พอดี เจอกระทู้อังกฤษจากเว็บนี้ครับ
http://lifestyle.howstuffworks.com/style/tips-advice/10-ways-to-develop-personal-style10.htm
เลยเอามาแปล และปรับเปลี่ยนในฐานที่เข้าใจครับ
ถามว่าผม เป็นคนดูดีไหม ไม่เลยครับ
บุคลิกไม่ดี หลังค่อม พูดจาไม่เป็นภาษา
เคยชอบพูดจาว่าร้ายคนอื่น บางครั้งก็พูดไม่ดีกับผู้หญิง
เอาง่ายคือ

ดีๆ นี่เอง
(ขอโทษที่พูดหยาบนะครับ)
ตอนนี้ก็พยายามปรับตัวให้ดีขึ้นครับ โดยกะเอาสิ่งที่ตัวเองแปลเนี่ยแหละครับ มาปรับปรุงตัวเอง
การปรับตัวเองให้เป็นคนที่มีคุณค่า มีอะไรบ้างไปดูกันนะครับ
1.รู้จักตัวเอง , รู้ว่าคุณเป็นใคร

อันนี้สำคัญมากครับ บางคนถ้าไม่มีข้อนี้ถึงกลับทำตัวไม่ถูกเลย เพราะบางครั้งเวลาเห็นคนอื่นเท่ และดูดี และเห็นสิ่งที่เขาทำแล้วดูเท่ เราเลยทำตาม นั่นถือเป็นสิ่งไม่ดีครับ เหมือนเราเป็นเงาคนนั้นเลยแหละ ไม่ดีครับ ขืนเป็นงี้ ไม่มีใครมองแน่ ดังนั้นเราต้องรู้ตัวเองครับ รู้ว่าต้องทำตัวยังไง รู้ว่าต้องแต่งตัวยังไงในสถานที่นี้ รู้ว่าควรพูดอะไรเมื่ออยู่กับคนอื่น รู้จักตัวเองให้มากขึ้นครับ
2.หาแรงบันดาลใจให้ตัวเอง

คนเราทักคนล้วนมีแรงบันดาลใจครับ เพราะถ้าไม่มีแรงบันดาลใจ เราก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไร จริงรึเปล่าครับ ลองหาแรงบันดาลใจในการทำอะไรสักอย่างครับ ยกตัวอย่างเช่น คนที่ชอบดาราเกาหลี นักร้องเกาหลีหยั่งงี้ครับ เขาชอบจนพูดภาษาเกาหลีได้เลยนะ เผลอๆเก่งกว่าคนที่เข้าคอร์สเรียนภาษาเกาหลีซะอีก ด้วยเพราะเขามีแรงบันดาลใจที่ว่า อยากมีคู่ครองชัวิตเป็นคนเกาหลีนั่นเอง
ตัวผมเอง ก็อยากเป็นนักข่าวสายไอที รับเขียนบล๊อกทั่วไป ได้ตังค์บ้าง ฟรีบ้าง ว่างๆก็เขียนกระทู้เล่นในพันทิพบ้าง จนตอนนี้ก็มีคนจ้างเขียนบล๊อคเรื่อยๆครับ เห็นไหมครับ ว่าแรงบันดาลใจสำคัญขนาดไหน ลองหาดูครับ ถ้าแรงบันดาลใจของคุณน่าสนใจ หรือยึดใครเป็นแบบหลัก เชื่อว่าคนต้องมองคุณหลายคนแน่ๆครับ
3.รู้ถึงสิ่งที่คุณต้องการจะทำให้สำเร็จ

เคยเป็นไหมครับ ที่คิดจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้สำเร็จ แต่แล้วก็สลาย เพราะคำว่าขี้เกียจ และคำว่า ไม่มีเวลา ลองตั้งเป้าหมายดูครับ ว่าต้องการทำอะไร จริงจังและใจจดใจจ่อไปกับมันเลยครับ แนะนำให้ทำในสิ่งมี่คุณชอบนะครับ คุณจะได้ใช้เวลาทำใันให้ดีที่สุดครับ เช่น คุณอยากให้คนที่คุณักมีความสุข หรือ อยากสมหวังในความรัก ก็จัดไปเลยครับ ไม่ต้องกลัวเลย
4.ทำตัวให้มีคุณค่า

ก็ตามหัวข้อแหละครับ เราเกิดมาเป็นคน มีเลือด มีเนื้อ ก็ต้องทำตัวให้สมกับเป็นคน ทำตัวให้มีคุณค่า ให้รู้ว่าเรามีดีที่เหมือนและไม่เหมือนกับคนอื่น ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ล่ะคนครับ ว่าจะทำยังไง บางคนก็เลือกที่จะแต่งตัวให้เป็น ให้เข้าตาคน บางคนก็เลือกที่จะทำสิ่งใหม่ๆ ค้นหาเรื่องแปลกๆใหม่ๆให้คนทึ่ง และให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น อ้อ และต้องบอกไว้เลยนะครับ สิ่งที่คนเรากลัวมากที่สุด ไม่ใช่ความตายครับ แต่เป็นการที่โดนคนหลงลืมนั่นแหละครับน่ากลัวที่สุด เพราะหยั่งงี้ คนเราบางพวก ก็พยายามสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่น่าจดจำไงครับ
5.เรียนรู้จากหนังสือใกล้ตัว

เขาว่าการอ่านหนังสือ เป็นการเปิดสู่โลกแห่งความคิดใบใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม เราสามารถศึกษาวิถีชีวิตคน ลักษณะการแต่งตัว แฟชั่นที่ทันสมัย ได้จากหนังสือทั้งหมดเลย บางคนอาจมองว่าการอ่านหนังสือเป็นเรื่องไร้สาระ แต่รู้อะไรไหม คนที่ชอบอ่านการ์ตูนหรือหนังสือน่ะ สะกดคำเก่งได้มากกว่าคนที่ไม่อ่านอีกนะ เพราะฉะนั้น หนังสือที่อยู่ใกล้ตัวคุณ หยิบขึ้นมาอ่านเถอะครับ เผื่อมันจะทำให้ชีวิตคุณดูโอเคขึ้น และรู้จักใช้ชีวิตยิ่งขึ้น
6.อยู่หรือทำอะไรก็ได้ที่เราสบายใจที่จะทำ

บางครั้ง เคยไหมครับ อยากทำโน่นทำนี่ แต่ก็กลัวว่าตะไปเดือดร้อนผู้อื่น หรือไม่ก็เวลาอยู่กับกลุ่มเพื่อนสักกลุ่มนึง แล้วเรารู้สึกอึดอัด ไม่รู้จะทำไง ถ้าให้ผมแนะนำ ผมว่าเราควรถอยออกมาครับ ถอยออกมา เพื่อไปหาที่ๆเราอยู่แล้วรู้สึกสบายใจครับ ไม่มีที่ไหนหรอกครับ ที่เราอยู่แล้วไม่สบายใจทุกที ต้องมีสักที่ครับ ที่เราจะอยู่อย่างสบายใจ
7.ขอบคุณทุกๆสิ่งอย่าง แม้ว่าคนที่เราขอบคุณจะด่าหรือนินทาว่าไรเราก็ตาม

ทุกคนคงเคยโดนนินทาลับหลังบ่อยๆใช่ไหมครับ บางคนโดนด่าแบบพูดตรงๆก็มี และก็คงโกรธใช่ไหมครับ ผมก็เคยเป็นงั้นนะ แต่ง่า ผมคิดว่า ควรขอบคุณเขานะ ขอบคุณที่ทำให้เขารู้ว่าเราเป็นคนยังไง และทำให้เรารู้จักปรับตัวให้ดีขึ้นอีกต่อไปได้ ให้จำไว้นะครับ ว่าคำด่า คือคำสอนให้รู้จักปรับปรุงตัว
8.อย่ากลัวและจงเชื่อในสิ่งที่คุณทำ

เคยไหมครับ อยากทำอะไรสักอย่างนึง แล้วเกิดกลัวขึ้นมา กลัวว่าเขาจะไม่ชอบ กลัวว่าเขาจะไม่เห็นด้วย อย่าไปกลัวก่อนครับ ให้เรา "ลอง" ดูก่อนครับ จะดีไม่ดีแย่าเพิ่งสนครับ ถ้าดี ก็ทำต่อไป ถ้าไม่ดี ก็เลิกทำและหาสิ่งใหม่ๆทำครับ และก็ต้องเชื่อครับ ว่าเราทำได้ คนอื่นทำได้ เราก็ทำได้ครับ
ก็นั่นแหละครับ สิ่งที่ผมอยากจะบอก
ผมอาจไม่ใช่คนที่ผ่านชีวิตมาเยอะเท่าคนที่มีอายุมากกว่าผมหลอกนะครับ
เพียงแต่ว่าผมอยากจะแชร์สิ่งดีๆ ให้เพื่อนๆ
หรือบางคนที่เป็นเหมือนผมได้ฟัง
และก็เอาไปใช้ได้
ยังไงก็ ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ
8 วิธีปรับเปลี่ยนบุคลิกภาพของคุณให้ดูเป็นคนที่มีคุณค่า
http://lifestyle.howstuffworks.com/style/tips-advice/10-ways-to-develop-personal-style10.htm
เลยเอามาแปล และปรับเปลี่ยนในฐานที่เข้าใจครับ
ถามว่าผม เป็นคนดูดีไหม ไม่เลยครับ
บุคลิกไม่ดี หลังค่อม พูดจาไม่เป็นภาษา
เคยชอบพูดจาว่าร้ายคนอื่น บางครั้งก็พูดไม่ดีกับผู้หญิง
เอาง่ายคือ
(ขอโทษที่พูดหยาบนะครับ)
ตอนนี้ก็พยายามปรับตัวให้ดีขึ้นครับ โดยกะเอาสิ่งที่ตัวเองแปลเนี่ยแหละครับ มาปรับปรุงตัวเอง
การปรับตัวเองให้เป็นคนที่มีคุณค่า มีอะไรบ้างไปดูกันนะครับ
1.รู้จักตัวเอง , รู้ว่าคุณเป็นใคร
อันนี้สำคัญมากครับ บางคนถ้าไม่มีข้อนี้ถึงกลับทำตัวไม่ถูกเลย เพราะบางครั้งเวลาเห็นคนอื่นเท่ และดูดี และเห็นสิ่งที่เขาทำแล้วดูเท่ เราเลยทำตาม นั่นถือเป็นสิ่งไม่ดีครับ เหมือนเราเป็นเงาคนนั้นเลยแหละ ไม่ดีครับ ขืนเป็นงี้ ไม่มีใครมองแน่ ดังนั้นเราต้องรู้ตัวเองครับ รู้ว่าต้องทำตัวยังไง รู้ว่าต้องแต่งตัวยังไงในสถานที่นี้ รู้ว่าควรพูดอะไรเมื่ออยู่กับคนอื่น รู้จักตัวเองให้มากขึ้นครับ
2.หาแรงบันดาลใจให้ตัวเอง
คนเราทักคนล้วนมีแรงบันดาลใจครับ เพราะถ้าไม่มีแรงบันดาลใจ เราก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไร จริงรึเปล่าครับ ลองหาแรงบันดาลใจในการทำอะไรสักอย่างครับ ยกตัวอย่างเช่น คนที่ชอบดาราเกาหลี นักร้องเกาหลีหยั่งงี้ครับ เขาชอบจนพูดภาษาเกาหลีได้เลยนะ เผลอๆเก่งกว่าคนที่เข้าคอร์สเรียนภาษาเกาหลีซะอีก ด้วยเพราะเขามีแรงบันดาลใจที่ว่า อยากมีคู่ครองชัวิตเป็นคนเกาหลีนั่นเอง
ตัวผมเอง ก็อยากเป็นนักข่าวสายไอที รับเขียนบล๊อกทั่วไป ได้ตังค์บ้าง ฟรีบ้าง ว่างๆก็เขียนกระทู้เล่นในพันทิพบ้าง จนตอนนี้ก็มีคนจ้างเขียนบล๊อคเรื่อยๆครับ เห็นไหมครับ ว่าแรงบันดาลใจสำคัญขนาดไหน ลองหาดูครับ ถ้าแรงบันดาลใจของคุณน่าสนใจ หรือยึดใครเป็นแบบหลัก เชื่อว่าคนต้องมองคุณหลายคนแน่ๆครับ
3.รู้ถึงสิ่งที่คุณต้องการจะทำให้สำเร็จ
เคยเป็นไหมครับ ที่คิดจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้สำเร็จ แต่แล้วก็สลาย เพราะคำว่าขี้เกียจ และคำว่า ไม่มีเวลา ลองตั้งเป้าหมายดูครับ ว่าต้องการทำอะไร จริงจังและใจจดใจจ่อไปกับมันเลยครับ แนะนำให้ทำในสิ่งมี่คุณชอบนะครับ คุณจะได้ใช้เวลาทำใันให้ดีที่สุดครับ เช่น คุณอยากให้คนที่คุณักมีความสุข หรือ อยากสมหวังในความรัก ก็จัดไปเลยครับ ไม่ต้องกลัวเลย
4.ทำตัวให้มีคุณค่า
ก็ตามหัวข้อแหละครับ เราเกิดมาเป็นคน มีเลือด มีเนื้อ ก็ต้องทำตัวให้สมกับเป็นคน ทำตัวให้มีคุณค่า ให้รู้ว่าเรามีดีที่เหมือนและไม่เหมือนกับคนอื่น ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ล่ะคนครับ ว่าจะทำยังไง บางคนก็เลือกที่จะแต่งตัวให้เป็น ให้เข้าตาคน บางคนก็เลือกที่จะทำสิ่งใหม่ๆ ค้นหาเรื่องแปลกๆใหม่ๆให้คนทึ่ง และให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น อ้อ และต้องบอกไว้เลยนะครับ สิ่งที่คนเรากลัวมากที่สุด ไม่ใช่ความตายครับ แต่เป็นการที่โดนคนหลงลืมนั่นแหละครับน่ากลัวที่สุด เพราะหยั่งงี้ คนเราบางพวก ก็พยายามสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่น่าจดจำไงครับ
5.เรียนรู้จากหนังสือใกล้ตัว
เขาว่าการอ่านหนังสือ เป็นการเปิดสู่โลกแห่งความคิดใบใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม เราสามารถศึกษาวิถีชีวิตคน ลักษณะการแต่งตัว แฟชั่นที่ทันสมัย ได้จากหนังสือทั้งหมดเลย บางคนอาจมองว่าการอ่านหนังสือเป็นเรื่องไร้สาระ แต่รู้อะไรไหม คนที่ชอบอ่านการ์ตูนหรือหนังสือน่ะ สะกดคำเก่งได้มากกว่าคนที่ไม่อ่านอีกนะ เพราะฉะนั้น หนังสือที่อยู่ใกล้ตัวคุณ หยิบขึ้นมาอ่านเถอะครับ เผื่อมันจะทำให้ชีวิตคุณดูโอเคขึ้น และรู้จักใช้ชีวิตยิ่งขึ้น
6.อยู่หรือทำอะไรก็ได้ที่เราสบายใจที่จะทำ
บางครั้ง เคยไหมครับ อยากทำโน่นทำนี่ แต่ก็กลัวว่าตะไปเดือดร้อนผู้อื่น หรือไม่ก็เวลาอยู่กับกลุ่มเพื่อนสักกลุ่มนึง แล้วเรารู้สึกอึดอัด ไม่รู้จะทำไง ถ้าให้ผมแนะนำ ผมว่าเราควรถอยออกมาครับ ถอยออกมา เพื่อไปหาที่ๆเราอยู่แล้วรู้สึกสบายใจครับ ไม่มีที่ไหนหรอกครับ ที่เราอยู่แล้วไม่สบายใจทุกที ต้องมีสักที่ครับ ที่เราจะอยู่อย่างสบายใจ
7.ขอบคุณทุกๆสิ่งอย่าง แม้ว่าคนที่เราขอบคุณจะด่าหรือนินทาว่าไรเราก็ตาม
ทุกคนคงเคยโดนนินทาลับหลังบ่อยๆใช่ไหมครับ บางคนโดนด่าแบบพูดตรงๆก็มี และก็คงโกรธใช่ไหมครับ ผมก็เคยเป็นงั้นนะ แต่ง่า ผมคิดว่า ควรขอบคุณเขานะ ขอบคุณที่ทำให้เขารู้ว่าเราเป็นคนยังไง และทำให้เรารู้จักปรับตัวให้ดีขึ้นอีกต่อไปได้ ให้จำไว้นะครับ ว่าคำด่า คือคำสอนให้รู้จักปรับปรุงตัว
8.อย่ากลัวและจงเชื่อในสิ่งที่คุณทำ
เคยไหมครับ อยากทำอะไรสักอย่างนึง แล้วเกิดกลัวขึ้นมา กลัวว่าเขาจะไม่ชอบ กลัวว่าเขาจะไม่เห็นด้วย อย่าไปกลัวก่อนครับ ให้เรา "ลอง" ดูก่อนครับ จะดีไม่ดีแย่าเพิ่งสนครับ ถ้าดี ก็ทำต่อไป ถ้าไม่ดี ก็เลิกทำและหาสิ่งใหม่ๆทำครับ และก็ต้องเชื่อครับ ว่าเราทำได้ คนอื่นทำได้ เราก็ทำได้ครับ
ก็นั่นแหละครับ สิ่งที่ผมอยากจะบอก
ผมอาจไม่ใช่คนที่ผ่านชีวิตมาเยอะเท่าคนที่มีอายุมากกว่าผมหลอกนะครับ
เพียงแต่ว่าผมอยากจะแชร์สิ่งดีๆ ให้เพื่อนๆ
หรือบางคนที่เป็นเหมือนผมได้ฟัง
และก็เอาไปใช้ได้
ยังไงก็ ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ