[CR] หนีแม่เที่ยวไป(ตัว)เปรี้ยวที่ปีนังกันเถอะ ♥



สวัสดีค่าาาา ♥♥♥♥ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของการเขียนกระทู้รีวิวในพันทิพย์ ถ้าผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยนะคะะ ><

เนื่องด้วยเราก็เพิ่งจะเรียนจบ จากมหาวิทยาลัยที่ต้องพบปะกับทัวร์จีนมากที่สุดในกรุงเทพฯ (พิกัดตรงข้ามวัดพระแก้ว) บวกกับแฟนของเราที่กำลังจะบวชในอีก2อาทิตย์นี้ เราสองคนเลยตัดสินใจว่า เราคงต้องไปเที่ยวไหนกันซักที่แล้วแหละ! แต่ถ้าไปทะเลมันก็คงธรรมดาไปป๊ และแน่นอนว่าคนก่อนบวชเค้าว่ากันว่าอาจจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นได้ และครอบครัวของแฟน จขกท ก็ค่อนข้างหัวโบราณ ดังนั้นจึงเป็นที่มาของชื่อกระทู้ที่ว่า "หนีแม่เที่ยว" 5555 หลังจากคิดกันไปมาก็ตัดสินใจกันได้ว่า

เราไปเที่ยวปีนังกันเถอะ!

ในการเดินทางครั้งนี้เราเดินทางกันวันที่9-12 (3คืน4วัน) วิธีการเดินทางแน่นอนต้องพยามsaveที่สุด
เราเลือกเดินทางโดยสายการบินที่เป็นสัตว์มีปีกสีเหลือง ดอนเมือง-หาดใหญ่ แล้วต่อรถตู้ไปปีนังโดย KST travel (ความจริงมันไม่ได้ประหยัดงบเลย แต่เอาเถอะมาขนาดนี้แล้ว-.-) แน่นอนก่อนการเดินทางทุกครั้งทุกคนต้องมีการวางplan แต่เรา2คนตัดสินใจว่าเราจะวางแค่คร่าวๆ แน่นอนมันไม่ตามplanอยู่แล้ว แต่สำหรับเราการได้ไปเปิดหูเปิดตาดูบ้านเมืองเขา เราว่ามันก็คุ้มแล้วสำหรับเรา ยิ้ม

*บอกก่อนว่ารูปทั้งหมดนี้ใช้กล้อง iphone5 + vscocam ทั้งหมดนะคะ และเราคงจะไม่คุมโทนสีรูปด้วย ก็ขนาดน้ำหนักเรายังไม่คุมเลย แค่คุมโทนสี เราบอกเลยว่าไม่ค่ะ 5555

คงอ่านกันมาเยอะแล้ว งั้นเราไปดูรูปกันเลยยย!



ออกเดินทางไปยังสนามบินดอนเมือง ไฟลท์ออกตอน 9.20 ถึงหาดใหญ่ .....จำเวลาไม่ได้ แป่ววว เอาเป็นว่าไม่เกิน 11 โมงเนอะ
พอเดินออกมาจากสนามบินก็จะเจอกับลานจอดรถ เราก็เดินตรงมาเรื่อยๆเลย ก็จะเจอกับรถสองแถวสีฟ้า ตามรีวิวพันทิพย์เป๊ะ! แต่ต้องรอให้คนเต็มคันก่อนนะแจ้ะรถถึงจะออก มาลงที่ตลาดกิมหยงเลยย
หลังจากนั้นเดินย้อนมาทางโรงแรม VL (ตามรีวิวพันทิพย์อีกละ) เลี้ยวขวาเดินมาเรื่อยๆก็จะเจอกับ KST travel (ในระหว่างนี้หลงทางด้วย แทบจิตบกันกลางสี่แยก แงง้) ที่นี่เค้ารับแลกเงินริงกิตเลยนะ จะแลกไปเลยก็ได้ เรทเท่ากันกับที่ปีนังเลยล่ะ (100บาทไทย=10ริงกิต)
พอสักพักรถตู้ก็ออกตอนบ่ายโมง คนขับบอกว่าเราจะถึงประมาณ5-6โมงเย็น เอ้อเราลืมบอกนะคะ เวลาที่นั่นเร็วกว่าที่ไทย1ชั่วโมงค่ะ เราก็นั่งรถกันหลังขดหลังแข็งเลยค่ะ (คนขายาวก็งี้ นั่งอย่างเมื่อยขา TT)
ในระหว่างทางมีฝรั่งกับนศแพทย์จาก ฬ ชื่อน้องเบสด้วย เราก็เลยได้คุยกันยาวตอนช่วงที่แวะตรวจpassportที่ด่านสะเดาค่ะ (ในรูปล่างซ้ายคือเรามาถึงด่านแล้ว) คนเยอะมากก โอย ไม่รู้จะเยอะไปไหน อยู่ตรงด่านเกือบ2ชั่วโมงกว่าจะได้ออกมา TT พอมาถึงนี่คนขับส่งผิดโรงแรมอีก ต้องวิ่งตามรถตู้ให้เขากลับมารับ 55555 ตาโหลกก
และนี่คือ แท่นแทนแถ๊นนน ถึงที่พักแล้วค่าาาาาา....



ที่พักของเราตั้งอยู่ที่ถนน Lovelane จอร์จทาวน์ค่ะ ในซอยนี้มีโรงแรมRed Innเยอะมาก แต่ของเราno.15 เราจองโรงแรมนี้ทั้ง3คืนเลยจากเว็บBooking.comค่ะ
พอเข้าไปเจอห้อง แอบช้อคนิดนึง .... มีแค่เตียงกับแอร์ โต๊ะ แค่นั้น ห้องน้ำก็ share bathroom อีก แอบเฟว แต่ก็ดีน่าาอย่างน้อยก็มีแอร์! 3คืน 1800 บาท ถือว่าโอเค รับด้ายย ปล.ลืมถ่ายรูปในห้องมา ขอโทษด้วยค่าา-/\-
และนี่ก็คือวิวรอบๆของที่พักเราค่ะ ซึ่งเรารู้สึกว่าเลือกพิกัดดีมาก เพราะมีของกินตลอดคืน 555

ข้างหน้าซอยมี 7-11 ค่ะ ว้าวมากๆ แต่ที่นี่ของแพงกว่าเรานะคะบางอย่าง ขนม น้ำเปล่า เบียร์ แต่มีเบียร์กับบุหรี่ให้เลือกเยอะมากค่ะ เผื่อใครชอบสายนี้ แนะนำให้บุกค่าา

และเนื่องจากวันนี้กว่าจะถึงมาเลก็ทุ่มกว่าแล้ว เราก็ออกไปหาอะไรกินใกล้ๆที่พักกันค่ะ เดินออกมาเจอเลยย เราสองคนจึงเดินมาพึ่งใบบุญบะหมี่อาแปะค่ะ

แล้วก็ตบท้ายด้วยของหวานที่เป็นเหมือนลอดช่องของไทยที่หวานน้อยกว่าในราคา 18บาท (1.8ริงกิต) ส่วนบะหมี่แปะอร่อยมากๆ เรารู้สึกว่าคงต้องฝากท้องไว้ที่แกอีกหลายวันค่ะ เพราะเราเป็นคนกินยาก 555 หลังจากนั้นเดินมาอีกนิดก็จะเจอร้านขาย Lok Lok ในตำนานค่า เค้าว่ากันว่ามามาเลต้องลองกินให้ได้ มันคือทุกสิ่งอย่างต้มน่ะค่ะ เราเลือกเอาว่าจะกินอันไหน เอาไปต้มในหม้อ แล้วจิ้มน้ำจิ้ม ซึ่งน้ำจิ้มก็คือน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะบ้านเรานี่เอง อร่อยดี มีพวกเบคอน เกี๊ยว ผัก เห็ดอะไรงี้ด้วย แต่กินเพลินก็ผลาญตังได้เหมือนกันนะ 5555 หมดไปเป็นร้อยเลยทีเดียว เห็นแก่กินแท้เราา lol

Day 2

เราตื่นมาประมาณ 9 โมงเช้าเพราะกลัวไม่ทันอาหารเช้าค่ะ 55 โรงแรมมีขนมปังปิ้งกับผลไม้ให้ ไม่อิ่มง่า TT 555 เสร็จแล้วเราก็วางแพลนกันว่า วันนี้เราจะไปเก็บแถบ street art ให้หมด เอาล่ะ map พร้อม ใจพร้อม
และยานพาหนะการเดินทางในวันนี้ของเราคือ

จักรยานค่ะ : ) ร้านนี้ตั้งอยู่ในซอยเลิฟเลน ราคาเช่าจักรยานก็ตกคันละ 150บาทต่อวัน มันอาจแพงไปนิดเพราะร้านอื่นคงถูกกว่า แต่เราถูกใจเจ้าของร้านมากๆ เค้า nice มากกกก แนะนำเราทุกอย่างเลย อ้ออีกอย่าง ที่ร้านมี postcard สวยๆขายด้วยค่ะ เค้ากับคุณพ่อเค้าเป็นคนวาด เราว่ามันไม่เหมือนใครมากเลย เลยเหมามาเยอะเลยค่ะ 55 ใครที่ได้ไปแถวนั้น อย่าลืมไปอุดหนุนร้านนี้น้าา

ว่าแล้วก็ไปกันเลยย


ด้านหน้าซอยจะเป็นแบบนี้ค่ะ เดินเข้าไปสองข้างทางจะขายของที่ระลึกหมดเลย ปล.ทัวร์จีนเยอะมากๆ แอบเฟวนิดนึงค่ะ TT
และนี่คือที่มาของชื่อกระทู้ "ตัวเปรี้ยว" ค่ะ อากาศ ร้อน มากกกกกกกก ร้อนแบบแสบผิวกันเลย แล้วเราบังเอิญใส่เสื้อกล้ามไปด้วย พอกลับมาผิวนี่สองสีเลยค่ะ ดำกับแดง ฮือออ~

มีคุณลุงมาเปิดหมวกด้วย "donate for children" แกเจ๋งดีค่ะ เลยบริจาคไป เวลาใครบริจาค แกจะลากเข้าไปเล่นดนตรีด้วย น่ารักดีจังง
เดินเข้าไปอีกนิดจะเจอร้านขาย Iceball ค่ะ ราคา30บาทไทย ถามว่าอร่อยมั้ย .....ตอบได้เลยว่าเป็นภาระมือมากๆค่ะ 5555

ผึ้งบินวนเต็มหน้า เจ้เพลียย กินไปได้นิดนึงก็ทิ้งค่ะ 55

อ้อลืมบอก ที่นี่มีบริการรถสามล้อเข็นด้วยนะคะ แต่ราคาไม่รู้เท่าไหร่ ใครขี้เกียจเดินก็ใช้บริการได้ค่ะ

หลังจากนั้นเราสองคนก็ปั่นจักรยานมาเรื่อยๆตามmap ก็มาเจอกับสถานที่นี้ค่ะ เป็นท่าเรือ Jetty นั่นเอง อารมณ์เหมือนอัมพวาบ้านเราเลย

ซ้ายบนคือร้านiceballที่บอกค่ะ ด้านขวาคือทางเข้า Jetty ด้านในสองข้างทางเป็นร้านขายของที่ระลึก ส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้ย้อนยุคเนอะ พอเดินเข้าไปเราก็จะเจอกับท่าเรือใหญ่ๆค่ะ
และนี่คือบรรยากาศตอนเย็น...

รูปนี้ no filter นะคะ ยิ้ม ย่อรูปเล็กไปนิดนึง YY

เสร็จแล้วเราก็ปั่น ๆๆ ปั่นไปเรื่อยๆจนเจอทะเล ปั่นอ้อมไปเจอกับป้อมปราการที่โด่งดัง แต่ไม่ได้เข้าเพราะอยากประหยัดไม่เสียค่าเข้าค่ะ 55 อย่างที่เราบอก ทุกๆอย่างไม่เป็นไปตามแพลนอยู่แล้ว อันที่จริงวันนี้เรา plan ไปปีนังฮิลล์กัน แต่เห็นจากปริมาณทัวร์นักท่องเที่ยวแล้ว ....เราขออยู่ที่เงียบๆชมบรรยากาศเอาก็ได้ค่ะ 555 อย่างที่เราบอกเนอะ เน้นบรรยากาศรอบๆมากกว่า ฮ่าๆ
วันที่2ช่วงเช้าของเราหมดไปกับการปั่นจักรยานค่ะ หลังจากนั้นเราก็ move ไปยังห้างสรรพสินค้า Komtar อันโด่งดัง โชคดีที่หน้าซอยที่พักเรามีรถเมล์ที่ผ่านแทบทุกที่ค่ะ ก็นั่งกันไปเล้ยย

ค่ารถ 1.4ริงกิต(14บาท)ค่ะ นั่งเข้าKomtarเลย (รูปขวาล่าง)
ห้าง Komtar ของที่นี่เหมือนกับพาต้าผสมแพลตตินั่มบ้านเรา แต่พวกเสื้อผ้าค่อนข้างถูก เราเลยได้ซื้อเสื้อผ้าไปฝากพ่อกับแม่บ้างค่ะ

และนี่คืออาหารมื้อเย็นของเราสองคน 5555 ผู้พันเคเอฟซีนั่นเองง
ที่นี่เคเอฟซีถูกมากนะ ในรูปนั้นประมาณ200บาทไทยเองค่ะ ที่นี่เวลาเราสั่งอะไรเค้าจะโปะๆรวมมาให้ในจานเดียว แต่ที่นี่มี cheese wedges ด้วยอะ ที่ไทยน่าจะมีบ้าง อร่อยดี 52บาทไทย อิอิ
เสร็จแล้วก็เข้าที่พัก เข้าเซเว่นบ่อยมากเลยค่ะ 55 หาขนมเข้าไปกินในห้องเนอะ เซเว่นที่นี่มี coke vanila ด้วย อร่อยดี ฮ่าา หมดไปอีก1วัน


Day 3

วันนี้แพลนคือไปชายหาด batu ferringgi แล้วก็แถวๆ gurney drive ค่ะ
วันนี้ตื่นแต่เช้าออกไปหาอะไรทานที่ gurney plaza ค่ะ นั่งสาย101ไปลงตรงข้ามห้างเหมือนเดิม อิอิ (รูปซ้ายบนคือถึงแล้ว)

ที่นี่ฟิวคล้ายๆ centralworld บ้านเราเลยค่ะ มีช้อปหรูๆเยอะ เราก็เดินเล่นเนอะ หาข้าวกิน สรุปจบที่อาหารอินเดียค่ะ (รูปขวาบน)
มันคือฟิวข้าวแกงกะหรี่มีไก่ด้านบน น้ำซุปก็เป็นcurryอะ รสชาติใช้ได้ จืดไปนิ้ด ส่วนรูปด้านล่างคือร้านแมคโดนัลด์ค่ะ ที่นี่ไอศครีมมีให้เลือกหลายรสมาก โคนสีฟ้า ก็เกร๋ไปอีกแบบค่ะ 55 (ที่เรากินคือไอติมรสlemonค่ะ ราคา1.7ริงกิต)
และเพราะเราไปกันเช้าเกิ้น กว่า gurney drive จะเปิดก็ประมาน5-6โมง รอกันรากงอกเลยค่ะ แต่พอเดินไปถึงแล้วก็ .......เยาวราชจำลองบ้านเรารึเปล่าน้า แต่เหมาะสำหรับคนช่างชิมนะคะ ส่วนตัวเราเฉยๆ เลยกลับมากินร้านโด่งดังที่ห้าง new world park นั่นคือร้าน old town white story ค่ะ

ในรูปคือข้าวไก่สับกับซอสบาร์บีคิว ประมาณนั้น แฟนเราสั่งนาซิเลอมัก ลืมถ่ายรูปมาอะ กรี๊ดดด มันอาหารประจำชาติเขาเลยมั้งน่ะ T_____T
แฟนเราบอกรสชาติเหมือนข้าวกับน้ำพริก เราก็เออๆ 55
ขากลับไฟว้กับคนบ้าที่ป้ายรถเมล์อี้กก เพลียลมนมดัน

Day 4

ตื่นแต่เช้ากันมาถ่ายรูปเล่นรอรถตู้มารับกลับหาดใหญ่ค่ะ


ก่อนกลับแวะร้านเดิมเพื่อเขียนโปสการ์ดเล่นค่ะ

ร้านกาแฟหน้าซอย ร้านน่ารักดีค่ะ แต่ราคาแพงไปนิ้ดด พนักงานพูดไทยได้ด้วยย

รถก็มารับเราตอนเกือบบ่ายค่ะ เราถึงหาดใหญ่โดยสวัสดิภาพตอนประมาณ4โมงเย็น (ทำไมมันไวกว่าขามาฟว่ะ) รอขึ้นเครื่องตอน19.50 ถึงกรุงเทพตอน21.25 ค่ะ

บ้ายบายนะปีนัง <3
---------------------------------------------------------------------------------------

ทริปนี้แทบไม่ได้ไปเยือนจุดแลนด์มาร์คสำคัญเลย 55555 อย่างที่เราบอก สำหรับเราการได้ไปเปิดหูเปิดตามันคือที่สุดแล้วจริงๆ ที่นี่ทุกอย่าง slow มาก รถเมล์ไม่มีการเร่งรีบเหมือนที่ไทย เป็นระเบียบ คนที่นี่น่ารักมากๆๆๆ เราแบบยอมใจเลย ไม่มีการโกง การชาร์ทค่านู่นนี่ ถามใครก็อุ่นใจ เราประทับใจตรงนี้มากจริงๆ
ไว้มีโอกาสจะกลับมาหาใหม่นะคะ ยิ้ม

คำนวณค่าใช้จ่าย
ค่าเครื่องบิน+รถตู้ = 2,500 โดยประมาณ
ค่าที่พัก3คืน(ต่อคน) = 900 บาท
บัคเจทส่วนตัว(ของเรา) = 5,000
ไม่ได้เซฟใดๆทั้งสิ้นเลยค่าา 555 เอาเป็นว่าซื้อประสบการณ์นอกสถานที่เนอะ ยิ้ม

สุดท้ายขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ ใครจะไปคิดว่าเขียนรีวิวเหนื่อยขนาดนี้ 555
หวังว่าคงให้ความรู้กับคนที่อยากไปแอ่วปีนังไม่มากก็น้อยเนอะ
ไว้ไปเที่ยวไหนจะมารีวิวอีกเน้อ มีอะไรสงสัยสามารถไปพูดคุยกันได้ที่ https://www.facebook.com/nuc.nic.9 เฟสนี้เลยย

ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้านะคะนานานอน
ชื่อสินค้า:   Penang ปีนัง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่