พังผืดในช่องท้อง คืออะไร ใครรู้บ้าง ช่วยบอกที...



Office syndrome คิดว่าหลายๆคนคงพอจะรู้จักกับกลุ่มอาการนี้อยู่บ้างว่า เป็นกลุ่มอาการที่พบได้บ่อยในผู้ที่ทำงานออฟฟิศ อันเป็นผลมาจากพังผืดในชั้นกล้ามเนื้อ หรือมีพังผืดรัดเส้นประสาทบริเวณข้อมือ ทำให้มีอาการปวดเมื่อยตามตัว ปวดหลัง บ่า ไหล่ หรือมีอาการชาบริเวณนิ้วและข้อมือได้ ซึ่งต้นเหตุที่ทำให้เกิดพังผืดขึ้นนั้นก็เเป็นเพราะสภาพเเวดล้อมในที่ทำงานของพนักงานออฟฟิศนั้นไม่เหมาะสม ทำให้ต้องทำงานในท่าทางที่ไม่ถูกต้องเป็นระยะเวลานานๆ จึงก่อให้เกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ข้อต่อต่างๆของร่างกายเรื้อรัง จึงเกิดเป็นพังผืดตามมาในที่สุดยังไงล่ะครับ แล้วเคยรู้มาก่อนบ้างมั้ยครับว่านอกจากจะเกิดพังผืดในกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น หรือข้อต่อแล้ว ภายในช่องท้องเราก็สามารถเกิดพังผืด ทำให้เกิดอาการผิดปกติตามมาได้เช่นกัน

ด้วยเพราะงานผมต้องผ่าตัดส่องกล้องอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดมดลูก ผ่าตัดเนื้องอกมดลูก เลาะซีสต์รังไข่ รวมถึงเลาะพังผืด ต่อหมัน และอีกสาระพัด ผมจึงต้องพบเจอกับไอ้เจ้าพังผืดในช่องท้องระหว่างผ่าตัดอยู่บ่อยครั้ง และทุกครั้งที่ต้องอธิบายคนไข้ภายหลังผ่าตัดว่าผมเจออะไรที่ผิดปกติภายในช่องท้องของเค้าบ้างระหว่างผ่าตัด “พังผืดในช่องท้อง” นับได้ว่าเป็นเรื่องที่คนไข้ส่วนใหญ่มักสงสัยและยังไม่เข้าใจว่า พังผืด จริงๆแล้วมันคืออะไร แล้วถ้ามีพังผืดจะเป็นอันตรายมั้ย? ดังนั้นวันนี้ผมเลยขอถือโอกาสมาอธิบายพร้อมทั้งยกตัวอย่างภาพประกอบเกี่ยวกับพังผืดในช่องท้องเพื่อจะได้ทำความเข้าใจกันได้ง่ายยิ่งขึ้นนะครับ

พังผืด ก็คือเนื้อเยื่อชนิดหนึ่งที่ทำให้อวัยวะต่างๆที่เดิมควรอยู่ห่างกันหรือควรแยกจากกันอย่างอิสระ กลับต้องมาอยู่ติดกัน ซึ่งในบางครั้งอวัยวะต่างๆก็มาอยู่ติดกันด้วยเยื่อพังผืดบางๆ แต่บางครั้งก็อยู่ติดกันแน่นมากด้วยพังผืดหนาๆจนยากที่จะแยกออกจากกันได้ จนบางทีทำให้เราไม่สามารถระบุตำแหน่งของอวัยวะต่างๆได้ เพราะพังผืดบดบังอวัยวะต่างๆ หรือเพราะอวัยวะต่างๆก็มาอยู่ติดกันไปหมด จึงยากต่อการระบุตำแหน่งของอวัยวะต่างๆ ขอยกตัวอย่างภาพพังผืดในช่องท้องเลยแล้วกันนะครับ ได้เข้าใจง่ายขึ้น


พังผืดบริเณมดลูกและปีกมดลูก






นี่เป็นภาพจริงระหว่างการผ่าตัดส่องกล้อง ซึ่งเป็นมุมภาพจากกล้องส่องช่องท้องที่มีทิศทางจากศีรษะ มอง ไปที่ เท้า ภาพเหล่าเป็นภาพอวัยวะภายในช่องท้องที่ไม่มีพังผืด เราจึงสามารถมองเห็นยอดมดลูกเป็นก้อนกลมๆอยู่ตรงกลาง มีท่อนำไข่อยู่ทั้ง 2 ข้างของมดลูก มีรังไข่สีขาวๆอยู่ที่ปลายท่อนำไข่แต่ละข้าง กระเพาะปัสสาวะจะอยู่ทางด้านหน้าของมดลูก ส่วนลำไส้จะอยู่ทางด้านหลังมดลูก



นี่เป็นภาพพังผืดในช่องท้อง จากภาพจะเห็นว่าอวัยวะต่างๆในช่องท้องที่เดิมควรอยู่ห่างกันหรือควรแยกจากกันอย่างอิสระ กลับมาอยู่ติดกัน ซึ่งในบางครั้งก็มาอยู่ติดกันด้วยเยื่อพังผืดบางๆ แต่บางครั้งก็อยู่ติดกันแน่นด้วยพังผืดหนาๆจนยากที่จะแยกออกจากกันได้



พังผืด มักเกิดขึ้นภายหลังจากกระบวนการอักเสบ หรือกระบวนการซ่อมแซมตัวเองของร่างกาย เช่น ภายหลังการผ่าตัด หรือภายหลังการติดเชื้อ ซึ่งร่างกายจะต้องมีการต่อสู้กับเชื้อโรคที่รุกรานเพื่อซ่อมแซมตัวเองให้กลับสู่สภาพใกล้เคียงปกติ ดังนั้นภายหลังจากเหตุการณ์เหล่านี้จึงมักเกิดการซ่อมแซมตัวเองมากผิดปกติจึงเกิดเป็นพังผืดขึ้นมาได้



อาการของพังผืดมักขึ้นกับ ตำแหน่ง ปริมาณ และชนิดของพังผืดว่าเป็นพังผืดบางๆ หรือพังผืดหนาๆ โดยส่วนใหญ่แล้วพังผืดบางๆมักไม่ทำให้เกิดอาการผิดปกติใดๆ เว้นเสียแต่ว่าไปเกิดในที่สำคัญเช่น ปลายท่อนำไข่ ทำให้ท่อนำไข่อุดตัน ส่งผลให้มีลูกยากได้ แต่ถ้าเป็นพังผืดหนาๆ มักจะทำให้เกิดอาการได้บ่อย ยกตัวอย่างเช่น



พังผืดหนาๆรัดลำไส้ อาจทำให้เกิดปัญหาลำไส้อุดตันได้

พังผืดหนาๆรัดท่อนำไข่ หรือปลายท่อนำไข่ อาจทำให้เกิดปัญหามีบุตรยาก

พังผืดหนาๆบริเวณหลังมดลูกกับลำไส้ตรง อาจทำให้ปวดท้องน้อยเรื้อรัง หรือเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ได้



พังผืด นับเป็นยาขมสำหรับหมอผ่าตัดเลยก็ว่าได้ เพราะยิ่งมีพังผืดจำนวนมากเท่าไหร่ การผ่าตัดจะทำได้ยากมากขึ้นท่านั้น เพราะพังผืดจะบดบังอวัยวะต่างๆ หรือทำให้อวัยวะต่างๆก็มาอยู่ติดกันไปหมดไม่สามารถระบุตำแหน่งของอวัยวะต่างๆได้ชัดเจน อีกทั้งหากจำเป็นต้องเลาะพังผืดออกเพื่อทำให้อวัยวะต่างๆแยกออกจากกันเป็นปกติด้วยแล้ว จะยิ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดการบาดเจ็บต่ออวัยวะเหล่านั้นได้มากขึ้นด้วย ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าถ้าเคยผ่าตัดมาก่อนหลายๆครั้ง โอกาสที่ผ่าตัดได้ยากลำบากก็มากขึ้นด้วย และมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดสูงขึ้นอีกด้วย เนื่องจากอาจมีพังผืดจำนวนมากยังไงล่ะครับ ยกตัวอย่างเช่น ภายหลังจากการผ่าตัดคลอดมักจะมีพังผืดเกิดขึ้นบริเวณกระเพาะปัสสาวะกับมดลูกด้านหน้า ดังนั้นหากจำเป็นต้องผ่าตัดซ้ำในบริเวณนี้ จึงมีโอกาสเกิดการบาดเจ็บต่อกระเพาะปัสสาวะได้บ่อย เช่น กระเพาะปัสสาวะทะลุ เป็นต้น





เปรียบเทียบให้เห็นภาพนะครับ

มือของเรา 2 ข้างที่ควรแยกออกจากกันได้ ถ้าเอากาวตราช้างมาทาบนฝ่ามือแล้วเอาฝ่ามือ 2 ข้างมาประกบกัน คนอื่นที่ไม่รู้มองเผินๆคงคิดว่าก็แค่ฝ่ามือมาอยู่ชิดกัน แต่จริงๆแล้วฝ่ามือทั้ง 2 ติดกันแน่นด้วยกาวตราช้าง ดังนั้นกาวตราช้างก็เปรียบเหมือนพังผืดยังไงล่ะครับ


แต่ถ้าเป็นอวัยวะภายในช่องท้องจริงๆ ขอยกตัวอย่างเช่น รังไข่ 2 ข้างที่ควรจะอยู่แยกจากกัน ซ้าย-ขวา หากแพทย์ตรวจอัลตร้าซาวน์แล้วพบว่ารังไข่ 2 ข้างมาอยู่ชิดกัน  นั่นไม่ได้หมายความว่าการทำอัลตร้าซาวน์จะสามารถบอกได้ว่ารังไข่ทั้ง 2 ข้างนั้นติดกันแน่น ง่ายๆก็คือไม่สามารถบอกได้ 100 % ว่ามีพังผืดอยู่จริงๆ  แค่สงสัยว่าอาจจะมีพังผืดก็เท่านั้นเอง เพราะถ้าจะให้ทราบแน่ชัดจริงๆแล้วล่ะก็ เราต้องผ่าตัดเข้าไปดูถึงจะรู้ เพราะระหว่างผ่าตัดเรามองเห็นภาพและจับต้องอวัยวะนั้นได้จริงๆแล้วดูซิว่าเราสามารถแยกมันออกจากกันได้หรือไม่ ดังนั้นอย่าเพิ่งตกใจไปกับผลอัลตร้าซาวน์ที่บอกว่าคุณมีพังผืด เพราะอัลตร้าซาวน์ไม่สามารถบอกรายละเอียดเรื่องพังผืดได้ 100 % ยังไงล่ะครับ ดังนั้นอย่าด่วนตกใจไปนะครับทุกคน




นพ.ปัญญา ศักดิ์สง่าวงษ์
สูตินรีแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาผู้มีบุตรยากและผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่