ติดตามตอนอื่นๆได้ที่
EU with 2 mens [ยุโรป+สิงคโปร์+มาเลเซีย:14วัน6ประเทศ]::Chapter 0::การเตรียมตัว :
http://pantip.com/topic/33824688
EU with 2 mens [ยุโรป+สิงคโปร์+มาเลเซีย:14วัน6ประเทศ]::Chapter 1::Malaysia :
http://pantip.com/topic/33832841
EU with 2 mens [ยุโรป+สิงคโปร์+มาเลเซีย:14วัน6ประเทศ]::Chapter 2::Singapore :
http://pantip.com/topic/33837026
EU with 2 mens [ยุโรป+สิงคโปร์+มาเลเซีย:14วัน6ประเทศ]::Chapter 3::Germany(Part1) :
http://pantip.com/topic/33999802
EU with 2 mens [ยุโรป+สิงคโปร์+มาเลเซีย:14วัน6ประเทศ]::Chapter 4::Austria :
http://pantip.com/topic/33999998
EU with 2 mens [ยุโรป+สิงคโปร์+มาเลเซีย:14วัน6ประเทศ]::Chapter 6::Czech Republic :
http://pantip.com/topic/34029583
EU with 2 mens [ยุโรป+สิงคโปร์+มาเลเซีย:14วัน6ประเทศ]::Chapter 7::Germany(Part2) :
http://pantip.com/topic/34076250
Phase II : Europe(Germany+Austria+Czech Republic+Hungary)
Chapter 5 : Simple but Perfect life in Hungary(ชีวิตเรียบง่ายแต่สมบูรณ์แบบในฮังการี่)
11 มิถุนายน 2558 : วันที่แดดควรจะออก (Never Trust Europian Forecast)
ในวันนี้เราจะเดินทางไป เมืองบูดาเปส(Budapest) ประเทศฮังการี่ เรานอนที่เมืองบูดาเปส 1วัน และวันถัดไปจะกลับมาสู่เวียนนา ผมจึงวางแผนว่าจะเอาเสื้อผ้าสำหรับ1วันใส่กระเป๋าเล็กไปเมืองบูดาเปส และฝากกระเป๋าใบใหญ่ไว้ที่โรงแรม Star Inn เพื่อจะได้ไม่ต้องแบกสัมภาระจำนวนมากเดินไปมา
8.12น. รถไฟความเร็วสูงซึ่งเราได้จองที่นั่งไว้ก่อนหน้านี้มุ่งตรงจากกรุงเวียนนาสู่เมืองบูดาเปสประเทศฮังการี่
บนรถไฟ ผมเบื่อที่จะต้องนั่งรอเมื่อยๆในห้องโดยสาร จึงเดินไปตู้เสบียงของรถไฟเพื่อนั่งเล่นสบายๆเปลี่ยนบรรยากาศ แต่พนักงานเสิร์ฟก็เดินมาไล่ให้กลับไปห้องโดยสารโดยชี้แจงกฎว่าถ้าอยากจะนั่งตรงนี้ต้องสั่งอาหาร ผมจึงสั่งเครื่องดื่มเป็นchocolateร้อนไป1ที่ และนั่งต่อไปอีก 2 ชั่วโมง (Chocolateร้อน อร่อยผิดคาดและไม่แพงอย่างที่คิด ราคาเพียง1.3ยูโร)
รูปร่างหน้าตา Chocolateร้อน บนรถไฟ
10.54น. เรามาถึงสถานีรถไฟ Keleti ของกรุงบูดาเปส(สถานีรถไฟกลาง) หลังจากนั้นจึงเดินเสาะหาที่พักวันนี้ซึ่งเป็นโรงแรมรูปแบบ Hostel ที่มีชื่อว่า Alice Hostel
ระหว่างที่ผมกำลังดูแผนที่และทิศทางที่จะเดินไปโรงแรม อยู่ๆก็มีเด็กชาวตุรกีเข้ามาคุยด้วย ประโยคแรกที่เขาถามก็คือ “ Are you a backpacker?” คำถามของเขาทำให้ผมงงว่าเขาต้องการอะไร แม้ว่าจะระแวงคนแปลกหน้า แต่เมื่อคุยกันไปสักพักผมจึงเข้าใจว่าก็เป็นเพียงนักเดินทางที่ต้องการจะหาเพื่อนใหม่ ต่างจากพวกเราที่มากัน2คน เขามาคนเดียวเลยต้องการหาเพื่อนคุย…
…ตอนนี้เองที่ผมได้เข้าใจความหมายของวลีในหนังสือ “I Roam alone” ที่กล่าวประมาณว่า การเที่ยวคนเดียวไม่จำเป็นต้องโดดเดี่ยว เพราะคุณสามารถเป็นเพื่อนกับทุกคนได้ ทุกคนทุกเชื้อชาติทุกศาสนา
หลังจากคุยกันและแลกfacebook กันเสร็จสับแล้ว ผมก็เข้าไปเก็บของในที่พักในบูดาเปส ซึ่งหาเจอยากมาก
สถานีรถไฟกลาง Keleti ของกรุงบูดาเปส
บรรยากาศของHostelหลังนี้ดูเก่าและซอมซ่อมากชวนให้ขนลุก พอเรากดกริ่งที่ประตูข้างหน้าอาคาร เจ้าของ Hostel ก็มารับเราทั้ง2คน ถึงแม้ว่าใบหน้าเจ้าของHostelแห่งนี้จะไม่ได้ต้อนรับแขกเท่าไหร่นัก แต่เขาก็ช่วยเหลือพวกเราทุกอย่าง และยังช่วยชี้แนะการเดินทางเที่ยวในตัวเมืองบูดาเปสอย่างใจดี นอกจากนี้ผู้พักอาศัยในHostelท่านอื่นๆก็ปฏิบัติกับพวกเราอย่างเป็นมิตร ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนเป็นเพื่อนกันมานานหรือไม่ก็เป็นครอบครัวกัน ที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือราคาห้องพักคืนนี้เพียง 850 บาท นอนได้4 คน แต่เรานอนแค่2 คน
11.50น. เราออกจากHostelเพื่อไปแลกเงิน และเดินทางไป Central Market เพื่อหาอาหารรับประทาน
Central Market เป็นตลาดในร่มที่มีขนาดใหญ่ มีสินค้าท้องถิ่นขายอยู่มากมายเช่น พริกปาปริก้า(สินค้าส่งออกหลักของประเทศ) ตับห่าน คาเวียร์กระป๋อง ไส้กรอกแบบฮังการี่ที่ผสมพริกปาปริก้าลงไปทำให้มีรสชาติจัดจ้าน สินค้าสิ่งทอ กระดานเกม และอื่นๆอีกมากมาย
ที่ชั้น2ของตลาดจะมีร้านอาหารตั้งอยู่ซึ่งเราก็รับประทานอาหารกัน ณ ที่แห่งนี้ เราสั่งไส้กรอกsignature และเบียร์ดำรับประทานกัน//เบียร์ดำขมไปหน่อย
ค่าครองชีพที่บูดาเปสแตกต่างจากกรุงเวียนนาเป็นอย่างมากทุกอย่างถูกมากเมื่อกัน คุณสามารถหาน้ำเปล่าดื่มในราคาเท่ากับประเทศไทยได้
บรรยากาศที่คับคั่งไปด้วยผู้คนของตลาดกลางใจกลางกรุงบูดาเปส
ร้านขายตุ๊กตาและของเล่น
ร้านขายพริกปาปริก้า ผลิตภัณฑ์หลักของประเทศ
ร้านขายอาหารและอาหารเที่ยงที่รับประทานในวันนี้ ณ ชั้น2ของตลาด
14.00น. เราเดินออกมาจากตลาด central Market เพื่อเดินต่อไปตามถนนคนเดิน Vaci Utca ถนนคนเดินซึ่งมีร้านค้าเปิดอยู่จำนวนมาก มีทั้ง brand name ร้านอาหาร ร้านไอศกรีม ร้านขายSouvenir และร้านนวดแผนไทย(แพร่หลายมากในยุโรปโดยเฉพาะยุโรปฝั่งตะวันออก)
ถนน Vaci Utca ถนนคนเดินของกรุงบูดาเปส
15.00น. เราเดินจนมาถึงสุดทางของถนน Vaci Utca ก็จะพบกับจัตุรัส Vorosmarty ซึ่งเป็นบริเวณแรกที่ฝนเริ่มตกลงมา
แม้ว่าพยากรณ์อากาศที่เปิดดูเมื่อวานจะบอกว่า วันนี้มีโอกาสฝนตกเพียง 7 เปอร์เซ็นต์ แต่ฝนก็ได้ตกลงมาเยาะเย้ยการพยากรณ์อากาศนั้น ..... ตอนนี้ก็คงเป็น7เปอร์เซ็นต์นั้นสิน่ะและเป็น7เปอร์เซ็นต์ที่ตกหนักมาก เราเดินตากฝนข้ามสะพาน Chain bridge สัญลักษณ์ของเมือง ที่เชื่อมระหว่างฝั่ง Buda และ Pest (ฝั่งเมืองเก่าเรียกว่า Buda ฝั่งเมืองใหม่เรียก Pest รวมกันเป็นBudapest ซึ่งสะพานChain bridge เป็นสะพานแรกที่เชื่อม2ฝั่งนี้ให้เป็นเมืองเดียวกัน) เมื่อเดินข้ามจากฝั่งPest มาถึงตีนเขาที่เป็นที่ตั้งของ Royal Palaceซึ่งอยู่ ณ ฝั่งBuda ฝนก็ยังไม่หยุดตกสักที
หมายเหตุ : สิ่งที่อยู่ฝั่งเมืองใหม่ (Pest) – สถานีรถไฟ Keleti, Hostelที่พัก, Central Market, ถนน Vaci Utca, อาคารรัฐสภา
สิ่งที่อยู่ฝั่งเมืองเก่า (Buda) – Royal Palace, โบสถ์Mathyas, ป้อมชาวประมง (ทั้ง3 อยู่รวมๆกันบนภูเขา)
เรารอฝนหยุดตกอยู่ที่ตีนเขาประมาณ20นาทีมันก็ไม่ยอมหยุดตก เราจึงเดินไต่ขึ้นเขาตากฝนไปทั้งๆอย่างนั้นเลย สภาพของพวกเราเมื่อถึงยอดเขาไม่ต่างอะไรจากคนที่อาบน้ำหรือแช่ออนเซ็นทั้งๆที่ยังใส่เสื้ออยู่
ลุยฝ่าฝน ข้าม Chain Bridge สัญลักษณ์ประจำเมือง
ไหนๆก็เปียกแล้ว เราจึงเดินเล่นต่อบนเนินเขาเลยครับ ไม่นานนักหลังจากเราเริ่มเดินฝนก็หยุดตก และแดดก็ออก ส่องแสงแผดเผา จนเสื้อผ้าที่เปียกชุ่มของพวกเราแห้งภายใน 30 นาที
สถานที่แรกที่เราไปเยี่ยมชมบนเนินเขาแห่งนี้ก็คือ โบสถ์ Mathyas ซึ่งเป็นโบสถ์ที่สวยงามทั้งภายนอกและภายใน นอกจากนี้ทิวทัศน์รอบๆโบสถ์ก็สวยงามอย่างถึงที่สุด คงเพราะเราอยู่บนเนินเขาทำให้สามารถมองเห็นวิวทั้งเมืองผนวกกับเมฆฝนที่เคลื่อนลาลับไป ปล่อยให้แสงอาทิตย์สาดส่องกระทบพื้นดินเบื่องล่างเปล่งประกายงดงาม สถาปัตยกรรมที่โดดเด่นเห็นได้ชัดจากบนนี้คือ อาคารรัฐสภา (The Parliament) Chain Bridge และ โบสถ์ St. Basilica
16.30น. ก่อนเวลาปิดโบสถ์ 30 นาทีเราก็ได้เข้าไปชมโบสถ์ Mathyas
บรรยากาศภายในไม่แตกต่างจากโบสถ์อื่นๆที่เราได้ประสบมาแล้วมากหนัก แต่จะสามารถสังเกตุเห็นตราราชวงศ์ฮังการี่ได้ตามจุดต่างๆของโบสถ์
ปล. โบสถ์นี้เสียตังค่าเข้าเล็กน้อย ใครมีบัตรนักเรียนนักศึกษาใช้เป็นส่วนลดได้
Mathyas Church
ออกมาจากโบสถ์ เราก็ไปเดินดูวิวรอบๆ ซึ่งจะมีสิ่งก่อสร้างคล้ายกำแพงและมีป้อมให้ขึ้นไปชมวิวด้านบน มีชื่อเรียกว่า “ป้อมชาวประมงหรือ Fisherman Bastion” จุดๆนี้เป็นจุดที่คนนิยมมาถ่ายรูปมาก เพราะเมื่อมองลอดช่องของป้อมชาวประมงจะสามารถเห็นอาคารรัฐสภาได้ จึงมีคนหลายๆคนมานั่งพิงเสาทำตัว Slowlife Hipster ให้มันดูCozyๆ (ข้าพเจ้าก็เป็นหนึ่งในนั้น)
ป้อมชาวประมง(Fisherman Bastion) มีทั้งหมด 7 ป้อม
วิวจากป้อมๆเดียวที่ให้ขึ้นชมฟรีและเป็นป้อมที่ใหญ่ที่สุด
ทางเดินบนป้อมชาวประมง จะต้องเสียตังเข้า
ถัดจากป้อมชาวประมง เราก็เดินดูรอบๆเมืองเก่า Buda ที่อยู่บนเนินเขาเช่นเดียวกัน
โรงแรม Hilton โรงแรมเก่าแก่ ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเมืองเก่าเลย
ต่อมาเราก็ไปยัง Royal Palace แต่ว่าในขณะนี้ บริเวณ Royal Palace ถูกใช้สถานที่จัดงานเทศกาลเบียร์อยู่จึงเดินเข้าไปไม่ได้ ได้เพียงถ่ายรูปด้านหน้ามาเท่านั้น
ภาพถ่ายข้างหน้าของอาคารรัฐสภา
เราเดินลงจาก เนินเขา Royal Palaceเวลา 19.00น. ด้วยเส้นทางที่แตกต่างจากขาขึ้นเขา (เป็นทางที่ยาวขึ้น) เพื่อลงไปถ่ายรูป Chain Bridge ใหม่อีกครั้ง และจาก Chain Bridge เราก็เดินริมแม่น้ำต่อไปเรื่อยๆ เพื่อถ่ายรูปอาคารรัฐสภา (เป็นอาคารที่งดงามมาก)
Chain Bridge ถ่ายภาพจากฝั่ง Buda
อาคารรัฐสภา ถ่ายภาพจากฝั่ง Buda
ขณะนี้เวลา 19.45น. ซึ่งพวกผมก็หิวมากแล้ว ผมจึงหยิบเอาก้อนเนื้ออะไรไม่รู้ที่ซื้อมั่วๆมาจาก Central Market เมื่อกลางวันมากินรองท้อง ปรากฏว่ามันเป็นเนื้อหมูอัดรวมกับไขมันและเครื่องเทศเป็นแท่งๆคล้ายไส้กรอก หน้าตาชวนแหวะแต่รสชาติโอเคเลยครับ แต่กินเยอะๆก็เลี่ยนอยู่ดี
20.30 เรากลับจากอาคารรัฐสภาถึงสถานีรถไฟkeleti เพื่อหาอาหารเย็นกิน แต่ปรากฏว่าไม่มีร้านไหนเปิดเลย สุดท้ายเราจึงกินพิซซ่าที่ขายที่สถานีรถไฟ ราคาเพียงชิ้นละ25บาท
21.30น. เรากลับถึงที่พักพร้อมน้ำดื่มที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อที่เดินผ่านระหว่างทาง เพื่อนผมตัดสินใจออกไปถ่ายแสงอาคารรัฐสภาในเวลากลางคืนต่อแต่ผมทำตั๋วรถไฟหายจึงไม่ได้ออกไปด้วย(คารวะ1จอก ขอบคุณmyfriend)
บูดาเปสเป็นเมืองที่ค่าครองชีพถูกจริงๆอาจจะเป็นเพราะไม่ได้เจริญเท่ากับประเทศอื่นๆในยุโรป แต่ก็มีความอบอุ่นที่ทำให้อยู่แล้วสบายใจ
[CR] EU with 2 mens [ยุโรป+สิงคโปร์+มาเลเซีย:14วัน6ประเทศ]::Chapter 5::Hungary
EU with 2 mens [ยุโรป+สิงคโปร์+มาเลเซีย:14วัน6ประเทศ]::Chapter 0::การเตรียมตัว : http://pantip.com/topic/33824688
EU with 2 mens [ยุโรป+สิงคโปร์+มาเลเซีย:14วัน6ประเทศ]::Chapter 1::Malaysia : http://pantip.com/topic/33832841
EU with 2 mens [ยุโรป+สิงคโปร์+มาเลเซีย:14วัน6ประเทศ]::Chapter 2::Singapore : http://pantip.com/topic/33837026
EU with 2 mens [ยุโรป+สิงคโปร์+มาเลเซีย:14วัน6ประเทศ]::Chapter 3::Germany(Part1) : http://pantip.com/topic/33999802
EU with 2 mens [ยุโรป+สิงคโปร์+มาเลเซีย:14วัน6ประเทศ]::Chapter 4::Austria : http://pantip.com/topic/33999998
EU with 2 mens [ยุโรป+สิงคโปร์+มาเลเซีย:14วัน6ประเทศ]::Chapter 6::Czech Republic :http://pantip.com/topic/34029583
EU with 2 mens [ยุโรป+สิงคโปร์+มาเลเซีย:14วัน6ประเทศ]::Chapter 7::Germany(Part2) :http://pantip.com/topic/34076250
Phase II : Europe(Germany+Austria+Czech Republic+Hungary)
Chapter 5 : Simple but Perfect life in Hungary(ชีวิตเรียบง่ายแต่สมบูรณ์แบบในฮังการี่)
11 มิถุนายน 2558 : วันที่แดดควรจะออก (Never Trust Europian Forecast)
ในวันนี้เราจะเดินทางไป เมืองบูดาเปส(Budapest) ประเทศฮังการี่ เรานอนที่เมืองบูดาเปส 1วัน และวันถัดไปจะกลับมาสู่เวียนนา ผมจึงวางแผนว่าจะเอาเสื้อผ้าสำหรับ1วันใส่กระเป๋าเล็กไปเมืองบูดาเปส และฝากกระเป๋าใบใหญ่ไว้ที่โรงแรม Star Inn เพื่อจะได้ไม่ต้องแบกสัมภาระจำนวนมากเดินไปมา
8.12น. รถไฟความเร็วสูงซึ่งเราได้จองที่นั่งไว้ก่อนหน้านี้มุ่งตรงจากกรุงเวียนนาสู่เมืองบูดาเปสประเทศฮังการี่
บนรถไฟ ผมเบื่อที่จะต้องนั่งรอเมื่อยๆในห้องโดยสาร จึงเดินไปตู้เสบียงของรถไฟเพื่อนั่งเล่นสบายๆเปลี่ยนบรรยากาศ แต่พนักงานเสิร์ฟก็เดินมาไล่ให้กลับไปห้องโดยสารโดยชี้แจงกฎว่าถ้าอยากจะนั่งตรงนี้ต้องสั่งอาหาร ผมจึงสั่งเครื่องดื่มเป็นchocolateร้อนไป1ที่ และนั่งต่อไปอีก 2 ชั่วโมง (Chocolateร้อน อร่อยผิดคาดและไม่แพงอย่างที่คิด ราคาเพียง1.3ยูโร)
รูปร่างหน้าตา Chocolateร้อน บนรถไฟ
10.54น. เรามาถึงสถานีรถไฟ Keleti ของกรุงบูดาเปส(สถานีรถไฟกลาง) หลังจากนั้นจึงเดินเสาะหาที่พักวันนี้ซึ่งเป็นโรงแรมรูปแบบ Hostel ที่มีชื่อว่า Alice Hostel
ระหว่างที่ผมกำลังดูแผนที่และทิศทางที่จะเดินไปโรงแรม อยู่ๆก็มีเด็กชาวตุรกีเข้ามาคุยด้วย ประโยคแรกที่เขาถามก็คือ “ Are you a backpacker?” คำถามของเขาทำให้ผมงงว่าเขาต้องการอะไร แม้ว่าจะระแวงคนแปลกหน้า แต่เมื่อคุยกันไปสักพักผมจึงเข้าใจว่าก็เป็นเพียงนักเดินทางที่ต้องการจะหาเพื่อนใหม่ ต่างจากพวกเราที่มากัน2คน เขามาคนเดียวเลยต้องการหาเพื่อนคุย…
…ตอนนี้เองที่ผมได้เข้าใจความหมายของวลีในหนังสือ “I Roam alone” ที่กล่าวประมาณว่า การเที่ยวคนเดียวไม่จำเป็นต้องโดดเดี่ยว เพราะคุณสามารถเป็นเพื่อนกับทุกคนได้ ทุกคนทุกเชื้อชาติทุกศาสนา
หลังจากคุยกันและแลกfacebook กันเสร็จสับแล้ว ผมก็เข้าไปเก็บของในที่พักในบูดาเปส ซึ่งหาเจอยากมาก
สถานีรถไฟกลาง Keleti ของกรุงบูดาเปส
บรรยากาศของHostelหลังนี้ดูเก่าและซอมซ่อมากชวนให้ขนลุก พอเรากดกริ่งที่ประตูข้างหน้าอาคาร เจ้าของ Hostel ก็มารับเราทั้ง2คน ถึงแม้ว่าใบหน้าเจ้าของHostelแห่งนี้จะไม่ได้ต้อนรับแขกเท่าไหร่นัก แต่เขาก็ช่วยเหลือพวกเราทุกอย่าง และยังช่วยชี้แนะการเดินทางเที่ยวในตัวเมืองบูดาเปสอย่างใจดี นอกจากนี้ผู้พักอาศัยในHostelท่านอื่นๆก็ปฏิบัติกับพวกเราอย่างเป็นมิตร ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนเป็นเพื่อนกันมานานหรือไม่ก็เป็นครอบครัวกัน ที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือราคาห้องพักคืนนี้เพียง 850 บาท นอนได้4 คน แต่เรานอนแค่2 คน
11.50น. เราออกจากHostelเพื่อไปแลกเงิน และเดินทางไป Central Market เพื่อหาอาหารรับประทาน
Central Market เป็นตลาดในร่มที่มีขนาดใหญ่ มีสินค้าท้องถิ่นขายอยู่มากมายเช่น พริกปาปริก้า(สินค้าส่งออกหลักของประเทศ) ตับห่าน คาเวียร์กระป๋อง ไส้กรอกแบบฮังการี่ที่ผสมพริกปาปริก้าลงไปทำให้มีรสชาติจัดจ้าน สินค้าสิ่งทอ กระดานเกม และอื่นๆอีกมากมาย
ที่ชั้น2ของตลาดจะมีร้านอาหารตั้งอยู่ซึ่งเราก็รับประทานอาหารกัน ณ ที่แห่งนี้ เราสั่งไส้กรอกsignature และเบียร์ดำรับประทานกัน//เบียร์ดำขมไปหน่อย
ค่าครองชีพที่บูดาเปสแตกต่างจากกรุงเวียนนาเป็นอย่างมากทุกอย่างถูกมากเมื่อกัน คุณสามารถหาน้ำเปล่าดื่มในราคาเท่ากับประเทศไทยได้
บรรยากาศที่คับคั่งไปด้วยผู้คนของตลาดกลางใจกลางกรุงบูดาเปส
ร้านขายตุ๊กตาและของเล่น
ร้านขายพริกปาปริก้า ผลิตภัณฑ์หลักของประเทศ
ร้านขายอาหารและอาหารเที่ยงที่รับประทานในวันนี้ ณ ชั้น2ของตลาด
14.00น. เราเดินออกมาจากตลาด central Market เพื่อเดินต่อไปตามถนนคนเดิน Vaci Utca ถนนคนเดินซึ่งมีร้านค้าเปิดอยู่จำนวนมาก มีทั้ง brand name ร้านอาหาร ร้านไอศกรีม ร้านขายSouvenir และร้านนวดแผนไทย(แพร่หลายมากในยุโรปโดยเฉพาะยุโรปฝั่งตะวันออก)
ถนน Vaci Utca ถนนคนเดินของกรุงบูดาเปส
15.00น. เราเดินจนมาถึงสุดทางของถนน Vaci Utca ก็จะพบกับจัตุรัส Vorosmarty ซึ่งเป็นบริเวณแรกที่ฝนเริ่มตกลงมา
แม้ว่าพยากรณ์อากาศที่เปิดดูเมื่อวานจะบอกว่า วันนี้มีโอกาสฝนตกเพียง 7 เปอร์เซ็นต์ แต่ฝนก็ได้ตกลงมาเยาะเย้ยการพยากรณ์อากาศนั้น ..... ตอนนี้ก็คงเป็น7เปอร์เซ็นต์นั้นสิน่ะและเป็น7เปอร์เซ็นต์ที่ตกหนักมาก เราเดินตากฝนข้ามสะพาน Chain bridge สัญลักษณ์ของเมือง ที่เชื่อมระหว่างฝั่ง Buda และ Pest (ฝั่งเมืองเก่าเรียกว่า Buda ฝั่งเมืองใหม่เรียก Pest รวมกันเป็นBudapest ซึ่งสะพานChain bridge เป็นสะพานแรกที่เชื่อม2ฝั่งนี้ให้เป็นเมืองเดียวกัน) เมื่อเดินข้ามจากฝั่งPest มาถึงตีนเขาที่เป็นที่ตั้งของ Royal Palaceซึ่งอยู่ ณ ฝั่งBuda ฝนก็ยังไม่หยุดตกสักที
หมายเหตุ : สิ่งที่อยู่ฝั่งเมืองใหม่ (Pest) – สถานีรถไฟ Keleti, Hostelที่พัก, Central Market, ถนน Vaci Utca, อาคารรัฐสภา
สิ่งที่อยู่ฝั่งเมืองเก่า (Buda) – Royal Palace, โบสถ์Mathyas, ป้อมชาวประมง (ทั้ง3 อยู่รวมๆกันบนภูเขา)
เรารอฝนหยุดตกอยู่ที่ตีนเขาประมาณ20นาทีมันก็ไม่ยอมหยุดตก เราจึงเดินไต่ขึ้นเขาตากฝนไปทั้งๆอย่างนั้นเลย สภาพของพวกเราเมื่อถึงยอดเขาไม่ต่างอะไรจากคนที่อาบน้ำหรือแช่ออนเซ็นทั้งๆที่ยังใส่เสื้ออยู่
ลุยฝ่าฝน ข้าม Chain Bridge สัญลักษณ์ประจำเมือง
ไหนๆก็เปียกแล้ว เราจึงเดินเล่นต่อบนเนินเขาเลยครับ ไม่นานนักหลังจากเราเริ่มเดินฝนก็หยุดตก และแดดก็ออก ส่องแสงแผดเผา จนเสื้อผ้าที่เปียกชุ่มของพวกเราแห้งภายใน 30 นาที
สถานที่แรกที่เราไปเยี่ยมชมบนเนินเขาแห่งนี้ก็คือ โบสถ์ Mathyas ซึ่งเป็นโบสถ์ที่สวยงามทั้งภายนอกและภายใน นอกจากนี้ทิวทัศน์รอบๆโบสถ์ก็สวยงามอย่างถึงที่สุด คงเพราะเราอยู่บนเนินเขาทำให้สามารถมองเห็นวิวทั้งเมืองผนวกกับเมฆฝนที่เคลื่อนลาลับไป ปล่อยให้แสงอาทิตย์สาดส่องกระทบพื้นดินเบื่องล่างเปล่งประกายงดงาม สถาปัตยกรรมที่โดดเด่นเห็นได้ชัดจากบนนี้คือ อาคารรัฐสภา (The Parliament) Chain Bridge และ โบสถ์ St. Basilica
16.30น. ก่อนเวลาปิดโบสถ์ 30 นาทีเราก็ได้เข้าไปชมโบสถ์ Mathyas
บรรยากาศภายในไม่แตกต่างจากโบสถ์อื่นๆที่เราได้ประสบมาแล้วมากหนัก แต่จะสามารถสังเกตุเห็นตราราชวงศ์ฮังการี่ได้ตามจุดต่างๆของโบสถ์
ปล. โบสถ์นี้เสียตังค่าเข้าเล็กน้อย ใครมีบัตรนักเรียนนักศึกษาใช้เป็นส่วนลดได้
Mathyas Church
ออกมาจากโบสถ์ เราก็ไปเดินดูวิวรอบๆ ซึ่งจะมีสิ่งก่อสร้างคล้ายกำแพงและมีป้อมให้ขึ้นไปชมวิวด้านบน มีชื่อเรียกว่า “ป้อมชาวประมงหรือ Fisherman Bastion” จุดๆนี้เป็นจุดที่คนนิยมมาถ่ายรูปมาก เพราะเมื่อมองลอดช่องของป้อมชาวประมงจะสามารถเห็นอาคารรัฐสภาได้ จึงมีคนหลายๆคนมานั่งพิงเสาทำตัว Slowlife Hipster ให้มันดูCozyๆ (ข้าพเจ้าก็เป็นหนึ่งในนั้น)
ป้อมชาวประมง(Fisherman Bastion) มีทั้งหมด 7 ป้อม
วิวจากป้อมๆเดียวที่ให้ขึ้นชมฟรีและเป็นป้อมที่ใหญ่ที่สุด
ทางเดินบนป้อมชาวประมง จะต้องเสียตังเข้า
ถัดจากป้อมชาวประมง เราก็เดินดูรอบๆเมืองเก่า Buda ที่อยู่บนเนินเขาเช่นเดียวกัน
โรงแรม Hilton โรงแรมเก่าแก่ ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเมืองเก่าเลย
ต่อมาเราก็ไปยัง Royal Palace แต่ว่าในขณะนี้ บริเวณ Royal Palace ถูกใช้สถานที่จัดงานเทศกาลเบียร์อยู่จึงเดินเข้าไปไม่ได้ ได้เพียงถ่ายรูปด้านหน้ามาเท่านั้น
ภาพถ่ายข้างหน้าของอาคารรัฐสภา
เราเดินลงจาก เนินเขา Royal Palaceเวลา 19.00น. ด้วยเส้นทางที่แตกต่างจากขาขึ้นเขา (เป็นทางที่ยาวขึ้น) เพื่อลงไปถ่ายรูป Chain Bridge ใหม่อีกครั้ง และจาก Chain Bridge เราก็เดินริมแม่น้ำต่อไปเรื่อยๆ เพื่อถ่ายรูปอาคารรัฐสภา (เป็นอาคารที่งดงามมาก)
Chain Bridge ถ่ายภาพจากฝั่ง Buda
อาคารรัฐสภา ถ่ายภาพจากฝั่ง Buda
ขณะนี้เวลา 19.45น. ซึ่งพวกผมก็หิวมากแล้ว ผมจึงหยิบเอาก้อนเนื้ออะไรไม่รู้ที่ซื้อมั่วๆมาจาก Central Market เมื่อกลางวันมากินรองท้อง ปรากฏว่ามันเป็นเนื้อหมูอัดรวมกับไขมันและเครื่องเทศเป็นแท่งๆคล้ายไส้กรอก หน้าตาชวนแหวะแต่รสชาติโอเคเลยครับ แต่กินเยอะๆก็เลี่ยนอยู่ดี
20.30 เรากลับจากอาคารรัฐสภาถึงสถานีรถไฟkeleti เพื่อหาอาหารเย็นกิน แต่ปรากฏว่าไม่มีร้านไหนเปิดเลย สุดท้ายเราจึงกินพิซซ่าที่ขายที่สถานีรถไฟ ราคาเพียงชิ้นละ25บาท
21.30น. เรากลับถึงที่พักพร้อมน้ำดื่มที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อที่เดินผ่านระหว่างทาง เพื่อนผมตัดสินใจออกไปถ่ายแสงอาคารรัฐสภาในเวลากลางคืนต่อแต่ผมทำตั๋วรถไฟหายจึงไม่ได้ออกไปด้วย(คารวะ1จอก ขอบคุณmyfriend)
บูดาเปสเป็นเมืองที่ค่าครองชีพถูกจริงๆอาจจะเป็นเพราะไม่ได้เจริญเท่ากับประเทศอื่นๆในยุโรป แต่ก็มีความอบอุ่นที่ทำให้อยู่แล้วสบายใจ