ทฤษฎีแบ็งค์กงเต็ก ฟองสบู่ บอนด์ภาครัฐรัฐบาลสหรัฐ 12 ล้านๆเหรียญ (384ล้านๆบาท) ส่วนอุตสาหกรรมน้ำมันมีบอนด์กว่า 5 ล้านๆเห

สาเหตุที่รัฐบาลสหรัฐสามารถพิมพ์ธนบัตรออกมาโดยไม่ต้องสำรองทองคำค้ำประกันได้ ทำ QE และออกบอนด์ ออกมาได้เรื่อยๆ เนื่องจาก กลุ่ม สมองอัจฉริยะ สหรัฐ วางแผนงานทางยุทธศาสตร์ผ่านทาง CIA  ให้กว่า 100 ประเทศทั่วโลก ต้องพึ่งพาระบบเศรษฐกิจสหรัฐ  และใช้นโยบายตำรวจโลกเป็นตัวควบคุมผ่านการไปตั้งฐานทัพในเกือบ100ประเทศทั่วโลก ส่วนประเทศที่สหรัฐ เขียนแผนแทรกแซงกิจการภายในมักจะเป็นประเทศที่เข้าสู่สภาวะวิกฤติ เช่น ญี่ปุ่น เยอรมัน จีน เวียดนาม สหภาพโซเวียด เกาหลี อัฟกานิสถาน ยูเครน  ไนจีเรีย อียิปต์ ซีเรีย ลิเบีย ซึ่งเป็นแถบที่ปิดล้อม พลังงานยุโรป เพื่อ ประคับประคองฟองสบู่อุตสาหกรรมพลังงานสหรัฐ แต่สิ่งที่รัฐบาลสหรัฐยังควบคุมไม่ได้คือการรวมกลุ่มของกลุ่มบริ๊ก ซึ่งมีพลังงานนิวเคลียร์สำรองสูง โดยที่สหรัฐพยายามแบ่งแยกกลุ่มบริ๊กตั้งแต่สานสัมพันธ์กับอินเดียด้วยการที่เท็กซัสอินสตรูเม้นท์และ ไอบีเอ็ม รวมทั้งไมโครซ็อฟท์ไปลงทุนในอินเดีย
กลุ่ม สมองอัจฉริยะ สหรัฐ ผ่านการคัดเลือกจากมหาวิทยาลัยต่างๆทั่วสหรัฐ ผ่านทาง สกัลล์แอนด์โบน ฟรีเมสันต์ อลูมิเนติสายวิทยาศาสตร์ และอลูมิเนติการเงิน ซึ่งปัจจุบัน น่าจะมีกว่า 175 ทีมที่วางแผนควบคุมประเทศต่างๆ ผ่านระบบการเงินในนิวยอร์ค และตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ แต่ทั้งนี้ประเทศที่รัฐบาลสหรัฐไปตั้งฐานทัพในเกือบ100ประเทศ ได้รอคอย  การที่จีนจะมีความพร้อมในการจะเจาะลูกโป่งขนาดใหญ่อย่างสหรัฐ เพื่อปลดปล่อยความเป็นอิสระจากการเป็นตำรวจโลกที่เข้มข้นของสหรัฐที่ทำเพื่อรวมโลกให้เป็นหนึ่งเดียวภายใต้ บริบท นิวเวิลด์ออเดอร์ และคาดว่ามีหลายประเทศที่พร้อมจะซ้ำเติมด้วยการสำรองเงินดอลล่าร์ไว้เททิ้ง เพราะการที่สหรัฐพิมพ์ธนบัตรออกมาโดยไม่ต้องสำรองทองคำค้ำประกันนั้น จริงๆแล้ว อยู่ภายใต้ ทฤษฎีแบ็งค์กงเต็ก ที่ไม่มีใครไว้ใจ แต่ส่วนใหญ่ตกอยู่ในภาวะจำยอม เพราะแผนงานอัจฉริยะของสหรัฐ ซึ่งมักจะทำสัญญา หรือสัญญาลับที่ไม่เป็นธรรม โดยการสร้างสถานการณ์บังคับให้ประเทศนั้นๆตกอยู่ในภาวะจำยอมมหาอำนาจอย่างสหรัฐ และ โอบาม่านับเป็นผู้นำคนแรกในรอบหลายสิบปี ที่พยายามแก้ไขภาพพจน์ดังกล่าวของสหรัฐ แต่เพื่อประโยชน์สูงสุดของสหรัฐ และชาวโลก วิกฤตการณ์ อาหรับ สปริง ซีเรีย และยูเครนจึงเกิดขึ้น คล้ายๆกับกรณียุทธการเวียดนาม ที่ซีไอเอวางแผนรบเพื่อแพ้สนามเล็กแต่ทำให้โซเวียดกับจีนระหองระแหงกัน โดยการส่งเงินซื้ออาวุธบางส่วนให้กับโฮจิมินต์ผ่านไทย เพื่อให้วุฒิสามาชิกฝ่ายรีพลับบลิกัน สายกลุ่มอุตสาหกรรมอาวุธยอมยกมือผ่านร่างงบประมาณของโอบาม่า ทั้งนี้ งบประมาณลับสำหรับการปักหมุดเอเชียน่าจะออกมาได้ในประมาณปีหน้า ซึ่งคาดว่า ประเทศที่จะมีส่วนแบ่งในเค้กนี้ได้แก่ ไทย อินเดีย พม่า และบางส่วนเป็นแอฟริกา ส่วนปีนี้ ถ้าสถานการณ์สงครามก่อการร้ายกับกลุ่มหัวรุนแรง ไม่ขยายขอบเขตไปมากกว่านี้ งบลับน่าจะเป็นประโยชน์ต่อโครงการดึงบริษัทในประเทศกลับเข้ารวมศูนย์ในอเมริกา แต่เนื่องจากค่าเงินดอลล่าร์อาจจะแข็งตัวอย่างน้อย 2-3 ไตรมาส โครงการรวมศูนย์ดึงบริษัทกลับเข้าลงทุนในประเทศของโอบาม่าอาจจะประสบกับปัญหาต้นทุน ซึ่งจะทำให้งบวิจัยของกระทรวงกลาโหมที่จะแบ่งให้บริษัทต่างๆบานปลาย และต้องแบ่งเค้กกับวุฒิสามาชิกฝ่ายรีพลับบลิกัน สายกลุ่มอุตสาหกรรมอาวุธ แต่ทั้งนี้งบลับกับบริษัทต่างๆที่มีสัญญากลาโหมสหรัฐน่าจะกระตุ้นให้เกิดการจ้างงานการวิจัยชั้นสูงในสหรัฐ ซึ่งจะส่งผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการจ้างงานในสหรัฐ แต่ถ้าหากเป็นลักษณะโครงการเงินกู้ผ่านธนาคาร จะเป็นประโยชน์ต่อเดโมแครต และสถานการณ์โลกมากกว่า การให้ทุนวิจัยลักษณะรวมศูนย์ภายใต้สัญญาลับกลาโหม ซึ่งเป็นที่เกรงกันว่าจะเกิดบริบทใหม่ของ นิวเวิลด์ออเดอร์ออกมาอีก
และช่วงนี้เป็นช่วงวิกฤตการณ์ของสหรัฐ เพราะถ้าหากฟองสบู่ใด ฟองนึงแตกเพียงเล็กน้อย รัฐบาลสหรัฐจะไม่สามารถทำ QE ออกมาโรลโอเวอร์หนี้ได้อีก ซ่งจะส่งผลให้ ดอกเบี้ยในสหรัฐพุ่งเป็นประมาณ 20% เป็นอย่างน้อย กลุ่มบริษัทที่ขยายกิจการในต่างประเทศมีสิ่งที่จะต้องทำในเบื้องต้นคือ การกู้เงินสกุลอื่นซึ่งจะไปเข้าทางกลุ่มอลูมิเนติการเงินยุโรป
ส่วนการที่รัสเซียมีทุนไปขอเช่าพื้นที่ในไซปรัสเพื่อทำฐานทัพนั้น รายงานของเจ้าหน้าที่สหรัฐน่าจะวิเคราะห์ว่า เป็นดุลย์อำนาจใหม่ที่คุกคามการปิดล้อมพลังงานยุโรป แต่จริงๆแล้วน่าจะเกิดจากข้อตกลงลับในการที่ฝรั่งเศสและเยอรมันจะลดหนี้ให้กับรัสเซีย เพื่อใช้รัสเซียมาคานดุลย์ที่สหรัฐได้ก่อขึ้น และทาง  อียู ได้อนุมัติเงินกู้ 400 ล้านยูโร ให้กับจอร์แดน เพื่อลดอิทธิพลของ ซาอุดิอาระเบีย ในซีเรีย เนื่องจาก อียู ไม่อาจ แทรกแซงความสัมพันธ์ลับระหว่าง ซาอุดิอารเบีย กับ หอคอยวอชิงตันได้ ซึ่งมีข่าวทางสื่อมวลชนว่า กลุ่มอัลกอร์อิดะ ไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากคาร์ไลน์กรุ๊ปของตระกูลบินลาเดนที่มีหุ้นตระกูลบุช แต่เป็นหน่วยข่าวกรองซาอุเป็นผู้จ่ายให้อย่างลับๆภายใต้ข้อตกลงของ หอคอยวอชิงตันในยุคของจอร์จดับบลิวบุช ซึ่งเคยเชิญบินลาเดนไปดูตึกเวิลด์เทรดด้วยตาตนเอง
ส่วนการที่สหรัฐเริ่มทำลายอาวุธเคมีที่เสื่อมสภาพที่สะสมมาตั้งแต่ยุคสงครามเย็น 2600ตันนั้น โอบาม่าน่าจะได้แรงหนุนจากการแลกเปลี่ยนข่าวกรองกับคิวบา และเวเนซูเอล่า ที่ยืนยันว่า มีการเคลื่อนไหวผ่านทางประเทศในแถบลาตินอเมริกาจริงๆ ที่จะเป็นภัยคุกคามจนประชาชนสหรัฐไม่อาจใช้น้ำในแม่น้ำทุกสายได้ ถ้าหากเกิดสงครามระหว่างประเทศขึ้น อีกทั้งยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามเดอร์ตี้บอมม์ อันเนื่องมาจากอาจจะยังมีเรื่องที่รัฐบาลสหรัฐควบคุมไม่ได้ในประเทศอยู่ หลังการเกิดแผ่นดินไหวในรัฐโอไฮโอ และนักวิจัยนิวเคลียร์สหรัฐในโอไฮโอถูกยิงเสียชีวิตในซุปเปอร์มาร์เก็ตโดยลูกวัย 2ขวบ โดยไม่มีภาพวงจรปิดออกมาเผยแพร่ว่าจริงหรือไม่

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่