จากทู้
http://pantip.com/topic/34078688
ที่ไอเดนฟินเหลือเกิน
เลยอยากให้ไอเดนลองอ่านข่าวนี้ดู แล้วสืบค้นเรื่องราว สืบค้นบทบาทของรัฐบาลออสเตรเลีย แล้วพิจารณาดู
ไม่ใช่แค่เห็นข่าว เห็นโลกโซเชียลเย้ว ๆ ตามกันแบบไม่รู้เรื่อง ฟินอย่างเดียว ไอเดนเลยเย้ว ๆ ตามเขามั่ง
...............................................
กลายเป็นประเด็นที่สร้างความฮือฮา ซาบซึ้งให้กับชาวไทย เมื่อนายโทนี แอบบอต นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ไม่เพียงประกาศจะช่วยเหลือรัฐบาลไทยในการสอบสวนเหตุระเบิดราชประสงค์เท่านั้น แต่ยังกล่าวด้วยว่าคนออสเตรเลียไม่ควรระงับการเดินทางมายังประเทศไทย แต่ควรจะไปเที่ยวตามปกติ เพราะผู้ที่ก่อเหตุรุนแรงครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเกรงกลัว การไม่ดำเนินชีวิตไปตามปกติ จึงเท่ากับเป็นการเดินตามเกมของผู้ก่อการร้าย
ชาวออสเตรเลียจึงไม่ควรแสดงออกว่าเหตุการณ์เช่นนี้ได้ผลในการข่มขู่นักท่องเที่ยว
ชาวไทยจำนวนมากมองว่าออสเตรเลียเป็นมหามิตรที่สนิทแนบแน่นกับไทย จนถึงกับยอมเสี่ยงสวนกระแสที่รัฐบาลชาติอื่นๆต่างเตือนนักท่องเที่ยวให้เลื่อนกำหนดการเดินทางเยือนไทย แต่หากมาพิจารณาให้ดี รัฐบาลไทยและออสเตรเลียไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันนักนับตั้งแต่รัฐประหารเป็นต้นมา โดยออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศที่แสดงออกอย่างแข็งกร้าวชัดเจนที่สุดในการไม่ยอมรับการรัฐประหารในไทย และเรียกร้องให้ไทยหวนคืนสู่ความเป็นประชาธิปไตยโดยเร็วที่สุด ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศของออสเตรเลีย ก็ออกมาโจมตีไทยในกรณีการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนอยู่เนืองๆ
เพราะฉะนั้น การที่จู่ๆ นายกฯออสเตรเลียจะแปรเปลี่ยนมาเป็นมหามิตรในยามยากของไทย จึงเป็นไปไม่ได้ แต่ที่ท่าทีของนายแอบบอตเป็นเช่นนี้ มีเหตุผลทางการเมืองเบื้องหลัง นั่นก็คือรั
ฐบาลออสเตรเลียกำลังบำเพ็ญตนเป็นผู้นำในการต่อต้านการก่อการร้าย และใช้วิธีแข็งกร้าวในการรับมือการก่อการร้าย ไม่เพียงการใช้กำลัง แต่ยังรวมถึงการแสดงให้เห็นในทุกโอกาสว่าคำขู่ของผู้ก่อการร้าย หรือการเผยแพร่ความหวาดกลัวโดยการก่อวินาศกรรม ไม่มีผลต่อชาวออสเตรเลีย เพราะฉะนั้น การแสดงออกของนายแอบบอตในครั้งนี้ จึงไม่ใช่การเห็นอกเห็นใจไทย แต่
คือการใช้ไทยเป็นเวทีในการแสดงจุดยืนทางการเมือง ทั้งเพื่อคะแนนเสียงในประเทศ และเพื่อตอกย้ำบทบาทผู้นำการต่อต้านการก่อการร้ายในเวทีโลก
http://news.voicetv.co.th/world/247593.html
อย่างอเมริกา วางตนเป็นผู้นำในการต่อต้านการก่อการร้าย หรือยุโรป ญี่ปุ่น
พวกนี้ เขาจะไม่ยอมต่อรองกับผู้ก่อการร้าย ไม่ยอมแสดงท่าทีว่าเกรงกลัวต่อการก่อการร้าย
รัฐบาลออสเตรเลียเลยต้องการวางบทบาทเป็นผู้นำในภูมิภาคในเรื่องนี้บ้าง เพื่อสร้างคะแนนนิยมให้ตนเอง
ในขณะที่ตัวนายกฯ บอกไม่ต้องกลัว เพื่อสร้างภาพลักษณ์
แต่หน่วยงานของเขาก็เล่นอีกบท เตือนและลดระดับความปลอดภัยในการเที่ยวไทย
ลอง ๆ สืบค้นศึกษาเรื่องราวดูนะไอเดน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คงจำได้ หลัง 22 พ.ค. 57 ออสเตรเลียไม่ให้นายกฯลุงตู่เข้าประเทศ จนกว่าจะมีการเลือกตั้ง
ให้ไอเดนอ่าน.....เขาเล่นการเมืองในประเทศ เขาเล่นการเมืองระดับนานาชาติ ด้วยการฉวยเหตุการณ์ในประเทศไทยเป็นโอกาสเท่านั้นเอง
ที่ไอเดนฟินเหลือเกิน
เลยอยากให้ไอเดนลองอ่านข่าวนี้ดู แล้วสืบค้นเรื่องราว สืบค้นบทบาทของรัฐบาลออสเตรเลีย แล้วพิจารณาดู
ไม่ใช่แค่เห็นข่าว เห็นโลกโซเชียลเย้ว ๆ ตามกันแบบไม่รู้เรื่อง ฟินอย่างเดียว ไอเดนเลยเย้ว ๆ ตามเขามั่ง
...............................................
กลายเป็นประเด็นที่สร้างความฮือฮา ซาบซึ้งให้กับชาวไทย เมื่อนายโทนี แอบบอต นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ไม่เพียงประกาศจะช่วยเหลือรัฐบาลไทยในการสอบสวนเหตุระเบิดราชประสงค์เท่านั้น แต่ยังกล่าวด้วยว่าคนออสเตรเลียไม่ควรระงับการเดินทางมายังประเทศไทย แต่ควรจะไปเที่ยวตามปกติ เพราะผู้ที่ก่อเหตุรุนแรงครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเกรงกลัว การไม่ดำเนินชีวิตไปตามปกติ จึงเท่ากับเป็นการเดินตามเกมของผู้ก่อการร้าย ชาวออสเตรเลียจึงไม่ควรแสดงออกว่าเหตุการณ์เช่นนี้ได้ผลในการข่มขู่นักท่องเที่ยว
ชาวไทยจำนวนมากมองว่าออสเตรเลียเป็นมหามิตรที่สนิทแนบแน่นกับไทย จนถึงกับยอมเสี่ยงสวนกระแสที่รัฐบาลชาติอื่นๆต่างเตือนนักท่องเที่ยวให้เลื่อนกำหนดการเดินทางเยือนไทย แต่หากมาพิจารณาให้ดี รัฐบาลไทยและออสเตรเลียไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันนักนับตั้งแต่รัฐประหารเป็นต้นมา โดยออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศที่แสดงออกอย่างแข็งกร้าวชัดเจนที่สุดในการไม่ยอมรับการรัฐประหารในไทย และเรียกร้องให้ไทยหวนคืนสู่ความเป็นประชาธิปไตยโดยเร็วที่สุด ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศของออสเตรเลีย ก็ออกมาโจมตีไทยในกรณีการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนอยู่เนืองๆ
เพราะฉะนั้น การที่จู่ๆ นายกฯออสเตรเลียจะแปรเปลี่ยนมาเป็นมหามิตรในยามยากของไทย จึงเป็นไปไม่ได้ แต่ที่ท่าทีของนายแอบบอตเป็นเช่นนี้ มีเหตุผลทางการเมืองเบื้องหลัง นั่นก็คือรัฐบาลออสเตรเลียกำลังบำเพ็ญตนเป็นผู้นำในการต่อต้านการก่อการร้าย และใช้วิธีแข็งกร้าวในการรับมือการก่อการร้าย ไม่เพียงการใช้กำลัง แต่ยังรวมถึงการแสดงให้เห็นในทุกโอกาสว่าคำขู่ของผู้ก่อการร้าย หรือการเผยแพร่ความหวาดกลัวโดยการก่อวินาศกรรม ไม่มีผลต่อชาวออสเตรเลีย เพราะฉะนั้น การแสดงออกของนายแอบบอตในครั้งนี้ จึงไม่ใช่การเห็นอกเห็นใจไทย แต่คือการใช้ไทยเป็นเวทีในการแสดงจุดยืนทางการเมือง ทั้งเพื่อคะแนนเสียงในประเทศ และเพื่อตอกย้ำบทบาทผู้นำการต่อต้านการก่อการร้ายในเวทีโลก
http://news.voicetv.co.th/world/247593.html
อย่างอเมริกา วางตนเป็นผู้นำในการต่อต้านการก่อการร้าย หรือยุโรป ญี่ปุ่น
พวกนี้ เขาจะไม่ยอมต่อรองกับผู้ก่อการร้าย ไม่ยอมแสดงท่าทีว่าเกรงกลัวต่อการก่อการร้าย
รัฐบาลออสเตรเลียเลยต้องการวางบทบาทเป็นผู้นำในภูมิภาคในเรื่องนี้บ้าง เพื่อสร้างคะแนนนิยมให้ตนเอง
ในขณะที่ตัวนายกฯ บอกไม่ต้องกลัว เพื่อสร้างภาพลักษณ์
แต่หน่วยงานของเขาก็เล่นอีกบท เตือนและลดระดับความปลอดภัยในการเที่ยวไทย
ลอง ๆ สืบค้นศึกษาเรื่องราวดูนะไอเดน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้