สวัสดีทุกท่านคับ ไม่ขอเกริ่นมากมาย เรามีข้อมูลมาเตือนให้ระวังกัน เกี่ยวกับคอร์สตรวจสุขภาพของ CONNEX จาก รพ.สมิติเวช
รายละเอียดดังนี้คับ

.เมื่อวันที่ 22/5/2015 เราไปทำธุระที่โลตัสพระราม 3 เดินผ่านบริเวณบันไดเลื่อนชั้น 2 อยู่หลายรอบมาก เนื่องจากไม่คุ้นห้าง
ไม่รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน ซึ่งบริเวณนั้นมีบู๊ธของ CONNEX จาก สมิติเวชอยู่

.ก็เหมือนบู๊ธทางการตลาดทั่วๆไป จนท.พยายามจะขอข้อมูลเรา 1-2 รอบแรกเราปฏิเสธอย่างนุ่มนวล ยิ้มแย้มแจ่มใส
พอรอบ 3 เลยยอมๆให้ข้อมูลเค้าไป เพราะผ่านหลายรอบเหลือเกิน จนท.ยืนยันว่าเป็นเพียงการเก็บข้อมูลเท่านั้น
ขอชื่อ เบอร์โทร และตำแหน่งหน้าที่การงานนิดหน่อย เสียเวลาประมาณ 2 นาที ก็ผ่านไปไม่มีอะไร

.วันต่อมา จนท.โทรเข้ามา ขอเวลาสักครู่เพื่อจะอธิบายโครงการ เราก็โอเค ทำงานบ้านอยู่ก๊อกแก๊กๆ ฟังได้
จนท.ก็ร่ายมาตามสริปที่ฝึกไว้ ใจความสรุปว่า ต้องการเชิญเราไปร่วมตรวจสุขภาพฟรี ด้วยเครื่องมือเครื่องไม้อันทันสมัย
ย้ำอยู่ 5 รอบว่าฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น และไม่มีการติดตามผลหลังจากตรวจ โดยสิทธิพิเศษเช่นนี้ให้เฉพาะท่านที่ให้ข้อมูลที่บู๊ธเท่านั้น
ไม่รับกรณี walk in (ควรเชื่อมั๊ย?)

.เราก็โอเค เพราะเมื่อต้นปี ตรวจคลีนิค รพ.กรุงเทพ มีอาการบ่งชี้ว่าจะเป็นไทรอยด์ ก็เลยอยากจะดูเป็นข้อมูลไว้ก่อน รู้อยู่แล้วว่าหลังตรวจยังไงก็ต้องมีการขายคอร์ส เลยนัดไปพรุ่งนี้ คือวันที่ 24/5/2015 ช่วงบ่าย ตั้งใจไว้ว่าถ้ามีการเรียกเก็บใดๆล่ะจะ walk out ทันที ถ้าไม่ยอมก็มีเฮ

.ถึงวันนัด ช่วงบ่ายใกล้เวลานัด ก็มี จนท.โทรมาตาม คือพูดจางั้นงี้ ดี๊ดีแน่ะ ตอนนั้นเราก็ไปถึงพอดี มีคนมาตรวจค่อนข้างเยอะเลย เราเข้าไป
จนท.ก็จัดแจงตรวจค่าต่างๆด้วยเครื่อง ซึ่งก็ไม่ได้ต่างจากที่อื่นเท่าไรนิ่คับ พยาบาลเอาผลมาวิเคราะห์เบื้องต้น เห็นตรงกันกับ รพ.กรุงเทพว่า
อาจจะเป็นไฮเปอร์ไทรอยด์ ต้องพูดด้วยนะว่าเหมือนแม่ทุม เค้ามูลคดี อ่ะค่ะ แล้วก็โน้ตลงใบในใบผลว่าเน้นเรื่องการตรวจไทรอยด์

.จากนั้นพาเราไปนั่งอีกโซน โซนเชือดไก่ แล้วก็มีน้องพยาบาลที่น่าจะจบมาไม่นานนัก มาชี้แจงโครงการให้ฟัง บลาๆๆ วิเคราะห์ผลให้ฟังอีกรอบ มารอบนี้บอกมวลกระดูกเราบางไป เราก็ทำหน้างง ทำไมพูดไม่เหมือนกัน ค่าเรามากกว่ามาตรฐาน แต่บางไป เออ ช่างเค้า เดี๋ยวค่อยมาหาคำตอบเอาเองได้
เพราะถามแล้วดูน้องเค้าท่าจะงงกว่าเราซะอีก

.น้องเริ่มกระบวนการหว่านล้อม โดยวิธีการสร้างความตื่นตระหนกหวาดกลัวให้แก่ผู้รับฟัง ยกตัวอย่างคนป่วยนู่นนั่นนี่มาเต็มไปหมด
หากเราไม่ป้องกันจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เราควรจะตระหนักถึงข้อนี้ให้มากๆ น้องเค้ายังให้เกียรติเรียกเราเป็นผู้ป่วยไทรอยด์ไปแล้วด้วย
ทั้งที่ยังไม่ได้ไปตรวจละเอียดแต่อย่างใด

.น้องหว่านล้อมกว้างไกลมาก ชักแม่น้ำมาหมดประเทศเลย บางช่วงก็พูดวนที่อยู่เดิม โดยขอความสนใจจากเราตลอดๆ ให้ช่วยฟังหน่อย
"พี่คะ หนูขอทำงานหน่อยนะ ดูสิ คุณหมอมองอยู่เต็มเลย" คือเราจะเล่นมือถือจะทำไรไม่ได้เลย เราเข้าใจกระบวนการทางการตลาดแบบนี้ดี
เพราะเราเคยทำงานแบบนี้ แบบที่ต้องมานั่งอธิบายโครงการยืดยาวมาก ระหว่างนั้นต้องดึงเป้าหมายให้อยู่กับเราตลอด ต้องเรียกชื่ออยู่ตลอดๆ
ต้องถามคำถามอยู่ตลอด "พี่ว่าแบบนี้ดีมั๊ยคะ?" "ดีแบบนี้พี่ว่าน่าสนใจมั๊ยคะ?" "เราจัดทำโครงการพิเศษนี้ขึ้นมา ราคาถูกกว่า รพ.รัฐซะอีกนะคะ"

.และด้วยความที่เราเคยทำงานลักษณะนี้มา เราเลยเห็นใจ นั่งฟังน้องเค้าจนผ่านไป 1.30 ชม. ! โดยที่เราบอกตลอดว่า "น้องคับ พี่ขอเนื้อๆเลยได้มั๊ยคับ ไม่ต้องหว่านล้อมเยอะ พี่จะหลับคาเก้าอี้แล้วนะเนี่ย" น้องก็ยังมาน้ำท่วมทุ่งเหมือนเดิม คือในหัวมีแต่สคริป เราแจ้งความประสงค์ไปแล้วแต่แรกว่าเรา
สนใจตรวจไทรอยด์ เพราะงั้นเราขอดูแค่ตัวนี้ได้มั๊ย อันอื่นไม่ต้อง เพราะรู้ว่าค่าใช้จ่ายมันสูง น้องก็ยังขออธิบายทั้งหมด เพราะแพ็ตเก็จนี้ไม่ขายแยก "หนูขอทำงานหน่อยนะคะพี่ คือพี่ฟังจบ พี่จะเอารึไม่เอาก็ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าไม่เอา เรามี Gift voucher ให้อ่ะค่ะ ถือว่าเราคุยกันเหมือนเพื่อนเนอะพี่"

.โดยตลอดเวลาที่ผ่านมา ถามราคาไปยังไง น้องจะไม่ยอมปริปากเด็ดขาด พูดซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าราคาพิเศษ จนเราก็เริ่มจะไม่ไหว ดูนาฬิกาข้อมือหลายรอบมาก แต่น้องไม่ได้เกรงใจเราแต่อย่างใด เราเริ่มจะโต้ตอบกลับบ้าง ด้วยอดทนมานาน

.น้อง: พี่ว่าตรวจละเอียดแบบนี้ดีมั๊ยคะ เพราะเหมือนเราใช้แหตาข่ายเล็ก เราจะมีโอกาสได้ปลามากกว่า แบบนี้พี่สนใจจะร่วมโครงการมั๊ยคะ
เรา: น้องคับ พี่เข้าใจว่าโปรแกรมมันดีมาก พี่เข้าใจตั้งนานแล้ว น้องจะถามพี่กี่รอบ มันก็คือ ดีคับ พี่สนใจคับ แต่ในเมื่อพี่ไม่มีไอเดีย
เรื่องราคาเลยสักนิดเนี่ย น้องจะให้พี่ตอบยังไงคับ พี่ไม่เข้าใจทำไมถึงบอกราคาไม่ได้สักที
น้อง: แล้วพี่สนใจดูราคาของวันนี้ หรือราคา walk in ดีคะ
เรา: ราคาวันนี้หมายถึงต้องชำระวันนี้ใช่มั๊ยคับ งั้นพี่ดูราคา walk in
น้อง: ราคา walk in ก็จะเป็นตัวนี้นะคะ (6 หมื่นกว่าต่อปี) แต่ถ้าเป็นราคาของวันนี้จะได้ราคาพิเศษค่ะ
เรา: แล้วพิเศษมันคือเท่าไร ตกลงนี่มีราคาที่เซ็ตไว้แล้วรึยังคับ แล้วจะให้พี่ตัดสินใจจากอะไร ให้พี่ตอบอะไร
น้อง: จริงๆแล้วพี่สนใจมั๊ยคะ ชอบกับสนใจ ไม่เหมือนกันนะคะพี่
เรา: โอ้ยพี่ทั้งชอบทั้งสนใจนั่นแหละคับ แต่สนใจแล้วมันไม่มีปัญญาแล้วยังไงต่อคับ
น้อง: สมมุติ (น้องออกเสียงว่า สำ-มุด) เราตัดเรื่องค่าใช้จ่ายออกไปพี่คิดว่าพี่สนใจมั๊ยคะ
เรา: โอ๊ยน้องคับ! สนคับน้อง แต่เรื่องค่าใช้จ่ายมันตัดออกได้หรอคับ น้องจะถามพี่ สนมั๊ยๆๆ แต่พี่ไม่รู้ราคา ไม่รู้อะไรเลย
จะให้พี่มาตอบอะไรตอนนี้คับ คนเรามันจะตัดสินใจซื้ออะไรมันก็ต้องรู้ราคาด้วยสิคับ!

.น้องเริ่มไม่ไหว ไปตาม ผจก.มาปรี๊ฟเราอีกรอบ

ผจก.: สวัสดีคับ เห็นน้องเค้าบอกว่าพี่อยากทราบราคาใช่มั๊ยคับ
เรา: ก็ใช่สิคับ นี่นั่งฟังมาเป็นชั่วโมงไม่รู้อะไรเลย
ผจก.: ใช่คับ คือถ้าเราแจ้งราคาไปแต่แรก ก็ไม่มีใครยอมฟังโครงการเราอ่ะคับพี่

.ผจก พยายามโน้มน้าวเราอีกรอบ ซึ่งเราแสดงออกชัดเลยนะว่าไม่เอา เราพูดจาค่อนข้างตรง ช่วงแรกถนอมน้ำใจน้อง ช่วงหลังพอกันที เราพูดไรไปไม่เห็นมีใครยอมเข้าใจ จะอีดข้อมูล จะโน้มน้าวเราอย่างเดียว น้องก็เข้ามาช่วยด้วย สลับกันเข้าออก3-4รอบ กะจะเอาให้ได้

ผจก: มะกี๊น้องเค้าอธิบายคร่าวๆแล้วใช่มียคับเรื่องการแบ่งจ่าย ตอนนี้มีบัตรเครดิตร่วมโครงการกับเรา 4 บัตร ไม่ทราบว่าคุณพี่มีบัตรใน 4 บัตรนี้บ้างมั๊ยคับ
เรา: มีคับ (ค่อนข้างห้วน)
ผจก: ไม่ทราบยอดในบัตรนี่คัฟเวอร์ตัวเลขนี้มั้ยคับพี่ (แสนกว่า งวดแรก นี่ขนาดบอกไปแล้วว่าไม่มีปัญญาทำนะ)
เรา: ไม่คับ (ห้วน)
ผจก: ใช้หลายใบก็ได้นะคับพี่ กี่ใบก็ได้ แต่ขอให้มียอดในบัตรอ่ะคับ
เรา: ไม่มีหรอกคับคุณ ผจก. นี่ไม่ใช่ลูกเจ้าสัวนะคับ นี่มนุษย์เงินเดือน คุณทำคอร์สกันมามีแค่ 10ปี กับ 15ปี ราคา 3แสน 5แสน ต่อให้สนใจแล้วจะให้ทำไงคับ ในเมื่อศักยภาพมันไม่ได้มีขนาดนั้น คุณไม่ทำมาแค่ปีหรือ2ปีล่ะ ทำแบบนี้ไม่รวยจริงซื้อไม่ไหวหรอกคับ
ผจก: เอ้า เป็นพนักงานประจำหรอคับ (ผิดหวังสินะ คิดว่าตูรวยใช่มั๊ยตอนแรกอ่ะ) ..... แล้วแบบนี้คุณพี่คิดว่าจะไหวที่ตัวเลขเท่าไรคับ สมมุติต่ำกว่าหมื่นคิดว่าไหวมั๊ยคับ
เรา: อะไรจะขนาดน๊านคู๊ณ เฮอะๆ ต่ำกว่าหมื่นน่ะ มีปัญญานะ แต่ถามว่าจะเป็นหนี้ก้อนขนาดนี้ โดยที่มันเกินความจำเป็นน่ะ ไม่เอาหรอกนะ เงินมันต้องใช้อย่างอื่น หรือ รพ.จะซัพพอร์ตให้คับ? ไม่งั้นคงต้องเป็น ผจก.แบบคุณก่อนแหละถึงจะมีปัญญา

.น้องคนเดิมมาเสริมอีกรอบ

น้อง: พี่คะ พี่ทราบใช่มั๊ยคะ ว่าราคานี้เป็นราคาพิเศษ ที่ทำออกมาได้ถูกกว่า รพ.รัฐซะอีก แต่คอร์สเราขายเป็น 10ปี กับ15ปีอ่ะค่ะ ก็เหมือนพี่ซื้อของอ่ะค่ะ ซื้อเป็นโหล ถูกกว่าซื้อเป็นชิ้น จริงมั๊ยคะ (คิดได้ไงวะ คนคิดสคริป)
เรา: พี่ทราบคับน้อง ทราบดีว่าซื้อของเป็นโหลมันถูกกว่าซื้อชิ้นเดียว แต่ต้องคิดด้วยนะคับว่าราคาต่อชิ้นมันเท่าไร สินค้ามันคืออะไร นี่คอร์สตรวจสุขภาพนะคับ ไม่ใช่ชาเขียว พี่จะได้ซื้อยกโหล จะยกลังเลยก็ได้ ไม่มีปัญหาหรอก

.ผจก มาอีกรอบ

ผจก: ตกลงคุณพี่สนใจมั๊ยคับ แหม่ ผมว่าไม่ใช่เรื่องเงินแล้วมั้งเนี่ยแบบนี้ ต่อให้จ่ายไหวก็ไม่เอามั๊ง นี่ไม่สนใจมากกว่า
เรา: (เออ) คับ ไม่สนใจ ไม่ทำคับ โอเคนะ

.....
2 ชม.กับการนั่งฟังด้วยความเห็นใจน้อง ฟังน้องทุกอย่าง แต่ทั้งน้องและ ผจก ไม่ได้ฟังอะไรเราเลย คุณเอาอะไรคิดคับ สนใจแต่ไม่มีปัญญา คือไม่สนใจ? ไม่รู้ต้องการให้เราไปกู้ธนาคารมาซื้อคอร์สหรือเปล่าถึงจะพอใจ สุดท้ายขายไม่ได้ น้อง ผญ หน้าหงิกหน้างอใส่เรา ทั้งที่สุดท้ายเราขอบคุณเค้าด้วยซ้ำที่มานั่งอธิบายให้ฟัง แต่น้องเอา Gift voucher มาให้แล้วก็สะบัดตูดกลับไปอย่างเคืองๆ ตูรู้กับฐานะตัวเอง ตูผิด? อยากรู้มาก พวกน้องๆทั้งหลายซื้อคอร์สกันแล้วหรือยังคับ? พวกน้องๆสนใจมั๊ยคับ? ราคาพิเศษแบบนี้

.....
สุดท้ายแล้วผลตรวจนั่นก้ไม่ได้ให้กลับมาแต่อย่างใดนะคับ คงจะอารมณ์เสียกันมาก รีดเลือดจากปูไม่ได้ ตอนแรกก็คิดว่าช่างเหอะ แล้วไป แต่วันนี้นึกครึ้ม หาข้อมูลเพิ่ม เจอหลายอย่าง เลยขอสักกระทู้ เตือนเพื่อนๆไว้ สมัยนี้ รพ.ก็ใช้วิธีฮาร์ดเซลล์แบบไม่คำนึงถึงจรรยาบรรณกันขนาดนี้แล้ว เราไม่มีปัญหาที่จะฟังนะคับ แต่ในเมื่อเราศักยภาพไม่ถึง พวกคุณก็ควรจะเข้าใจ และปฏิบัติกับคนอื่นให้ดีกว่านี้ ในฐานะที่เค้าก็เปิดโอกาสให้คุณทำงาน ไม่ใช่ตอนเชิญนี่เชิญซะดิบดี ตอนเค้าไม่เอานี่มาสะบัดตูดใส่ ทุเรศคับ

.....
ลองดูข้อมูลที่เราเจอมาพวกนี้เพิ่มเติมได้นะคับ หากรูปไหนไปละเมิดใคร แจ้งลบได้คับ










.....
ฝากถึงทีมงานมารยาททรามทุกท่านนะคับ พวกคุณคงจะเจริญยากถ้าปฏิบัติต่อผู้อื่นแบบนี้