นี่ไม่ใช่กระทู้แรกนะคะ” แต่ถ้าขาดตกบกพร่องตรงไหนทักท้วงได้เลย บางครั้งอาจจะมีคำสลับกันบ้าง ค่ะ คะ แต่ก็จะพยายามเขียนให้ดีที่สุดนะคะ ภาษาที่ใช้เขียนจะเขียนแบบเป็นตัวเอง อ่านเพื่อความบันเทิงเนอะ ข้อมูลที่ให้ตรงไหนอยากทราบเพิ่มเติมสอบถามได้ ถ้าตอบไม่ได้จะช่วยค้นอากู๋ให้จ้า เราจะเน้นภาพกว้างๆไม่เจาะลึกมาก
แต่จะให้ข้อมูลเท่าที่เรามีให้ครบถ้วนกระบวนความ อิอิ

เริ่มเลยนะกันเนอะ
“เราไม่เคยเที่ยวต่างประเทศ” ทริปนี้ถือว่าเป็นทริปแรกของเราที่ไปเที่ยวต่างประเทศ แต่เพื่อนร่วมทริป
ทุกคนเขาไปเคยไปเที่ยวต่างประเทศกันแล้ว >< ทำให้เราผู้ซึ่งไม่เคยได้สัมผัสอะไรเลย ตื่นเต้นที่สุด
ตื่นเต้นอยู่คนเดียว 555+ ทริปนี้เราไปกันหลายวันโดยจำนวนวันทั้งหมดที่เราไปคือ 9 คืน 10 วัน
เดินทางกันวันที่ 29 เมษายน – 8 พฤษภาคม 2558

จองตั๋วเครื่องบิน
เป็นการจองตั๋วที่ฉุกละหุกมาก เรามักจะดูตั๋วโปรไปญี่ปุ่นตามหน้าเวปเพจต่างๆบ่อย
ด้วยความใฝ่ฝันว่าสักวันจะต้องไปให้ได้ จนเมื่อกลางเดือนมีนาคมมีตั๋วโปรไปญี่ปุ่นค่ะ เป็นตั๋วจาก
มาเลเซีย-ญี่ปุ่น ซึ่งถูกมาก เพื่อนก็เลยตกลงจองโดยมีเราพ่วงท้ายไปด้วย
แล้วเราปลายเดือนมีนาคมก็จองจาก
กรุงเทพ-มาเลเซีย และ มาเลเซีย-กรุงเทพ

สรุปราคาค่าเครื่องบิน
กรุงเทพ-มาเลเซีย    = 2,005 บาท
มาเลเซีย-ญี่ปุ่น-มาเลเซีย    = 3,145 บาท (ไม่รวมน้ำหนักกกระเป๋า)
มาเลเซีย-กรุงเทพ    = 1,160 บาท (ไม่รวมน้ำหนักกกระเป๋า)
ค่าน้ำหนักกระเป๋า+ค่าข้าวบนเครื่อง = 1,772
>>รวม        = 8,082 บาท

จองที่พัก
ที่พักญี่ปุ่น : เมื่อจองตั๋วแล้วทีนี้ก็หาที่พัก ทั้งทริปเราไปกันทั้งหมด 5 คน ข้อจำกัดของการเลือกที่พักที่เราอยากได้คือ
นอนในโตเกียว ที่พักใกล้สถานีรถไฟ ไม่เปลี่ยนที่พัก นอนรวมกัน และถ้ามีครัวด้วยจะดีมาก 555+
ด้วยข้อจำกัดแบบนี้ทำให้เราเลือกที่จะหาเป็นที่พักกึ่งคอนโดที่เขาเปิดให้เช่าโดยจองผ่านหน้าเว็บไซต์
เว็บที่เราเลือกคือ Airbnb.com ค่ะ เพราะว่าตัวเราเองเป็นคนอ่านรีวิวเกี่ยวกับเที่ยวญี่ปุ่นบ่อย
เว็บไซต์นี้ค่อนข้างตอบโจทย์ของพวกเรา จากนั้นเราก็เลือกกันอยู่หลายวันค่ะ
แล้วเราก็พบว่าเฮ้ย!! มันมีส่วนลดนะถ้าเรารีบจองก่อนวันหมดอายุโปรโมชั่น จากนั้นเราก็เลือกห้องพักมาค่ะ
(แอบบอกตรงนี้เลย ห้องพักที่เราไปเช่าคือดีมากและเจ้าของใจดีมากกกกกกกกกก ก.ไก่ล้านตัว)
เราพักอยู่ทั้งหมด 7 คืนคะ จ่ายเงินผ่านบัตรเคดิต

ที่พักมาเลเซีย
ที่พักมาเลเซีย : เนื่องจากวันแรกที่เราไปถึงมาเลเซีย เราต้องอยู่มาเลเซีย 1 คืน เราก็จองที่พักผ่านเว็บไซต์ Booking.com
จ่ายเงินตอนเราเข้าพัก โดยโรงแรมที่จองเป็นเน้นจองในเมือง เนื่องจากเราจะออกเที่ยวตอนกลางคืนด้วยคะ

สรุปราคา
ที่พักญี่ปุ่น    =  4623 บาท/คน/7คืน (เฉลี่ยคืนล่ะประมาณ 700 บาทค่ะ)
ที่พักมาเลเซีย    =  360 บาท/คน/คืน
รวมค่าที่พัก    =  4983 บาท/10 วัน

ประกันการเดินทาง
เราเลือกทำประกันกับ AIG INSURANCE โดยทำแบบถูกสุด คุ้มครอง 10 วันนับจากวันที่เดินทาง

สรุปราคา
ค่าประกันการเดินทาง = 322 บาท

วางแผนเที่ยว
วางแผนเที่ยวโดยส่วนใหญ่จะวางแผนแบบว่าไป-กลับ หมายถึงคือ วันนี้จะไปไหนก็ได้แต่กลับมานอนที่โตเกียว
เนื่องจากว่าเราเช่าห้องพักไว้ 7 คืน พวกเราไม่อยากย้ายของไปไหน มันมีข้อดีตรงที่ว่า
เราสามารถโยกวันได้เลยว่าโอเควันนี้อากาศไม่ดีเลย ไปเที่ยวที่นี่ดีกว่า หรือว่าเพื่อนจะแยกเที่ยวหรือไรงี้ก็จะสะดวก
โดยแพลนที่วางไว้ว่าจะไปไหนบ้าง คือ Tokyo Odaiba Hakone Yokohama Nikko Kawakugiko
(มีคนแอบถามเหมือนกันว่า นี่ทัวร์ชะโงกหรือป่าว แล้วมาลองดูกันค่ะ 555+)

Day 01:     ออกจาก ดอนเมือง ถึง มาเลเซีย
Day 02:     ออกจาก มาเลเซีย ถึง ญี่ปุ่น
Day 03:     เที่ยว Tokyo
Day 04:     เที่ยว Yokohama
Day 05:     เที่ยว Hakone
Day 06:     เที่ยว Tokyo
Day 07:     เที่ยว Nikko
Day 08:     เที่ยว Kawakugiko
Day 09:     เที่ยว Shopping Tokyo และออกจากญี่ปุ่นเวลา 23.00
Day 10: มาเลเซีย ถึง ดอนเมือง

จากนั้นเราก็วางแพลนกันแบบละเอียดอีกทีค่ะ โดยจะวางตามตารางในรูปด้านล่าง
ซึ่งเราจะใช้เว็บ hyperdia.com รวมทั้ง Appication : tokyosubway และ Japan navitime
โดยอันนี้เราจะทำเป็นภาษาไทยนะคะ แล้วก็มีภาษาอังกฤษอีกหนึ่งอันเผื่อว่าโดนเรียกที่ตม. ล่ะกัน 5555

Pass ต่างๆในญี่ปุ่น
หลังจากที่เราวางแพลนกันเสร็จแล้วเรียบร้อย เราก็มีดูว่าเราจำเป็นต้องซื้อ Pass อะไรบ้าง
ที่ไหนบ้าง ต้องซื้อที่ไทยไปเลยหรือป่าว
Pass 1 : ONE DAY PASS TOKYO METRO + TOEI LINE
เราตัดสินใจซื้อที่สถานีเอาคะ ปกติแล้วถ้าเราซื้อที่สนามบินจะราคาถูกกว่า
แต่ด้วยเวลาลงเครื่องที่ญี่ปุ่น กับเวลารถไฟรอบสุดท้ายออกจากสนามบินมันกระชั้นชิดมาก
จึงทำให้เราตัดสินไปซื้อเอาที่สถานีค่ะ ราคา 1,000 YEN

Pass 2 : Hakone Pass
จากข้อมูลที่หามาจากในกระทู้ต่างๆ หลากหลายกระทู้มาก (จำเครดิตไม่ได้ ขออภัยด้วยจริงๆค่ะ) คือไปซื้อที่สถานีรถไฟ Shinjuku ซึ่งเป็นสถานีที่ใหญ่มาก เดินหลงอยู่นานมาก ขอให้ใครจะไปเชคทางออกดีๆนะค่ะ
จะทำให้ง่ายต่อการเดินไปซื้อ ไม่เสียเวลามากมาย ราคา 5140 YEN

(เครดิต : วีดิโอ มาจิเด๊ะ เจแปน)

Pass 3 : JR Kanto Pass
จากการหาข้อมูลมาอย่างถี่ถ้วนเราก็พบว่าถ้าซื้อ Pass นี้เราจะคุ้มมาก
สำหรับการเที่ยว Nikko และ Kawaguchiko โดย Pass นี้ซื้อที่ญี่ปุ่นเช่นกันค่ะ
ซื้อที่สถานีรถไฟที่เป็นสถานีใหญ่ๆ เราซื้อที่สถานี Shinjuku
ราคา 8300 YEN

(เครดิต : http://www.jreast.co.jp)

เดินทางกันเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

วันที่ 1 เดินทางไปมาเลเซีย
ออกจากกรุงเทพ โดยสายการบิน Thai Lion Air เวลาประมาณ 19.00 น.
ถึงมาเลเซียที่สนามบิน KLA2 ประมาณ 22.00 น. ตอนผ่านตม. ตื่นเต้นมาก
เพราะเราไม่ค่อยเก่งภาษาอังกฤษ ไม่เคยผ่านตม. แต่ก็ผ่านไปด้วยดีค่ะ
ถามแค่ว่า คนก่อนหน้าใช่เพื่อนหรือป่าว เราก็ตอบใช่คะ จากนั้นก็นั่งรถเข้าเมือง ใช้เวลาประมาณ
1 ชั่วโมงจากสนามบิน แล้วก็เดินไปโรงแรมใกล้กับที่ลงรถเลย (คล้ายสถานีขนส่งบ้านเรา ไม่รู้เค้าเรียกว่าอะไรง่ะ ><)
ชื่อโรงแรม Hotel New Winner หลังจากเก็บของแล้วเรียบร้อยออกเที่ยวค่ะ

แล้วก็กลับมานอนค่ะ เพราะว่าดึกมากแล้วและพรุ่งนี้ต้องนั่งรถออกไปสนามบินด้วย

วันที่ 2 เดินทางไปญี่ปุ่น

เราออกจากสนามบิน KLA2 ประมาณ 14.00 น. เราเลือกซื้อข้าวกินบนเครื่องด้วย 1 มื้อ นั่งๆนอนๆมาประมาณ 6 ชั่วโมง

มาถึงสนามบินฮาเนดะประมาณ 22.30 น. เราก็รีบวิ่งไปต่อแถวตม. เพราะว่ารถไฟออกเที่ยวสุดท้ายคือ 00.05 น.
เรากลัวจะไม่ทัน ระหว่างที่กำลังจะผ่านตรงจุดที่ต้องสำแดงของ (น่าจะเรียกแบบนี้ ถ้าผิดพลาดขออภัยด้วยคะ รบกวนผู้รู้แจ้งได้เลยนะค่ะ)
เรากับเพื่อนก็โดนเรียกค้นตัว T^T เป็นประสบการณ์เลยนะค่ะ ครั้งแรกก็แจ็คพอตเลย ก็ตรวจผ่านสบายๆ
พนักงานผู้หญิงที่ตรวจคือสุภาพมากๆเลย จากนั้นเราก็วิ่งกันตาลีตาเหลือกไปซื้อตั๋วเข้าเมืองค่ะ
เราไปลงสถานี Nippori ของ JR line นะค่ะ เนื่องจากว่าใกล้กับบ้านที่เราเช่าอยู่ค่ะ มีการเปลี่ยนเข้าสาย JR line

จำเครดิตไม่ได้ ขออภัยด้วยค่ะ สามารถแจ้งได้เลยนะคะ

ตั๋วเข้าโตเกียว ลงสถานี Nippori ราคา 660 YEN ค่ะ

เมื่อถึงสถานี Nippori เราก็ออกมาเจอเจ้าของห้องเช่าค่ะ คือคุณน้าใจดีมากๆ เอารถมารอรับที่สถานี
ตลอดทางที่ขับรถไปบ้านก็คุยสนุก พอมาถึงบ้านเราก็ตกใจนิดหน่อย เนื่องจากว่าในเว็บไซต์
เราดูเหมือนว่ามันจะแคบ แต่มีครัวคงไม่ได้ใหญ่มาก พอมาเห็นกับตาโอ้โห คือห้องใหญ่กว่าที่คิด
แยกเป็น 3 ห้อง ห้องนอน ห้องนั่งเล่นบวกห้องครัว และห้องแต่งตัว มีห้องอาบน้ำ 1 ห้อง และห้องน้ำ 1 ห้อง
แถมด้วยว่าห้องพักมา Wifi ให้เล่นแล้วมี Pocket Wifi ให้เราได้ใช้ตลอดการอยู่ที่ญี่ปุ่นด้วยคะ
เก็บของอะไรเรียบร้อย ออกไปหาของกินแถวๆที่พักอีกนิดหน่อย ก็อาบน้ำนอนเลยค่า