Kingsman: The Secret Service - fan fiction
The Parting Glass :
http://pantip.com/topic/33501949
The Ghost Ship :
http://pantip.com/topic/33553578
Last Tango in London :
http://pantip.com/topic/33634213
ขอบคุณ คุณ vanillamelody, คุณ Octavianus, คุณ kadeart ,คุณ lovereason, คุณปลาทองติดปีก, คุณฮูกฯ (สมาชิกหมายเลข 710636) คุณกลูตาเมท, คุณนักชิมเผือก และคุณสมาชิกหมายเลข 718835 ที่แวะมาในกระทู้ก่อนหน้านี้ด้วยนะคะ
-------------------------------------------------------------------------
Part 1: DREAMS
“No matter how much suffering you went through, you never wanted to let go of those memories.”
Haruki Murakami
(1)
เป็นอีกคืนหนึ่งที่ร็อกซานน์ มอร์ตันผวาตื่นขึ้นมากลางดึก
รอบตัวของเธอในเวลานี้ มีเพียงแต่เตียงว่างเปล่าเรียงรายกันไปตลอดแนวห้องกว้าง ซึ่งเพื่อนผู้รับการทดสอบเพื่อเข้าเป็นสมาชิกของคิงส์แมน องค์กรสายลับอิสระที่ไม่ขึ้นกับหน่วยงานรัฐหรือผู้ใด ล้วนหายไปทีละคน เหลือเพียงตัวเธอและเพื่อนร่วมการฝึก ซึ่งเป็นชายหนุ่มอีกสองคนเท่านั้น
ชาร์ลี เฮสเก็ธซึ่งอยู่บนเตียงที่อยู่ห่างเธอออกไปมากที่สุดกำลังนอนหลับสนิทจนไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น หากเอ็กซี่ หรือแกรี่ อันวิน ที่อยู่บนเตียงติดกัน รู้สึกตัวตื่นขึ้น และพลิกตัวหันมาหาเธอ
“นอนไม่หลับเหรอ” เขากระซิบถามพอให้ได้ยินกันสองคน “ยังไม่หายตกใจจากเมื่อบ่ายนี้ใช่ไหม”
แม้จะลืมตาได้ครึ่งเดียว และเสียงยังงัวเงียเต็มทน หากน้ำเสียงของเขาก็เต็มไปด้วยความห่วงใยและเข้าใจ ในฐานที่ตกที่นั่งลำบากระหว่างการทดสอบกระโดดร่มมาลงยังเป้าหมายบนพื้นดินมาด้วยกัน
บททดสอบนั้นอาจฟังดูง่ายสำหรับคนที่ได้รับการฝึกมาแล้วอย่างเข้มข้นเช่นพวกเธอ แต่ไม่ใช่ในสถานการณ์ที่ได้รับแจ้งจากเมอร์ลิน ผู้ควบคุมการฝึกที่เอ่ยเหมือนสะใจที่จะได้เห็นความหายนะเกิดขึ้นแก่สายลับฝึกหัดว่า มีร่มชูชีพของใครคนใดคนหนึ่งไม่อยู่ในสภาพใช้งาน และอาการกลัวความสูงที่หายไปนานมากแล้วหวนกลับมาโจมตีเธออีกครั้ง หากทุกอย่างที่เกิดขึ้นกลับคลี่คลายลงด้วยไหวพริบและน้ำใจของคนตรงหน้าที่หลายคนเคยดูแคลนว่า ไร้การศึกษาและความสามารถ แต่เธอกลับเห็นธาตุดีในตัวเขาที่คนอื่นมองข้าม
“ฉันฝันแล้วตกใจตื่นน่ะ ไม่มีอะไร” เธอเอ่ยตอบ และยิ้มให้เขา “ขอบใจ เอ็กซี่… ขอโทษด้วย ที่ทำให้ตื่น”
“เรื่องเล็กน้อยน่ะ ช่างเหอะ” ชายหนุ่มยิ้มตอบ ใช้มือผลักเจบี สุนัขพันธุ์ปั๊กตัวอวบแน่นที่เบียดแย่งพื้นที่บนเตียงของตนเองให้ขยับออกไป แล้วทิ้งตัวลงนอนหลับตาตามเดิม จากนั้นไม่นาน เธอก็ได้ยินเสียงกรนของเขาดังสลับกับเสียงของสุนัขคู่ใจที่ขยับตัวยุกยิก ใช้เท้าหน้าตะกายอากาศไปมา คล้ายกำลังฝันอะไรบางอย่างอยู่
ในขณะที่เขาหลับสนิทได้อย่างง่ายดาย หญิงสาวกลับยังคงลืมตาอยู่ในความมืดอยู่ครู่ใหญ่ และเบนศีรษะไปหาคนที่เธอเรียกได้เต็มปากว่าเป็น ‘เพื่อน’ เพียงคนเดียวในหมู่ผู้เข้ารับการฝึกด้วยกันทั้งหมด
อาจเพราะเขาและเธอแปลกแยกจากคนอื่น จึงดึงดูดเข้าหากันและเข้าใจกันก็เป็นได้
ตั้งแต่อมิเลีย หญิงสาวอีกคนจากไปตั้งแต่การทดสอบครั้งแรก เธอกลายเป็นเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เหลืออยู่ในการฝึกสายลับขององค์กรและต้องอยู่ภายใต้มาตรฐานเดียวกับคนอื่น ๆ ที่เป็นผู้ชายโดยไม่มีข้อยกเว้นหรือสิทธิพิเศษอะไรทั้งสิ้น ส่วนเอ็กซี่ อันวินที่มาจากสังคมที่แตกต่างก็ต้องเผชิญกับความกดดันรอบด้านเช่นกัน และบางครั้ง ก็มากกว่า
เขาเรียนจบแค่มัธยม พูดจาด้วยสำเนียงและสำนวนของคนในชนชั้นแรงงาน แต่งกายด้วยเสื้อผ้าซึ่งมีรูปแบบและสีสันที่พวกเด็กเหลือขอใส่กัน มิหนำซ้ำยังมีประวัติอาชญากรรมเล็กน้อยติดตัวเป็นหางว่าว จุดด่างพร้อยเหล่านี้เป็นเหตุให้เขาถูกกระทบกระเทียบ เย้ยหยัน และกลั่นแกล้งโดยบรรดาผู้ที่มาจากตระกูลดัง มีการศึกษา มีสถานะทางสังคมและฐานะทางการเงิน ซึ่งเรียกตัวเองว่าเป็น ‘ผู้ดี’ อยู่เกือบตลอดเวลา จนกระทั่งคนที่คอยยับยั้งการกระทบกระทั่งกันระหว่างเขาและชาร์ลีเสมออย่างเธออดโกรธแทนไม่ได้ และในบางครั้ง เธอก็เหลืออดจนกลายเป็นฝ่ายตอบโต้คู่กรณีของเขาแทนเสียเอง
ตลอดเวลาเหล่านั้น เธอเห็นความน้อยเนื้อต่ำใจระคนขุ่นเคืองในแววตาของเขา แต่ถึงกระนั้น เอ็กซี่กลับยังคงยืนหยัดอดทนต่อสิ่งที่เข้ามากระทบตัวและใจของตนเองอย่างเข้มแข็ง และเปลี่ยนแปลงตัวเองจากเดิมไปสู่สิ่งที่ดีกว่าแบบก้าวกระโดด โดยไม่ยอมถอดใจล้มเลิกไปเสียกลางคัน
เขายังคงมีกำลังใจอย่างไม่จบสิ้นในการพิสูจน์ตัวเองให้คนทั้งองค์กรประจักษ์ว่า ตนเองมีดีพอที่จะครอบครองชื่อรหัส ‘ลานซล็อต’ และเก้าอี้ที่ว่างอยู่ในโต๊ะของเหล่าสายลับระดับอัศวินนั้นได้ มีแฮรี่ ฮาร์ท เจ้าของชื่อรหัสกาลาฮัด และเป็นผู้เสนอชื่อของเขาเข้ารับการคัดเลือก เป็นเหตุผลเพียงหนึ่งเดียวที่ทำให้เขาพยายามมาได้ไกลถึงเพียงนี้
ตลอดเวลาที่กาลาฮัดนอนสลบไม่ได้สติ เพราะได้รับความกระทบกระเทือนจากแรงระเบิดในการปฏิบัติการสืบหาความจริงจากศาสตราจารย์เรย์โนลด์ซึ่งถูกลักพาตัวไปในคราวก่อน เธอเห็นเอ็กซี่คอยไปเยี่ยมอีกฝ่ายแทบทุกวันและแทบทันทีที่ถึงเวลาพัก หรือมีเวลาว่าง แม้จะไร้ปฏิกิริยาตอบสนอง หากสายตาของเขากลับเต็มไปด้วยความหวังที่จะได้เห็นอีกฝ่ายฟื้นคืนสติขึ้นมาไม่วันใดก็วันหนึ่ง และวันที่สายลับผู้นั้นรู้สึกตัวตื่น คือวันที่เพื่อนของเธอมีความสุขที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมา
สำหรับเอ็กซี่แล้ว กาลาฮัดเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตใหม่ของเขาที่ภายใต้ร่มเงาของคิงส์แมน แม้จะเริ่มต้นจากการเห็นความสามารถในตัวของชายหนุ่มและความปรารถนาที่จะชดเชยความสูญเสียที่เคยเกิดขึ้นในอดีตให้เขา แต่เธอก็มองออกว่า สายลับวัยกลางคนผู้นั้นมองเพื่อนของเธอด้วยความรักใคร่เอ็นดูอยู่ไม่น้อย ในขณะที่ผู้อ่อนวัยกว่าก็มองอีกฝ่ายเป็นเสมือนผู้ปกครอง ต้นแบบ ผู้ให้โอกาส และส่วนเติมเต็มของชีวิตที่เคยขาดหายไปด้วยความเคารพรักไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
แล้วเธอเล่า… ร็อกซานน์ มอร์ตันถามตัวเอง… เธอมาก้าวมาถึงจุดนี้ได้ด้วยแรงผลักดันใดกันแน่
ระหว่างเธอกับเพอร์ซิวาล สายลับผู้เสนอชื่อของเธอและคอยดูแลให้คำปรึกษาแก่เธอนับแต่วันแรกที่เธอตอบรับเข้าร่วมการทดสอบคุณสมบัติเพื่อเข้าแทนที่ตำแหน่งของสายลับคนสำคัญขององค์กรที่จากไป เรียกได้ว่า แทบไม่มีจุดเกาะเกี่ยวเชื่อมโยงกันอย่างใดทั้งสิ้น เว้นเสียแต่เขาเคยเป็นนายจ้างของเธอ ระหว่างที่เธอทำงานพิเศษเป็นพนักงานขายในร้านหนังสือของเขา และพบกันบ้างในย่านใกล้เคียงกับสถานที่เรียนของเธอและสถานที่ทำกิจการของเขาเท่านั้นเอง
หลังจากเหตุการณ์ที่เธอติดอยู่ร้านหนังสือของเขา เพราะพนักงานที่ปิดร้านไม่ทันสังเกตว่า ยังมีคนหลงเหลืออยู่ และเพื่อที่จะทำให้ตนเองออกไปได้โดยไม่ทำให้ทางร้านเสียหาย เธอได้โทรศัพท์หาเขา ซึ่งเป็นบุคคลที่รู้รหัสและมีกุญแจสำหรับเปิดประตู แม้เขาจะปล่อยให้เธอรออยู่นานหลายชั่วโมง หากเธอก็ฆ่าเวลาด้วยการนั่งอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่มีติดกระเป๋า ในสุดที่กล้องวงจรปิดจะบันทึกภาพเธอได้ เพื่อเป็นพยานยืนยันว่า เธอไม่ได้ทำให้สิ่งของในร้านเสียหาย และทำตามที่รับปากกับเขาไว้ว่า จะไม่ให้เรื่องนี้แพร่งพรายออกไปเป็นอันขาด เขาเฉลยว่า สิ่งที่เธอทำคือบทพิสูจน์ว่าเธอมีคุณสมบัติของสายลับ และเป็นเหตุผลหลักที่เขาเลือกเธอเข้ารับการทดสอบเพื่อเป็นสมาชิกของคิงส์แมน
เมื่อเทียบกับเอ็กซี่ หรือคนอื่น ๆ ที่เข้ามาเพราะเป็นญาติสนิท เป็นคนรู้จักของครอบครัว หรือเป็นลูกหลานของเพื่อนฝูงที่รู้จักกันมานานและเห็นคุณสมบัติของกันอยู่ เธอกับเพอร์ซิวาลแทบจะเป็นคนแปลกหน้าของกันและกัน แต่เขากลับเสนอ ‘งานที่อันตรายที่สุด’ งานนี้ให้เธอด้วยความเชื่อมั่นในความสามารถของเธอเป็นอย่างยิ่ง
เรื่องราวขององค์กรสายลับอิสระนามคิงส์แมนที่ได้รับฟังจากเขาเหมือนเรื่องโกหก แต่เธอตกลงใจที่จะเชื่อเรื่องที่ฟังดูไม่น่าเชื่อโดยไม่คิดทบทวนหรือหวาดระแวงใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งที่ตามปกติแล้ว เธอไม่ยอมเชื่อคำพูดของใครง่ายดายนัก
สายตาที่เพอร์ซิวาลใช้มองเธอ ไม่ใช่สายตาของนายจ้างที่ต้องการคัดเลือกคนมาทำหน้าที่สำคัญ หรือบุคคลที่คาดหวังชัยชนะจากการส่งคนของตนเองให้ก้าวขึ้นครองชื่อรหัสที่มีอยู่เพียงหนึ่งเดียว หากแต่มีความหมายบางอย่างแฝงอยู่อย่างลึกซึ้งและซับซ้อนยิ่งกว่านั้น
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ เขาปฏิบัติต่อเธอด้วยความสุภาพและอ่อนโยน ถึงจะไม่ได้แสดงความห่วงใยอย่างชัดแจ้ง แต่เธอก็รู้ว่า เขาคอยจับตาดูเธออยู่ห่าง ๆ เหมือนผู้ปกครองแข็งใจปล่อยให้เด็กน้อยในความดูแลเดินและวิ่งด้วยขาของตนเองจนล้มและปล่อยให้ลุกขึ้นเองโดยไม่ยอมยื่นมือเข้าช่วย หากคอยให้กำลังใจด้วยสายตาว่า เธอทำได้
แม้เปลือกนอกของเขาจะดูนิ่งเฉยจนเหมือนไร้ความรู้สึก แต่สิ่งที่เขาปฏิบัติต่อเธอและสายตาที่เขาใช้มองเธอกลับทำให้รู้สึกอบอุ่น คุ้นเคย สบายใจ และปลอดภัยเมื่อได้อยู่ใกล้เขา
ความรู้สึกเหล่านั้นมิได้เพิ่งเกิดขึ้นหลังได้รู้จักเขาในฐานะผู้ดูแลและที่ปรึกษาของเธอ ทว่าเป็นความรู้สึกแต่เก่าก่อนที่ถูกรื้อฟื้นขึ้นจากห้วงความทรงจำที่รางเลือนจนเหมือนความฝันเสียมากกว่า
ในความทรงจำที่เหมือนความฝันเหล่านั้น นอกจากภาพของพ่อกับแม่ที่จากไปตั้งแต่เธอยังเด็ก ยังมีสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้ แม่น้ำกว้างที่เป็นประกายเพราะแสงแดดแรงกล้าที่ส่องกระทบ สายลมเย็นที่พัดผ่านต้นไม้ในป่าทึบเหมือนคลื่นทะเล กลิ่นหอมของผืนดินหลังฝนตกและความเย็นของหยาดน้ำค้างของผืนป่าที่เคยเป็นเหมือนสนามเด็กเล่น เสียงปืนที่คำรามลั่นรอบตัว เสียงตะโกนด้วยความมุ่งร้ายหมายเอาชีวิต อ้อมแขนของใครบางคนที่โอบกอดเธอไว้เพื่อปลอบใจให้เธอสงบลง กลิ่นคาวเลือดผสมกลิ่นไหม้ของดินปืน คำสัญญาที่ยืนยันว่าจะปกป้องทุกคนให้ปลอดภัย และความอบอุ่นมั่นคงของมือใหญ่ที่คว้ามือเล็กของเธอเอาไว้ไม่ให้ร่วงหล่นสู่ความว่างเปล่าเบื้องล่าง
เศษเสี้ยวของภาพต่อความทรงจำเหล่านั้นปรากฏขึ้นในความฝันของเธอมากขึ้นและชัดเจนขึ้นทุกขณะ
ความฝันที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเดิม ๆ ที่บางครั้งก็เป็นเหมือนภูตผีที่ตามหลอกหลอนซ้ำแล้วซ้ำเล่า และแจ่มชัดเสียจนข่มตานอนต่อไม่ไหว หากบางครั้งก็ความฝันนั้น ก็อบอุ่นและทำให้รู้สึกดีราวกับนิทานก่อนนอน หรือเพลงกล่อมให้นอนหลับ แต่ภาพใบหน้าของบุคคลที่คอยปกป้องเธอในความฝันกลับรางเลือนเต็มทน
หลังจากพยายามปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดเข้าด้วยกัน เธออดคิดไม่ได้ว่า เสียงที่ดังก้องอยู่ในความฝันของเธอครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนเสียงของเพอร์ซิวาลเป็นอย่างยิ่ง และเสียงของใครอีกคนหนึ่งที่เธอได้ยินด้วยเช่นกัน ย่อมไม่พ้นต้องเป็นเสียงของบุคคลที่ถูกเรียกว่า ลานซล็อต ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับชื่อรหัสที่เธอต้องแย่งชิงกับใครต่อใครเพื่อให้ได้มา
ไม่ใช่แค่ต้องการพิสูจน์ให้ผู้ดูแลของเธอรู้ว่า เขาเลือกคนไม่ผิด แต่อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจรับข้อเสนอของเขาและเป็นแรงผลักดันเธอให้ก้าวไปถึงเป้าหมายให้ได้ คือ การหาคำตอบว่า ‘ลานซล็อต’ เป็นใครและมีความสำคัญมากเพียงใด และในเวลานี้ เธอกำลังก้าวเข้าไปใกล้คำตอบดังกล่าวมากขึ้นทุกที แม้ใจจริงแล้ว เธอไม่อยากเอาชนะเอ็กซี่ ซึ่งเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอเลย แต่มีทางอื่นให้เธอเลือกอีกอย่างนั้นหรือ
คิดได้ถึงตรงนี้และตระหนักได้ว่า เธอควรเตรียมพร้อมสำหรับวันรุ่งขึ้นแทนที่จะนอนคิดถึงเรื่องที่ยังมาไม่ถึง ร็อกซี่ก็สลัดเอาความคิดที่รบกวนจิตใจออกไปจากสมอง ลุกไปหาน้ำดื่มสักแก้ว และล้างหน้าสักหน เผื่อจะทำให้รู้สึกดีขึ้นบ้าง
ความเคลื่อนไหวของเธอทำให้สุนัขพุดเดิ้ลสีดำตัวใหญ่ที่นอนหมอบอยู่ข้างเตียงตื่นและลุกขึ้นนั่ง ใช้ปลายจมูกเย็นชื้นดุนมือของเธอราวกับสัมผัสได้ถึงความรู้สึกไม่สบายใจของผู้เป็นนาย
“ฉันไม่เป็นไร” เธอพูด พลางลูบหัวของมันแทนคำขอบใจ “นอนซะนะ เด็กดี”
สิ้นคำที่เอ่ยออกจากปาก หญิงสาวชะงักกับคำพูดของตนเองไปชั่วครู่
ในความฝันที่เพิ่งผ่านพ้นไป มีใครบางคนกระซิบบอกเธอด้วยประโยคเหล่านั้นเช่นกัน…
(มีต่อนะคะ)
LONG LOST LULLABY [Kingsman: The Secret Service - fan fiction] (ตอนต้น)
The Parting Glass : http://pantip.com/topic/33501949
The Ghost Ship : http://pantip.com/topic/33553578
Last Tango in London : http://pantip.com/topic/33634213
ขอบคุณ คุณ vanillamelody, คุณ Octavianus, คุณ kadeart ,คุณ lovereason, คุณปลาทองติดปีก, คุณฮูกฯ (สมาชิกหมายเลข 710636) คุณกลูตาเมท, คุณนักชิมเผือก และคุณสมาชิกหมายเลข 718835 ที่แวะมาในกระทู้ก่อนหน้านี้ด้วยนะคะ
-------------------------------------------------------------------------
Haruki Murakami
(1)
เป็นอีกคืนหนึ่งที่ร็อกซานน์ มอร์ตันผวาตื่นขึ้นมากลางดึก
รอบตัวของเธอในเวลานี้ มีเพียงแต่เตียงว่างเปล่าเรียงรายกันไปตลอดแนวห้องกว้าง ซึ่งเพื่อนผู้รับการทดสอบเพื่อเข้าเป็นสมาชิกของคิงส์แมน องค์กรสายลับอิสระที่ไม่ขึ้นกับหน่วยงานรัฐหรือผู้ใด ล้วนหายไปทีละคน เหลือเพียงตัวเธอและเพื่อนร่วมการฝึก ซึ่งเป็นชายหนุ่มอีกสองคนเท่านั้น
ชาร์ลี เฮสเก็ธซึ่งอยู่บนเตียงที่อยู่ห่างเธอออกไปมากที่สุดกำลังนอนหลับสนิทจนไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น หากเอ็กซี่ หรือแกรี่ อันวิน ที่อยู่บนเตียงติดกัน รู้สึกตัวตื่นขึ้น และพลิกตัวหันมาหาเธอ
“นอนไม่หลับเหรอ” เขากระซิบถามพอให้ได้ยินกันสองคน “ยังไม่หายตกใจจากเมื่อบ่ายนี้ใช่ไหม”
แม้จะลืมตาได้ครึ่งเดียว และเสียงยังงัวเงียเต็มทน หากน้ำเสียงของเขาก็เต็มไปด้วยความห่วงใยและเข้าใจ ในฐานที่ตกที่นั่งลำบากระหว่างการทดสอบกระโดดร่มมาลงยังเป้าหมายบนพื้นดินมาด้วยกัน
บททดสอบนั้นอาจฟังดูง่ายสำหรับคนที่ได้รับการฝึกมาแล้วอย่างเข้มข้นเช่นพวกเธอ แต่ไม่ใช่ในสถานการณ์ที่ได้รับแจ้งจากเมอร์ลิน ผู้ควบคุมการฝึกที่เอ่ยเหมือนสะใจที่จะได้เห็นความหายนะเกิดขึ้นแก่สายลับฝึกหัดว่า มีร่มชูชีพของใครคนใดคนหนึ่งไม่อยู่ในสภาพใช้งาน และอาการกลัวความสูงที่หายไปนานมากแล้วหวนกลับมาโจมตีเธออีกครั้ง หากทุกอย่างที่เกิดขึ้นกลับคลี่คลายลงด้วยไหวพริบและน้ำใจของคนตรงหน้าที่หลายคนเคยดูแคลนว่า ไร้การศึกษาและความสามารถ แต่เธอกลับเห็นธาตุดีในตัวเขาที่คนอื่นมองข้าม
“ฉันฝันแล้วตกใจตื่นน่ะ ไม่มีอะไร” เธอเอ่ยตอบ และยิ้มให้เขา “ขอบใจ เอ็กซี่… ขอโทษด้วย ที่ทำให้ตื่น”
“เรื่องเล็กน้อยน่ะ ช่างเหอะ” ชายหนุ่มยิ้มตอบ ใช้มือผลักเจบี สุนัขพันธุ์ปั๊กตัวอวบแน่นที่เบียดแย่งพื้นที่บนเตียงของตนเองให้ขยับออกไป แล้วทิ้งตัวลงนอนหลับตาตามเดิม จากนั้นไม่นาน เธอก็ได้ยินเสียงกรนของเขาดังสลับกับเสียงของสุนัขคู่ใจที่ขยับตัวยุกยิก ใช้เท้าหน้าตะกายอากาศไปมา คล้ายกำลังฝันอะไรบางอย่างอยู่
ในขณะที่เขาหลับสนิทได้อย่างง่ายดาย หญิงสาวกลับยังคงลืมตาอยู่ในความมืดอยู่ครู่ใหญ่ และเบนศีรษะไปหาคนที่เธอเรียกได้เต็มปากว่าเป็น ‘เพื่อน’ เพียงคนเดียวในหมู่ผู้เข้ารับการฝึกด้วยกันทั้งหมด
อาจเพราะเขาและเธอแปลกแยกจากคนอื่น จึงดึงดูดเข้าหากันและเข้าใจกันก็เป็นได้
ตั้งแต่อมิเลีย หญิงสาวอีกคนจากไปตั้งแต่การทดสอบครั้งแรก เธอกลายเป็นเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เหลืออยู่ในการฝึกสายลับขององค์กรและต้องอยู่ภายใต้มาตรฐานเดียวกับคนอื่น ๆ ที่เป็นผู้ชายโดยไม่มีข้อยกเว้นหรือสิทธิพิเศษอะไรทั้งสิ้น ส่วนเอ็กซี่ อันวินที่มาจากสังคมที่แตกต่างก็ต้องเผชิญกับความกดดันรอบด้านเช่นกัน และบางครั้ง ก็มากกว่า
เขาเรียนจบแค่มัธยม พูดจาด้วยสำเนียงและสำนวนของคนในชนชั้นแรงงาน แต่งกายด้วยเสื้อผ้าซึ่งมีรูปแบบและสีสันที่พวกเด็กเหลือขอใส่กัน มิหนำซ้ำยังมีประวัติอาชญากรรมเล็กน้อยติดตัวเป็นหางว่าว จุดด่างพร้อยเหล่านี้เป็นเหตุให้เขาถูกกระทบกระเทียบ เย้ยหยัน และกลั่นแกล้งโดยบรรดาผู้ที่มาจากตระกูลดัง มีการศึกษา มีสถานะทางสังคมและฐานะทางการเงิน ซึ่งเรียกตัวเองว่าเป็น ‘ผู้ดี’ อยู่เกือบตลอดเวลา จนกระทั่งคนที่คอยยับยั้งการกระทบกระทั่งกันระหว่างเขาและชาร์ลีเสมออย่างเธออดโกรธแทนไม่ได้ และในบางครั้ง เธอก็เหลืออดจนกลายเป็นฝ่ายตอบโต้คู่กรณีของเขาแทนเสียเอง
ตลอดเวลาเหล่านั้น เธอเห็นความน้อยเนื้อต่ำใจระคนขุ่นเคืองในแววตาของเขา แต่ถึงกระนั้น เอ็กซี่กลับยังคงยืนหยัดอดทนต่อสิ่งที่เข้ามากระทบตัวและใจของตนเองอย่างเข้มแข็ง และเปลี่ยนแปลงตัวเองจากเดิมไปสู่สิ่งที่ดีกว่าแบบก้าวกระโดด โดยไม่ยอมถอดใจล้มเลิกไปเสียกลางคัน
เขายังคงมีกำลังใจอย่างไม่จบสิ้นในการพิสูจน์ตัวเองให้คนทั้งองค์กรประจักษ์ว่า ตนเองมีดีพอที่จะครอบครองชื่อรหัส ‘ลานซล็อต’ และเก้าอี้ที่ว่างอยู่ในโต๊ะของเหล่าสายลับระดับอัศวินนั้นได้ มีแฮรี่ ฮาร์ท เจ้าของชื่อรหัสกาลาฮัด และเป็นผู้เสนอชื่อของเขาเข้ารับการคัดเลือก เป็นเหตุผลเพียงหนึ่งเดียวที่ทำให้เขาพยายามมาได้ไกลถึงเพียงนี้
ตลอดเวลาที่กาลาฮัดนอนสลบไม่ได้สติ เพราะได้รับความกระทบกระเทือนจากแรงระเบิดในการปฏิบัติการสืบหาความจริงจากศาสตราจารย์เรย์โนลด์ซึ่งถูกลักพาตัวไปในคราวก่อน เธอเห็นเอ็กซี่คอยไปเยี่ยมอีกฝ่ายแทบทุกวันและแทบทันทีที่ถึงเวลาพัก หรือมีเวลาว่าง แม้จะไร้ปฏิกิริยาตอบสนอง หากสายตาของเขากลับเต็มไปด้วยความหวังที่จะได้เห็นอีกฝ่ายฟื้นคืนสติขึ้นมาไม่วันใดก็วันหนึ่ง และวันที่สายลับผู้นั้นรู้สึกตัวตื่น คือวันที่เพื่อนของเธอมีความสุขที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมา
สำหรับเอ็กซี่แล้ว กาลาฮัดเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตใหม่ของเขาที่ภายใต้ร่มเงาของคิงส์แมน แม้จะเริ่มต้นจากการเห็นความสามารถในตัวของชายหนุ่มและความปรารถนาที่จะชดเชยความสูญเสียที่เคยเกิดขึ้นในอดีตให้เขา แต่เธอก็มองออกว่า สายลับวัยกลางคนผู้นั้นมองเพื่อนของเธอด้วยความรักใคร่เอ็นดูอยู่ไม่น้อย ในขณะที่ผู้อ่อนวัยกว่าก็มองอีกฝ่ายเป็นเสมือนผู้ปกครอง ต้นแบบ ผู้ให้โอกาส และส่วนเติมเต็มของชีวิตที่เคยขาดหายไปด้วยความเคารพรักไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
แล้วเธอเล่า… ร็อกซานน์ มอร์ตันถามตัวเอง… เธอมาก้าวมาถึงจุดนี้ได้ด้วยแรงผลักดันใดกันแน่
ระหว่างเธอกับเพอร์ซิวาล สายลับผู้เสนอชื่อของเธอและคอยดูแลให้คำปรึกษาแก่เธอนับแต่วันแรกที่เธอตอบรับเข้าร่วมการทดสอบคุณสมบัติเพื่อเข้าแทนที่ตำแหน่งของสายลับคนสำคัญขององค์กรที่จากไป เรียกได้ว่า แทบไม่มีจุดเกาะเกี่ยวเชื่อมโยงกันอย่างใดทั้งสิ้น เว้นเสียแต่เขาเคยเป็นนายจ้างของเธอ ระหว่างที่เธอทำงานพิเศษเป็นพนักงานขายในร้านหนังสือของเขา และพบกันบ้างในย่านใกล้เคียงกับสถานที่เรียนของเธอและสถานที่ทำกิจการของเขาเท่านั้นเอง
หลังจากเหตุการณ์ที่เธอติดอยู่ร้านหนังสือของเขา เพราะพนักงานที่ปิดร้านไม่ทันสังเกตว่า ยังมีคนหลงเหลืออยู่ และเพื่อที่จะทำให้ตนเองออกไปได้โดยไม่ทำให้ทางร้านเสียหาย เธอได้โทรศัพท์หาเขา ซึ่งเป็นบุคคลที่รู้รหัสและมีกุญแจสำหรับเปิดประตู แม้เขาจะปล่อยให้เธอรออยู่นานหลายชั่วโมง หากเธอก็ฆ่าเวลาด้วยการนั่งอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่มีติดกระเป๋า ในสุดที่กล้องวงจรปิดจะบันทึกภาพเธอได้ เพื่อเป็นพยานยืนยันว่า เธอไม่ได้ทำให้สิ่งของในร้านเสียหาย และทำตามที่รับปากกับเขาไว้ว่า จะไม่ให้เรื่องนี้แพร่งพรายออกไปเป็นอันขาด เขาเฉลยว่า สิ่งที่เธอทำคือบทพิสูจน์ว่าเธอมีคุณสมบัติของสายลับ และเป็นเหตุผลหลักที่เขาเลือกเธอเข้ารับการทดสอบเพื่อเป็นสมาชิกของคิงส์แมน
เมื่อเทียบกับเอ็กซี่ หรือคนอื่น ๆ ที่เข้ามาเพราะเป็นญาติสนิท เป็นคนรู้จักของครอบครัว หรือเป็นลูกหลานของเพื่อนฝูงที่รู้จักกันมานานและเห็นคุณสมบัติของกันอยู่ เธอกับเพอร์ซิวาลแทบจะเป็นคนแปลกหน้าของกันและกัน แต่เขากลับเสนอ ‘งานที่อันตรายที่สุด’ งานนี้ให้เธอด้วยความเชื่อมั่นในความสามารถของเธอเป็นอย่างยิ่ง
เรื่องราวขององค์กรสายลับอิสระนามคิงส์แมนที่ได้รับฟังจากเขาเหมือนเรื่องโกหก แต่เธอตกลงใจที่จะเชื่อเรื่องที่ฟังดูไม่น่าเชื่อโดยไม่คิดทบทวนหรือหวาดระแวงใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งที่ตามปกติแล้ว เธอไม่ยอมเชื่อคำพูดของใครง่ายดายนัก
สายตาที่เพอร์ซิวาลใช้มองเธอ ไม่ใช่สายตาของนายจ้างที่ต้องการคัดเลือกคนมาทำหน้าที่สำคัญ หรือบุคคลที่คาดหวังชัยชนะจากการส่งคนของตนเองให้ก้าวขึ้นครองชื่อรหัสที่มีอยู่เพียงหนึ่งเดียว หากแต่มีความหมายบางอย่างแฝงอยู่อย่างลึกซึ้งและซับซ้อนยิ่งกว่านั้น
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ เขาปฏิบัติต่อเธอด้วยความสุภาพและอ่อนโยน ถึงจะไม่ได้แสดงความห่วงใยอย่างชัดแจ้ง แต่เธอก็รู้ว่า เขาคอยจับตาดูเธออยู่ห่าง ๆ เหมือนผู้ปกครองแข็งใจปล่อยให้เด็กน้อยในความดูแลเดินและวิ่งด้วยขาของตนเองจนล้มและปล่อยให้ลุกขึ้นเองโดยไม่ยอมยื่นมือเข้าช่วย หากคอยให้กำลังใจด้วยสายตาว่า เธอทำได้
แม้เปลือกนอกของเขาจะดูนิ่งเฉยจนเหมือนไร้ความรู้สึก แต่สิ่งที่เขาปฏิบัติต่อเธอและสายตาที่เขาใช้มองเธอกลับทำให้รู้สึกอบอุ่น คุ้นเคย สบายใจ และปลอดภัยเมื่อได้อยู่ใกล้เขา
ความรู้สึกเหล่านั้นมิได้เพิ่งเกิดขึ้นหลังได้รู้จักเขาในฐานะผู้ดูแลและที่ปรึกษาของเธอ ทว่าเป็นความรู้สึกแต่เก่าก่อนที่ถูกรื้อฟื้นขึ้นจากห้วงความทรงจำที่รางเลือนจนเหมือนความฝันเสียมากกว่า
ในความทรงจำที่เหมือนความฝันเหล่านั้น นอกจากภาพของพ่อกับแม่ที่จากไปตั้งแต่เธอยังเด็ก ยังมีสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้ แม่น้ำกว้างที่เป็นประกายเพราะแสงแดดแรงกล้าที่ส่องกระทบ สายลมเย็นที่พัดผ่านต้นไม้ในป่าทึบเหมือนคลื่นทะเล กลิ่นหอมของผืนดินหลังฝนตกและความเย็นของหยาดน้ำค้างของผืนป่าที่เคยเป็นเหมือนสนามเด็กเล่น เสียงปืนที่คำรามลั่นรอบตัว เสียงตะโกนด้วยความมุ่งร้ายหมายเอาชีวิต อ้อมแขนของใครบางคนที่โอบกอดเธอไว้เพื่อปลอบใจให้เธอสงบลง กลิ่นคาวเลือดผสมกลิ่นไหม้ของดินปืน คำสัญญาที่ยืนยันว่าจะปกป้องทุกคนให้ปลอดภัย และความอบอุ่นมั่นคงของมือใหญ่ที่คว้ามือเล็กของเธอเอาไว้ไม่ให้ร่วงหล่นสู่ความว่างเปล่าเบื้องล่าง
เศษเสี้ยวของภาพต่อความทรงจำเหล่านั้นปรากฏขึ้นในความฝันของเธอมากขึ้นและชัดเจนขึ้นทุกขณะ
ความฝันที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเดิม ๆ ที่บางครั้งก็เป็นเหมือนภูตผีที่ตามหลอกหลอนซ้ำแล้วซ้ำเล่า และแจ่มชัดเสียจนข่มตานอนต่อไม่ไหว หากบางครั้งก็ความฝันนั้น ก็อบอุ่นและทำให้รู้สึกดีราวกับนิทานก่อนนอน หรือเพลงกล่อมให้นอนหลับ แต่ภาพใบหน้าของบุคคลที่คอยปกป้องเธอในความฝันกลับรางเลือนเต็มทน
หลังจากพยายามปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดเข้าด้วยกัน เธออดคิดไม่ได้ว่า เสียงที่ดังก้องอยู่ในความฝันของเธอครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนเสียงของเพอร์ซิวาลเป็นอย่างยิ่ง และเสียงของใครอีกคนหนึ่งที่เธอได้ยินด้วยเช่นกัน ย่อมไม่พ้นต้องเป็นเสียงของบุคคลที่ถูกเรียกว่า ลานซล็อต ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับชื่อรหัสที่เธอต้องแย่งชิงกับใครต่อใครเพื่อให้ได้มา
ไม่ใช่แค่ต้องการพิสูจน์ให้ผู้ดูแลของเธอรู้ว่า เขาเลือกคนไม่ผิด แต่อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจรับข้อเสนอของเขาและเป็นแรงผลักดันเธอให้ก้าวไปถึงเป้าหมายให้ได้ คือ การหาคำตอบว่า ‘ลานซล็อต’ เป็นใครและมีความสำคัญมากเพียงใด และในเวลานี้ เธอกำลังก้าวเข้าไปใกล้คำตอบดังกล่าวมากขึ้นทุกที แม้ใจจริงแล้ว เธอไม่อยากเอาชนะเอ็กซี่ ซึ่งเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอเลย แต่มีทางอื่นให้เธอเลือกอีกอย่างนั้นหรือ
คิดได้ถึงตรงนี้และตระหนักได้ว่า เธอควรเตรียมพร้อมสำหรับวันรุ่งขึ้นแทนที่จะนอนคิดถึงเรื่องที่ยังมาไม่ถึง ร็อกซี่ก็สลัดเอาความคิดที่รบกวนจิตใจออกไปจากสมอง ลุกไปหาน้ำดื่มสักแก้ว และล้างหน้าสักหน เผื่อจะทำให้รู้สึกดีขึ้นบ้าง
ความเคลื่อนไหวของเธอทำให้สุนัขพุดเดิ้ลสีดำตัวใหญ่ที่นอนหมอบอยู่ข้างเตียงตื่นและลุกขึ้นนั่ง ใช้ปลายจมูกเย็นชื้นดุนมือของเธอราวกับสัมผัสได้ถึงความรู้สึกไม่สบายใจของผู้เป็นนาย
“ฉันไม่เป็นไร” เธอพูด พลางลูบหัวของมันแทนคำขอบใจ “นอนซะนะ เด็กดี”
สิ้นคำที่เอ่ยออกจากปาก หญิงสาวชะงักกับคำพูดของตนเองไปชั่วครู่
ในความฝันที่เพิ่งผ่านพ้นไป มีใครบางคนกระซิบบอกเธอด้วยประโยคเหล่านั้นเช่นกัน…
(มีต่อนะคะ)