สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
การบังคับทำประกันแบบนี้ เหมือนกับเป็นการจ่ายค่าน้ำร้อนน้ำชาในการขอกู้เงิน เพราะผู้กู้ไม่ได้หวังประโยชน์โดยตรงจากการทำประกัน แต่ทำเพื่อให้เรื่องกู้เงินผ่าน จริงอยู่ตัวกรมธรรม์ประกันก็มีประโยชน์ แต่ไม่ใช่สิ่งมุ่งหวังที่ผู้กู้ต้องการ จึงเสมือนไม่มีประโยชน์ต่อผู้กู้
ตัวธนาคารและพนักงาน ก็แบ่งเงินค่าประกัน กันไปตามส่วน ถือว่าเป็นเรื่องถูกต้องตามกฏหมาย แต่เสมือนเป็นการทุจริตเชิงนโยบาย หรือไม่ คือ ผู้กู้ต้องจ่ายเงินก้อนนึง (เรียกสวยหรู ว่าทำประกัน) เพื่อให้ได้เงินกู้มา
การทำประกันในลักษณะนี้ก็ถือเป็นการเอาเปรียบผู้กู้ด้วย เพราะในการกู้เงิน ธนาคารก็ไม่ได้ให้กู้เต็มตามมูลค่าลักทรัพย์ที่ค้ำประกัน ทั่ว ๆ ไป ก็คงประมาณ 80% ของหลักทรัพย์ที่นำมาเป็นหลักประกัน ซึ่ง 20% นี้ถือเป็นการประก้นความเสี่ยงให้ธนาคารอยู่แล้ว การบังคับทำประกันอีกเพื่อเป็นหลักประกันในกรณีที่ผู้กู้ไม่สามารถชำระได้ จึงถือเป็นการประกันความเสี่ยงให้กับธนาคารอีกชั้นหนึ่ง โดยผู้กู้เป็นผู้จ่ายค่าประกันความเสียงทั้งสองชั้นนี้ ให้กับธนาคาร โดยธนาคารแทบจะไม่มีความเสี่ยงอะไรเหลือเลย
ตัวธนาคารและพนักงาน ก็แบ่งเงินค่าประกัน กันไปตามส่วน ถือว่าเป็นเรื่องถูกต้องตามกฏหมาย แต่เสมือนเป็นการทุจริตเชิงนโยบาย หรือไม่ คือ ผู้กู้ต้องจ่ายเงินก้อนนึง (เรียกสวยหรู ว่าทำประกัน) เพื่อให้ได้เงินกู้มา
การทำประกันในลักษณะนี้ก็ถือเป็นการเอาเปรียบผู้กู้ด้วย เพราะในการกู้เงิน ธนาคารก็ไม่ได้ให้กู้เต็มตามมูลค่าลักทรัพย์ที่ค้ำประกัน ทั่ว ๆ ไป ก็คงประมาณ 80% ของหลักทรัพย์ที่นำมาเป็นหลักประกัน ซึ่ง 20% นี้ถือเป็นการประก้นความเสี่ยงให้ธนาคารอยู่แล้ว การบังคับทำประกันอีกเพื่อเป็นหลักประกันในกรณีที่ผู้กู้ไม่สามารถชำระได้ จึงถือเป็นการประกันความเสี่ยงให้กับธนาคารอีกชั้นหนึ่ง โดยผู้กู้เป็นผู้จ่ายค่าประกันความเสียงทั้งสองชั้นนี้ ให้กับธนาคาร โดยธนาคารแทบจะไม่มีความเสี่ยงอะไรเหลือเลย
ความคิดเห็นที่ 47
พูดถึงหลอกให้ทำประกันละขึ้นเลยค่ะ (อารมณ์นะคะ) แฟนเรากู้บ้านกับ ธ.กรุงทอย ค่ะ ช่วงที่ยื่นเอกสารกู้ รอฟังผลมี จนท.โทรมาถามแฟนเราค่ะ ว่าสนใจประกันไหมคะ เป็นตัวคุ้มครองวงเงินกู้ คือถ้าคุณลูกค้าเสียชีวิตภายใน 15 ปี ไม่ต้องผ่อนต่อนะคะ บลา ๆ ๆๆ แฟนเราบอกว่าไปว่า ครับ ผมพอทราบมาบ้างว่ามีประกันตัวนี้ ยังไงไว้กู้ผ่านค่อยมาเสนอนะครับ ตอนนี้เสนอไปก็ยังไม่รู้จะกู้ผ่านป่าว จนท.บอกได้ค่ะ ๆ
จนถึงวันที่กู้บ้านกับ ธ.กรุงทอย ผ่าน จนท.คนเดิมรีบแจ้งรายละเอียดประกันมาเลยทันที เลยบอกว่าให้ส่งรายละเอียดมาทาง Email ให้หน่อย ปรากฎว่าส่งประกันมา 2 ยอดค่ะ ยอดแรกคุ้มครองวงเกินประมาณ 2 ลบ. อีกยอดคุ้มครองวงเงินส่วนที่เหลือเพื่อให้ Cover ค่าบ้าน บวกลบคูณหาร กดเครื่องคิดเลขดู อั๊ยยะ เบี้ยพร่องงง!!! 350,000 บาท แบ่งชำระเป็นงวด ๆ จ้า เรารู้ถึงกะปรี๊ดดทันที เราบอกเดี๋ยวเคลียเอง โทรไปหา จนท. เลยจ้า จนท.บอกว่า "ก็ตอนนั้นคุณลูกค้าเค้าตอบว่าเค้าสนใจทำนี่คะ และประกันตัวนี้ไม่ทำไม่ได้ค่ะ เป็นนโยบายของธนาคาร ไม่งั้นอาจกู้ไม่ผ่านนะคะ" เราเลยบอกไปว่า ทราบค่ะ เพื่อนพี่ก็กู้บ้าน เค้าโดนกันเต็มที่ก็ไม่ถึงแสน นี่อะไรบ้าป่าว 350,000 เป็นคุณคุณจะจ่ายไหม เอาจดหมายมา ให้ธนาคารออกจดหมายมาเป็นลายลักษณ์อักษรนะคะ ว่าลูกค้าต้องซื้อ เป็นกฎของธนาคารในการปล่อยกู้ ออกมาให้ชัด ๆ ใส่ชื่อนาม-สกุลผู้มีอำนาจลงนามมาเลยนะ จะได้เอาไปแจ้งสำนักงานใหญ่ของกรุงทอย ถ้าทางสำนักงานใหญ่ยอมรับว่ามีกฎข้อนี้จริง พี่จะจ่ายค่ะ จนท.บอกว่าค่ะเดี๋ยวโทรกลับขอปรึกษาหัวหน้า
ไม่ถึง 15 นาที ฝ่ายโอนของโครงการโทรมาค่ะ บอกว่าธนาคารโทรมาฟ้อง(ไม่ได้พูดโดยตรงแต่ตีความประมาณนี้) ว่าลูกค้าไม่ยอมทำประกัน ซึ่งประกันตัวนี้ลูกค้าต้องทำนะคะ เพื่อคุ้มครองวงเงินบ้านกรณีลูกค้าเป็นอะไรไป ธนาคารต้องรับความเสี่ยงในการปล่อยกู้ ถือว่าช่วยเค้าที่ปล่อยกู้ให้เรานะคะ ดิฉันถามกลับ เค้าบอกไหมคะว่าเบี้ยกี่บาท 350,000 บาทนะคะ เป็นคุณคุณจะทำไหม //ฝ่ายโอนโครงการบ้านถึงกะอึ้ง แล้วบอกว่าขอโทษด้วยค่ะ ไม่ทราบจริงๆ ว่าเบี้ยแพงขนาดนี้ ต้องขอโทษเดี๋ยวโทรไปคุยให้นะคะ จากนั้นเราโทรไปหาธนาคารทันที (หน๊อยยบังอาจไปฟ้อง แล้วไม่พูดความจริงทั้งหมด) เราพูดเลย เอาจดหมายมา ถ้าไม่มีจดหมาย ไม่ต้องมาคุย แฟนพี่บอกจะทำ แต่ขอเป็นเบี้ยปกติที่ชาวบ้านเค้าทำกัน ไม่ใช้เบี้ยโหดขนาดนี้พี่ไม่ซื้อบอกเลย สักพัก ผจก.มาคุยบอกว่าถ้าหากลูกค้าคิดว่าเบี้ยสูงไปจะนำไปพิจารณาเสนอมาใหม่
วันรุ่งขึ้น จนท.ธนาคารโทรมาบอกว่า ไปคำนวนให้ใหม่แล้วนะคะ เบี้ย 57,000 บาท จ่ายครั้งเดียวคุ้มครอง 15 ปี Cover วงเงินกู้บ้าน หากเสียชีวิตผู้รับผลประโยชน์จะไม่ต้องผ่อนต่อ ลูกค้าโอเคไหมคะ เราตอบ โอเค ค่ะ ถ้า 57,000 พี่จ่าย และไม่ต้องมีจดหมายด้วย นัดทำสัญญาได้เลย และก็บอกไปว่า พีขอโทษที่เหวี่ยง เพราะมันไม่สมเหตุสมผล น้องเข้าใจนะ (ไม่เข้าใจก็เรื่องของแกละกัน)
บางเรื่องก็สอนให้รู้ว่า เราต้องร้าย ต้องเหวี่ยง ต้องวีน เพื่อให้ได้มาซึ่งความยุติธรรม (โลกนี้มันอยู่ยากขึ้นทุกที) วันไปทำสัญญา จนท.มองเราทั้งสาขา สายตาแบบว่า (อินี่ไงที่โทรมาเหวี่ยง อารมณ์นั้นเลย)
จนถึงวันที่กู้บ้านกับ ธ.กรุงทอย ผ่าน จนท.คนเดิมรีบแจ้งรายละเอียดประกันมาเลยทันที เลยบอกว่าให้ส่งรายละเอียดมาทาง Email ให้หน่อย ปรากฎว่าส่งประกันมา 2 ยอดค่ะ ยอดแรกคุ้มครองวงเกินประมาณ 2 ลบ. อีกยอดคุ้มครองวงเงินส่วนที่เหลือเพื่อให้ Cover ค่าบ้าน บวกลบคูณหาร กดเครื่องคิดเลขดู อั๊ยยะ เบี้ยพร่องงง!!! 350,000 บาท แบ่งชำระเป็นงวด ๆ จ้า เรารู้ถึงกะปรี๊ดดทันที เราบอกเดี๋ยวเคลียเอง โทรไปหา จนท. เลยจ้า จนท.บอกว่า "ก็ตอนนั้นคุณลูกค้าเค้าตอบว่าเค้าสนใจทำนี่คะ และประกันตัวนี้ไม่ทำไม่ได้ค่ะ เป็นนโยบายของธนาคาร ไม่งั้นอาจกู้ไม่ผ่านนะคะ" เราเลยบอกไปว่า ทราบค่ะ เพื่อนพี่ก็กู้บ้าน เค้าโดนกันเต็มที่ก็ไม่ถึงแสน นี่อะไรบ้าป่าว 350,000 เป็นคุณคุณจะจ่ายไหม เอาจดหมายมา ให้ธนาคารออกจดหมายมาเป็นลายลักษณ์อักษรนะคะ ว่าลูกค้าต้องซื้อ เป็นกฎของธนาคารในการปล่อยกู้ ออกมาให้ชัด ๆ ใส่ชื่อนาม-สกุลผู้มีอำนาจลงนามมาเลยนะ จะได้เอาไปแจ้งสำนักงานใหญ่ของกรุงทอย ถ้าทางสำนักงานใหญ่ยอมรับว่ามีกฎข้อนี้จริง พี่จะจ่ายค่ะ จนท.บอกว่าค่ะเดี๋ยวโทรกลับขอปรึกษาหัวหน้า
ไม่ถึง 15 นาที ฝ่ายโอนของโครงการโทรมาค่ะ บอกว่าธนาคารโทรมาฟ้อง(ไม่ได้พูดโดยตรงแต่ตีความประมาณนี้) ว่าลูกค้าไม่ยอมทำประกัน ซึ่งประกันตัวนี้ลูกค้าต้องทำนะคะ เพื่อคุ้มครองวงเงินบ้านกรณีลูกค้าเป็นอะไรไป ธนาคารต้องรับความเสี่ยงในการปล่อยกู้ ถือว่าช่วยเค้าที่ปล่อยกู้ให้เรานะคะ ดิฉันถามกลับ เค้าบอกไหมคะว่าเบี้ยกี่บาท 350,000 บาทนะคะ เป็นคุณคุณจะทำไหม //ฝ่ายโอนโครงการบ้านถึงกะอึ้ง แล้วบอกว่าขอโทษด้วยค่ะ ไม่ทราบจริงๆ ว่าเบี้ยแพงขนาดนี้ ต้องขอโทษเดี๋ยวโทรไปคุยให้นะคะ จากนั้นเราโทรไปหาธนาคารทันที (หน๊อยยบังอาจไปฟ้อง แล้วไม่พูดความจริงทั้งหมด) เราพูดเลย เอาจดหมายมา ถ้าไม่มีจดหมาย ไม่ต้องมาคุย แฟนพี่บอกจะทำ แต่ขอเป็นเบี้ยปกติที่ชาวบ้านเค้าทำกัน ไม่ใช้เบี้ยโหดขนาดนี้พี่ไม่ซื้อบอกเลย สักพัก ผจก.มาคุยบอกว่าถ้าหากลูกค้าคิดว่าเบี้ยสูงไปจะนำไปพิจารณาเสนอมาใหม่
วันรุ่งขึ้น จนท.ธนาคารโทรมาบอกว่า ไปคำนวนให้ใหม่แล้วนะคะ เบี้ย 57,000 บาท จ่ายครั้งเดียวคุ้มครอง 15 ปี Cover วงเงินกู้บ้าน หากเสียชีวิตผู้รับผลประโยชน์จะไม่ต้องผ่อนต่อ ลูกค้าโอเคไหมคะ เราตอบ โอเค ค่ะ ถ้า 57,000 พี่จ่าย และไม่ต้องมีจดหมายด้วย นัดทำสัญญาได้เลย และก็บอกไปว่า พีขอโทษที่เหวี่ยง เพราะมันไม่สมเหตุสมผล น้องเข้าใจนะ (ไม่เข้าใจก็เรื่องของแกละกัน)
บางเรื่องก็สอนให้รู้ว่า เราต้องร้าย ต้องเหวี่ยง ต้องวีน เพื่อให้ได้มาซึ่งความยุติธรรม (โลกนี้มันอยู่ยากขึ้นทุกที) วันไปทำสัญญา จนท.มองเราทั้งสาขา สายตาแบบว่า (อินี่ไงที่โทรมาเหวี่ยง อารมณ์นั้นเลย)
ความคิดเห็นที่ 22
เห็นด้วยมากๆกับ หลายๆความคดเห็น เพราะปัจจุบัน bank ไม่มีความเป็น "นักธนาคาร" เหลทออยู่เลยมุ่งที่จะหวัง "ผลประโยชน์" เป็นหลัก ในอดีด ผู้จัดการธนาคาร ทำหน้ที่เหมือน "ที่ปรีกษาทางการเงิน" แต่ปัจจุบันด้วยนโยบายของธนาคาร ทำให้ต้องออกมาในลักษณนี้ bank ควรที่จะแยกแผนกขายประกัน ออกไปใ้ชัดเจน อย่าทำให้ดูเหมือนมี "ผลประโยชน์ทับซ้อน" เห็นด้วยมากๆกับหลายความคิดเห็น เรื่องการบริการที่ลดลง เมื่อไม่ได้ดังหวังชองพนักงาน เกิดอคติในงานบริการ ส่วน "ผู้ว่าการธนาคารปประเทศไทย" ก้มาจาก bank เขียว ที่ยังไม่รวม ค่าธรรมเนียมต่างๆที่ bank เรียกเก็บ ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยฝาก กับเงินกู้ ที่สูงมาก ซึ่งดูเหมือน ทางbank ชาติ ไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าที่ควร
เรื่องของเจ้าของกระทู้ ดูน่าจะเป็นเรื่องที่ "สังคม" น่าจะเอามาประนามมากกว่า เรื่องของ 7 - 11 เป็นไหนๆ
เรื่องของเจ้าของกระทู้ ดูน่าจะเป็นเรื่องที่ "สังคม" น่าจะเอามาประนามมากกว่า เรื่องของ 7 - 11 เป็นไหนๆ
ความคิดเห็นที่ 2
K8888 รับทราบปัญหา และเข้าใจความรู้สึกของคุณสมาชิกหมายเลข 2316745 ในขณะนี้นะคะ รบกวนแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามาทางหลังไมค์ เพื่อทาง K8888 ช่วยดูแลและประสานงานเร่งด่วน ทั้งในประเด็นประกัน และสินเชื่อที่คุณสมาชิกหมายเลข 2316745 ให้เกียรติสนใจใช้บริการกับธนาคารนะคะ
อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ยังไม่ได้รับข้อมูลทางหลังไมค์ K8888 ตรวจสอบรายละเอียดกับผู้เกี่ยวข้องในเบื้องต้นอยู่ด้วยนะคะ เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาให้กับคุณสมาชิกหมายเลข 2316745 โดยเร็วที่สุด
รบกวนแจ้งข้อมูลเข้ามาดังนี้ค่ะ
- ชื่อนามสกุล ผู้ขอสินเชื่อ
- หมายเลขบัญชี
- หมายเลขบัตรประชาชน
- หมายเลขกรมธรรม์
- ชื่อนามสกุลเจ้าหน้าที่ ที่กล่าวถึง
- หมายเลขโทรศัพท์สะดวกติดต่อค่ะ
อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ยังไม่ได้รับข้อมูลทางหลังไมค์ K8888 ตรวจสอบรายละเอียดกับผู้เกี่ยวข้องในเบื้องต้นอยู่ด้วยนะคะ เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาให้กับคุณสมาชิกหมายเลข 2316745 โดยเร็วที่สุด
รบกวนแจ้งข้อมูลเข้ามาดังนี้ค่ะ
- ชื่อนามสกุล ผู้ขอสินเชื่อ
- หมายเลขบัญชี
- หมายเลขบัตรประชาชน
- หมายเลขกรมธรรม์
- ชื่อนามสกุลเจ้าหน้าที่ ที่กล่าวถึง
- หมายเลขโทรศัพท์สะดวกติดต่อค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โดน สาวแบงค์สีเขียว หลอกทำประกันเบี้ยสูงเกือบแสน จะทำยังไงดีคะ??
เรากะแฟนทำธุรกิจ ขายปลีก-ส่ง รองเท้าคะ ต้นๆปีเริ่มมีปัญหาการเงิน ช่วงเดือนกุมภาได้กู้เงินกับ"แบงค์สีเขียว สาขาถนนมังกรคะ"
พอถึงวันสรุปเซ็นเอกสาร นางก็มาหาที่ร้านเลยคะ พูดเหมือนเดิมคะ "เนี่ยจริงๆ statement ดีนะ อ อยากจะให้สัก 2ล้านติดที่นาย" ระหว่างที่พูดมือก็ยื่นเอกสารนู่นนี่ ซึ่ง1ในนั้นคือ...ใบทำประกัน เราก็ไม่ได้อะไร นางก็บอกประกันตัวนี้เบี้ย 75,000/ปี ย้ำคะ ต่อปี!!!
คุณ อ "ทำตัวนี้ที่เดียวไปเลย cover เงิน 2,000,000 อ รับรองอีก 2-3เดือน อ จะทำเรื่องให้ ได้แน่นอนคะ"
เราคิดในใจ สาดดดดดแพงโคด
เรา "ขอตัดสินใจก่อนคะ"
คุณ อ "อันนี้ต้องทำเลยนะคะ นายขอมา!!"
เรา "เออ ตังค์ไม่มีหรอกคะ"
คุณ อ "รูดบัตรได้คะ ตอนนี้มีโปร 0%3เดือน"
เรา "บัตรน่าจะวงเงินไม่พอนะคะ" พยายามบ่ายเบี่ยง
คุณ อ "เดี๋ยวเพิ่มวงเงินฉุกเฉินให้เลยคะ"
เรา "เอออออออ"
คุณ อ "มันต้องทำอะคะ จะได้ดำเนินเรื่องสินเชื่อต่อ บลาๆๆ ละเดี๋ยวอีก 2-3 เดือน อ ช่วยให้ได้ 2 ล้านก็ไม่ต้องทำแล้วคะ"
เรา "คะๆโอเค" (เรากับแฟนจำเป็นต้องใช้เงินจริงๆคะ ไม่ได้ติดการพนันนะคะ)
นางก็เอา เอกสารให้เซ็น ตามสไตล์ ไม่ได้อ่านให้ถ้วนถี่ (อนุญาตให้ด่าได้คะ) เชื่อใจ ไว้ใจคะ พูดเลย เพราะตลอดเวลาที่ติดต่อกันนางน่ารักมากดูแลดีเว่อร์จริงๆ นางว่า 75,000 ก็อะ 75,000 ปุ้ปปั้บเรียบร้อย
ตกเย็นประมาน 5-6โมงเย็นมี call center โทรมา ยืนยันขอเพิ่มวงเงิน(บัตรแฟน) พอดีแฟนขับรถ เราบอกเอิ่มไม่สะดวกเดี๋ยวติดต่อมาใหม่ได้มั้ย ก็วางหูไปสักพัก
คุณ อ โทรมาเลย
เราก็ "มีไรคะ"
คุณ อ "คือพนักงาน call center แจ้งยังเพิ่มวงเงินไม่ได้"
เรา "คะ แฟนขับรถอยู่"
คุณ อ "ต้องยืนยันเลยนะคะ จะได้ดำเนินเรื่องสินเชื่อต่อคะ"
เรา "คะๆได้ๆ"
วางสาย call center โทรมายืนยัน ปุ้ปปั้ป
โดนไปละ 0%3เดือน 75,000 เดือนละ 25,000 ปลอบใจแฟน "เอาน่าเดี๋ยวอีก 2-3คุน อ ก็ช่วยเรื่องกู้ 2ล้าน อย่าคิดมาก"
(มาเชคตอนหลัง 80,000 ก่าๆนะจ้ะ มีเงินอย่างเดียวไม่ได้ต้อง...ด้วย)
อีก 1 สัปดาห์ต่อมาเราได้เงิน 500,000ที่ทำเรื่องกู้ไว้คะ เวลาผ่านไปเราโดนตัดเงินจากบัตรเครดิตทุกเดือน (เศรษฐกิจก็ดีเชอ) แถมผ่อนค่าเงินกู้อีก แต่ไม่เป็นไร คุยกัน2คนกะแฟน "เดี๋ยวอีก 2-3 เดือน คุณ อ ก็จะช่วยเรื่องกู้ให้ได้ 2ล้าน สู้ๆนะที่ร้ากกกก" 2-3เดือน ภายไปไวเหมือนโกหก จาก กุมภา-มีนา-เมษา หลังสงกรานต์ประมาณ วันที่ 20 กว่าๆคะ ตัดสินใจไปหานาง ด้วยความหวังอันสดใสพร้อมของฝากติดมือนิดหน่อย ถึงแบงค์
เรา "สวัสดี คุณ อ เป็นไงคะ บลาๆๆให้ของสมนาคุณ"
คุณ อ "คะ บลาๆๆวันนี้จะให้ อ ช่วยอะไรคะ"
เรา "เรื่องเงิน 2ล้านที่คุน อ เคยบอก??"
คุณ อ "เดี๋ยวนะคะ อ ไม่แน่ใจ"ก้อกๆแก้กๆกดคอมพ์
ระหว่างนั้นเราคิดเมิงไม่แน่ใจอะไร??
นาง อ "เพราะบางที พอ2-3เดือนเคสจะย้ายไป สนงใหญ่คะ"
เรา0_0 พี่นี่อึ้งเลยย้งงงงงงงง!! คิดในใจนะคะ
คุณ อ "นี่คะ คุน บลาๆๆ เบอร์โทร บลาๆๆๆ ติดต่อได้เลยคะ อ ทำได้แค่ช่วยประสานนิดหน่อยคะ เดิน บช กับทางแบงค์เราเหมือนเดิมเนอะ เค้าอาจของเอกสารเพิ่นนิดหน่อยอะคะ" ตัดบทกลายๆ
เรา "คะๆ ขอบคุนคะ"
ออกมาจากแบงค์ แบบ งงๆ แต่ก็เออๆ เดี๋ยวโทรหา คุณบลาๆๆนี่ละกัน โทรไปคุณ บลาๆๆ ก็ บลาๆๆๆใส่เรา เราก็โทรหา คุณ อ ว่าช่วยคุยกะคุณ บลาๆๆให้ทีคะ นางก็ได้คะเดี๋ยวคุยให้(ทั้งหมดเกิดขึ้นในวันเดียวนะคะ) ร้อนใจวันรุ่งขึ้น ไปแบงค์ที่ คุน อ ทำงาน
เรา "มาหาคุณอ คะ คุณ อ หยุดหรอคะ"
พนง "คุณ อ ไป ตปท คะ"
เรา "ไปไหนคะ ฮ่องกงหรอ(ตอนทำเอกสารเรื่องกู้ตอนแรกนางชวนคุยคะ บอกชอบไปไห้วพระวัดกังหันที่ hk)
พนง "ไป อังกฤษ คะ!!!กลับประมาณ 29-30 คะ"
เท่านั้นละ ดีออก!! ได้ยอดเบี้ยประกัน ตรูไปเที่ยว อังกฤษ!!! อิเวลลลคัม สลัมเบอแลนด์
แต่เราก็ทิ้งเรื่องไว้นะคะ ว่ายังไงกลับมาช่วยติดต่อเราด้วย
ผ่านมาจนถึงตอนนี้นาง อ ก็มิได้ติดต่อ มาหาเราแต่อย่างใด มีแต่คุณ บลาๆๆ มาอธิบายให้เราตาสว่าง
ตอนนี้เรากะแฟน ได้ร้องเรียนทางแบงค์เขียว ผ่าน call center ไปแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยเราได้มากน้อยแค่ไหน เรากะแฟนไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ เราไม่ได้มีเจตนา ต่อว่าแบงค์เขียวนะคะ แต่ พนง บางคนของคุณ ทำสิ่งที่เลวมากๆกับเรา พนง ของคุณหากินกับคนที่เดือดร้อน เงินที่คุณหลอกเราไป อาจทำให้คุณได้ไปเที่ยว "ENGLAND ดู big ben ขึ้น london eye อย่างหน้าไม่อาย" คุณรู้มั้ยคะทุกบาทที่เราเสียให้คุณไปมันมีคุณค่ามากแค่ไหน
ปล.ข้อความทั้งหมดไม่ได้จำได้เปะๆนะคะแต่โดนรวมประมาณนี้คะ และขออภัยหากใช้คำไม่สุภาพหรือไม่เหมาะสม อารมณ์มันพาไปคะ