เงาอลวน - บทที่ 10 - รักษ์คำ

กระทู้สนทนา
http://pantip.com/topic/33345951

บทที่ 10

    งานกว้านซื้อที่ดินทำเลอัปมงคลส่ายรวนและไปต่อไม่ถูกเมื่อเจอสถานการณ์พลิกผันเกินคาดเกินฝันเข้า ฤกษ์สุรัตน์ต้องรีบรุดกลับมาบ้านภูไหมด้วยใจสะท้านเจือระทึก ก็แน่ละสิ จะให้เฉยเมยกับการรู้สึกตัวของภรรยาหมากเอกได้ยังไง

    "นี่.. นี่มัน.. "

    เขาละเมอออกไปได้เท่านี้แหละ แม้แต่พยาบาลราศีก็ไม่ต่างกัน หล่อนตกตะลึงอ้าปากตาค้าง ยืนตัวแข็งทื่อ ไม่นึกไม่ฝันว่าพิมพ์เช้าจะคร่ำครวญในอกสามีได้คล่องปรื๋อ ทันทีที่เห็นหน้าฤกษ์สุรัตน์ แม่ตัวดีก็โผกอดเสียแน่น ละล่ำละลักฟ้องใหญ่

    "คุณฤกษ์ ช่วยด้วยค่ะ ช่วยฉันด้วย รถคันนั้น คันนั้น มัน.. มัน.. พุ่ง.. พุ่งเข้ามาค่ะ มันชน.. ชน.. "

    "มะ.. ไม่.. ไม่เป็น เอ้อ ปะ.. เป็นไร"

    "เจ็บมากเลย น่ากลัวค่ะ รถพุ่งลงเหว แต่โชคดีนะคะมีต้นไม้ขวางอยู่ ไม่อย่างนั้น ไม่อย่างนั้น.. "

    ชมทองเลียปากที่ไม่รู้เป็นโรคอะไรขึ้นมา เดี๋ยวก็แห้งๆ ตลอดเวลาเลย คงเพราะเขาตื่นเต้นกับละครฉากเนียนที่เจ้านายสาวกำกับได้เก่งเป็นบ้า เธอตีบทได้แตกกระจุย ไม่มีใครระแวงอะไรเลยนอกจากตื่นเต้น ตกใจ อันนี้เป็นความรู้สึกสองฝ่ายที่ก่อเกิดในปริมาณเท่าๆ กัน แต่ความรู้สึกสุดท้ายที่เขามั่นใจว่ายังไงก็ไม่เท่าเทียมแน่ๆ นั่นก็คือ 'ดีใจ'

    "เกิดอะไรขึ้นครับ" ฤกษ์สุรัตน์กลืนน้ำลายระงับอาการตื่นเต้น เขาควบคุมอารมณ์กระเจิงให้สงบลงได้พอสมควรแล้ว "คุณเช้าจำอะไรได้บ้างครับ" ใช่ คำถามนี้สำคัญนี่ เพราะจะช่วยให้เขาประเมินได้ว่าสถานการณ์ถัดไปออกดีหรือโผล่ร้าย

    "จำอะไรคะ อ้อ เรื่องที่เรานัดกันไปดูของชำร่วยใช่ไหมคะ ค่ะ ฉันขอโทษ เอ้อ นี่.. นี่เรา เอ้อ เราแต่งงานกันหรือยังคะ เรา เอ้อ มันเลยฤกษ์วิวาห์ของเราไปแล้วหรือยัง โธ่ ฉันไม่น่าเลย ไม่น่าประมาท ไม่น่าขับออกมาตอนฝนตก ใช่ไหมคะ"

    "ไปดูของชำร่วยหรือครับ"

ฤกษ์สุรัตน์ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ คำตอบฟุ้งๆ ของภรรยาน้ำตาเพรื่อทำเอางงไปอีกรอบ ตอนลอบสบตากับพยาบาลคู่พิศวาส ฝ่ายโน้นก็ยังตกอยู่ในอาการตะลึงจังงัง ดูท่าว่าคงไม่มีปัญญาอะไรจะมาช่วยอธิบายไขข้อข้องใจกึ่งหวาดระแวงในตอนนี้ของเขาให้กระจ่างขึ้นได้หรอก

"ค่ะ เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้นค่ะ คุณฤกษ์ไปช่วยฉันใช่ไหม ทำไมฉันจำอะไรไม่ได้เลย รู้สึกเหมือนว่าทุกอย่างรอบตัวมืดตื๋อ แล้วก็เงียบสงัดอย่างน่ากลัว แล้วนี่อะไรคะ ทำไมฉันไม่รู้สึกเหมือนว่ามีขาเลย ขาฉันเป็นอะไรคะคุณฤกษ์"

"อ้อ มะ.. ไม่.. ไม่เป็นไร เอ้อ ก็แค่ เอ้อ ชะ.. ชา เอ้อ ชั่ว.. ชั่วคราว"

"หรือคะ"

    พิมพ์เช้าค่อยลอบระบายลมหายใจขยะแขยงออกมาได้ขณะผินอิริยาบถจากกอดเอวเจ้าบ่าวสารเลวมาทำทีลูบขาสองข้าง ปล่อยให้คนเลวเข้าใจผิดอย่างนั้นก็ดีแล้ว หกเดือนก่อนก็อาจใช่นั่นแหละ แต่สำหรับเดี๋ยวนี้ ทุกความรู้สึกกำลังทยอยกลับมาอย่างช้าอย่างเงียบ ครบสูบเต็มถังเมื่อไหร่ คอยดูเถอะว่าเธอจะลุกขึ้นมาตอบโต้ทวงแค้นยังไงบ้าง

    "ไม่น่าเลย ไม่น่าเกิดเรื่องร้ายๆ ขึ้นเลย นี่เราแต่งงานกันหรือยัง ต้องยังแน่ๆ เลย ทำไมคะ ทำไมเป็นอย่างนี้"

เธอทำทีคร่ำครวญต่อไป บีบน้ำตาไม่ใช่งานหินหรอก ใช่สิ ตั้งแต่ประจันหน้ากับปีศาจหนุ่มสาวคู่นี้ จะไม่มีงานใดหินได้เท่ากับการฉีกหน้ากากหล่องามให้ขาดกระจุย

"ใจเย็นนะครับคุณเช้า หมอบอกว่าเรายังไม่หมดหวัง แค่ว่าคุณเช้าต้องไม่ย่อท้อ ต้องยอมรับกับสภาพนี้ให้ได้ก่อน แล้วเราค่อยมาหาทางฟื้นฟูกันภายหลัง นะครับที่รัก อย่าเพิ่งร้อนรุ่ม ตีตนไปก่อนไข้นะ ผมอยู่ตรงนี้ อยู่ข้างๆ เสมอ"

    "ตลอดไปใช่ไหมคะ คุณฤกษ์จะไม่ทิ้งฉันไปเพียงเพราะว่าฉันอาจจะเป็น.. เป็น เอ้อ ง่อย"

    "ไม่ๆ ไม่เป็นง่อย"

ฤกษ์สุรัตน์ก็แน่มากเหมือนกันละ พอควบคุมอารมณ์ว้าวุ่นลงได้แล้ว บทพระเอกที่เจ้าตัวฉกมาสวมก็พราวความดีความประเสริฐเสียเจิดจ้าเชียว ชมทองเห็นสีหน้าวิตกทุกข์ร้อนกับแววตาห่วงหาอาวรณ์ที่เจ้านายหนุ่มเสแสร้งทำแล้วก็อดขำไม่ได้ หากแต่อีกใจก็อดกังวลแทนเจ้านายสาวไม่ได้ด้วยเช่นกัน ด้วยตระหนักว่าเธอกำลังต่อสู้อยู่กับปีศาจร้ายที่ร้ายหลบในได้อย่างน่าสะพรึงกลัวเชียว

    "ที่รักของผม อย่าตัดพ้อบั่นทอนความเข้มแข็งของตัวเองอย่างนั้นสิ ผมยังอยู่ทั้งคน ผมไม่มีวันนิ่งดูดายให้คุณต้องตกอยู่ในสภาพขมขื่นแบบนั้นแน่ คุณต้องกลับมาเดินได้ เราสองคนต้องได้แต่งงานกันตามที่เราปรารถนาและเคยฝันร่วมกัน"

    "เคยฝันร่วมกันหรือคะ แค่เคยเท่านั้นหรือคะ"

    "โอ๊ะ ไม่ๆ โธ่ นี่ผมพูดผิดใช่ไหม ผมนี่แย่จัง พูดจาชุ่ยๆ ออกมาได้ยังไง อยากตบปากผมไหมที่รัก เผื่อว่าคุณจะสบายใจขึ้น"

    พิมพ์เช้าถูกดึงเข้าไปกอดแนบแน่นดั่งว่าพิสมัยเหลือหลาย ชมทองเม้มปากกลบเกลื่อนความตื่นเต้นเมื่อเห็นเจ้านายสาวเหลือบมาสบตาด้วย เร็วมากเลย และแวบหนึ่งเท่านั้น แล้วอย่างเหนือความคาดหมาย เจ้านายสาวก็พลันอุตริพิเรนทร์คมกริบเหมือนสายฟ้าฟาดหลังคากระเบื้องแตกกระจุย เธอร้องเรียกเขา แต่ฟังสิว่าเธอเรียกยังไง

    "หมอคะ หมอจะช่วยให้ฉันเดินได้ใช่ไหมคะ"

    แล้วสายตาทุกคู่ก็พร้อมใจกันเหลียวมาตรึงขึงอยู่บนใบหน้าตื่นๆ ของเขา ทว่า คู่ไหนๆ ก็ไม่ทำให้เขาสะทกสะท้าน หนาวๆ ร้อนๆ ได้เท่ากับคู่วาวๆ ของฤกษ์สุรัตน์ ฝ่ายโน้นจ้องเขม็งน่ากลัวเป็นบ้า พิมพ์เช้านี่เหลือเกินนัก เธอน่าจะยุติธรรมต่อเขาหน่อยนะ ไหนๆ ก็จะลงเรือลำเดียวกันแล้ว ก่อนจะทำอะไรก็ควรรอปรึกษาหารือกันสักคำสองสิ

    "หมอหรือ"

    ขณะกระอักกระอ่วนกับการตกเป็นเป้าจดจ้อง ภวังค์ในใจรวนๆ ก็ว้าวุ่นปนฟุ้งซ่าน ในนั้นก็แฝงถ้อยตัดพ้อกึ่งตำหนิเจ้านายสาวอีกเล็กน้อยด้วย เสียงขรึมกึ่งระแวงของฤกษ์สุรัตน์ก็ย้ำขึ้น ชมทองกระแอมนำร่องไปก่อน สวรรค์เท่านั้นแหละที่รู้ดีที่สุดว่าตอนนี้เขาจนด้วยเกล้า พิมพ์เช้าร้ายมากเลย ตอนนี้เธอจะรู้หรือยังเล่าว่าความคิดอุตริพิเรนทร์ของเธอกำลังรุนเขาถอยหลังไปชนกับ 'ตรอกตัน'




    ชมทองโดนลากแขนออกไปแล้ว เดาไม่ถูกเลยว่าฤกษ์สุรัตน์จะซักไซ้คาดคั้นพ่อยามคนดีให้รนจนเสียเรื่องหรือเปล่า เธอเองก็จนใจว่าไม่มีเวลาเตี๊ยมแผนให้เป็นเรื่องเป็นราว เพราะเพิ่งจะงัดออกมาได้อย่างกะทันหันเช่นกัน

    "เจ็บไหมคะ" พยาบาลราศีถามกระทบภวังค์กังวลโดยไม่รู้ตัว หล่อนช่วยทำแผลบนท้องแขนให้ใหม่

    "นิดหน่อยค่ะ ฉันโดนอะไรก็ไม่รู้ อาจเป็นเศษแก้วจากเหยือกน้ำที่ฉันปัดหล่นแตกหรือเปล่า เอ้อ แม่น้อยบอกว่าฉันอาละวาด"

    "อุ๊ย อย่าไปฟังเลยค่ะ อาละวาดอะไรกัน ก็แค่คนไข้ตกใจตอนรู้สึกตัวใหม่ๆ เท่านั้นเอง เรื่องปกติออกค่ะ"

    พยาบาลแสนร้ายจำใจต้องสนทนาภาษาดอกไม้ด้วย แม้แต่รอยยิ้มก็คลี่ไมตรีหวานจอมปลอม พิมพ์เช้าซ่อนคลื่นสะอิดสะเอียนไว้ใต้สีหน้าซื่อใสไร้เดียงสา อย่าฝันไปเลยว่าจะตบตาแสนกลใดๆ ต่อเธอได้อีก คราวนี้ขอให้เป็นฝ่ายเธอเถอะ

    "ฉันจะเดินได้ใช่ไหมคะ" เธอถามออกไปพลางโน้มตัวไปทำทีลูบๆ

    "ฉันยืนยันเองไม่ได้หรอกค่ะ แต่ให้กำลังใจได้ คุณเช้าต้องไม่หมดหวัง ต้องสู้ให้ถึงที่สุด คุณฤกษ์รักคุณเช้ามากเลยนะคะ ตั้งแต่เกิดเรื่องน่ะ เขาสาละวนควานหาหมอเก่งๆ ไม่หยุดหย่อน เหนื่อยแค่ไหนก็ไม่ยอมหยุดยอมพักเลยละค่ะ"

    "ใช่ เขาเป็นคนดีมาก เรารักกันมากเลย เราจะแต่งงานกัน"

    พยาบาลราศีรีบผินหน้าไปเบะปากกับซ่อนแสงริษยาในดวงตา ก็ไม่ใช่แสงเดียวเพียวๆ หรอกนะ ยังเจือๆ ประกายหึงหวงอีกพอสมควรทีเดียว หล่อนต้องรีบสูดหายใจลึกๆ เพื่อระงับปฏิกิริยาพิรุธร้อนในทรวง ไม่อยากให้ตนตกอยู่ใต้อิทธิพลของมัน จนพานทำให้งานใหญ่ของฤกษ์สุรัตน์รวนไปด้วย

    "เอ้อ คุณเช้าพอจะจำอะไรได้บ้างไหมคะ เอ้อ ฉันหมายถึงนอกจากเรื่องอุบัติเหตุน่ะค่ะ" ต้องเลียบเคียงถามเรื่องนี้ เพราะเชื่อว่าคำตอบที่ได้มาจะเป็นประโยชน์ต่อเจ้านายสุดที่รัก

    "ก็จำได้ว่าโทรศัพท์ เอ้อ จะใช่หรือเปล่าก็ไม่แน่ใจนะ เหมือนว่ามันรางๆ รวนๆ ยังไงชอบกล ในสมองของฉันมีเสียง"

    "เสียงหรือคะ" มือที่บิดผ้าในกะละมังพลาสติกชะงักเล็กน้อย "เสียงแบบไหนคะ"

    "เหมือนน้ำไหลค่ะ ขลุกขลิกกลิ้งไปกลิ้งมา เอ้อ คล้ายรถที่โยกหน้าโยกหลังตอนที่มัน เอ้อ พุ่งลงเหวแล้วไปค้างต่องแต่งอยู่บนยอดไม้น่ะค่ะ ขอโทษนะคุณพยาบาล ฉันอธิบายไม่ค่อยถูก โอ๊ย ปวดหัวจัง"

    เธอฉลาดและรู้ทันว่าศัตรูเลวพยายามล้วงตับ คงอยากให้แน่ใจหรือสบายใจว่าความทรงจำของเธอไม่สั้นไม่ยาวไปกว่าคืนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่หรอก เธอจำได้เยอะกว่านั้น จำได้หมดว่าอะไรคือสาเหตุที่ผลักเธอผลุนผลันออกจากบ้านท่ามกลางพายุฝนคลั่ง เพื่อไปเจอจุดจบเกือบพลาดท่าลาตาย แล้วเธอก็จะใช้จุดจบแบบนั้นแหละย้อนกลับมาสนองตอบคนเลว

    ดังนั้น เพื่อยั่วให้ใจระแวงของศัตรูชั่วร้อนรุ่มไปอย่างเงียบๆ เธอก็ต้องทำทีโอดครวญกับเล่นบทปวดร้าวทุรนทุรายดั่งว่าสมองกำลังจะแตกระเบิดเพื่อปิดกั้นการซักไซ้นั้นให้จำต้องยุติลงเองโดยปริยาย

    "ใจเย็นๆ นะคะ ไม่ต้องคิดแล้วค่ะ ค่อยเป็นค่อยไป วันนี้นึกไม่ออก วันต่อไปก็ยังมี"

    "ไม่ ฉันอยากนึกให้ออกมากกว่านี้ ทำไมคะ ทำไมคุณพยาบาล ยังมีเรื่องอื่นนอกจากอุบัติเหตุเกิดขึ้นอีกใช่ไหม แต่ฉันจำไม่ได้ใช่ไหม บอกฉันสิว่าใช่ไหม บอกมา บอกฉันมา โอ๊ย ปวดหัว ปวดหัวมากเลย คุณฤกษ์ คุณฤกษ์อยู่ไหน คุณฤกษ์"

    โอดครวญเอะอะไม่ใช่ว่าไร้เหตุผลนะ ทางหนึ่งก็ปิดกั้นการซักไซ้ของพยาบาลราศี อีกทางก็พยายามช่วยหันเหสถานการณ์ลำบากของชมทองข้างนอกให้ด้วย ไม่ว่าฤกษ์สุรัตน์คนเลวกำลังซักไซ้อะไรเขาก็ตาม เสียงล้งเล้งของเธอต้องดังออกไปสกัดได้ชะงัดแน่ๆ ทายกันไหมละว่าไม่เกินหนึ่งนาที เจ้าบ่าวสารเลวต้องรีบผลุนผลันปั้นหน้าตื่น 'กลับเข้ามา'
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่