สวัสดีค่ะ เราเพิ่งกลับมาจากทริป โอซาก้า-เกียวโต เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งกระทู้เกี่ยวกับการเดินทางและท่องเที่ยวในเมืองโอซาก้าและเกียวโต ค่อนข้างจะมากอยู่แล้วบนพันทิปเราจะข้ามๆไปแล้วกันนะคะ
ในส่วนวันนี้เราจึงอยากมารีวิวบริการ ทานอาหารกับคนท้องถิ่น หรือในชื่อของบริการว่า Nagomi Visit
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้www.nagomivisit.com
ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าเราไม่เคยใช้บริการมาก่อน แต่คิดว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจดี จึงได้ลองสมัครใช้บริการ ในส่วนของ Nagomi Visit ค่าบริการจะตกอยู่ที่หัวละ 3500 เยน และมีบริการในหลายเมืองในญี่ปุ่น เราลองเลือกใช้บริการในเกียวโต โดยเราระบุวันที่ต้องการลงไป ซึ่งก็คือวันที่ 27 พค. และทางเว็บจะให้ใส่ optional เผื่อสำหรับวันอื่นๆ เราจึงเลือกเป็น 27-28 พค. หน้าตาของหน้าเว็บในส่วนตรงนี้ ให้เข้าไปในส่วนของ Booking ที่อยู่ด้านบนแถบสีชมพู จากนั้นในหน้าเว็บจะแจ้งสเต็ปการดำเนินงานให้เราเข้าใจคือ
สเต็ป 1 : กรอกข้อมูลส่วนของ booking form
สเต็ป 2 : ทาง nagomi หาโฮสให้เราเลือก หากเมืองใหญ่ๆและเป็นวันหยุดอาจมีโฮสให้เลือกมากมาย โดยระยะเวลาให้การหาโฮสนี้จะใช้เวลาประมาณ 3 วัน แล้วเค้าจะเมล์แจ้งเราไปค่ะ
สเต็ป 3 : ทางเราเลือกโฮส และคอนเฟิร์มชำระเงิน
(กรุณา book ก่อนประมาณ 10วันนะคะ)
Where :
ในส่วนของเมนู where เค้าจะให้เราเลือกจากdrop down ว่าเราสนใจไปทานแถวไหน โดยจะได้หาโฮสที่ใกล้ในรัศมีการเดินทางไม่เกิน 1 ชั่วโมง
When :
เพื่อจะได้ตัวเลือกโฮสมากขึ้น ทาง nagomi จะให้เราเพิ่มวันที่เราต้องการจองทานอาหารได้ค่ะ เช่นดูตามรูปที่เราเลือกได้เลยค่ะ ส่วนกากบาทเล็กๆด้านหลัง เราสามารถลบได้หากเราเปลี่ยนใจ
Who’s coming :
ให้เราแจ้งไปว่าคนที่จะไปทานอาหารกับเรามีใครบ้าง รวมเราด้วยนะคะ เสร็จแล้วก็กด continue
จากนั้นจะเข้าสู่หน้าลงทะเบียน จะเข้าโดยใช้ล็อกอินผ่าน facebook หรือจะสมัครทางอีเมล์ก็ได้ค่ะ
จากนั้นหลังทำการล็อกอิน ซึ่งเราเลือกทาง facebook ก็จะมาที่หน้าตานี้ค่ะ ปล.อันนี้คือสมมตินะคะ เลยเลือกผิดไปเลือก male 2คน
จะมีช่องให้เรากรอกรายละเอียด ชื่อ อายุ ประเทศ และให้แนะนำตัวสั้นๆค่ะ สำหรับเราก็เขียนไปว่าเราจะไปตั้งแต่วันที่เท่าไหร่ เราไม่ทานอะไร เราจะถึงเมืองนั้นประมาณวันไหน ไปกี่คน อะไรแบบนี้ค่ะ เราได้กรอกรายละเอียดไปด้วยว่าอยากได้วันที่ 27 เพราะเป็นวันเกิดของเรา อยากให้วันเกิดเราเป็นอะไรที่พิเศษ และขออาหารที่ไม่ใช่เนื้อวัว เนื่องจากเราไม่ทานเนื้อ
Preferred host type (if any) :
จากนั้นจะเป็นในส่วนว่าเราอยากได้โฮสแบบไหน เช่นเป็นครอบครัว มีลูกเล็ก หรือแบบเพื่อนที่อยู่ด้วยกัน หรือโฮสเดี่ยว ถ้าเราอะไรก็ได้ก็กรอก any
Dietary restrictions :
มีอะไรที่เป็นข้อห้าม เช่นเราไม่ทานอะไร เราอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก ขอไขมันต่ำอะไรก็ว่าไป
จากนั้นจะมีช่องให้กรอกอีเมล์ค่ะ ซึ่งจะถูกส่งไปให้โฮสเราเห็นหลังจากเราดำเนินการเลือกเค้าและชำระเงินเรียบร้อย ซึ่งกรอกไปก่อนได้เลยค่ะ แล้วก็คลิกตรง Agree to terms and conditions แล้วกด submit ได้เลยค่ะ
จากนั้นประมาณ 3 วันทาง nagomi จะส่งเมล์มาหน้าตาแบบนี้ บอกว่า เค้าหาโฮสแล้ว ให้เราเข้าไปเลือกโฮสที่เราชอบได้เลย
สำหรับวันที่เราเลือกไปในตอนที่เราไปเดือนที่แล้วนั้น ทาง nagomi สามารถหาโฮสให้เราได้เพียง 1 ครอบครัวเนื่องจากเราเลือกวันธรรมดา เราเข้าไปดูเป็นพ่อแม่และลูกอีก 2 คน (คนเล็กยังเด็กทารกมากกกก) แต่ดูจากรายละเอียดเห็นเขียนว่าตัวพ่อ เป็นพ่อครัวประจำร้านอาหารที่ญี่ปุ่น ก็เลยตกลงเอา เพราะเค้าเลือกวันที่ 27 ด้วย หลังจากชำระเงิน ทาง nagomi จะให้อีเมล์และเบอร์โทรของโฮสไว้ให้เราติดต่อ เราก็จะติดต่อไปว่าจะไปนัดเจอกันที่ไหนได้เลยค่ะ
พอถึงวันจริง 27 พค.เราก็ไปถึงก่อนเวลานัดประมาณ 30 นาทีค่ะ เริ่มร้อนยืนนาน เลยอีเมล์ไปแจ้งโฮสว่าเรามาถึงแล้วนะ สักพักโฮสก็มาพร้อมเข็นรถเข็นเด็ก น่ารักมากกก และจูงคนพี่อายุประมาณ 4 ขวบเดินมาด้วย เราเลยมอบตุ๊กตาช้างที่ซื้อจากเมืองไทยให้เด็กไป ครอบครัวนี้น่ารักมากค่ะ ไปถึงบ้าน (อยู่ลึกเหมือนกันจากปากซอย) เค้าก็ให้เราเล่นกับลูกเค้า ส่วนเค้าและภรรยาก็เตรียมอาหาร ทางเราเลยขอเป็นลูกมือช่วยจัดวางจาน แต่ตอนนั้นไม่ได้ถ่ายนะคะ หลังจากนั้นทางภรรยาก็มาจัดใหม่ เหมือนเราจัดเรียงถ้วยจานไม่ค่อยถูก ทุกคนจะมีของตัวเองเป็นเซ็ท ไม่ได้กินแบบแชร์กันเหมือนครอบครัวไทยค่ะ เราถามเค้าว่ากินแบบเป็นเซ็ทแบบนี้กันทุกวันหรอ เค้าบอกว่าใช่ แล้วก็ทำหน้างงที่คนไทยกินแบบกับข้าวแชร์กัน 555+
อันนี้เป็นรูปรวมแล้วกันนะคะ ทางโฮสน่ารักมาก ทำเซอร์ไพรส์เราโดยให้ลูกชายวิ่งไปปิดไฟ แล้วเอาเค้กมาให้เราเป่าด้วยค่ะ เป็นเค้กที่ได้จากคนไม่รู้จักครั้งแรก แถมต่างประเทศด้วย ระหว่างทานข้าวก็จะได้สนทนากันเรื่องเกี่ยวกับวัฒนธรรมหรืออยากรู้อะไรเกี่ยวกับญี่ปุ่น เราได้ชวนโฮสมาไทยด้วย จนได้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเราก็ขอตัวกลับเพราะที่พักเราค่อนข้างไกล 5555 ในส่วนตรงนี้เราประทับใจโฮสมาก ครั้งหน้าถ้าไปญี่ปุ่นอีก ถึงจะเป็นเมืองอื่นก็จะขอใช้บริการครอบครัวอื่นแบบนี้อีก วันนี้ขอนำมาเป็นทางเลือกสำหรับคนที่จะไปญี่ปุ่นแล้วอยากลองอะไรแบบนี้ เห็นว่าทางประเทศอื่นก็มีทางฝั่งยุโรป อย่างเดนมาร์กก็มี dine with the danes ขอบคุณที่นั่งดูกระทู้เราจนจบนะคะ สวัสดีค่ะ
ทางโฮสมีเตรียมเค้กมาเซอร์ไพร์สเราด้วยค่ะ
ส่วนใครที่สนใจอยากดูรีวิวอื่นเช่น แต่งตัวไมโกะราคาถูก ปั่นจักรยานชิวๆในเกียวโต แจ้งได้เลยนะคะ เดี๋ยวไว้จะมาทำรีวิวให้จ้า
[CR] Review : บริการทานข้าวกับคนท้องถิ่นในญี่ปุ่น กับ Nagomi Visit
ในส่วนวันนี้เราจึงอยากมารีวิวบริการ ทานอาหารกับคนท้องถิ่น หรือในชื่อของบริการว่า Nagomi Visit
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าเราไม่เคยใช้บริการมาก่อน แต่คิดว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจดี จึงได้ลองสมัครใช้บริการ ในส่วนของ Nagomi Visit ค่าบริการจะตกอยู่ที่หัวละ 3500 เยน และมีบริการในหลายเมืองในญี่ปุ่น เราลองเลือกใช้บริการในเกียวโต โดยเราระบุวันที่ต้องการลงไป ซึ่งก็คือวันที่ 27 พค. และทางเว็บจะให้ใส่ optional เผื่อสำหรับวันอื่นๆ เราจึงเลือกเป็น 27-28 พค. หน้าตาของหน้าเว็บในส่วนตรงนี้ ให้เข้าไปในส่วนของ Booking ที่อยู่ด้านบนแถบสีชมพู จากนั้นในหน้าเว็บจะแจ้งสเต็ปการดำเนินงานให้เราเข้าใจคือ
สเต็ป 1 : กรอกข้อมูลส่วนของ booking form
สเต็ป 2 : ทาง nagomi หาโฮสให้เราเลือก หากเมืองใหญ่ๆและเป็นวันหยุดอาจมีโฮสให้เลือกมากมาย โดยระยะเวลาให้การหาโฮสนี้จะใช้เวลาประมาณ 3 วัน แล้วเค้าจะเมล์แจ้งเราไปค่ะ
สเต็ป 3 : ทางเราเลือกโฮส และคอนเฟิร์มชำระเงิน
(กรุณา book ก่อนประมาณ 10วันนะคะ)
Where :
ในส่วนของเมนู where เค้าจะให้เราเลือกจากdrop down ว่าเราสนใจไปทานแถวไหน โดยจะได้หาโฮสที่ใกล้ในรัศมีการเดินทางไม่เกิน 1 ชั่วโมง
When :
เพื่อจะได้ตัวเลือกโฮสมากขึ้น ทาง nagomi จะให้เราเพิ่มวันที่เราต้องการจองทานอาหารได้ค่ะ เช่นดูตามรูปที่เราเลือกได้เลยค่ะ ส่วนกากบาทเล็กๆด้านหลัง เราสามารถลบได้หากเราเปลี่ยนใจ
Who’s coming :
ให้เราแจ้งไปว่าคนที่จะไปทานอาหารกับเรามีใครบ้าง รวมเราด้วยนะคะ เสร็จแล้วก็กด continue
จากนั้นจะเข้าสู่หน้าลงทะเบียน จะเข้าโดยใช้ล็อกอินผ่าน facebook หรือจะสมัครทางอีเมล์ก็ได้ค่ะ
จากนั้นหลังทำการล็อกอิน ซึ่งเราเลือกทาง facebook ก็จะมาที่หน้าตานี้ค่ะ ปล.อันนี้คือสมมตินะคะ เลยเลือกผิดไปเลือก male 2คน
จะมีช่องให้เรากรอกรายละเอียด ชื่อ อายุ ประเทศ และให้แนะนำตัวสั้นๆค่ะ สำหรับเราก็เขียนไปว่าเราจะไปตั้งแต่วันที่เท่าไหร่ เราไม่ทานอะไร เราจะถึงเมืองนั้นประมาณวันไหน ไปกี่คน อะไรแบบนี้ค่ะ เราได้กรอกรายละเอียดไปด้วยว่าอยากได้วันที่ 27 เพราะเป็นวันเกิดของเรา อยากให้วันเกิดเราเป็นอะไรที่พิเศษ และขออาหารที่ไม่ใช่เนื้อวัว เนื่องจากเราไม่ทานเนื้อ
Preferred host type (if any) :
จากนั้นจะเป็นในส่วนว่าเราอยากได้โฮสแบบไหน เช่นเป็นครอบครัว มีลูกเล็ก หรือแบบเพื่อนที่อยู่ด้วยกัน หรือโฮสเดี่ยว ถ้าเราอะไรก็ได้ก็กรอก any
Dietary restrictions :
มีอะไรที่เป็นข้อห้าม เช่นเราไม่ทานอะไร เราอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก ขอไขมันต่ำอะไรก็ว่าไป
จากนั้นจะมีช่องให้กรอกอีเมล์ค่ะ ซึ่งจะถูกส่งไปให้โฮสเราเห็นหลังจากเราดำเนินการเลือกเค้าและชำระเงินเรียบร้อย ซึ่งกรอกไปก่อนได้เลยค่ะ แล้วก็คลิกตรง Agree to terms and conditions แล้วกด submit ได้เลยค่ะ
จากนั้นประมาณ 3 วันทาง nagomi จะส่งเมล์มาหน้าตาแบบนี้ บอกว่า เค้าหาโฮสแล้ว ให้เราเข้าไปเลือกโฮสที่เราชอบได้เลย
สำหรับวันที่เราเลือกไปในตอนที่เราไปเดือนที่แล้วนั้น ทาง nagomi สามารถหาโฮสให้เราได้เพียง 1 ครอบครัวเนื่องจากเราเลือกวันธรรมดา เราเข้าไปดูเป็นพ่อแม่และลูกอีก 2 คน (คนเล็กยังเด็กทารกมากกกก) แต่ดูจากรายละเอียดเห็นเขียนว่าตัวพ่อ เป็นพ่อครัวประจำร้านอาหารที่ญี่ปุ่น ก็เลยตกลงเอา เพราะเค้าเลือกวันที่ 27 ด้วย หลังจากชำระเงิน ทาง nagomi จะให้อีเมล์และเบอร์โทรของโฮสไว้ให้เราติดต่อ เราก็จะติดต่อไปว่าจะไปนัดเจอกันที่ไหนได้เลยค่ะ
พอถึงวันจริง 27 พค.เราก็ไปถึงก่อนเวลานัดประมาณ 30 นาทีค่ะ เริ่มร้อนยืนนาน เลยอีเมล์ไปแจ้งโฮสว่าเรามาถึงแล้วนะ สักพักโฮสก็มาพร้อมเข็นรถเข็นเด็ก น่ารักมากกก และจูงคนพี่อายุประมาณ 4 ขวบเดินมาด้วย เราเลยมอบตุ๊กตาช้างที่ซื้อจากเมืองไทยให้เด็กไป ครอบครัวนี้น่ารักมากค่ะ ไปถึงบ้าน (อยู่ลึกเหมือนกันจากปากซอย) เค้าก็ให้เราเล่นกับลูกเค้า ส่วนเค้าและภรรยาก็เตรียมอาหาร ทางเราเลยขอเป็นลูกมือช่วยจัดวางจาน แต่ตอนนั้นไม่ได้ถ่ายนะคะ หลังจากนั้นทางภรรยาก็มาจัดใหม่ เหมือนเราจัดเรียงถ้วยจานไม่ค่อยถูก ทุกคนจะมีของตัวเองเป็นเซ็ท ไม่ได้กินแบบแชร์กันเหมือนครอบครัวไทยค่ะ เราถามเค้าว่ากินแบบเป็นเซ็ทแบบนี้กันทุกวันหรอ เค้าบอกว่าใช่ แล้วก็ทำหน้างงที่คนไทยกินแบบกับข้าวแชร์กัน 555+
อันนี้เป็นรูปรวมแล้วกันนะคะ ทางโฮสน่ารักมาก ทำเซอร์ไพรส์เราโดยให้ลูกชายวิ่งไปปิดไฟ แล้วเอาเค้กมาให้เราเป่าด้วยค่ะ เป็นเค้กที่ได้จากคนไม่รู้จักครั้งแรก แถมต่างประเทศด้วย ระหว่างทานข้าวก็จะได้สนทนากันเรื่องเกี่ยวกับวัฒนธรรมหรืออยากรู้อะไรเกี่ยวกับญี่ปุ่น เราได้ชวนโฮสมาไทยด้วย จนได้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเราก็ขอตัวกลับเพราะที่พักเราค่อนข้างไกล 5555 ในส่วนตรงนี้เราประทับใจโฮสมาก ครั้งหน้าถ้าไปญี่ปุ่นอีก ถึงจะเป็นเมืองอื่นก็จะขอใช้บริการครอบครัวอื่นแบบนี้อีก วันนี้ขอนำมาเป็นทางเลือกสำหรับคนที่จะไปญี่ปุ่นแล้วอยากลองอะไรแบบนี้ เห็นว่าทางประเทศอื่นก็มีทางฝั่งยุโรป อย่างเดนมาร์กก็มี dine with the danes ขอบคุณที่นั่งดูกระทู้เราจนจบนะคะ สวัสดีค่ะ
ทางโฮสมีเตรียมเค้กมาเซอร์ไพร์สเราด้วยค่ะ
ส่วนใครที่สนใจอยากดูรีวิวอื่นเช่น แต่งตัวไมโกะราคาถูก ปั่นจักรยานชิวๆในเกียวโต แจ้งได้เลยนะคะ เดี๋ยวไว้จะมาทำรีวิวให้จ้า
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น