[CR] : : : KOH CHANG : : : ~ 4 วัน 3 คืน ~ การเดินทางที่แสนพิเศษ (May 1-4,2015)

... เมื่อใจมันเซทะเลคือจุดหมาย ...


ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ... ในสมัยที่เรายังเป็นนักศึกษา เรากับแฟนได้มีโอกาสมาเที่ยวเกาะช้างด้วยกันเป็นครั้งแรก เกาะช้างสร้างความประทับใจให้กับเราเป็นอย่างมาก เราจึงตั้งปณิธานเอาไว้ว่า "สักวันเราจะกลับมาเที่ยวที่นี่อีกครั้ง"

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็สามปีเต็ม ... ตอนนี้เราเข้าสู่วัยทำงานแล้ว การทำงานหนักในช่วงที่ผ่านมาทำให้เราอยากเติมพลังทั้งกายและใจ ในช่วงวันแรงงานก็เป็นโอกาสดี เรากับแฟนได้มีวันหยุดที่ตรงกัน 5 วันเต็ม และจุดหมายที่เราจะไปก็คือ "เกาะช้าง"

ในวันก่อนการเดินทาง
เราเตรียมตัวแพคกระเป๋าสำหรับการเดินทางในวันรุ่งขึ้น สิ่งที่ขาดไม่ได้ในทริปนี้เลย คือ แว่นกันแดดเก๋ๆ และครีมกันแดด (ซึ่งก็ไม่ค่อยได้ช่วยเท่าไหร่ เพราะกลับมาก็คล้ำลงไปอยู่ดี ฮ่าๆ) เราวางแพลนและหาข้อมูลคร่าวๆสำหรับทริปนี้ แต่เราก็ต้องไม่ลืมตรวจสอบสภาพอากาศด้วยนะ เพราะเราไปช่วงเดือนพฤษภาคมเป็นช่วงที่มรสุมกำลังเข้า ผลที่ได้คือ ฝนตกร้อยละ 20% ของพื้นที่ ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ... เราก็แอบกังวลเล็กน้อย เพราะ ในช่วงที่เราไปนั้นเป็นวันหยุดยาว ลองเข้าไปดูเว็ปไซด์การจองห้องพักเล่นๆ ส่วนใหญ่จะเหลือไม่กี่ห้อง บางที่ก็ถูกจองเต็มไปหมดแล้ว กลัวจะหาที่พักไม่ได้ โดยส่วนตัวเรากับแฟนชอบ walk-in เข้าไปดูที่พักกันเองมากกว่าไม่อยากจองล่วงหน้า แต่เราก็ตั้งใจไว้แล้วล่ะว่าจะไปพักกันที่พักเดิมที่เคยพักเมื่อสามปีที่แล้ว เพราะ ที่นั่นราคาไม่แพง เป็นที่พักที่เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นเที่ยวมากกว่า ไม่เน้นการใช้ชีวิตอยู่ ณ ที่พัก เลยไม่ต้องหรูหรือดีอะไรมาก เอาแค่พออยู่ได้ก็พอแล้ว ถือว่า เป็นการ save cost ไปด้วยในตัว ...

วันที่ 1 ของการเดินทาง : 1 พ.ค. 2558
เราออกเดินทางกันแต่เช้าตรู่ จุดหมายแรกที่เราจะไปก็คือ อนุสาวรีย์ ... เราตั้งใจจะเดินทางด้วยรถตู้ ก่อนหน้านี้เราได้มาเดินสำรวจทั้งราคาและวินรอบๆอนุสาวรีย์ เราดูมาสองที่ เผื่อข้อมูลตรงนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับชาวพันทิปที่อยากเดินทางไปเกาะช้างด้วยรถตู้ ^^

-วินหน้าร้านก๋วยจั๊บฝั่งเกาะพญาไท วินนี้มีรถตู้ไปส่งถึงท่าเรืออ่าวธรรมชาติ แต่ต้องมีคนที่จะไปท่าเรือเกิน 5 คนนะถึงจะไปส่ง ถ้าไม่ถึง 5 คนทางวินเค้าจะมีรถเมล์มารับไปส่งที่ท่าเรืออีกที (เค้าพูดว่ารถเมล์จริงๆนะ) ราคา 300 บาท เราตั้งใจว่าจะไปวินนี้แหละ ....
-วินใต้สถานี BTS อนุสาวรีย์ วินนี้มีรถตู้ไปส่งถึงท่าเรืออ่าวธรรมชาติเหมือนกัน แต่ ถ้ามีคนจะเข้าเมือง รถตู้เค้าไม่ไปส่งถึงท่าเรือนะ เข้าจะมีรถสองแถวมารับไปท่าเรืออีกที ราคา 320 บาท

เรามาถึงอนุสาวรีย์ตอน 7 โมงตรงเรารีบตรงดิ่งมาที่วินหน้าร้านก๋วยจั๊บในทันใด แต่ผลออกมาว่า เราได้คิวขึ้นรถตอนเที่ยง!!!! ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีคนต้องการไปเกาะช้างเยอะขนาดนี้ เอาล่ะ ตั้งสติ เราเดินมาอีกวินใต้สถานี BTS คนเยอะไม่ต่างกันได้คิวขึ้นรถตอน 10 โมง แต่เราอยากไปถึงเร็วๆนี่น่าเลยลองโทรถามรถทัวร์ที่เอกมัย เค้าบอกรถออกทุกชั่วโมง ซึ่งตอนนั้นเรากับแฟนเริ่มจะตัดสินใจว่า จะไปรถตู้หรือรถทัวร์ดี พี่ที่คุมวินใต้สถานีก็ประกาศว่า "ใครที่จะเดินทางไปเกาะช้าง มีรถตู้ VIP 10 ที่นั่งส่งถึงท่าเรือ ราคา 400 บาท มีใครจะไปไหม ซื้อตั๋วได้เลย" เราไม่รอช้า รีบซื้อตั๋วในทันที เพิ่มเงินสักหน่อยแต่ได้ไปเร็วขึ้นมันก็โอเคใช่ไหมล่ะ !? รถตู้นี้ไม่ใช่รถตู้ป้ายเหลือง พี่เค้าหามาช่วยระบายคนในคิวในวันที่มีคนต้องการจะไปเกาะช้างเยอะขนาดนี้ ... เราเลยได้ออกเดินทางกันตอน 8 โมงกว่าโดยประมาณ ... หลับไปหลายตื่น นั่งจนก้นระบม หิวก็หิว ก็ยังไม่ถึงสักที เฮ้อ~

เอาล่ะ! เรามาถึงท่าเรืออ่าวธรรมชาติแล้ว ตอนบ่ายสองโมงกว่าๆ นั่งในรถมาหกชั่วโมงเต็ม มาครั้งที่แล้วไม่ถึงหกชั่วโมงนะ มาเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวต้องทำใจ รถยนต์ที่จะขึ้นเรือเฟอร์รี่ติดยาวเป็นกิโลเลย (ปกติท่าเรือจะปิดตอนทุ่มนึง แต่ช่วงเทศกาลเค้าจะรับส่งจนกว่ารถคันสุดท้ายจะหมดนะ เพื่อนเราที่ตามมาเค้าเหมาสองแถวเผื่อจะมาให้ทันเรือตอนเกือบๆจะห้าทุ่มแล้ว แต่มาไม่ทันเรือรอบสุดท้ายเพิ่งออกไปเมื่อ 5 นาทีที่แล้วเอง เสียดายแทน ..)

-ติดตามเรื่องราวการเดินทางไปเกาะช้างแบบดื้อรั้นของเพื่อนเราได้ที่ : http://pantip.com/topic/33630247


เมื่อสามปีที่แล้ว... เรามาขึ้นเรือที่ท่าเรือเซ็นเตอร์พ้อย ค่าตั๋วไป-กลับ คนละ 100 บาท (ราคาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้ขึ้นราคาแล้วรึยังนะ)ใช้เวลาเดินทางบนเรือเฟอร์รี่ประมาณ 45 นาที มีรถมอเตอร์ไซด์ในเช่าเลยตรงท่าเรือ วันละ 200 บาท น้ำมันพร้อม ....

ครั้งนี้ ... เรามาขึ้นเรือที่ท่าเรืออ่าวธรรมชาติ ค่าตั๋วขาไป คนละ 80 บาท ใช้เวลาเดินทางบนเรือเฟอร์รี่ประมาณ 20 นาที แต่ไม่มีรถมอเตอร์ไซด์ให้เช่าเหมือนท่าเรือเซ็นเตอร์พ้อยนะ มีแต่รถ TAXI (รถ TAXI ของเกาะช้างก็คือรถสองแถวเนี่ยแหละ ^^) ราคาเริ่มต้นของ TAXI อยู่ที่ 50 บาท ... จุดหมายต่อไปที่เราจะไปกัน ก็คือ Lonely Beach ค่ารถ TAXI จากท่าเรือมาหาดโลนลี่บีช คนละ 120 บาท หาดโลนลี่บีชอยู่ค่อนข้างไกลพอสมควร ถนนหนทางก็ค่อนข้างลาดชัน ใครที่ขับรถไม่แข็งต้องเพิ่มความระมัดระวังกันหน่อยนะ จะว่าปราบเซียนเลยก็ได้ ... ยิ่งตรงโค้งรูปตัวเอสยิ่งต้องระวัง ถ้าวันไหนฝนตกถนนลื่น ก็จะมี ตร. หรือหน่วยกู้ภัย มาช่วยเพิ่มความปลอดภัยในจุดๆที่เป็นทางเสี่ยง นับว่าดีมากเลยทีเดียว

ในระหว่างที่เรานั่งอยู่บน Taxi ชื่นชมกับวิวสองข้างทางรู้สึกได้เลยว่า เกาะช้างเจริญกว่าเมื่อสามปีที่แล้วเป็นอย่างมาก ... และในตอนนี้ เราก็มาถึงแล้ว 'โลนลี่บีช' หาดนี้เหมาะสำหรับเหล่า Backpacker ทั้งหลาย มีที่พักราคาไม่แพงให้เลือกพักอย่างมากมาย ร้านอาหาร บาร์ก็เยอะพอสมควร เราไม่รอช้ารีบตรงดิ่งมาที่พักที่เราต้องการจะพักกันในคืนนี้ทันที นั่นก็คือ The Sunflower

The Sunflower ตั้งอยู่ในซอยเทียนไชย 1 มีบ้านพักให้เลือก 3 แบบ 2 ราคา แต่ด้วยความที่เราเป็นคนไทยเราก็ต้องไม่พลาดในเรื่องของการต่อราคา บ้านพักที่เราเลือกเราเลือกห้องแอร์ ราคาคืนละ 600 บาท เราจะว่าเราจะนอนที่นี่กัน 2 คืน เราเลยต่อรองราคากับพนักงานเหลือคืนละ 500 บาท ซึ่งเค้าก็โอเค .. เมื่อเชคอิน นำกระเป๋าสัมภารก เอ้ย สัมภาระไปเก็บ พักพอให้กระชุ่มกระชวยเรียบร้อยแล้ว เราก็เตรียมจะไปขับรถมอเตอร์ไซด์เล่นกัน เรามาเช่ารถมอเตอร์ไซด์ร้านหน้าที่พักเราเนี่ยแหละ วันละ 150 บาท แต่ไม่มีน้ำมันนะ ต้องเติมน้ำมันอีก 40 บาท ที่เกาะช้างไม่ต้องกลัวว่าจะหาที่เติมน้ำมันไม่ได้ มีให้เติมเพียบ! ไม่มีมัดจำวางแค่บัตรประชาชนไว้ก็พอ ... ในระหว่างนี้ เราก็มาจองทริปดำน้ำกับเจ๊เพ็ญ Tourist Information ใกล้ๆกับร้านมอเตอร์ไซด์เนี่ยแหละ ตอนแรกเราตั้งใจจะไปดำน้ำกันในวันที่ 2 แต่เนื่องจากมีคนที่มาเที่ยวเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเรือไม้หรือสปีดโบ๊ทก็เต็มไปทุกอณูไปทุกบริษัท เราเลยต้องเปลี่ยนแผนมาจองทริปดำน้ำกันในวันที่ 3 แทน... เมื่อจองทริปดำน้ำเสร็จแล้ว เราก็เตรียมออกผจญภัยกันต่อ จุดหมายต่อไปของเรา ก็คือ ท่าเรือบ้านบางเบ้า ...




พอขับมอเตอร์ไซด์กันมาสักพัก ทางไปบางเบ้านั้นถนนค่อนข้างลาดชัน บางทีขับๆอยู่มองไม่เห็นถนนข้างหน้าเลยก็มี ถ้าเป็นตอนมืดแล้วไฟทางไม่มีมีแสงไฟเฉพาะไฟหน้ารถ ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นอย่างมาก ลองมาขับดูสิแล้วจะรู้ว่ามันส์แค่ไหน ยะฮูวว์ ~ ชุมชนท่าเรือบ้านบางเบ้า เป็นเหมือนกับชุมชนท่าเรือที่มีตลาด มีของที่ระลึก ของฝากมากมาย มีร้านอาหารที่ขึ้นชื่ออย่าง "เรือนไทย" ไว้น่ามาลองลิ้มชิมรสอาหารดูสักครั้ง ... สำหรับใครที่จองทริปดำน้ำเป็นเรือไม้ ก็จะมาขึ้นเรือกันที่นี่แหละ ... สำหรับใครที่ขับรถมอเตอร์ไซด์มาเที่ยวสามารถมาหาที่จอดได้แต่ต้องเสียค่าจอดนะ 20 บาท ไม่รู้เริ่มเก็บตั้งแต่ตอนไหน 3 ปีที่แล้วยังจอดฟรีอยู่เลย เง้อ! ...


ตอนเรามาถึงที่ท่าเรือบ้านบางเบ้าก็เย็นพอสมควร ร้านค้าต่างๆก็ทยอยปิดร้านกันหมดแล้ว  เรือที่พานักท่องเที่ยวไปดำน้ำก็ถูกจอดเทียบท่าเรียงราย เรือที่พานักท่องเที่ยวไปไดหมึกก็เริ่มทยอยออกจากท่า เมื่อเราเดินเล่นไปเรื่อยๆตามทาง สุดปลายทางมีประภาคารที่สวยเด่นเป็นสง่า ยิ่งช่วงเวลาพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า ยิ่งทำให้ท้องฟ้าดูสวยไปอีกแบบ แบบที่กรุงเทพไม่สามารถเห็นอะไรแบบนี้ได้เลย เราตัดสินใจจะดูพระอาทิตย์ตกดินกันที่นี่แหละก่อนเดินทางกลับไปหาอะไรใส่ท้อง และกลับไปพักผ่อนที่ที่พักของเรา....



ทริปของเรายังไม่จบนะคะ ... ฝากติดตามกระทู้นี้ตอนต่อไปของเราด้วยนะ ว่าวันต่อไปเราจะไปเที่ยวที่ไหนกันต่อ? ...
อีกไม่นานเกินรอ จะรีบเร่งเขียนให้เลยภายในวันนี้แน่นอนค่ะ

: : TO BE CONTINUE PART II : :
ชื่อสินค้า:   เกาะช้าง ตราด
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่