แย้มประตูAEC งานกฐินวัดธิทะเส้นทางวัดใจนักแสวงบุญ

จุดเริ่มต้นทริปคือรูปนี้ เพื่อนคนนึงส่งภาพรถยนต์ลุยน้ำไปงานกฐินวัดแห่งหนึงในประเทศพม่าและยังบอกว่าอีก2วันจะมีงานกฐินแค่นั้นแหละฮะหัวใจพองโตเท่าลูกแตงโมเลยเชียว


ด้วยความอยากจะออกนอกประเทศกะเขามั้งไม่รู้จะทำไงเลยเริ่มหาข้อมูลเท่าที่พอได้ทั้งสายข่าวติดชายแดนและสังคมโซเชียล ก็ได้ความตรงกันว่ามีกฐินในวันที่ 6พ.ย.นี้จริงๆซึ่งมันตรงกับวันลอยกระทงของฝั่งไทยทุกปี ที่นี้ต้องรีบแล้วละฮะทำไงดีติดงาน2วันนี้ต้องรีบปิดงานให้เสร็จก่อนถึงมีเวลาเตรียมรถ เวลาผ่านไป2วันไม่ทันมีเวลาได้เตรียมตัวอะไรมากกว่าจะได้จับรถจริงๆก็เย็นวันที่5 ไหนจะเอกสารนั่นโน่นนี่แบบว่ากลัวก็กลัวเพราะสายข่าวพูดเหมือนว่ามันเป็นเรื่องง่ายๆที่จะข้ามไปฝั่งพม่าซึ่งผมเองเคยออกไปแค่ด่านเจดีย์3องค์(สังขละบุรี)แต่ด่านนี้ยังไม่เคยได้เหยียบแผ่นดินพม่ามาก่อนเลยแถมด้วยช่วงก่อนเดินทางฝนตกใหญ่ติดต่อกันมาเป็นสัปดาห์แล้วไม่แน่ใจว่าเจ้า versys ไปจะเจออะไรบ้าง

และแล้วการเดินทางก็เริ่มขึ้นในเช้าวันที่ 6พ.ย. 2557 ตอนตี5ตรง
แว๊ะเติมน้ำมันเต็มถังกันก่อนสัก10นาทีหาซื้อของกินของใช้จำเป็นแล้วออกเดินทางสู่จุดหมาย ด่านชายแดนบ้านพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรี



ถึงด่านเวลาดี6โมงเศษๆ ก็เริ่มสอบถามความเกี่ยวกับงานกฐินก็ได้คำตอบจากเจ้าหน้าที่ตม.ว่าต้องไปติดต่อที่หลวงพ่อเต้ วัดพุน้ำร้อน  แหม่มพูดเหมือนง่ายอีกแล้วผมก็ไม่เคยรู้จักท่านมาก่อนจะไปคุยกะท่านท่าไหนดีหละนี้



เอาๆขี่ไปดูก่อนถามๆเอาข้างหน้าละกันไอ้น้อง  ถ้ามไปถามมาก็ในที่สุดก็ได้คำตอบและใบผ่านทางแบบง่ายๆไม่มีอะไรยากเย็นอย่างที่คิดครับ 55(ไม่รู้จะกลัวไปทำไม)
ง๊ายง่าย ง่ายมากๆทำไม่ถึงง่ายขนาดนี้แค่รับสติ๊กเกอร์มาพร้อมกับกระดาษเพื่อเขียน ทะเบียนรถยนกะชื่อคนขับ1คนต่อ3ใบแค่เนี้ย!! ศิษหลวงพ่อเต้ทุกคนก็จะได้รับความสะดวกในการเดินทางแบบว่าไม่ต้องยุ่งยากในการกรอกเอกสารใดๆอีกเลย  :o  ช่างง่ายกว่าการนำรถออกนอกประเทศทุกครั้งที่เคยผ่านมาในชีวิตเลยก็ว่าได้นะครับ





กรอกเอกสารด้วยความงงเสร็จแล้วก็เดินเล่นหาอะไรกินนิดหน่อย พูดคุยกับคณะกฐินว่าเดินทางจากไหนกันบ้างด้วยความที่เป็นกัลยาณมิตร ต่อกันการพูดคุยก็ดูจะเป็นเรื่องสนุกสนานเฮฮาและเต็มไปด้วยรอยยิ้มครับ รู้สึกดีจริงๆ
มองซ้ายมองขวาเอ๊ะพี่ๆสาวๆก็เข้ามาขอถ่ายรูปเจ้าversys กันใหญ่ในใจก็คิดว่าหรือจะมีแค่เรา2พี่น้องที่จะนำรถมอไซค์ข้ามไปหว่า :ยิ้ม



ยืนรอกันไม่ถึง15นาทีก็มีคนเดินมาบอกให้เริ่มออกเดินทางได้หลังจากเรายื่นเอกสารใบเล็กให้เจ้าหน้าที่ตม. ก็ผ่านดานไทยไปได้อย่างง่ายดายครับก็ขับตามกันไปเพลินไม่มีอะไรจนมาถึงทางตันซึ่งถ้าไม่ขับตามกันมาแบบทิ้งระยะพอควรจะไม่รู้ว่าต้องเลี้ยวซ้ายขึ้นเนินเขาเพื่อผ่านดานทหารพรานด้านบนเขาอีกที ผมเลยแว๊ะถ่ายภาพกันก่อนออกจากแผ่นดินไทยครับ 55







ด่านทหารพรานบ้านเราไม่ใช่จะผ่านไปได้ง่ายๆอย่างตม.นะครับยิ่งไอ้แว๊นส์2คันนี้หละตัวดีติดกล้องที่หมวกมาด้วย พี่เขาเตือนด้วยความหวังดีครับแล้วก็ให้เราลบภาพในเมมออกภายใน15นาที... แหม่มๆพี่ผมตื่นเต้นจนกดมั่วลืมลบภาพพี่เลยครับ แต่ก็เป็นการดีครับที่มีพี่ทหารช่วยเตือนสติก่อนออกจากประเทศของเราเพราะด่านทหารข้างหน้าคงจะคุยกันไม่รู้เรื่องเหมือนพี่ทหารพรานชุดนี้แน่ๆ(ขอบคุณพวกพี่ๆมากเลยครับ) เค้าล้อเล่น แต่ก็ยังไม่วายขู่ส่งท้ายด้วยว่ารถแบบนี้พวกพม่าชอบดีนักแหละ(ผมขำไม่ออกนะมัวแต่ตื่นเต้น!พวกพี่ขู่กันจัง)



ออกเดินทางสู่เมียนม่า
ลงจากภูเขาชายแดนฝั่งไทยไปได้สัก 1กม.ก็เจอกับด่านฝั่งพม่าซึ่งผมได้ปลดกล้องโกโปรเก็บซุกซ่อนไว้อย่างดี(กลัวโดนยึด)55  และเป็นไปตามคาดหมายโดนทหารพม่าเรียกครับนายทหารส่งภาษา"มะลองเปรียงชิ" ประมาณว่าพวกสูจะไปไหนกันผมตอบกับไปเป็นภาษาไทยเลยครับ ไปทำบุญงานกฐินครับท่าน มองดูพี่แก่จะฟังภาษไทยไม่ออกผมไม่รอช้าเอื้อมมือไปหยิบสติ๊กเกอร์ศิษหลวงพ่อเต้ที่เก็บไว้ในปี๊บให้เขาดูในทันทีพอนายทหารได้เห็นก็ทำท่าทางเข้าอกเข้าใจเป็นอย่างดีและทำมือชี้ให้ติดไว้ที่ชิวหน้ารถผมก็ทำตามแบบว่ากันง่ายๆไม่มียึกยักครับท่าน 55
ขับต่อไปเลื่อยๆกับอากาศดีๆยามเช้า 7โมงกว่าๆชมนกชมไม้ไปพลางๆก็ถึงซุ้มประตูทางเข้าวัดซึ่งผมก็ไม่ทันอ่านป้ายนะครับ(ภาพนี้ถ่ายตอนขากลับ)



ต้นไม้ต้นนี้เคยเป็นต้นผึ้งครับ ยังคงมีรังผึ้งร้างให้เห็นอยู่บ้างแต่ไม่มีตัวเหลืออยู่แล้ว



ยิ่งเข้าไปลึกมากเท่าไหร่ดูหนทางจะยิ่งลำบากมากขึ้นครับ นี่ขนาดแม่น้ำแรกเอ้ย!!จะเรียกว่าอะไรดีห้วยแรกละกันกว่าจะตัดสินใจข้ามไปได้ก็ต้องขอดูไลน์จากรถยนต์ที่วิ่งแซงกันไปก่อนล๊ะกันครับ รถยนต์ที่ร่วมคณะกฐินนี่ก็ไม่ใช่4WDทุกคันนะครับผมว่า50%เป็นกระบะขับเคลื่อน2ล้อซะมากกว่า



ห้วย2นี่ต้องมีรถไถคอยเคลียร์ทางเลยครับและเผื่อมีรถติดกลางน้ำจะได้ช่วยดุนขึ้นก่อนจะถูกน้ำพัดหายไป(พูดเล่น)ห้วยนี้ดูจะเป็นห้วยที่ยาวพอสมควรต้องขอจอดดูไลน์นานหน่อย



ห้วยที่3 นี่จูงนะครับน้ำค่อนข้างแรงบวกกับหินใต้น้ำที่ทำให้เสี่ยงต่อการล้มเลยขอโดดลงมาจูงกลางน้ำกันเลยดีกว่า



ห้วยที่4 ย๊าวยาว คะเนความกว้างของลำน้ำได้สัก50เมตรครับต้องมีคนดูคอยบอกไลน์2ฝั่งและที่สำคัญน้ำมิดล้อ17นิ้วยางหนามของเจ้าversysครับ
ห้วยนี้ผมพักดูไลน์และตัดสินใจนานมากจนรู้สึกอยากจะถอนตัวครับ  :'( สำหรับผมแล้วห้วยนี้วัดใจสุดๆเลยเกือบทำใจไม่ได้ครับแต่ในใจคิดถึงหลวงพ่อเต้ครับและบอกท่านให้ช่วยคุ้มครองลูกด้วยยกมือท่วมหัวแล้วลุยกันเลย



ห้วยที่5 สุดท้ายแต่น้ำแรงมากขนาด KLX250 ยังถูกน้ำพัดเกือบเสียหลักครับแต่ผมมีตัวช่วยคือสะพานไม้ด้านข้างๆซึ่งมีทางเข้าเล็กๆผ่านสวนผักสวนครัวของชาวบ้านและที่สำคัญดินกะทิ ขี่ไปก็เก็งไปจนรถลงเนินแบบขวางๆก็ทำการแปะซ้ายไปหนึ่งทีพอขึ้นสะพานได้ก็ได้รูปสวยๆมาโชว์ซะหน่อย







คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ถึงซะทีครับวัดธิทะ  รวมระยะทางโดยประมาณจากด่านบ้านพุน้ำร้อนน่าจะสัก15กม.เห็นจะได้ครับมัวแต่ตื่นเต้นไม่ได้เช็กระยะทาง



บรรยากาศในวัด  ไม่มีอะไรแตกต่างกับงานกฐินโดยทั่วๆไปครับมีเลี้ยงอาหาร การเล่นสนุกสนาน พุ่มกฐิน และการทำบุญต่างๆและสาวมอญครับเพราะชุมชนแห่งนี้ส่วนใหญ่เป็นชาวมอญ และคนไทยที่ข้ามมาทำบุญที่วัดนี้ก็มีเชื้อสายมอญเช่นกันครับแยกกันไม่ออกเลยคนไหนพูดไทยได้บ้าง
มาชมภาพกันดีว่า















เขาสนุกเราก็สนุกกับเขาบ้างครับ แจกตุ๊กตาเด็กๆเลยดีกว่าวันนี้พกติดรถมา2ตัวใครอยากได้ต้องเต้นให้ดูก่อน555





ว่างๆยังไม่หิวก็เดินชมหมู่บ้านซักหน่อย















ท้ายหมู่บ้านมีแม่น้ำด้วยนะครับคนไทยบางท่านเข้าใจผิดเรียกแม่น้ำตะนาวศรีแต่ผมไปถามชาวบ้านมาออกเสียงว่า "ตอน๊อตตอรี" ประมาณนี้ครับแฮ่ๆ



ชมหมู่บ้านเสร็จได้เวลากลับมาหาของกินแล้วครับ







ก่อนขึ้นไปบนกุติเจอไอ้นี้ครับ  มารู้ตอนหลังว่ามันคือกล้วยนาก



เงินกฐินที่ได้วันนี้รวมตัวเลขเป็นเงินไทยได้ 8แสนกว่าทาบนะครับสำหรับวัดเล็กๆแบบนี้ถือว่าไม่น้อยเลย



หลังจากอิ่มและไม่มีอะไรจะทำแล้วก็นั่งพักสักแป๊บนึงครับก่อนจะเดินทางกลับไปเจอลำห้วยกับสายน้ำเชี่ยวกราดอีกครั้ง



การเดินทางครั้งนี้ถือว่าสนุกมากครับได้ภาพธรรมชาติแบบเต็มๆมาฝากครับ เห็นแล้วหายเหนื่อยเลย







ก่อนกลับเห็นบึงใสๆที่เกิดจากตาน้ำแล้วอดไม่ได้ต้องลงไปจุ่มตัวกันซะหน่อย 55





จบการเดินทางทริปนี่ครับ 1ล้มแปะเบาๆและที่ไม่ล้มหนักล้มแรงต้องขอบคุณบุญบารมีของหลวงพ่อเต้ครับ ปีหน้าใครมีโอกาศเรียนเชิญไปเปิดประตูสู่อาเซี่ยนด้วยกันนะครับเจอกันที่ด่านบ้านพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรีแล้วท่านจะได้ประสบการณ์ที่ไม่อาจจะลืม 555 :'(

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

****ขออนุญาติไม่ตอบคำถามใดๆนะครับ****
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่