[CR] ทริปฝรั่งเศส in JUNE : PARIS > ROLAND GARROS > PROVENCE > COTE D'AZUR : Day 2 Paris Cruise



ตอนที่แล้ว Day 1 : Paris วิวดี๊ดีย์ http://pantip.com/topic/33777939

ตากฝนกินอิ่มนอนหลับเมื่อคืน เช้ามาก็ได้เวลาลุยปารีสเต็มๆ วันซะที ช่วงนี้ปลายฤดูใบไม้ผลิละแต่อากาศยังเย็นต่ำกว่า 20c อยู่ ก่อนมาเช็คสภาพอากาศกันด้วย ที่นี่พยากรณ์กันไม่ค่อยพลาดเท่าไหร่ อากาศแบบนี้ใส่แจ็คเก็ตหรือเบลเซอร์ซักตัวกับผ้าพันคอก็กำลังดี ฤดูนี้พระอาทิตย์ขึ้นตั้งแต่ตี 5กว่าๆ ไปตกเอาเกือบสี่ทุ่ม ร้านรวงก็จะขยายเวลาปิดออกไปจากปกติ ตราบใดแสงไม่หมดนักท่องเที่ยวก็ยังไม่ซา

นี่ตื่นตั้งแต่ 6โมง มาสั่งงานผ่านไลน์กับออฟฟิสที่กรุงเทพนิดนึง จะได้แอ้บว่ามาทำงานน เปล่ามาเที่ยวนะเออ มองไปนอกหน้าต่างเห็นชีวิตเรียลปาริเซียง วิ่งออกกำลังกาย walk the dog กันรอบสวน champ de mars ส่วนชีวิตนักท่องเที่ยวแถวนี้นั้นเริ่มกันราวๆ 10โมง

เมื่อวานนัดเวลาเสิร์ฟอาหารเช้ากับ Florence ไว้ตอน 8:30 พอได้เวลานางก็ยกอาหารเช้ามาเสิร์ฟ ยกโต๊ะ จัดที่นั่งใหม่ โดยเอาโต๊ะไปวางริมหน้าต่าง ให้นั่งทานอาหารเช้าไปด้วยดูวิวไอเฟลไปด้วย ชุดอาหารเช้าที่เสิร์ฟมี ขนมปังปิ้ง ครัวซอง ขนมปังอื่นอีก 2-3 อย่างให้เลือก พร้อมด้วย เนย แยมผลไม้ และนูเทลล่า ต่อมาก็โยเกิร์ตรสธรรมชาติเสิร์ฟพร้อมน้ำผึ้ง ให้เลือกเติมปรับหวานได้ตามชอบ ส่วนเครื่องดื่มจัดไว้ให้ 3 อย่าง น้ำส้มคั้น ชา กาแฟ โดยกาแฟเสิร์ฟมาใน coffee press ของ Bodum ซึ่ง portion พอดีสำหรับ 2คน ส่วนชาเสิร์ฟน้ำร้อนมาให้ 1กา แล้วให้เลือกชาซองได้ตามชอบ ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายมาก Green tea Earl Gray Darjeeling มากมาย you name it พร้อมน้ำตาลซองและนมสำหรับเติมชากาแฟอีก 1เหยือกเล็ก



แว่บแรกที่เห็นคือ setting อลังการมาก มีจัดโต๊ะให้ดูวิวอีกต่างหาก ด้วยราคาห้องต่อคืนเท่านี้ได้อาหารเช้าแบบนี้ วิวขนาดนี้ โอ้โหววววว ไม่รู้สึกว่าคุ้มอะไรเท่านี้มาก่อน โคตรคุ้มๆๆๆๆ จริมๆๆๆ พอทานเสร็จนางก็มาเก็บโต๊ะแล้วก็ไปทำงานตามชีวิตปกติของนาง ส่วนนี่ยังขอ slow life ต่ออีกนิดโดยวันนี้มีแผนคร่าวๆ คือ ไปหาซื้อ sim เล่นเน็ตก่อน เพื่อความสะดวกในการหาข้อมูลเที่ยวต่างๆ และลดอาการลงแดงจากการติดเน็ต พอเที่ยงก็จะไปล่องเรือทานกลางวันกับ Bateaux Parisien ส่วนบ่ายๆ เย็นๆ อยากไปไหนค่อยว่ากันอีกที แพลนหลวมเฟร่อ

ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่า ปารีสมีที่ให้เที่ยว กิจกรรมให้ทำเยอะมากไปหมด นี่จะไม่บอกว่ากิจกรรมไหนไม่น่าทำ อันนี้ไม่น่าไป เพราะ lifestyle การเที่ยวแต่ละคนไม่เหมือนกัน เอาว่าจะเล่าที่ไปเที่ยวมาให้ฟังว่าดีมั้ย a must try รี a must do รึเปล่าละกันโนะ

นี่เป็นการมาปารีสครั้งที่ 4 มันก็มีบางที่บางอย่างที่อยากมาซ้ำอีก บางอย่างที่ยังไม่ทำมาหนนี้ต้องมาซ่อมให้ได้ แล้วก็บางที่ไปมาละครั้งนึงก็คือครั้งเดียวพอละก็มีไม่น้อย มาเล่าในส่วนที่อยากมาซ่อมก่อนนั่นคือการล่องแม่น้ำแซน อันนี้เคยนั่งแบบดูวิวเล่นๆ มาแล้ว คือชอบบรรยากาศริมน้ำที่นี่มาก ผู้คนเอย อาคารเอย สวยไปตลอดสองฝั่งแม่น้ำ มารอบนี้เลยอยากลองล่องไปด้วยทานอาหารด้วยดู จะเหมือนล่องเจ้าพระยากินข้าวมั้ยนะ

โปรแกรมล่องแซนแล้วทานข้าวมีให้เลือกหลักๆ อยู่ 2บริษัท Bateaux Parisien by Sodexo กับ Bateaux Mouche ลองเข้าไปดูรายละเอียดราคากับเมนูกันได้ใน www.paris-info.com ซึ่งสามารถจองและจ่ายล่วงหน้าจากเมืองไทยไปได้เลย ไปถึงก็เดินสวยๆ ยื่น voucher แล้วก็ขึ้นเรือได้เลยแบบ hassle free ดีงาม นี่ดูข้อมูลแล้วก็เลือกเอาบริษัทที่ขึ้นท่าเรือใกล้ๆ เลยเลือก Bateaux Parisien เพราะเรือออกที่ท่าเรือตรงหอไอเฟลเลย จากหน้าบ้านข้ามถนนลงบันไดไปตลิ่งปุ๊บถึงเลย คราวนี้ก็มาเลือกว่ากินมื้อไหน มื้อกลางวันตกคนละ 57e ดินเนอร์ก็แพงกว่านี้อีกราวๆ 20e ดูจากราคาละเลือกกลางวันดีกว่า ถูกดี!!! (แต่ราคานี้กินตามร้านทั่วไปนี่คือแพงงงงง) อาหารเสิร์ฟทั้งหมด 3 courses ใช้เวลาล่องเรือประมาณ 2:30 เริ่มจากไอเฟลล่องขึ้นไปทาง Pont Alexandre ผ่าน Museé d'Orsay > île de la cité > Notre Dame จบที่ Biblioteque แล้วก็วนเรือกลับทางเดิม ผ่านไอเฟล เลยไปจนถึงรูปปั้นเทพีเสรีภาพ แล้วก็วนมาจอดที่ไอเฟลเป็นอันจบรอบ

เมื่อซื้อตั๋วจากเวบแล้วจะมี voucher ส่งมาในอีเมล์ก็ให้พิมพ์มาด้วย ในนั้นจะมีข้อมูลเวลา boarding เริ่มประมาณ 12:15 เรือออก 12:45 ส่วน dress code คือ proper attire ก็แต่งยีนส์ เสื้อยืด เบลเซอร์ รองเท้าหนัง/ผ้าใบได้ แต่เสื้อกล้าม/ขาสั้น/รองเท้าแตะนี่คงไม่เหมาะ ไม่รู้ว่าเขาจะให้ขึ้นรึเปล่าด้วยนะ ก่อนลงเรือจะมีจุด check-in บนท่าเรือ ยื่น voucher แลกเป็นตั๋วจริง แล้วพนักงานก็จะแจกเมนูให้ตามภาษาที่ต้องการ เสร็จแล้วก็ไปรอ boarding ใน Lounge ซึ่งมีที่นั่งน้อยมากกก เลยต้องยืนรอกันไป พอถึงเวลา boarding ก็จะมีพนักงานเสิร์ฟพาไปนั่งตามโต๊ะตามโซนที่เขาจัดไว้ ไม่ได้เลือกเอง แต่น่าจะจัดที่นั่งตามราคาตั๋ว เพราะมื้อนี้มีให้เลือก 2ราคา





เรือดูสวย modern ติดแอร์ฉ่ำทั้งลำ หลังคาเป็นกระจกโค้งจรดลงมาถึงกราบเรือซ้าย-ขวา ไม่ต้องห่วงน้ำกระเด็น ดูวิวได้สวยๆ น้ำก็ไม่เปียก กลางหลังคายังติดม่านไฟฟ้าปรับบังแดดให้ลูกค้าได้ตามสถานการณ์ ที่นั่งที่วิวดีเฟร่อ โรแมนติกสุด คือริมกราบเรือทั้งสองฝั่ง แต่แดดนี่แม่เอ๊ยยยย มากกกกก ม่านก็บังให้ไม่ถึง ตอนมานั่งนี่ได้นั่งโซนถัดมาจากกราบเรือ แอบอิจฉาโต๊ะริมกราบเล็กน้อย พอตอนกินไปเห็นแต่ละคนหยิบโบรชัวร์มาพัดพั่บๆๆๆ 55ไม่อิจละ นั่งตรงนี้วิวดีพอประมาณ แดดไม่ร้อน ถูกจริตคนไทยแพ้แดดที่สุดละ ส่วนถ้าใครมาล่องมื้อเย็นไม่ต้องกลัวจะไม่เห็นวิวสองฝั่ง พอเรือผ่าน monument หลักๆ ริมน้ำ เรือมีสปอตไลท์เป็นสิบ เปิดไฟสาด monument ให้ถ่ายรูปกันสวยๆได้เลย



พอเรือเริ่มออกจากท่า พนักงานเสิร์ฟแต่ละโซนก็จะมาเสิร์ฟขนมปังกับ apéritif และน้ำก่อน แล้วค่อยมาแนะนำตัวกับแต่ละโต๊ะ พร้อมจดเมนูที่แต่ละคนเลือกไว้ทั้ง 3คอร์ส นี่ใช้หลักมา 2คนต้องได้ 6เมนูไม่ซ้ำ ได้รีวิวด้วย แอบแลกกันชิมได้ด้วย แต่ถ้าไปกินกะฝรั่งไปจิ้มชิมจานคนอื่นนี่ผิด norm นะ ส่วนใครไม่เคยชินกับ table setting แบบยุโรป วิธีการก็ไม่ยากมาก ผ้าเช็ดปากก็เอามาคลุมตักไว้ เวลาเช็ดก็หยิบมุมผ้ามาบรรจงเช็ด อย่าขยุ้มมาทั้งผืน ส่วนแก้วที่วางไว้ถ้างงก็ไม่ต้องไปจับ ให้พนักงานเขารินให้ จิบเสร็จก็วางที่เดิม ส่วนส้อมกะมีดใช้จากข้างนอกเข้าข้างในเป็นคู่ๆ กินแต่ละคอร์สเสร็จก็ให้เขาเก็บมีดส้อมไปพร้อมกัน แล้วจานต่อมาก็ใช้คู่ถัดไป ส่วนไวน์ถ้าพนักงานมาเสิร์ฟ เขาจะให้ดูขวดก่อนว่าถูกต้องมั้ย เปิดขวดให้คนนึงชิม ถ้าโอเคก็รินให้ทั้งโต๊ะ เพราะงั้นต้องมอบหน้าที่มีคนนึงชิมนะ ไม่ต้องเกี่ยงกัน คนชิมถ้าไม่เป็นก็แอ้บดมนิดนึงก่อน เหวี่ยงไวน์รอบแก้วนิดนึง จิบซื้ดดดนิดนึง กลั้วให้ทั่วกระพุ้งแก้ม แอ้บพยักหน้า c'est bien แค่นี้ก็จบละ ง่ายมะ เนียนๆ like a pro ส่วนแต่ละคอร์สหน้าตาเป็นไงมาชมกันตามรูป


Appetizer: Asparagus with soft boiled egg จานนี้อร่อยมั่กๆ


Pont Alexandre III


Notre Dame


Entreé: Tender Veal with Simmer Vegetable เนื้อลูกวัว แห้งไปหน่อย ไม่ Juicy เท่าไหร่ แอบกินไม่หมด อีกจานเป็นเสต็กอร่อยกว่าเยอะ


Dessert: Strawberry and Rhubarb Tartlet อร่อยดีสตรอฉ่ำมั่กๆ

ระหว่างล่องไปก็จะมีนักร้องมาร้องเพลงสดขับกล่อม เข้ากับบรรยากาศ ทำให้เจริญอาหารมากๆ แถมพอกลับเรือตรงเทพีเสรีภาพ ก็ร้องเพลง New York New York อีกด้วยนะ แทบจะลุกขึ้นมาเตะขาเต้น Broadway กันทั้งลำ แล้วก็ที่ขาดเสียมิได้คือการถ่ายรูปที่ระลึก อันนี้ทุกคนคงคุ้นเคย เหมือนบ้านเราถ่ายรูปติดจานนี่แหล่ะ เขาจะถ่ายมาโต๊ะละ 5-6 รูปมาให้เลือกขนาด 6"x8" จะเอาหรือไม่ก็ตามอัธยาศัย สนนราคาใบละ 15e ส่วนรูปที่ไม่เอาเขาก็เอาไปทิ้งบ้าง ติดประจานบนท่าเรือบ้าง 555 เอาไว้โฆษณาคนที่อยากลงเรือ แบบนี่ไงดูสิ ล่องเรือกะเรา มีความสุขกันทั้งโต๊ะเลย ละก่อนจบทริปขึ้นจากเรือ ก็ขอถ่ายรูปกับพนักงานเสิร์ฟไว้เป็นที่ระลึก Sonya and Sebastian บริการดีมากๆๆ ทั้งคู่ โดยเฉพาะ Sebstian เสิร์ฟไปเต้นไป ฮามาก สรุปว่าใครอยากมาเอาบรรยากาศโรแมนติก ฉลองวันเกิด ฮันนีมูน หรือครบรอบวาระสำคัญ แนะนำเลยดีงาม ส่วนใครชอบการล่องแม่น้ำชิลๆ งานนี้ก็ไม่ควรพลาด


มีนักร้องขับกล่อม ตลอดการเดินทาง


กลับเรือๆ New York นิวย้อร์คคค


ปิดท้ายด้วยกาแฟเอสเปรสโซ่

ขึ้นจากท่าปุ๊บก็เดินขึ้นจากตลิ่งตรงเข้าบ้านสบายอุรา แวะเอาเสื้อบางตัวไปเก็บเพราะอากาศเริ่มร้อนขึ้นละ แล้วค่อยออกไปเที่ยวต่อ ก่อนจะไปต่อเด๋วมาเล่าเรื่อง connectivity กันแพ้พพพ เพราะสมัยนี้ขาดเน็ตไปเหมือนจะลงแดง อัพรูปไม่ได้ เช็คอินไม่ได้ โหลดแผนที่ไม่ขึ้น อ่ออวมันหงุดหงิดหัวใจ เที่ยวไม่สนุกเลย มันต้องถ่ายปุ๊บอัพปั๊บ ยิงสลุตรูปรัวๆๆ ทันท่วงทีโนะ

สำหรับฝรั่งเศส มีให้เลือก 2option หนึ่งคือเปิด data เหมา unlimited มาจากไทยตกวันละราวๆ 280 บาทเกือบทุกค่าย ตีซะว่า 7.5e/วัน ส่วน option ที่ 2 ก็คือไปซื้อ Sim เติมเงินสำหรับเล่นเน็ต ก็มีค่าย SFR กับ Orange ให้เลือกเป็นหลัก นี่เลือกใช้ Orange เพราะหาข้อมูลมาแต่ Orange 555 โดย sim พร้อมแพคเกจเน็ต 2GB ตกที่ 14.90e โดยเอาไว้ใส่ Tablet โดยเฉพาะ ไม่ก็ใส่ Pocket Wifi ที่อาจจะต้องปลดล็อคมาก่อนแล้วเท่านั้น กรณีที่เอามาเอง ส่วนถ้าใส่ tablet ก็ง่ายๆ สัญญาณมาปุ๊บก็แชร์ให้เครื่องอื่นได้โลดๆๆ ถ้าถามว่ามา 2คน ใช้เน็ตร่วมกันซัก 3เครื่อง มือถือเล่นเฟสเล่นอินสตาแกรมแชร์ตลอดรัวๆ ส่วน tablet เปิด map ดูทาง เที่ยวทั้งหมด 6วัน 2GB พอมั้ย ตอบเลยไม่พอ ถ้าเอาสบายใจขี้เกียจเติมเงิน เปิดไป 2แพคเกจ 2เครื่องเลย ประหยัดกว่าและวุ่นวายน้อยกว่ามาเติมเงินทีหลังมากกกกกกก ไม่งั้นก็ใช้ให้หมดแพคนึง แล้วก็หาช้อปใหม่ซื้ออีกทีก็ได้ เพราะเติม 10e ได้แค่ 1GB ถ้าใช้ไปๆๆ จนหมดจิ๊กที่สามจะเติมเพิ่มอีกก็ไม่คุ้มละ ส่วนการเติมเงินลำบากมั้ย ก็ค่อนข้างลำบากพูดเลย เพราะพอหมดปุ๊บสัญญาณจะตัดเข้าหน้าเติมเงินตลอดเวลา จะเติมผ่านหน้าเวบได้แต่ต้องหลังจากลงทะเบียน sim ที่ช้อปตอนที่ซื้อแล้ว 1วัน ระบบจะส่ง password ให้ทาง sms ต้อง login เข้าไปหลายขั้นตอน พอถึงเวลาจะจ่ายด้วยบัตรเครดิต บัตรเครดิตไทยก็จ่ายไม่ค่อยผ่านตลอดๆๆ หงุดหงิดยิ่งนัก ถ้าลองหลายบัตรแล้วไม่ผ่าน อีกทางเลือกคือโทรไปเติมเงินซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศสล้วน ถ้าพอฟังได้แปลได้ก็ไม่ยากอยู่ ส่วนบัตรเติมเงินซื้อได้ที่ช้อป Orange ไม่ก็ร้าน relay มีขายเป็น slip เหมือนเติมเงินทรูมูฟที่ 7-11 ประมาณนั้น

(มีต่อ...)
ชื่อสินค้า:   Paris, France
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่