Part2 เมื่อฉันเดินทางกับสายการบินนี้เป็นครั้งแรก แหละนี่คือสิ่งที่ฉันได้รับ
ก่อนที่น้องแก้วจะรู้ตัวว่าไม่ควรพูดอะไรเช่นนั้นออกไป กับการ landing flight HP283 ใครจะรู้ว่าเธอเจออะไรมาบ้าง นอกจากเพื่อนๆและเพอร์เซอร์ในไฟล์ท ย้อนกลับไปตั้งแต่บอร์ดดิ้งผู้โดยสารจากสุวรรณภูมิไฟล์ทนี้ผู้โดยสารเต็มเครื่อง ทำให้ต้องตั้งแถวเข้าคิวยาวมาก
“ขอโทษนะ ขอโทษนะ เอ้านี่ของชั้น” เสียงผู้หญิงท่านหนึ่งเล็ดลอดมาจากด้านหลังและแทรกตัวมายื่น boarding pass ให้เพอร์เซอร์ตาล
“ท่านผู้โดยสารค่ะ โปรดเข้าคิวเพื่อทำการเช็ค boarding pass นะค่ะ”
“หนู ชั้นขาไม่ค่อยดี เช็คให้ชั้นก่อนเถอะ” คุณผู้หญิงท่านหนึ่ง อายุประมาณ 50ปลายๆ 60ต้นๆ ใส่แว่น ผมสั้นกระเซิง พูดพลางจับที่หัวเข่า
“ให้คุณป้าเขาก่อนก็ได้ครับ” เด็กวัยรุ่นที่โดนแทรกคิวพูดขึ้น
“ขอบคุณนะน้อง” คุณผู้หญิงไม่ปลื้มคำว่าป้าสักเท่าไหร่
“ค่ะ สวัสดีค่ะ ที่นั่ง 57c อยู่ทางด้านในสุด ทางขวามือ ติดทางเดินนะค่ะ”
“ในสุดเลยเหรอ ชั้นเข่าไม่ดีเดินไม่ไหวหรอก ให้ชั้นนั่งข้างหน้าได้มั้ย? เนี่ยว่างตรงกลางตั้งหลายแถว”
“ไม่ได้นะคะ คุณผู้โดยสาร ข้างหน้าเป็นชั้น business แล้วที่ว่างตรงกลาง ว่างไว้เพื่อความสะดวกสบายของผู้โดยสารชั้นนี้เท่านั้นค่ะ”
“ไม่รู้จะเว้นไว้ทำไม นั่งไม่ได้ งั้นชั้นขอนั่งใกล้ที่สุดแล้วกัน”
“ไม่ได้นะคะ คุณผู้โดยสาร เที่ยวนี้มีผู้โดยสารเต็ม ถ้ามีผู้โดยสารท่านใด อยากนั่งข้างหลัง เดี๋ยวหนูจะไปบอกคุณผู้โดยสารให้เร็วที่สุด เพื่อสลับที่ให้นะคะ ตอนนี้ขอให้ผู้โดยสารนั่งประจำที่ก่อนนะค่ะ” ตาลตอบทุกอย่างด้วยจิตใจบริการ แม้ว่าในใจคิดว่าไฟล์ทนี้ต้องมีเรื่องปวดหัวอย่างแน่นอน พร้อมทั้งหันไปมองแก้ว ซึ่งมีสีหน้าบ่งบอกว่าอย่าโยนมาทางนี้
“แก้ว พาผู้โดยสารไปประจำที่หน่อย”
“ค่ะ เชิญทางนี้เลยค่ะ”

“โว๊ะ อันนั้นก็ไม่ได้ อันนี้ก็ไม่ได้” คุณผู้หญิงป้าเริ่มบ่นออกเสียง พร้อมเดินตามแก้วไปด้วยท่าทีหงุดหงิด แต่ไม่ได้มีอาการผิดปกติเกี่ยวกับขาเลยแม้แต่น้อย
เมื่อถึงที่นั่ง
“ตรงนี้ค่ะ 57C”แก้วพูดพร้อมเปิดที่เก็บสัมภาระด้านบนให้
“ชั้นขอนั่งริมหน้าต่างได้มั้ย?” ‘ว่าแล้ว’ แก้วคิดในใจ
“เดี๋ยวหนูถามท่านผู้โดยสารริมหน้าต่างให้นะคะ ถ้าเขามานั่งแล้ว” เตรียมตัวไปรับผู้โดยสารท่านต่อไป
“อีกและ อย่าเพิ่งไป ช่วยพี่ยกของหน่อย”
“ค่ะ” ‘ใช้คุ้มเลยนะคะ คุณพี่ผู้หญิงป้า’ แก้วคิดในใจ พร้อมกับยกกระเป๋าที่เมื่อได้รู้ น้ำหนักหลังจากยกแล้ว คุณพี่ผู้หญิงป้าน่าจะเอาของยัดใส่เต็มลิมิต 7 โลพอดีเป๊ะ หรือน้ำหนักประมาณน้ำเปล่าขวดใหญ่ 1 แพ็ค หรือไม่แน่อาจจะยัดมาเกินก็ได้ใครจะไปรู้ ด้วยความหนัก ทำให้แก้วแสดงออกทางสีหน้า ซึ่งก็เหมาะเจาะกับคุณพี่ผู้หญิงป้าเห็นพอดี
“ยกกระเป๋าแค่นี้ ดูทำหน้า เค้าก็จ้างพวกเธอมาทำแบบนี้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”
ปื๊ดขึ้นหน้า เส้นเลือดกากบาทขึ้นขมับ แก้วโพล่งออกไปว่า
“อันที่จริง หนูไม่ได้มีหน้าที่ยกกระเป๋านะคะ คุณป้า!” พร้อมกับปิดที่เก็บสัมภาระแบบจงใจให้มีเสียงแล้วเดินไปข้างหน้าเลย
ถามว่า คุณพี่ผู้หญิงป้ารู้สึกอะไรมั้ย บอกเลยว่า ป้าแกรอเปลี่ยนที่นั่งอย่างเดียว
หลังสัญญาณรัดเข็มขัด ปิดไป ลูกเรือทำการเสริฟน้ำและขนมจนถึงแถว 57
“ผมขอ orange juice ที่นึงครับ” ผู้ชายที่นั่ง57A ติดหน้าต่าง เอ่ยปากขอกับแก้ว
“ชั้นเอาด้วย ออเล้น จุ้ยส เอาสองเลย” เหมือนคุณผู้หญิงป้า จะต้องการเอาชนะพี่ผู้ชายเพราะเคืองที่เขาไม่ยอมเปลี่ยนที่นั่ง
แก้วยื่นแก้วน้ำส้มให้คุณผู้หญิงป้าก่อนเนื่องจากใกล้ที่สุด
“ชั้นไม่ได้สั่งน้ำส้มนะ”
“ก็เมื้อกี้ คุณผู้โดยสารสั่งเหมือนคุณพี่ท่านนั้นไม่ใช่หรือคะ” แก้วข่มใจพูดอย่างสุภาพ
“ชั้นสั่งออเล้น จุ้ยส”
“นี่แหละคะ orange juice น้ำส้ม” ‘ป้าเอ้ยยยยย’ แก้วคิดได้แค่ในใจ
“อ้าว มันคือน้ำสั้มเหรอ แล้วดันพูดภาษาอังกิดทำไม ชั้นก็นึกว่าน้ำวินิสสมาหราที่ไหน ให้ไอ่หนุ่มนู้นเลยแหละกัน” ป้าโทษพ่อหนุ่มข้างหน้าต่าง
“งั้นชั้นขอน้ำเก๊กฮวยแล้วกัน”
“ไม่มีค่ะ มีน้ำส้ม น้ำแอปเปิ้ล น้ำอัดลม ชา กาแฟ” ‘เยอะมากกกก’ แก้วคิด หมายถึงป้านะ ไม่ใช่ชนิดของน้ำที่บริการบนเครื่อง
“โอ้ยะ อะไรก็ไม่มี ไม่ได้ นี่ชั้นซื้อตั๋วมาตั้งแพง นั่งรถทัวร์ยังบริการดีกว่านี้อีก แล้วนี้ขนมปังอะไรก็ไม่รู้ เห็นชั้นเป็นปลาดุกหรือไง รถทัวร์ที่เคยนั่งเขายังแจกขนมฝรั่งดูดีกว่านี้เป็นพันเท่า เธอจะไปไหนก็ไปไป” ป้าบ่นชุดใหญ่ รอบข้างก็ละเหี่ยใจ
“เดี๋ยวๆ ขอน้ำเปล่าให้ชั้นและกัน มีใช่มั้ย?” ป้าถามพร้อมกับเหน็บแก้ว
“ดูในถุงก่อนถามนะคะป้า ถ้าหาไม่เจอ ก็เอาแว่นลงมาสวมนะคะ มันอยู่ใกล้อาจจะมองไม่เห็น” แล้วแก้วก็เดินเข้าแกลลี่ข้างหลังไปเลย
ตลอดทั้งไฟล์ทป้าแกก็บ่นเรื่องอากาศ เครื่องบินสั่นตลอดทาง กับคนข้างๆ พาลบ่นไป ground staff เรื่องการให้ยืนรอตั้งนาน เรื่องเปลี่ยนที่ไม่ได้ เรื่องการบริการบนเครื่อง คนนั่งข้างๆก็ได้แต่พยักหน้า แต่ในใจรำคาญ ship hay จนเมื่อเครื่องแลนดิ้งดังตึง! ป้าแกจึงเงียบกริบไปพักนึง พักใหญ่สำหรับป้าแก แต่ชั่วครู่เดียวสำหรับคนอื่น พอแกรู้สึกตัวพร้อมกับเครื่องบิน taxi ออกจาก runway ป้าแกปลดเข็มขัดแล้วหยิบสัมภาระ ยกลงอย่างแข็งแรง แล้วเดินไปประตูทางออก เหมือนกับไม่มีปัญหาด้านสุขภาพเลยสักนิด
เพอร์เซอร์ตาลเห็นเช่นนั้นจึงประกาศผ่านไมค์ว่า
“โปรดนั่งที่ให้เรียบร้อย จนกว่าจะมีสัญญาณรัดเข็มขัดนะคะ ขอความร่วมมือด้วยคะ”
คนมองป้าที่เดินมาเกือบถึงกลางเครื่องอยู่คนเดียวกันทั้งลำ แม้แต่แถวข้างหน้าก็ยังหันมาดู
ป้าเกิดอาการขวยเขินขึ้นเล็กน้อย ย้ำเล็กน้อย ทำอะไรไม่ถูกจึงพูดออกไปว่า
“พี่ขอเข้าห้องน้ำแป๊ปนึง ทนไม่ไหวแล้วเนี่ย อั้นมาตลอด”แล้วก็เดินต่อมาจนถึงประตูทางออกเครื่องพร้อมกระเป๋าอย่างไม่สะทกสะท้าน
เครื่องบินจอดเทียบเกจพอดีพร้อมกับเบรก ในใจผู้โดยสารอีก 160กว่าชีวิตมีหลายๆคนเชียร์ให้กัปตันเบรกแรงๆหน่อย ป้าแกจะได้ล้มไปข้างหน้าตามแรง G และแรงปรารถนาของมวลหมู่มากก็เป็นผล ป้าเซไปข้างหน้า แต่ทันใดเอง แกเอามือไปจับเบาะข้างได้อย่างทันท่วงที พร้อมกับเสียง “ว้า...” โห่ร้อง เสียดายในใจของผู้สาร แต่กระนั้นต้องยอมรับ เพราะเป็นที่พิสูจน์แล้วว่าป้าแกมีประสาทสัมผัสทั้งด้านการคิด การพูด การโต้ตอบ การเคลื่อนไหว แกรวดเร็ว จนบางคนก็เผลอชื่นชมในใจ
พอกัปตันปลดสัญญาณรัดเข็มขัดออก ประสาทหูของป้าได้ยินเสียง ประสาทตาเห็นสัญญาณไฟจากที่นั่งด้านหน้า ประสาทการพูดของป้าจึงพูดออกไปว่า
“งั้นเด๋วพี่ ขอไปเข้าข้างนอกแล้วกันนะ” ป้าพูดกับตาลด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะ พร้อมกับโชยตาไปเห็นแก้วอยู่ข้างๆ
“แล้วนี่เธอฝากบอกนักบินด้วยนะ ลงซะแรงเลย” ป้าย้ำ หลังจากที่ไม่ได้เห็นแก้วตลอดไฟล์ทหลังจากเรื่องการขอน้ำ เพราะแก้วขอเปลี่ยนกับเพื่อนมาอยู่ข้างหน้าแทน
“ค่ะ” แก้วพูดด้วยทีท่าและสีหน้าเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมทุกอย่างของป้าเป็นอย่างมาก
“ดูทำหน้า เดี๋ยวชั้นจะเอาพฤติกรรมของเธอไปแฉในโซเชี่ยล เฟสสะบุก พันทิป คอยดู”
‘เอาเลยป้า อยากทำไรทำเล้ยยย’ แก้วได้แต่คิดในใจ
“ขอโทษนะคะสำหรับความไม่สะดวกสบายในครั้งนี้ แต่ขอบคุณนะคะที่ใช้บริการ”
ตาลรับรู้ถึงความรู้สึกของแก้ว แต่ตอบไปด้วยใจบริการ
“ดูอย่างแม่หนูคนนี้ไว้ ยิ้มแย้มตลอดเวลา” มนุษย์ป้าชื่นชมตาล และเป็นอย่างเดียวที่แกชื่นชนตลอดทั้งไฟล์ท
‘รีบๆไปเถ้ออออ’ แก้วแถบอยากตะโกนออกมา
Nice to know :อย่างที่บางท่านอาจเคยทราบมาแล้วว่า การยกกระเป๋าไม่ใช่หน้าที่ของลูกเรือ ตามที่ระบุไว้ใน ”ข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือน ฉบันที่69 ว่าด้วยข้อกำหนดเกี่ยวกับสัมภาระติดตัวผู้โดยสาร” แต่ที่ยังเห็นลูกเรือทำเพราะนั้นเป็นจิตใจบริการ ต้องการให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายอย่างสูงสุด แต่จะให้ลูกเรือไปยกกระเป๋าที่อาจมีน้ำหนักถึง 7 kg ของผู้โดยสารทุกท่าน ก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งภายในระยะสั้นและระยะยาวได้ ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง อยากให้ท่านผู้โดยสารทุกกท่านรับผิดชอบสัมภาระที่ carry-on ขึ้นมาด้วยครับ
ถ้ามีผู้อ่านท่านใดมีประสบการณ์แสบๆคันๆกับ คุณพี่ผู้หญิงป้าหรือผู้โดยบนเครื่องบิน ก็สามารถแชร์เรื่องราวไว้ ณที่นี้ได้นะครับ

สามารถติดตามอ่าน
สามารถติดตามตอนต่างๆตามลิงค์ครับ->
http://pantip.com/profile/2560955
และฝากติดตาม Facebook fanpage ->
https://www.facebook.com/pages/Safe-Flight-Always/689493954515912
จากใจนักเขียน
สวัสดีครับท่านผู้โดยสารทุกท่าน เอ้ย! ผู้อ่านทุกท่าน ขอบคุณนะครับสำหรับการติดตาม เนื่องจากผู้เขียนมีความรู้ทางด้านการบินอยู่ประมาณหนึ่ง เลยอยากจะนำเสนอในภาษาที่เข้าใจง่ายผ่านตัวละครเพื่อให้คนทั่วไปเข้าถึงการบินมากขึ้นและมีความรู้ทางด้านการบินเพิ่มขึ้น รวมทั้งรับรู้ว่าทุกคนในสายอาชีพการบินเราทำงานอย่างตั้งใจ เป็นมืออาชีพ เพื่อเหตุผลทางด้านความปลอดภัยในการส่งผู้โดยสารให้ถึงจุดหมายปลายทาง อีกทั้งยังอยากเป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆคนที่อยากเข้ามาในเส้นทางการบิน
ทั้งนี้ผู้เขียนไม่ได้เป็นผู้เชียวชาญในด้านการเขียนหรือรอบรู้ทางด้านการบินไปซะทั้งหมด มีการนำบทความหรือรูปภาพจากหลายๆแหล่งมาเพื่อใช้ประกอบ หากมีการผิดลิขสิทธิ์ประการใด โปรดแนะนำเพื่อจะนำไปแก้ไขได้อย่างทันท่วงที ในส่วนอื่นๆอาจมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่ก็จะพยายามทำให้อย่างเต็มที่ ขอกำลังใจให้ผู้เขียนโดยการติดตาม เสนอแนะ commentหรือโหวตได้นะครับ รวมถึงถ้าอยากรู้อะไรเกี่ยวกับการบินก็แนะนำกันได้ ผู้เขียนจะพยายามสอดแทรกลงไปในเนื้อเรื่องให้นะครับ
[Safe Flight Always: EP2 prepare for landing] เมื่อฉันเดินทางกับสายการบินนี้เป็นครั้งแรก แหละนี่คือสิ่งที่ฉันได้รับ...
Credit: http://image.dek-d.com/27/0413/5587/117810713
ก่อนที่น้องแก้วจะรู้ตัวว่าไม่ควรพูดอะไรเช่นนั้นออกไป กับการ landing flight HP283 ใครจะรู้ว่าเธอเจออะไรมาบ้าง นอกจากเพื่อนๆและเพอร์เซอร์ในไฟล์ท ย้อนกลับไปตั้งแต่บอร์ดดิ้งผู้โดยสารจากสุวรรณภูมิไฟล์ทนี้ผู้โดยสารเต็มเครื่อง ทำให้ต้องตั้งแถวเข้าคิวยาวมาก
“ขอโทษนะ ขอโทษนะ เอ้านี่ของชั้น” เสียงผู้หญิงท่านหนึ่งเล็ดลอดมาจากด้านหลังและแทรกตัวมายื่น boarding pass ให้เพอร์เซอร์ตาล
“ท่านผู้โดยสารค่ะ โปรดเข้าคิวเพื่อทำการเช็ค boarding pass นะค่ะ”
“หนู ชั้นขาไม่ค่อยดี เช็คให้ชั้นก่อนเถอะ” คุณผู้หญิงท่านหนึ่ง อายุประมาณ 50ปลายๆ 60ต้นๆ ใส่แว่น ผมสั้นกระเซิง พูดพลางจับที่หัวเข่า
“ให้คุณป้าเขาก่อนก็ได้ครับ” เด็กวัยรุ่นที่โดนแทรกคิวพูดขึ้น
“ขอบคุณนะน้อง” คุณผู้หญิงไม่ปลื้มคำว่าป้าสักเท่าไหร่
“ค่ะ สวัสดีค่ะ ที่นั่ง 57c อยู่ทางด้านในสุด ทางขวามือ ติดทางเดินนะค่ะ”
“ในสุดเลยเหรอ ชั้นเข่าไม่ดีเดินไม่ไหวหรอก ให้ชั้นนั่งข้างหน้าได้มั้ย? เนี่ยว่างตรงกลางตั้งหลายแถว”
“ไม่ได้นะคะ คุณผู้โดยสาร ข้างหน้าเป็นชั้น business แล้วที่ว่างตรงกลาง ว่างไว้เพื่อความสะดวกสบายของผู้โดยสารชั้นนี้เท่านั้นค่ะ”
“ไม่รู้จะเว้นไว้ทำไม นั่งไม่ได้ งั้นชั้นขอนั่งใกล้ที่สุดแล้วกัน”
“ไม่ได้นะคะ คุณผู้โดยสาร เที่ยวนี้มีผู้โดยสารเต็ม ถ้ามีผู้โดยสารท่านใด อยากนั่งข้างหลัง เดี๋ยวหนูจะไปบอกคุณผู้โดยสารให้เร็วที่สุด เพื่อสลับที่ให้นะคะ ตอนนี้ขอให้ผู้โดยสารนั่งประจำที่ก่อนนะค่ะ” ตาลตอบทุกอย่างด้วยจิตใจบริการ แม้ว่าในใจคิดว่าไฟล์ทนี้ต้องมีเรื่องปวดหัวอย่างแน่นอน พร้อมทั้งหันไปมองแก้ว ซึ่งมีสีหน้าบ่งบอกว่าอย่าโยนมาทางนี้
“แก้ว พาผู้โดยสารไปประจำที่หน่อย”
“ค่ะ เชิญทางนี้เลยค่ะ”
“โว๊ะ อันนั้นก็ไม่ได้ อันนี้ก็ไม่ได้” คุณผู้หญิงป้าเริ่มบ่นออกเสียง พร้อมเดินตามแก้วไปด้วยท่าทีหงุดหงิด แต่ไม่ได้มีอาการผิดปกติเกี่ยวกับขาเลยแม้แต่น้อย
เมื่อถึงที่นั่ง
“ตรงนี้ค่ะ 57C”แก้วพูดพร้อมเปิดที่เก็บสัมภาระด้านบนให้
“ชั้นขอนั่งริมหน้าต่างได้มั้ย?” ‘ว่าแล้ว’ แก้วคิดในใจ
“เดี๋ยวหนูถามท่านผู้โดยสารริมหน้าต่างให้นะคะ ถ้าเขามานั่งแล้ว” เตรียมตัวไปรับผู้โดยสารท่านต่อไป
“อีกและ อย่าเพิ่งไป ช่วยพี่ยกของหน่อย”
“ค่ะ” ‘ใช้คุ้มเลยนะคะ คุณพี่ผู้หญิงป้า’ แก้วคิดในใจ พร้อมกับยกกระเป๋าที่เมื่อได้รู้ น้ำหนักหลังจากยกแล้ว คุณพี่ผู้หญิงป้าน่าจะเอาของยัดใส่เต็มลิมิต 7 โลพอดีเป๊ะ หรือน้ำหนักประมาณน้ำเปล่าขวดใหญ่ 1 แพ็ค หรือไม่แน่อาจจะยัดมาเกินก็ได้ใครจะไปรู้ ด้วยความหนัก ทำให้แก้วแสดงออกทางสีหน้า ซึ่งก็เหมาะเจาะกับคุณพี่ผู้หญิงป้าเห็นพอดี
“ยกกระเป๋าแค่นี้ ดูทำหน้า เค้าก็จ้างพวกเธอมาทำแบบนี้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”
ปื๊ดขึ้นหน้า เส้นเลือดกากบาทขึ้นขมับ แก้วโพล่งออกไปว่า
“อันที่จริง หนูไม่ได้มีหน้าที่ยกกระเป๋านะคะ คุณป้า!” พร้อมกับปิดที่เก็บสัมภาระแบบจงใจให้มีเสียงแล้วเดินไปข้างหน้าเลย
ถามว่า คุณพี่ผู้หญิงป้ารู้สึกอะไรมั้ย บอกเลยว่า ป้าแกรอเปลี่ยนที่นั่งอย่างเดียว
หลังสัญญาณรัดเข็มขัด ปิดไป ลูกเรือทำการเสริฟน้ำและขนมจนถึงแถว 57
“ผมขอ orange juice ที่นึงครับ” ผู้ชายที่นั่ง57A ติดหน้าต่าง เอ่ยปากขอกับแก้ว
“ชั้นเอาด้วย ออเล้น จุ้ยส เอาสองเลย” เหมือนคุณผู้หญิงป้า จะต้องการเอาชนะพี่ผู้ชายเพราะเคืองที่เขาไม่ยอมเปลี่ยนที่นั่ง
แก้วยื่นแก้วน้ำส้มให้คุณผู้หญิงป้าก่อนเนื่องจากใกล้ที่สุด
“ชั้นไม่ได้สั่งน้ำส้มนะ”
“ก็เมื้อกี้ คุณผู้โดยสารสั่งเหมือนคุณพี่ท่านนั้นไม่ใช่หรือคะ” แก้วข่มใจพูดอย่างสุภาพ
“ชั้นสั่งออเล้น จุ้ยส”
“นี่แหละคะ orange juice น้ำส้ม” ‘ป้าเอ้ยยยยย’ แก้วคิดได้แค่ในใจ
“อ้าว มันคือน้ำสั้มเหรอ แล้วดันพูดภาษาอังกิดทำไม ชั้นก็นึกว่าน้ำวินิสสมาหราที่ไหน ให้ไอ่หนุ่มนู้นเลยแหละกัน” ป้าโทษพ่อหนุ่มข้างหน้าต่าง
“งั้นชั้นขอน้ำเก๊กฮวยแล้วกัน”
“ไม่มีค่ะ มีน้ำส้ม น้ำแอปเปิ้ล น้ำอัดลม ชา กาแฟ” ‘เยอะมากกกก’ แก้วคิด หมายถึงป้านะ ไม่ใช่ชนิดของน้ำที่บริการบนเครื่อง
“โอ้ยะ อะไรก็ไม่มี ไม่ได้ นี่ชั้นซื้อตั๋วมาตั้งแพง นั่งรถทัวร์ยังบริการดีกว่านี้อีก แล้วนี้ขนมปังอะไรก็ไม่รู้ เห็นชั้นเป็นปลาดุกหรือไง รถทัวร์ที่เคยนั่งเขายังแจกขนมฝรั่งดูดีกว่านี้เป็นพันเท่า เธอจะไปไหนก็ไปไป” ป้าบ่นชุดใหญ่ รอบข้างก็ละเหี่ยใจ
“เดี๋ยวๆ ขอน้ำเปล่าให้ชั้นและกัน มีใช่มั้ย?” ป้าถามพร้อมกับเหน็บแก้ว
“ดูในถุงก่อนถามนะคะป้า ถ้าหาไม่เจอ ก็เอาแว่นลงมาสวมนะคะ มันอยู่ใกล้อาจจะมองไม่เห็น” แล้วแก้วก็เดินเข้าแกลลี่ข้างหลังไปเลย
ตลอดทั้งไฟล์ทป้าแกก็บ่นเรื่องอากาศ เครื่องบินสั่นตลอดทาง กับคนข้างๆ พาลบ่นไป ground staff เรื่องการให้ยืนรอตั้งนาน เรื่องเปลี่ยนที่ไม่ได้ เรื่องการบริการบนเครื่อง คนนั่งข้างๆก็ได้แต่พยักหน้า แต่ในใจรำคาญ ship hay จนเมื่อเครื่องแลนดิ้งดังตึง! ป้าแกจึงเงียบกริบไปพักนึง พักใหญ่สำหรับป้าแก แต่ชั่วครู่เดียวสำหรับคนอื่น พอแกรู้สึกตัวพร้อมกับเครื่องบิน taxi ออกจาก runway ป้าแกปลดเข็มขัดแล้วหยิบสัมภาระ ยกลงอย่างแข็งแรง แล้วเดินไปประตูทางออก เหมือนกับไม่มีปัญหาด้านสุขภาพเลยสักนิด
เพอร์เซอร์ตาลเห็นเช่นนั้นจึงประกาศผ่านไมค์ว่า
“โปรดนั่งที่ให้เรียบร้อย จนกว่าจะมีสัญญาณรัดเข็มขัดนะคะ ขอความร่วมมือด้วยคะ”
คนมองป้าที่เดินมาเกือบถึงกลางเครื่องอยู่คนเดียวกันทั้งลำ แม้แต่แถวข้างหน้าก็ยังหันมาดู
ป้าเกิดอาการขวยเขินขึ้นเล็กน้อย ย้ำเล็กน้อย ทำอะไรไม่ถูกจึงพูดออกไปว่า
“พี่ขอเข้าห้องน้ำแป๊ปนึง ทนไม่ไหวแล้วเนี่ย อั้นมาตลอด”แล้วก็เดินต่อมาจนถึงประตูทางออกเครื่องพร้อมกระเป๋าอย่างไม่สะทกสะท้าน
เครื่องบินจอดเทียบเกจพอดีพร้อมกับเบรก ในใจผู้โดยสารอีก 160กว่าชีวิตมีหลายๆคนเชียร์ให้กัปตันเบรกแรงๆหน่อย ป้าแกจะได้ล้มไปข้างหน้าตามแรง G และแรงปรารถนาของมวลหมู่มากก็เป็นผล ป้าเซไปข้างหน้า แต่ทันใดเอง แกเอามือไปจับเบาะข้างได้อย่างทันท่วงที พร้อมกับเสียง “ว้า...” โห่ร้อง เสียดายในใจของผู้สาร แต่กระนั้นต้องยอมรับ เพราะเป็นที่พิสูจน์แล้วว่าป้าแกมีประสาทสัมผัสทั้งด้านการคิด การพูด การโต้ตอบ การเคลื่อนไหว แกรวดเร็ว จนบางคนก็เผลอชื่นชมในใจ
พอกัปตันปลดสัญญาณรัดเข็มขัดออก ประสาทหูของป้าได้ยินเสียง ประสาทตาเห็นสัญญาณไฟจากที่นั่งด้านหน้า ประสาทการพูดของป้าจึงพูดออกไปว่า
“งั้นเด๋วพี่ ขอไปเข้าข้างนอกแล้วกันนะ” ป้าพูดกับตาลด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะ พร้อมกับโชยตาไปเห็นแก้วอยู่ข้างๆ
“แล้วนี่เธอฝากบอกนักบินด้วยนะ ลงซะแรงเลย” ป้าย้ำ หลังจากที่ไม่ได้เห็นแก้วตลอดไฟล์ทหลังจากเรื่องการขอน้ำ เพราะแก้วขอเปลี่ยนกับเพื่อนมาอยู่ข้างหน้าแทน
“ค่ะ” แก้วพูดด้วยทีท่าและสีหน้าเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมทุกอย่างของป้าเป็นอย่างมาก
“ดูทำหน้า เดี๋ยวชั้นจะเอาพฤติกรรมของเธอไปแฉในโซเชี่ยล เฟสสะบุก พันทิป คอยดู”
‘เอาเลยป้า อยากทำไรทำเล้ยยย’ แก้วได้แต่คิดในใจ
“ขอโทษนะคะสำหรับความไม่สะดวกสบายในครั้งนี้ แต่ขอบคุณนะคะที่ใช้บริการ”
ตาลรับรู้ถึงความรู้สึกของแก้ว แต่ตอบไปด้วยใจบริการ
“ดูอย่างแม่หนูคนนี้ไว้ ยิ้มแย้มตลอดเวลา” มนุษย์ป้าชื่นชมตาล และเป็นอย่างเดียวที่แกชื่นชนตลอดทั้งไฟล์ท
‘รีบๆไปเถ้ออออ’ แก้วแถบอยากตะโกนออกมา
Nice to know :อย่างที่บางท่านอาจเคยทราบมาแล้วว่า การยกกระเป๋าไม่ใช่หน้าที่ของลูกเรือ ตามที่ระบุไว้ใน ”ข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือน ฉบันที่69 ว่าด้วยข้อกำหนดเกี่ยวกับสัมภาระติดตัวผู้โดยสาร” แต่ที่ยังเห็นลูกเรือทำเพราะนั้นเป็นจิตใจบริการ ต้องการให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายอย่างสูงสุด แต่จะให้ลูกเรือไปยกกระเป๋าที่อาจมีน้ำหนักถึง 7 kg ของผู้โดยสารทุกท่าน ก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งภายในระยะสั้นและระยะยาวได้ ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง อยากให้ท่านผู้โดยสารทุกกท่านรับผิดชอบสัมภาระที่ carry-on ขึ้นมาด้วยครับ
ถ้ามีผู้อ่านท่านใดมีประสบการณ์แสบๆคันๆกับ คุณพี่ผู้หญิงป้าหรือผู้โดยบนเครื่องบิน ก็สามารถแชร์เรื่องราวไว้ ณที่นี้ได้นะครับ
สามารถติดตามอ่าน
สามารถติดตามตอนต่างๆตามลิงค์ครับ-> http://pantip.com/profile/2560955
และฝากติดตาม Facebook fanpage -> https://www.facebook.com/pages/Safe-Flight-Always/689493954515912
จากใจนักเขียน
สวัสดีครับท่านผู้โดยสารทุกท่าน เอ้ย! ผู้อ่านทุกท่าน ขอบคุณนะครับสำหรับการติดตาม เนื่องจากผู้เขียนมีความรู้ทางด้านการบินอยู่ประมาณหนึ่ง เลยอยากจะนำเสนอในภาษาที่เข้าใจง่ายผ่านตัวละครเพื่อให้คนทั่วไปเข้าถึงการบินมากขึ้นและมีความรู้ทางด้านการบินเพิ่มขึ้น รวมทั้งรับรู้ว่าทุกคนในสายอาชีพการบินเราทำงานอย่างตั้งใจ เป็นมืออาชีพ เพื่อเหตุผลทางด้านความปลอดภัยในการส่งผู้โดยสารให้ถึงจุดหมายปลายทาง อีกทั้งยังอยากเป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆคนที่อยากเข้ามาในเส้นทางการบิน
ทั้งนี้ผู้เขียนไม่ได้เป็นผู้เชียวชาญในด้านการเขียนหรือรอบรู้ทางด้านการบินไปซะทั้งหมด มีการนำบทความหรือรูปภาพจากหลายๆแหล่งมาเพื่อใช้ประกอบ หากมีการผิดลิขสิทธิ์ประการใด โปรดแนะนำเพื่อจะนำไปแก้ไขได้อย่างทันท่วงที ในส่วนอื่นๆอาจมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่ก็จะพยายามทำให้อย่างเต็มที่ ขอกำลังใจให้ผู้เขียนโดยการติดตาม เสนอแนะ commentหรือโหวตได้นะครับ รวมถึงถ้าอยากรู้อะไรเกี่ยวกับการบินก็แนะนำกันได้ ผู้เขียนจะพยายามสอดแทรกลงไปในเนื้อเรื่องให้นะครับ