สวรรค์บาป ตอนที่4 >>
http://pantip.com/topic/33544158
ตอนที่5
ประวิทย์มองดูชลิตาลูกสาวของคุณนายตรีรัตน์อยู่ห่างๆ เมื่อเห็นหล่อนกำลังนั่งจิบกาแฟยามเช้าที่ซุ้มไม้เลื้อย ซึ่งทำเป็นที่ไว้นั่งเล่นหรือพักผ่อนท่ามกลางสวนดอกไม้ที่งดงามอยู่โดยรอบ
ประวิทย์เป็นบุตรชายคนเดียวของนางสายและนายคง คนงานในบ้านเกียรติยานนท์ เขาเรียนจบปริญญาตรีคณะบริหารธุรกิจ เหตุที่เขาได้เรียนจนถึงปริญญาตรีก็เนื่องจากคุณนายตรีรัตน์เป็นผู้ส่งเสียไม่ใช่เพียงแต่เขา ทุกๆคนในบ้านเกียรติยานนท์ หากต้องการสิ่งใดและไม่เหนือบ่ากว่าแรงคุณนายตรีรัตน์หล่อนจะจัดการในทุกเรื่อง
ด้วยเหตุนี้ประวิทย์จึงรักและเทิดทูนคุณนายตรีรัตน์เป็นอย่างมาก และรวมถึงสตรีสาวประเภทสองที่นั่งสง่างามอยู่ตรงนั้น เขาและชลิตาสนิทสนมกันมากเนื่องจากเติบโตมาด้วยกันแทบจะเป็น 'เพื่อน' ที่สนิทที่สุดก็ว่าได้
"สวัสดีตอนเช้าจ้ะหนุ่ม"
"อุ๊ย...ประวิทย์ก็...เราเปลี่ยนชื่อตั้งนานแล้วยังเรียกหนุ่มอยู่ได้ ประวิทย์นี่จริงๆเลยนะ...ฮี เราไม่คุยด้วยแล้ว" ชลิตากล่าวอย่างงอนๆ เนื่องจากประวิทย์พูดชื่อเล่นของหล่อนในวัยเด็ก...หนุ่ม...คือชื่อที่หล่อนไม่อยากจะจำเลยจริงๆ ให้ตายเถอะ
"แหม....เราล้อเล่นน่ะ...คุณชลิตา...อย่างอนเลยนะเดี๋ยวไม่สวยรู้ไหม" ประวิทย์เดินเข้ามานั่งตรงเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับชลิตา พลางกล่าวเสียงหวานลากยาว
"ประวิทย์นี่ชอบแกล้งเราตลอดเวลาเลย ฮึ ต่อไปต้องดุบ้างแล้วล่ะ...เออ...ว่าแต่วันนี้ประวิทย์ไม่ไปทำงานที่โรงงานหรือ?" ชลิตาเอ่ยถาม บุรุษรูปร่าง ผอม สูง ใบหน้าคมและสีผิวนั้นเข้มแบบพิมพ์นิยมของหนุ่มภาคใต้
"ไม่ไปแล้วล่ะ วันนี้เราขอลาหนึ่งวันน่ะ ไม่ว่ากันนะครับ" ประวิทย์ทำเสียงอ้อน เอามือของเขาเองกุมเข้าด้วยกัน และนำหน้าไปวางบนมือที่แข็งแรงนั้นของเขา สายตาออดอ้อนส่งไปที่ชลิตา สาวประเภทสองเพื่อนที่รักที่สุดของเขา
"ประวิทย์" ชลิตามองดูชายหนุ่มขี้เล่น เพื่อนคนแรกที่หล่อนรู้จักในชีวิต บัดนี้หล่อนรู้สึกไม่สนุกเลยจริงๆ หล่อนไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ชลิตากำลังมีเรื่องกลุ้มใจ
"เป็นอะไรไปหรือเพื่อน...ดูสีหน้าไม่สดใสเลย ไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า?" ประวิทย์ถามเพื่อน ที่กำลังทำหน้าอมทุกข์ เขารู้ว่าเมื่อชลิตาทำหน้าแบบนี้เหมือนคนกำลังแบกโลกไว้ทั้งใบจะต้องมีเรื่องไม่สบายใจเป็นแน่
"คุณแม่จะให้เราแต่งงาน!" ชลิตามองดูประวิทย์ ชายหนุ่มตรงหน้าอย่างเศร้าใจ ตลอดเวลาที่หล่อนมีเรื่องไม่สบายใจ ประวิทย์ก็คือคนเดียวที่หล่อนจะสามารถระบายในสิ่งที่หล่อนอัดอั้น ทุกๆเรื่อง หล่อนจำได้ดีเมื่อหนึ่งปีที่ผ่านมา เป็นวันที่หล่อนกับอดีตแฟนหนุ่มต้องเลิกรากัน เพียงเพราะชลิตาจับได้ว่าเขาคิดไม่ดี ผู้ชายคนนี้ยิ่งกว่าแมงดาเสียอีก ชลิตาพยายามจะหยุดแต่อดีตแฟนหนุ่มของหล่อนไม่ยอม...เขาเรียกร้องเงินทองมากมาย นั่นคือสิ่งที่หล่อนเจ็บปวดมากที่สุดเมื่อรู้ว่าคนที่ตนเองรักหลอกเพื่อที่จะเอเพียงแค่เงินเท่านั้น...ไม่มีเงินก็ไม่มีความรัก!
ชลิตาจำได้ว่าหล่อนเองนั้นเสียใจมาก ผิดหวังในความรักมาเกือบทุกครั้ง ก็ได้ประวิทย์นี่แหละมาช่วยปลอบใจ จนบัดนี้แม้จะไม่หายดีจากการบาดเจ็บ แต่หล่อนก็พยามยามจะลืม และด้วยเหตุนี้ทำให้หล่อนมองความรักไม่เหมือนเดิม!
"ประวิทย์ เราไม่อยากจะแต่งงานในตอนนี้ เรากลัว...กลัวว่ามันจะไม่เป็นอย่างที่เราคิด" ชลิตาเริ่มมีน้ำตาคลอเบ้า ประวิทย์รู้สึกไม่ชอบเลยเมื่อเห็นเพื่อนรักต้องเสียน้ำตากับเรื่องความรัก ถึงแม้จะบ่อยครั้งจนใครหลายคนอาจจะชินชา แต่สำหรับประวิทย์มันไม่ใช่
"จริงๆหรือ!" ประวิทย์พูดอย่างตกใจ เขาไม่รู้มาก่อนว่าคุณนายตรีรัตน์จะจัดหาชายหนุ่มมาแต่งงานกับสาวประเภทสองอย่างชลิตา แน่นอนหล่อนเป็นคนสวยและมีทรัพย์เป็นสมบัติ แต่มันก็ไม่ง่ายที่จะมีใครสักคนเป็นรักแท้
"จริงซีประวิทย์ เห็นคุณแม่บอกว่าอีกวันสองวันเขาจะอยู่ที่นี่ ตาไม่อยากพบเขาเลย คุณแม่บอกว่าเขาดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ แต่ตาคิดว่าเขาอาจจะคิดไม่ดีกับตาหรอก"
ประวิทย์จ้องมองหญิงสาว นิ่งเงียบเหมือนใช้ความคิด บัดนี้เขารู้สึกเหมือนสูญเสียอะไรบางอย่างในชีวิตไป ในใจลึกๆนั้นเขาแอบชอบชลิตา ชอบมานานมากหลังจากที่เขารู้ว่าชลิตาเป็นสาวประเภทสองเต็มตัว ตอนแรกเขาก็ยังไม่คิดและไม่กล้าจะคิด หนึ่งคือเขาเป็นเพียงคนในบ้านเท่านั้นและสองเขาไม่กล้าที่จะบอกสิ่งที่อยู่ในใจสิ่งนี้กับชลิตา
เขารัก ถึงแม้ว่าหญิงตรงหน้าจะไม่ใช่ผู้หญิงจริงๆ เขาก็รักไม่ใช่เพราะเขาเป็นเพื่อนสนิทแต่เป็นเพราะเขาได้เรียนรู้นิสัยใจคอของชลิตาว่าเป็นคนอย่างไร
เมื่อประวิทย์รู้ว่าชลิตากำลังจะต้องแต่งงานกับชายที่มารดาของหล่อนเป็นผู้เลือกไว้ให้ ประวิทย์รู้สึกใจหายและความหวังที่เขาจะได้บอกรักกับชลิตาดูเหมือนมันจะยิ่งห่างออกไปมากกว่าเดิม
"คุณท่านจะให้ตาแต่งงานหรือ...แล้วตาอยากจะแต่งหรือเปล่าล่ะ" ประวิทย์พูดเสียงอ่อนลง เขามีสีหน้าที่แสดงออกให้สตรีตรงหน้าเห็นว่าเขารู้สึกเห็นใจหล่อนเป็นอย่างมาก
"โธ่ ประวิทย์ ถ้าตาอยากจะแต่งงานจริงๆน่ะ ก่อนจะแต่งมันก็ต้องศึกษาดูใจกันก่อน ไม่ใช่อยู่เจ้าบ่าวโผล่มาจากหลุมไหนก็ไม่รู้แล้วมาโมเมให้แต่งงานกัน ตาว่ามันเหมือนละครไปนะ นี่มันคือชีวิตจริงนะประวิทย์"
ประวิทย์นิ่งเงียบไปอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่เขาจะคำนึงถึงชายหนุ่มผู้ที่จะมาเป็นเจ้าบ่าวของชลิตา เขาคิดว่าถ้าหากชายคนนั้นเข้ามาเพียงเพราะเงินทองไม่ได้รักชลิตาจริงๆ เขาก็จะขัดขวางให้ถึงที่สุด แต่ถ้าหากชายหนุ่มปริศนาผู้นั้น ไม่มีจิตใจที่แข็งกระด้างจนเกินไปและเข้ามาเพื่อที่จะรักและดูแลชลิตา เขาก็ย่อมที่จะยอมหลีกทาง...เป็นเพียงแค่เพื่อนตลอดกาล!
****************************
ชานนท์ เขามาในนามของสุทธิ์นันท์น้องชายต่างบิดาและมารดา เขาขับรถมาถึงหน้าบ้านไม้หลังใหญ่ที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ ขณะนี้มันเป็นเวลาบ่ายสอง ก่อนเขาจะมาถึงหน้าประตูบ้านเกียรติยานนท์ เขาจอดรถสอบถามผู้คนริมถนน ไม่มีใครไม่รู้จักบ้านเกียรติยานนท์ ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า
"อ๋อ...บ้านคุณนายตรีรัตน์ ไปง่ายมากเดี๋ยวจะบอกทางให้เองพ่อหนุ่ม"
เขาเดินลงจากรถเพื่อไปกดกริ่งที่อยู่มุมหนึ่งของประตูบานใหญ่นั้น เขากดลงไปเพียงสองครั้ง ยืนรอเพียงอึดใจเดียวก็มีสตรีนางหนึ่งซึ่งเขาคิดว่านั่นคือคนงานในบ้านเกียรติยานนท์
"มาพบใครไม่ทราบคะคุณ" สตรีสาวตรงหน้ากล่าวอย่างนอบน้อม
"เอ่อ...ผมมาพบคุณตรีรัตน์น่ะครับ สุทธิ์นันท์ครับ"
หญิงสาวเมื่อได้ยินชื่อบุรุษรูปงามผู้นี้ถึงกับยิ้มกว้างและกล่าวอย่างรู้งาน... "อ๋อคุณนี่เอง เชิญค่ะคุณนายบอกกับดิฉันไว้ว่าคุณจะมาถึงบ่ายๆ เชิญค่ะเชิญคุณนายท่านรอพบคุณอยู่ค่ะ"
เมื่อเขาขับรถเข้ามาถึงลานจอดรถ เขาก้าวลงจากรถเก๋งคันงาม สายตามองไปรอบๆอณาจักรเขารู้สึกว่าที่แห่งนี้มันร่มรื่นและงดงามมาก ที่นี่แม้จะเป็นเวลาบ่ายของเดือนเมษายนแต่เขารู้สึกเย็นสบายแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับบรรยากาศภายนอก
เขาเดินตามสตรีหญิงคนงานเข้าไปภายในบ้านหลังใหญ่ซึ่งทำด้วยไม้ราคาแพงทั้งหลัง เมื่อเขาเดินเข้าไปในบ้านเขามองดูสิ่งของตั้งแต่ประตูจนถึงในตัวเรือนชั้นล่าง ทุกๆมุมของบ้าจะมีภาพวาดเกี่ยวกับรูปภาพต่างๆอยู่เกือบทุกมุม ทำให้เขาคิดว่าเจ้าของบ้านหลังนี้อาจจะชอบวาดภาพเป็นชีวิตจิตใจหรือไม่ก็หลงไหลในงานศิลปเป็นอย่างมาก
เขาเดินตามหญิงคนงานเข้ามาถึงห้อง ห้องที่เขาคิดว่าน่าจะเป็นที่ต้อนรับแขกเหรื่อ เขามองเห็นสตรีวัยกลางคนด้านหน้าซึ่งนั่งอย่างสง่างามอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ นัยน์ตาคมกริบของคุณนายตรีรัตน์มองลอดแว่นตาเพ่งดูเขาอย่างสำรวจตรวจตรา ก่อนเอ่ยขึ้นว่า
"พ่อสุทธิ์นันท์หรือจ๊ะ แหม! ป้าจำไม่ได้เลยทีเดียว ตอนนี้โตเป็นหนุ่มแล้ว ป้าเคยเห็นแค่ตอนเล็กๆไม่คิดเลยว่าโตขึ้นจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้!"
คำทักทายของหล่อนทำให้ชานนท์ในคราบของสุทธิ์นันท์อดที่จะสะดุ้งเฮิอกไม่ได้ ทั้งที่ท่านก็ทักทายอย่างเป็นมิตรและเอ็นดูเขาเสียด้วยซ้ำ จำได้ว่าเขาขยับตัวเล็กน้อยอย่างอึดอัดใจ กำลังคิดหาคำพูดออกมาตอบโต้ท่านอยู่ แต่พอดีคุณตรีรัตน์กล่าวต่อไปว่า
"อ้าว...ดูซิ ป้าบอกให้ยายตาออกมาต้อนรับ ดู ป่านนี้ยังไม่ลงมาจากห้องเลย ป้าแจ้ว...ไปตามคุณหนูลงมาหน่อยเร็ว บอกว่าคุณสุทธิ์นันท์มาถึงแล้ว"
ชานนท์มองดูหญิงชราผู้ที่มีนามว่า "แจ้ว" รูปร่างอ้วนท้วมเขาคิดว่าเธออาจจะเป็นคนดูแล ชลิตา หญิงสาวประเภทสองที่เขาจะต้องมาพบในวันนี้ก็เป็นได้
เขาทรุดลงนั่งตามคำเชิญของคุณนายตรีรัตน์ พลางจิบน้ำเย็นฉ่ำ ที่คุณนายตรีรัตน์ได้เตรียมไว้ให้กับเขา เขาจำได้ว่าคุยกับคุณนายตรีรัตน์ไม่นานนัก เขาก็มองเห็นหญิงสาวเดินลงมาจากด้านบนของตัวเรือน
วินาทีแรกที่เขาเห็นหญิงสาวผู้นี้ มันช่างแตกต่างกับความคิดในจิตนาการของเขาซะเหลือเกิน ในตอนแรกเขาคิดว่า ชลิตา อาจจะเป็นคนที่ขี้ริ้วขี่เหร่ไม่น่าโสภาอาภรณ์ แต่สิ่งที่เขาคิดกลับผิดคาดไปซะหมด สตรีสาวประเภทสองตรงหน้างดงาม ใบหน้าเรียวเล๋็กรูปไข่ คางเรียวและมีรูปรางบอบบางสูงโปร่งอย่างกับนางแบบในนิตยสารก็ไม่ปาน เขามองดูอย่างพิศวงว่านี่หรือกะเทยที่สุทธิ์นันท์รวมถึงตัวเขาไม่เคยคิดว่าอดีตที่เป็นเด็กผู้ชายตั้งแต่แรกเกิดจะงดงามและสวยสง่าได้ถึงขนาดนี้
"เอ่อ...พี่ยินดีมากนะครับที่ได้รู้จักน้องชลิตา..."
"เรียกตาเฉยๆก็ได้ค่ะคุณสุทธิ์นันท์ ชญากร!" ชลิตากดเสียงลงต่ำเมื่อหล่อนได้ยินคำกล่าวทักทายของชายหนุ่มตรงหน้า ชลิตารำพึงในใจว่าเหตุใดชายผู้นี่ถึงมีผิวพรรณที่ขาวสะอาดเช่นนี้ รูปร่างหน้าตาก็งดงามไม่มีที่ติ เหตุใดถึงอยากจะมาแต่งงานกับหล่อนได้นะ ชลิตาคิดลึกลงไปอีกว่าบางทีเขาอาจจะมีภรรยาแล้วก็เป็นได้แล้วแอบมาแต่งงานกับหล่อนเพื่อที่จะฮุบสมบัติ!
"ครับคุณตา..." เขาชะงักไปอีกครั้งเมื่อได้ยินน้ำเสียงก้องกังวาลของชลิตา เกียรติยานนท์ เขาไม่คิดเลยว่าทั้งน้ำเสียงและรูปร่างหน้าตาของเจ้าหล่อนจะเหมือนผู้หญิงได้มากขนาดนี้ เขารู้มาบ้างว่าในประเทศไทยขึ้นชื่อเรื่องสาวประเภทสองที่สวยดุจสตรี แต่เขาก็ไม่เคยมีเพื่อนหรือรู้จักสาวประเภทสองคนไหนในชีวิต ชลิตาคือคนแรกและเป็นคนที่เขาคาดไม่ถึงเลยว่าจะสวยได้ถึงขนาดนี้ และชานนท์ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าถ้าสุทธิ์นันท์มาเห็นตัวจริงของชลิตาแล้วนั้น เขาจะเปลี่ยนใจจากกาญน์กนกแฟนสาวของเขาหรือไม่นะ?
เขาสังเกตุว่าชลิตาไม่ค่อยจะพูดจาหรืออะไรกับเขาสักเท่าไหร่อาจจะเป็นเพราะเพิ่งจะรู้จักและได้พบเห็นกันเป็นครั้งแรก หรือไม่เขาก็คิดว่าชลิตาอาจจะไม่ชอบเขาก็เป็นได้
ตลอดเวลาที่คุณตรีรัตน์ซักถามเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวชญากรที่กรุงเทพฯนั้น ชานน์ลอบสังเกตเห็นว่า ดวงตาของคุณตรีรัตน์ที่มองเขานั้นออกจะฉายแววฉงนฉงายอยู่บ่อยครั้ง!
หลังจากที่เขาได้ทำความรู้จักกับชลิตาและคุณนายตรีรัตน์แล้วนั้น คุณนายได้นำเขามาดูห้องพักซึ่งจะเป็นห้องส่วนตัวที่คุณนายตรีรัตน์ได้จัดไว้ให้เขา มันเป็นห้องที่โอ่โถงและกว้างขวางในห้องนั้นมีระเบียงยื่นออกไปมองเห็นพื้นที่ภายนอกซึ่งด่านล่างก็คือสวนไม้ดอกที่สวยงาม!
ชายหนุ่มจัดแจงอาบน้ำแต่งตัวอีกครั้งเนื่องจากเขารู้สึกเหนียวตัวเป็นอย่างมาก ครั้นแล้วเขาแต่งตัวเพื่อจะออกนอกบ้านด้วยด้วยเชิ๊ตแขนสั้นสีขาวและกางเกงยีนสีน้ำเงินอ่อน
ชานนท์พบชลิตาซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ซุ้มด้านหน้าของบ้าน ดูร่มรื่นงดงามด้วยเถาไม้เลื้อย หล่อนกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือ เหมือนกำลังดูอะไรบางสิ่งบางอย่างด้วยความตั้งใจ
เสียงฝีเท้าค่อนข้างหนักของชายหนุ่มทำให้ชลิตามองเหลียวหลังกลับไปทันที เมื่อหล่อนเห็นว่าเป็นสุทธิ์นันท์ผู้ชายที่มารดาจะให้มาแต่งงาน ชลิตาทำท่าจะลุกขึ้นแต่ยังไม่ทันจะได้ไปไหน ชายหนุ่มรูปงามก็ทักทายขึ้นมาก่อน
"ผมจะออกไปในเมืองชุมพร คุณต้องการจะฝากซื้ออะไรหรือเปล่าครับ?"
"ตาไม่ต้องการอะไรหรอกค่ะ ขอบคุณนะคะ อ้อแล้วคุณออกไปจะกลับมาอีกหรือเปล่าคะ ถ้าไม่ก็จะดีมาก!"
ชานนท์ผู้จำเป็นที่จะต้องอยู่ในบ้านเกียรติยานนท์ในนามของสุทธิ์นันท์ เขาคิดว่านี่มันอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้วที่เขาจะอยู่ที่นี่ ก็ในเมื่อการต้อนรับของหญิงสาวตรงหน้า สาวประเภทสองคนงามผู้นี้กำลังแสดงให้เห็นว่าหล่อนจะไม่ชอบใจที่เขาเข้ามาอยู่ในบ้านของเธอ
"น้องตาชอบหนังสือหรืออะไรไหมครับพี่จะซื้อมาให้ หรือต้องการจะทานอะไรเป็นพิเศษ" ชายหนุ่มพยามยามข่มใจและพูดตอบโต้กลับไปอย่างสุภาพ
สวรรค์บาป (ตัวเดินเรื่องเป็นสาวประเภทสอง) ตอนที่5
ตอนที่5
ประวิทย์มองดูชลิตาลูกสาวของคุณนายตรีรัตน์อยู่ห่างๆ เมื่อเห็นหล่อนกำลังนั่งจิบกาแฟยามเช้าที่ซุ้มไม้เลื้อย ซึ่งทำเป็นที่ไว้นั่งเล่นหรือพักผ่อนท่ามกลางสวนดอกไม้ที่งดงามอยู่โดยรอบ
ประวิทย์เป็นบุตรชายคนเดียวของนางสายและนายคง คนงานในบ้านเกียรติยานนท์ เขาเรียนจบปริญญาตรีคณะบริหารธุรกิจ เหตุที่เขาได้เรียนจนถึงปริญญาตรีก็เนื่องจากคุณนายตรีรัตน์เป็นผู้ส่งเสียไม่ใช่เพียงแต่เขา ทุกๆคนในบ้านเกียรติยานนท์ หากต้องการสิ่งใดและไม่เหนือบ่ากว่าแรงคุณนายตรีรัตน์หล่อนจะจัดการในทุกเรื่อง
ด้วยเหตุนี้ประวิทย์จึงรักและเทิดทูนคุณนายตรีรัตน์เป็นอย่างมาก และรวมถึงสตรีสาวประเภทสองที่นั่งสง่างามอยู่ตรงนั้น เขาและชลิตาสนิทสนมกันมากเนื่องจากเติบโตมาด้วยกันแทบจะเป็น 'เพื่อน' ที่สนิทที่สุดก็ว่าได้
"สวัสดีตอนเช้าจ้ะหนุ่ม"
"อุ๊ย...ประวิทย์ก็...เราเปลี่ยนชื่อตั้งนานแล้วยังเรียกหนุ่มอยู่ได้ ประวิทย์นี่จริงๆเลยนะ...ฮี เราไม่คุยด้วยแล้ว" ชลิตากล่าวอย่างงอนๆ เนื่องจากประวิทย์พูดชื่อเล่นของหล่อนในวัยเด็ก...หนุ่ม...คือชื่อที่หล่อนไม่อยากจะจำเลยจริงๆ ให้ตายเถอะ
"แหม....เราล้อเล่นน่ะ...คุณชลิตา...อย่างอนเลยนะเดี๋ยวไม่สวยรู้ไหม" ประวิทย์เดินเข้ามานั่งตรงเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับชลิตา พลางกล่าวเสียงหวานลากยาว
"ประวิทย์นี่ชอบแกล้งเราตลอดเวลาเลย ฮึ ต่อไปต้องดุบ้างแล้วล่ะ...เออ...ว่าแต่วันนี้ประวิทย์ไม่ไปทำงานที่โรงงานหรือ?" ชลิตาเอ่ยถาม บุรุษรูปร่าง ผอม สูง ใบหน้าคมและสีผิวนั้นเข้มแบบพิมพ์นิยมของหนุ่มภาคใต้
"ไม่ไปแล้วล่ะ วันนี้เราขอลาหนึ่งวันน่ะ ไม่ว่ากันนะครับ" ประวิทย์ทำเสียงอ้อน เอามือของเขาเองกุมเข้าด้วยกัน และนำหน้าไปวางบนมือที่แข็งแรงนั้นของเขา สายตาออดอ้อนส่งไปที่ชลิตา สาวประเภทสองเพื่อนที่รักที่สุดของเขา
"ประวิทย์" ชลิตามองดูชายหนุ่มขี้เล่น เพื่อนคนแรกที่หล่อนรู้จักในชีวิต บัดนี้หล่อนรู้สึกไม่สนุกเลยจริงๆ หล่อนไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ชลิตากำลังมีเรื่องกลุ้มใจ
"เป็นอะไรไปหรือเพื่อน...ดูสีหน้าไม่สดใสเลย ไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า?" ประวิทย์ถามเพื่อน ที่กำลังทำหน้าอมทุกข์ เขารู้ว่าเมื่อชลิตาทำหน้าแบบนี้เหมือนคนกำลังแบกโลกไว้ทั้งใบจะต้องมีเรื่องไม่สบายใจเป็นแน่
"คุณแม่จะให้เราแต่งงาน!" ชลิตามองดูประวิทย์ ชายหนุ่มตรงหน้าอย่างเศร้าใจ ตลอดเวลาที่หล่อนมีเรื่องไม่สบายใจ ประวิทย์ก็คือคนเดียวที่หล่อนจะสามารถระบายในสิ่งที่หล่อนอัดอั้น ทุกๆเรื่อง หล่อนจำได้ดีเมื่อหนึ่งปีที่ผ่านมา เป็นวันที่หล่อนกับอดีตแฟนหนุ่มต้องเลิกรากัน เพียงเพราะชลิตาจับได้ว่าเขาคิดไม่ดี ผู้ชายคนนี้ยิ่งกว่าแมงดาเสียอีก ชลิตาพยายามจะหยุดแต่อดีตแฟนหนุ่มของหล่อนไม่ยอม...เขาเรียกร้องเงินทองมากมาย นั่นคือสิ่งที่หล่อนเจ็บปวดมากที่สุดเมื่อรู้ว่าคนที่ตนเองรักหลอกเพื่อที่จะเอเพียงแค่เงินเท่านั้น...ไม่มีเงินก็ไม่มีความรัก!
ชลิตาจำได้ว่าหล่อนเองนั้นเสียใจมาก ผิดหวังในความรักมาเกือบทุกครั้ง ก็ได้ประวิทย์นี่แหละมาช่วยปลอบใจ จนบัดนี้แม้จะไม่หายดีจากการบาดเจ็บ แต่หล่อนก็พยามยามจะลืม และด้วยเหตุนี้ทำให้หล่อนมองความรักไม่เหมือนเดิม!
"ประวิทย์ เราไม่อยากจะแต่งงานในตอนนี้ เรากลัว...กลัวว่ามันจะไม่เป็นอย่างที่เราคิด" ชลิตาเริ่มมีน้ำตาคลอเบ้า ประวิทย์รู้สึกไม่ชอบเลยเมื่อเห็นเพื่อนรักต้องเสียน้ำตากับเรื่องความรัก ถึงแม้จะบ่อยครั้งจนใครหลายคนอาจจะชินชา แต่สำหรับประวิทย์มันไม่ใช่
"จริงๆหรือ!" ประวิทย์พูดอย่างตกใจ เขาไม่รู้มาก่อนว่าคุณนายตรีรัตน์จะจัดหาชายหนุ่มมาแต่งงานกับสาวประเภทสองอย่างชลิตา แน่นอนหล่อนเป็นคนสวยและมีทรัพย์เป็นสมบัติ แต่มันก็ไม่ง่ายที่จะมีใครสักคนเป็นรักแท้
"จริงซีประวิทย์ เห็นคุณแม่บอกว่าอีกวันสองวันเขาจะอยู่ที่นี่ ตาไม่อยากพบเขาเลย คุณแม่บอกว่าเขาดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ แต่ตาคิดว่าเขาอาจจะคิดไม่ดีกับตาหรอก"
ประวิทย์จ้องมองหญิงสาว นิ่งเงียบเหมือนใช้ความคิด บัดนี้เขารู้สึกเหมือนสูญเสียอะไรบางอย่างในชีวิตไป ในใจลึกๆนั้นเขาแอบชอบชลิตา ชอบมานานมากหลังจากที่เขารู้ว่าชลิตาเป็นสาวประเภทสองเต็มตัว ตอนแรกเขาก็ยังไม่คิดและไม่กล้าจะคิด หนึ่งคือเขาเป็นเพียงคนในบ้านเท่านั้นและสองเขาไม่กล้าที่จะบอกสิ่งที่อยู่ในใจสิ่งนี้กับชลิตา
เขารัก ถึงแม้ว่าหญิงตรงหน้าจะไม่ใช่ผู้หญิงจริงๆ เขาก็รักไม่ใช่เพราะเขาเป็นเพื่อนสนิทแต่เป็นเพราะเขาได้เรียนรู้นิสัยใจคอของชลิตาว่าเป็นคนอย่างไร
เมื่อประวิทย์รู้ว่าชลิตากำลังจะต้องแต่งงานกับชายที่มารดาของหล่อนเป็นผู้เลือกไว้ให้ ประวิทย์รู้สึกใจหายและความหวังที่เขาจะได้บอกรักกับชลิตาดูเหมือนมันจะยิ่งห่างออกไปมากกว่าเดิม
"คุณท่านจะให้ตาแต่งงานหรือ...แล้วตาอยากจะแต่งหรือเปล่าล่ะ" ประวิทย์พูดเสียงอ่อนลง เขามีสีหน้าที่แสดงออกให้สตรีตรงหน้าเห็นว่าเขารู้สึกเห็นใจหล่อนเป็นอย่างมาก
"โธ่ ประวิทย์ ถ้าตาอยากจะแต่งงานจริงๆน่ะ ก่อนจะแต่งมันก็ต้องศึกษาดูใจกันก่อน ไม่ใช่อยู่เจ้าบ่าวโผล่มาจากหลุมไหนก็ไม่รู้แล้วมาโมเมให้แต่งงานกัน ตาว่ามันเหมือนละครไปนะ นี่มันคือชีวิตจริงนะประวิทย์"
ประวิทย์นิ่งเงียบไปอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่เขาจะคำนึงถึงชายหนุ่มผู้ที่จะมาเป็นเจ้าบ่าวของชลิตา เขาคิดว่าถ้าหากชายคนนั้นเข้ามาเพียงเพราะเงินทองไม่ได้รักชลิตาจริงๆ เขาก็จะขัดขวางให้ถึงที่สุด แต่ถ้าหากชายหนุ่มปริศนาผู้นั้น ไม่มีจิตใจที่แข็งกระด้างจนเกินไปและเข้ามาเพื่อที่จะรักและดูแลชลิตา เขาก็ย่อมที่จะยอมหลีกทาง...เป็นเพียงแค่เพื่อนตลอดกาล!
****************************
ชานนท์ เขามาในนามของสุทธิ์นันท์น้องชายต่างบิดาและมารดา เขาขับรถมาถึงหน้าบ้านไม้หลังใหญ่ที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ ขณะนี้มันเป็นเวลาบ่ายสอง ก่อนเขาจะมาถึงหน้าประตูบ้านเกียรติยานนท์ เขาจอดรถสอบถามผู้คนริมถนน ไม่มีใครไม่รู้จักบ้านเกียรติยานนท์ ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า
"อ๋อ...บ้านคุณนายตรีรัตน์ ไปง่ายมากเดี๋ยวจะบอกทางให้เองพ่อหนุ่ม"
เขาเดินลงจากรถเพื่อไปกดกริ่งที่อยู่มุมหนึ่งของประตูบานใหญ่นั้น เขากดลงไปเพียงสองครั้ง ยืนรอเพียงอึดใจเดียวก็มีสตรีนางหนึ่งซึ่งเขาคิดว่านั่นคือคนงานในบ้านเกียรติยานนท์
"มาพบใครไม่ทราบคะคุณ" สตรีสาวตรงหน้ากล่าวอย่างนอบน้อม
"เอ่อ...ผมมาพบคุณตรีรัตน์น่ะครับ สุทธิ์นันท์ครับ"
หญิงสาวเมื่อได้ยินชื่อบุรุษรูปงามผู้นี้ถึงกับยิ้มกว้างและกล่าวอย่างรู้งาน... "อ๋อคุณนี่เอง เชิญค่ะคุณนายบอกกับดิฉันไว้ว่าคุณจะมาถึงบ่ายๆ เชิญค่ะเชิญคุณนายท่านรอพบคุณอยู่ค่ะ"
เมื่อเขาขับรถเข้ามาถึงลานจอดรถ เขาก้าวลงจากรถเก๋งคันงาม สายตามองไปรอบๆอณาจักรเขารู้สึกว่าที่แห่งนี้มันร่มรื่นและงดงามมาก ที่นี่แม้จะเป็นเวลาบ่ายของเดือนเมษายนแต่เขารู้สึกเย็นสบายแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับบรรยากาศภายนอก
เขาเดินตามสตรีหญิงคนงานเข้าไปภายในบ้านหลังใหญ่ซึ่งทำด้วยไม้ราคาแพงทั้งหลัง เมื่อเขาเดินเข้าไปในบ้านเขามองดูสิ่งของตั้งแต่ประตูจนถึงในตัวเรือนชั้นล่าง ทุกๆมุมของบ้าจะมีภาพวาดเกี่ยวกับรูปภาพต่างๆอยู่เกือบทุกมุม ทำให้เขาคิดว่าเจ้าของบ้านหลังนี้อาจจะชอบวาดภาพเป็นชีวิตจิตใจหรือไม่ก็หลงไหลในงานศิลปเป็นอย่างมาก
เขาเดินตามหญิงคนงานเข้ามาถึงห้อง ห้องที่เขาคิดว่าน่าจะเป็นที่ต้อนรับแขกเหรื่อ เขามองเห็นสตรีวัยกลางคนด้านหน้าซึ่งนั่งอย่างสง่างามอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ นัยน์ตาคมกริบของคุณนายตรีรัตน์มองลอดแว่นตาเพ่งดูเขาอย่างสำรวจตรวจตรา ก่อนเอ่ยขึ้นว่า
"พ่อสุทธิ์นันท์หรือจ๊ะ แหม! ป้าจำไม่ได้เลยทีเดียว ตอนนี้โตเป็นหนุ่มแล้ว ป้าเคยเห็นแค่ตอนเล็กๆไม่คิดเลยว่าโตขึ้นจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้!"
คำทักทายของหล่อนทำให้ชานนท์ในคราบของสุทธิ์นันท์อดที่จะสะดุ้งเฮิอกไม่ได้ ทั้งที่ท่านก็ทักทายอย่างเป็นมิตรและเอ็นดูเขาเสียด้วยซ้ำ จำได้ว่าเขาขยับตัวเล็กน้อยอย่างอึดอัดใจ กำลังคิดหาคำพูดออกมาตอบโต้ท่านอยู่ แต่พอดีคุณตรีรัตน์กล่าวต่อไปว่า
"อ้าว...ดูซิ ป้าบอกให้ยายตาออกมาต้อนรับ ดู ป่านนี้ยังไม่ลงมาจากห้องเลย ป้าแจ้ว...ไปตามคุณหนูลงมาหน่อยเร็ว บอกว่าคุณสุทธิ์นันท์มาถึงแล้ว"
ชานนท์มองดูหญิงชราผู้ที่มีนามว่า "แจ้ว" รูปร่างอ้วนท้วมเขาคิดว่าเธออาจจะเป็นคนดูแล ชลิตา หญิงสาวประเภทสองที่เขาจะต้องมาพบในวันนี้ก็เป็นได้
เขาทรุดลงนั่งตามคำเชิญของคุณนายตรีรัตน์ พลางจิบน้ำเย็นฉ่ำ ที่คุณนายตรีรัตน์ได้เตรียมไว้ให้กับเขา เขาจำได้ว่าคุยกับคุณนายตรีรัตน์ไม่นานนัก เขาก็มองเห็นหญิงสาวเดินลงมาจากด้านบนของตัวเรือน
วินาทีแรกที่เขาเห็นหญิงสาวผู้นี้ มันช่างแตกต่างกับความคิดในจิตนาการของเขาซะเหลือเกิน ในตอนแรกเขาคิดว่า ชลิตา อาจจะเป็นคนที่ขี้ริ้วขี่เหร่ไม่น่าโสภาอาภรณ์ แต่สิ่งที่เขาคิดกลับผิดคาดไปซะหมด สตรีสาวประเภทสองตรงหน้างดงาม ใบหน้าเรียวเล๋็กรูปไข่ คางเรียวและมีรูปรางบอบบางสูงโปร่งอย่างกับนางแบบในนิตยสารก็ไม่ปาน เขามองดูอย่างพิศวงว่านี่หรือกะเทยที่สุทธิ์นันท์รวมถึงตัวเขาไม่เคยคิดว่าอดีตที่เป็นเด็กผู้ชายตั้งแต่แรกเกิดจะงดงามและสวยสง่าได้ถึงขนาดนี้
"เอ่อ...พี่ยินดีมากนะครับที่ได้รู้จักน้องชลิตา..."
"เรียกตาเฉยๆก็ได้ค่ะคุณสุทธิ์นันท์ ชญากร!" ชลิตากดเสียงลงต่ำเมื่อหล่อนได้ยินคำกล่าวทักทายของชายหนุ่มตรงหน้า ชลิตารำพึงในใจว่าเหตุใดชายผู้นี่ถึงมีผิวพรรณที่ขาวสะอาดเช่นนี้ รูปร่างหน้าตาก็งดงามไม่มีที่ติ เหตุใดถึงอยากจะมาแต่งงานกับหล่อนได้นะ ชลิตาคิดลึกลงไปอีกว่าบางทีเขาอาจจะมีภรรยาแล้วก็เป็นได้แล้วแอบมาแต่งงานกับหล่อนเพื่อที่จะฮุบสมบัติ!
"ครับคุณตา..." เขาชะงักไปอีกครั้งเมื่อได้ยินน้ำเสียงก้องกังวาลของชลิตา เกียรติยานนท์ เขาไม่คิดเลยว่าทั้งน้ำเสียงและรูปร่างหน้าตาของเจ้าหล่อนจะเหมือนผู้หญิงได้มากขนาดนี้ เขารู้มาบ้างว่าในประเทศไทยขึ้นชื่อเรื่องสาวประเภทสองที่สวยดุจสตรี แต่เขาก็ไม่เคยมีเพื่อนหรือรู้จักสาวประเภทสองคนไหนในชีวิต ชลิตาคือคนแรกและเป็นคนที่เขาคาดไม่ถึงเลยว่าจะสวยได้ถึงขนาดนี้ และชานนท์ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าถ้าสุทธิ์นันท์มาเห็นตัวจริงของชลิตาแล้วนั้น เขาจะเปลี่ยนใจจากกาญน์กนกแฟนสาวของเขาหรือไม่นะ?
เขาสังเกตุว่าชลิตาไม่ค่อยจะพูดจาหรืออะไรกับเขาสักเท่าไหร่อาจจะเป็นเพราะเพิ่งจะรู้จักและได้พบเห็นกันเป็นครั้งแรก หรือไม่เขาก็คิดว่าชลิตาอาจจะไม่ชอบเขาก็เป็นได้
ตลอดเวลาที่คุณตรีรัตน์ซักถามเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวชญากรที่กรุงเทพฯนั้น ชานน์ลอบสังเกตเห็นว่า ดวงตาของคุณตรีรัตน์ที่มองเขานั้นออกจะฉายแววฉงนฉงายอยู่บ่อยครั้ง!
หลังจากที่เขาได้ทำความรู้จักกับชลิตาและคุณนายตรีรัตน์แล้วนั้น คุณนายได้นำเขามาดูห้องพักซึ่งจะเป็นห้องส่วนตัวที่คุณนายตรีรัตน์ได้จัดไว้ให้เขา มันเป็นห้องที่โอ่โถงและกว้างขวางในห้องนั้นมีระเบียงยื่นออกไปมองเห็นพื้นที่ภายนอกซึ่งด่านล่างก็คือสวนไม้ดอกที่สวยงาม!
ชายหนุ่มจัดแจงอาบน้ำแต่งตัวอีกครั้งเนื่องจากเขารู้สึกเหนียวตัวเป็นอย่างมาก ครั้นแล้วเขาแต่งตัวเพื่อจะออกนอกบ้านด้วยด้วยเชิ๊ตแขนสั้นสีขาวและกางเกงยีนสีน้ำเงินอ่อน
ชานนท์พบชลิตาซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ซุ้มด้านหน้าของบ้าน ดูร่มรื่นงดงามด้วยเถาไม้เลื้อย หล่อนกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือ เหมือนกำลังดูอะไรบางสิ่งบางอย่างด้วยความตั้งใจ
เสียงฝีเท้าค่อนข้างหนักของชายหนุ่มทำให้ชลิตามองเหลียวหลังกลับไปทันที เมื่อหล่อนเห็นว่าเป็นสุทธิ์นันท์ผู้ชายที่มารดาจะให้มาแต่งงาน ชลิตาทำท่าจะลุกขึ้นแต่ยังไม่ทันจะได้ไปไหน ชายหนุ่มรูปงามก็ทักทายขึ้นมาก่อน
"ผมจะออกไปในเมืองชุมพร คุณต้องการจะฝากซื้ออะไรหรือเปล่าครับ?"
"ตาไม่ต้องการอะไรหรอกค่ะ ขอบคุณนะคะ อ้อแล้วคุณออกไปจะกลับมาอีกหรือเปล่าคะ ถ้าไม่ก็จะดีมาก!"
ชานนท์ผู้จำเป็นที่จะต้องอยู่ในบ้านเกียรติยานนท์ในนามของสุทธิ์นันท์ เขาคิดว่านี่มันอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้วที่เขาจะอยู่ที่นี่ ก็ในเมื่อการต้อนรับของหญิงสาวตรงหน้า สาวประเภทสองคนงามผู้นี้กำลังแสดงให้เห็นว่าหล่อนจะไม่ชอบใจที่เขาเข้ามาอยู่ในบ้านของเธอ
"น้องตาชอบหนังสือหรืออะไรไหมครับพี่จะซื้อมาให้ หรือต้องการจะทานอะไรเป็นพิเศษ" ชายหนุ่มพยามยามข่มใจและพูดตอบโต้กลับไปอย่างสุภาพ