หนึ่งใจในแผ่นดิน ตอนที่ 54 (3/3)

กระทู้สนทนา
ตอนที่ 54 (2/3)http://pantip.com/topic/33060846







หนึ่งใจในแผ่นดิน
ตอนที่ 54 (3/3)  




เอกรัตน์ไม่มีเวลาสนใจชายแปลกหน้าที่เรียกเขาด้วยสรรพนามไม่ให้เกียรติ เขารีบลุกขึ้นแล้วไปช้อนร่างของหญิงสาว สายตาชั่วแวบมองใบหน้าอันแสนเคืองของบิดา เลือดไหลชุ่มบ่าของคนเป็นพ่อสะเทือนจิตใจ แม้ความกตัญญูของคนเป็นลูกยังเหลืออยู่ก็จริงแต่ความดีในตัวมันมีมากกว่า อีกทั้งความห่วงใยในชีวิตหญิงสาวมันปกคลุมทุกความคิด เขาอุ้มเธอแล้ววิ่งออกจากที่นั่นให้เร็วที่สุด ก่อนที่เธอจะเป็นอะไรไป

“ดวงแข อดทนไว้นะ” เอกรัตน์พูดพลางเร่งฝีเท้าวิ่ง ชายหนุ่มสบถด่าแม้แต่พุ่มไม้รกที่เป็นขวากหนาม ความสมบูรณ์ของป่ากลายเป็นสิ่งสร้างความขุ่นเคืองเมื่อมันขัดขวางการยื้อชีวิตของหญิงสาว

เสียงหอบหายใจแสนเบาจากร่างบางที่ชอกช้ำ หญิงสาวไม่มีแรงเหลือแม้แต่จะเปิดเปลือกตามอง แต่ความอบอุ่นและน้ำเสียงนี้ยังติดตรึงในหัวใจมานาน นานแล้วแต่ไม่เคยลืมไปจากหัวใจ



เด็กสาววิ่งหัวซุกหัวซุนหนีกระทิงที่กำลังบ้าคลั่ง เป็นเพราะเธอไม่ดีเองที่ทำให้มันโกรธ แต่เธอไม่ได้ตั้งใจยิงหนังสะติ๊กไปโดนมันเลยนะ เธอจะยิงเจ้ากิ้งก่าอัปลักษณ์ตัวนั้นต่างหากล่ะ แต่ไม่รู้เลยว่าหลังพุ่มไม้นั่นมีกระทิงหนุ่มซ่อนตัวอยู่

“ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วย !” เธอตะโกนร้องก้องป่า เท้าน้อยวิ่งหนีให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่สองขาหรือจะสู้สี่ขา เสียงคำรามของสัตว์เดรัจฉานใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เท้าเปล่าของเธอเริ่มแดงและช้ำ เด็กหญิงหอบหายใจถี่ หัวใจที่ผิดธรรมชาติของเธอเต้นเร็วและแรงจนเธอเจ็บปวดหน้าอกซีกขวาไปหมด

“ช่วยด้วย กรี๊ดดด” เธอกรีดร้องเมื่อวิ่งมาจนสุดทางและหยุดชะงักเมื่อข้างหน้าที่ธารน้ำตกขวาง

แกรบ !!! แกรบ !!! แกรบ !!!  เจ้ากระทิงวิ่งเข้ามาหวังใช้เขาพุ่งเสียบต้นเหตุที่ทำให้มันเจ็บ

ชีวิตของเธอคงจบที่นี่แน่แล้ว เธอคงไม่ได้กลับไปเห็นหน้าแม่แน่ ๆ  เสียงพ่นลมหายใจของกระทิงดุดังจนเธอขนลุกชัน เด็กสาวยกมือขึ้นประนมขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกครองป่าช่วยให้เธอพ้นภัย

เปรี้ยงงง !!! เปรี้ยงงง !!!

เจ้าเดรัจฉานร่างใหญ่ล้มลงทันทีเมื่อลูกปืนบรรจุยาสลบสองนัดปักที่ลำตัว

“เป็นอะไรหรือเปล่า !” เสียงตะโกนถามดังเข้ามาใกล้ เด็กหญิงเงยหน้าจากฝ่ามือที่ปิดตาด้วยหัวใจสั่นมองชายหนุ่มรูปงามวิ่งเข้ามาหาเธอแล้วย่อเข่าลงตรงหน้า

“บาดเจ็บตรงไหนไหม” เขาย่นคิ้วถามเธอด้วยความเป็นห่วงแล้ววางปืนยาสลบลงพื้นเพื่อสำรวจตามร่างกายของเด็กสาวที่ชะตาเกือบขาด

“ขาเธอมีแผลเต็มไปหมด นี่คงวิ่งไปเกี่ยวหนามไม้เข้าล่ะสิ” เขาขยับแว่นแล้วพลิกขาของเธอไปมา

“เดินไหวไหม ถ้าไม่ไหวฉันจะอุ้ม”

เด็กสาวตัวน้อยไม่มีคำพูดให้ราวกับว่าเธอกลายเป็นใบ้ ชายหนุ่มจึงช้อนร่างน้อยแสนเบาขึ้นโดยไม่รอฟังคำตอบ “โชคดีนะที่ฉันมาเดินสำรวจป่ากับนายอำเภอถึงช่วยไว้ทัน แต่เกือบไปแล้วไหมล่ะ ถ้าโดนมันขวิดล่ะก็ เสียดายใบหน้าสวยๆ ของเธอแย่”

“คุณ... คุณว่าฉันสวยหรือคะ” เด็กน้อยในอ้อมแขนถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ใบหน้านวลปลั่งมีสีแดงเรื่อ

“สวยสิ สวยแบบนี้หนึ่งในตองอูเชียวนะ” เขาตอบพร้อมรอยยิ้ม “ถ้าสาวสวยคนนี้เป็นอะไรไป หนุ่มๆ ในหมู่บ้านของเธอจะร้องไห้เอานะ”

“แล้ว...คุณล่ะคะ คุณจะร้องไห้ไหม”

เขาหัวเราะแล้วก้มหน้ามองสาวน้อยแสนไร้เดียงสาที่กำลังอุ้มแนบอก “ก็คงจะร้องไห้เหมือนกันล่ะมั้ง... ถ้าแผ่นดินนี้เสียสาวงามไปหนึ่งคนล่ะก็ ผู้ชายที่รอจะขอเธอเป็นเจ้าสาวคงเสียใจกันน่าดู”

“คุณอยากแต่งงานกับผู้หญิงสวยหรือคะ” เธอถามไถ่อย่างใคร่รู้ ลืมความแสบของแผลถลอกไปจนหมดและจ้องมองชายหนุ่มผู้ช่วยชีวิตนิ่งรอคำตอบด้วยหัวใจเต้นรัว

แต่ไม่มีคำตอบให้นอกจากรอยยิ้มแสนอ่อนโยน เขาพาเธอมาส่งกับมารดาที่หมู่บ้าน และเด็กหญิงโดนแม่ของเธอเอ็ดเสียยกใหญ่ที่แอบไปเล่นซนในป่าโดยไม่บอกกล่าว

“น่าตีนักเชียวนังเด็กคนนี้ ฉันขอบคุณคุณเอกรัตน์นะที่ช่วยมันไว้” เธอเอ็ดลูกสาวแล้วเอ่ยขอบคุณผู้มีพระคุณ “มันน่าโดนกระทิงขวิดเสียให้เข็ด หรือไม่ก็โดนไอ้พวกโจรบนเขานั่นจับไปเสียเลย ว่าก็แล้วอะไรก็แล้วแต่ก็ไม่ฟังกันเลย”

เด็กหญิงทำหน้าหงอ การโดนแม่ดุต่อหน้าเขาทำให้เธออายจนอยากหนีขึ้นบ้าน

“นี่... ได้ยินที่แม่ของเธอบอกไหมว่าในป่าน่ะ มันน่ากลัว ถ้าเจอกระทิงฉันยังช่วยได้ แต่ถ้าเจอกองโจรล่ะก็ เธอมีหวังได้โดนจับไปเป็นเจ้าสาวหัวหน้าโจรแน่”

“ไม่ค่ะ... หนูจะเป็นเจ้าสาวของคุณเอก”

“นังดวงแข ! พูดอะไรออกมา เราเป็นผู้หญิงนะ”

แม้จะเขินหน้าแดงแต่เธอก็ไร้เดียงสาเสียจนชายหนุ่มนึกเอ็นดูใบหน้างามของสาวน้อยคนนี้ “พอเธอโตขึ้น เธอจะได้พบกับคนที่เธออยากเป็นเจ้าสาวของเขาแน่ๆ”

ชายหนุ่มไม่รู้เลยว่าคำพูดและรอยยิ้มของเขาตราตรึงเข้าไปในหัวใจทั้งสี่ห้องของสาวน้อยคนนี้เป็นที่เรียบร้อย เธอตั้งปณิธานกับตัวเองว่าจะโตขึ้นเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดแล้วจะแต่งงานกับเขาคนนี้ ผู้ชายที่เป็นรักแรกในหัวใจ

แต่เวทนาใจนักเมื่อวันหนึ่งที่เธอกลับบ้านเกิดมาหลังจากสำเร็จการศึกษา เขาคนนั้นก็มีคนรักเสียแล้ว และคนรักของเขาเป็นคนที่เธอก็รักและนับถือดั่งพี่สาว เธอจึงต้องเก็บซ่อนรักนี้เอาไว้กับตัว มิอาจเปิดเผยให้เขาได้รู้ แต่การกระทำนั่นมันกลับสวนทางกับความคิดเพราะทุกครั้งที่ชายหนุ่มมาหาคนรักของเขาที่เรือนคุณหมอ เธอก็มักจะแอบมองเสมอจนหลายครั้งที่สบสายตากับเขา

หญิงสาวมักหวั่นไหวกับสายตาที่มองมาเสมอ แม้ต่อหน้าคุณหมอทั้งสองจะทำเป็นไม่สนใจกันและกัน แต่ทั้งสองรู้ดีว่าในแววตานั้นมันมีความหมายอะไรที่มากกว่านั้น แต่เธอต้องข่มจิตใจไว้ให้มั่น ต้องไม่พยายามเข้าใกล้เขาเท่าที่ทำได้แต่เธอก็พลาด...
... พลาดที่ตกลงไปในหลุมรักเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า



“คุณเอก” เสียงเรียกชื่อแผ่วเบาของหญิงสาวในอ้อมอก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่