หลักการส่งสัญญาณทีวีดิจิตอล ทำไมถึงช้ากว่าดาวเทียมเอามากๆ

มาวันนี้ขอพูดถึงหลักการส่งสัญญาณทีวีดิจิตอล ซึ่งมีหลายเสียงบ่นกันมากว่าไม่ได้ลุ้นบอลแม้แต่น้อยเลย คนบ้านข้างๆ ที่ไม่ได้ดูผ่านทีวีดิจิตอลภาคพื้นดิน ทั้งที่มาจากอนาล็อกโดยตรง เคเบิ้ลทีวี และดาวเทียมทั้ง 2 ย่าน (C-Band และ Ku-Band) ก็เฮกันล่วงหน้าก่อน จนทำให้หลายท่านต้องเซ็งและร้องไห้ไปตามๆ กัน


ผมทราบจากหลายท่านในพันทิป และจากที่ผมได้ขึ้นไปดูสถานีส่งนั้น ทำให้ผมทราบว่า ทำไมทีวีดิจิตอลถึงช้ากว่าทีวีดาวเทียมมาก (โดยเฉพาะช่อง 7) มีเหตุผลดังนี้ครับ

ทีวีอนาล็อกภาคพื้นดิน ไม่ว่าสถานีเครื่องส่งจังหวัดใด ก็มีการรับสัญญาณดาวเทียมย่าน C-Band ทั้งสิ้น โดยใช้เครื่องรับดาวเทียม C-Band นั้นจะเรียกว่า "IPD" เป็นเครื่องรับดาวเทียมที่ใหญ่กว่ากล่องรับสัญญาณดาวเทียม แต่มันจะมีการจัดการแบบเฉพาะ ทั้งการจัดการภาพ และระบบเสียงต่างๆ สามารถรองรับระบบเสียงสเตอริโอ และดิจิตอล NICAM ได้

เครื่องรับดาวเทียมแบบ IPD แต่ละยี่ห้อจะต่างกันไป ที่ท่านเห็นคือเครื่องรับ IPD ของ Harmonic ซึ่งจะรับจากดาวเทียมย่าน C-Band แต่ในภาพเป็นการใช้สำหรับระบบทีวีดิจิตอลภาคพื้นดิน ถามว่าถ้าจะเอาไปใช้กับทีวีอนาล็อกทำอย่างไร ก็ปรับความถี่ให้รับช่องความถี่ที่มีแค่สัญญาณภาพกับเสียงอย่างเดียวครับ แล้วส่งสัญญาณภาพกับเสียงไปใส่ใน Exciter ของเครื่องส่งอนาล็อกแทน


ภาพนี้เป็นเครื่องส่งยี่ห้อ NEC มาจากแดนอาทิตย์อุทัย (พูดถึงประเทศนี้แล้วอยากจะบอกว่าดาราค่าย Coat หล่อมากกกก) ซึ่งเป็นเครื่องส่งอนาล็อก ที่เห็นเป็นรุ่นที่ใช้ความถี่ย่าน UHF ถ่ายที่สถานีเครื่องส่งของไทยพีบีเอสครับ
ด้านซ้ายจะเป็น Exciter ตัวกำเนิดคลื่นความถี่ได้ทั้งระบบทีวีอนาล็อกและดิจิตอล สำหรับทีวีอนาล็อกจะแปลงสัญญาณดิจิตอลให้เป็นคลื่นพาห์ ก่อนจะส่งไปขยายกำลังส่งที่ PA ที่อยู่ทางด้านขวาของเครื่องส่งต่อไป (แยก PA ภาพกับเสียงด้วยนะครับ)


ส่วนนี่คือเครื่องส่งทีวีดิจิตอลยี่ห้อ Harris Broadcast (ปัจจุบันเป็น GatesAir) จากดินแดนลุงแซม (ฝรั่งที่นั่นก็หล่อนะ) ปกติจะใช้กับระบบ ATSC แต่เครื่องของมันสามารถออกอากาศได้ทั้งอนาล็อกและดิจิตอลทุกระบบเพียงแค่เปลี่ยน Exciter ที่ด้านบนเท่านั้นครับ (ถ้าเปลี่ยนระบบทีวีดิจิตอลก็เปลี่ยนแค่โปรแกรมภายในเท่านั้น)
หลักการทำงานของเครื่องส่งระบบทีวีดิจิตอลคือ เมื่อรับสัญญาณทีวีดิจิตอลพร้อมข้อมูลแล้ว จะนำไปรวมกับคลื่นพาห์ (คลื่นอนาล็อก) ที่กำเนิดจาก Exciter ก่อนที่จะส่งไปขยายอีกครั้งด้วย PA ที่อยู่ด้านล่างทั้ง 2 ตัว

ในช่อง 5, 9, NBT และ ThaiPBS จะใช้ภาพเดียวกัน ส่วนของช่อง 3 จะใช้สัญญาณ 3 Original ซึ่งถ้าเป็น 3 ดิจิตอลจะเพิ่มแค่โลโก้ 3 HD อย่างเดียว ส่วนของช่อง 7 จะแยกเลยครับ เป็น 7 SD และ 7 HD ใน 7 SD จะเป็นรูปแบบดั้งเดิมคือ ด้านบนจะมีเว็บไซต์ (www.ch7.com) ส่วนด้านล่างจะเป็นโลโก้แบบเรียบๆ (ถ้าเป็นถ่ายทอดสดจะตัดเว็บไซต์ทิ้ง แล้วขึ้นคำว่า "สด" ตรงด้านล่างของโลโก้) ส่วนช่อง 7 HD จะเป็นโลโก้นูนแบบ 3 มิติ มีน้ำมีนวล พร้อมกับคำว่า "HD" (เสียดายที่ผมไม่มีภาพของช่อง 7 SD นะครับ)





ทีนี้... ทำไมบ่นกันว่าทีวีดิจิตอลมันช้า คืออย่างนี้ครับ ดาวเทียมย่าน C-Band จะยิงมาสดๆ เลยครับ ล่องลอยอยู่ในอากาศใครคิดจะสอยก็สอยได้ แต่เมื่อถึงเวลาที่มีรายการที่มีค่าลิขสิทธิ์สูงแบบฟุตบอลนัดดังๆ การสอยเอาไปดูก็ไม่ใช่สอยกันง่ายๆ นะครับ สถานีเครื่องส่งจะสอยแล้วเอามาถอดรหัสเพื่อส่งสัญญาณอนาล็อกภาคพื้นดินเอง ดังนั้นตามสถานีเครื่องส่งก็จะมีสัญญาณดาวเทียมที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ ใครจะสอยก็สอยได้ตามใจชอบสำหรับออกอากาศรายการทั่วไป และสัญญาณดาวเทียมที่ล็อก Biss Key ที่จะต้องเอาไปถอดรหัสก่อนจะมีรายการที่ติดรหัสพวกนี้ในอีกไม่กี่ชั่วโมง

พวกสัญญาณดาวเทียม C-Band ที่ล่องลอยตามอากาศมันจะเร็วครับ เพราะไม่ว่าคนทั่วไปที่ดู หรือสถานีเครื่องส่งต่างก็ต้องใช้ ทำให้ช่องที่ออกอากาศผ่านดาวเทียมย่าน C-Band ออกอากาศรายการเร็วสุดครับ ตามด้วยช่องทีวีอนาล็อกต่างๆ ที่รับผ่านสถานีเครื่องส่งของช่องนั้นๆ และเคเบิ้ลทีวีระบบอนาล็อกที่รับสัญญาณแล้วเอามาออกอากาศต่ออีกทอดได้เลย (ระบบดิจิตอลไม่ได้ทดสอบครับ เพราะยังไม่ได้ไปดูเลย)
ต่อมาดาวเทียม Ku-Band จะเป็นการยิงอีกความถี่หนึ่ง ซึ่งเป็นการยิงที่ได้ช่องเยอะๆ จานรับก็เล็ก ต้นทุนต่ำกว่าจาน C-Band มาก แต่ข้อเสียคือมันจะ Delay ด้วยชิปของกล่อง และปัญหาจากสภาพอากาศที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการรับสัญญาณมากกว่าจานดาวเทียมย่าน C-Band

ส่วนทีวีดิจิตอล ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือ... สัญญาณภาพและเสียงจะผ่าน Fiber Optic แล้วเข้าสู่ Head End ของโครงข่ายต่างๆ จากนั้นก็เอามาใส่ข้อมูลและ EPG ของช่องต่างๆ ที่ส่งมาพร้อมกับ Fiber Optic แล้วเอามายิงขึ้นดาวเทียมย่าน C-Band เป็นหลัก (ส่วนระบบ Fiber Optic จะใช้ก็ต่อเมื่อเกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ส่งผลต่อดาวเทียม) ก่อนที่จะรับด้วยเครื่องรับ IPD ถูกควบคุมด้วยระบบเวลา ก่อนที่จะส่งสัญญาณทีวีดิจิตอลภาคพื้นดินด้วยเครื่องส่งที่เห็นในข้างต้น

ปัญหาคือ ความหน่วงของสัญญาณทีวีดิจิตอลที่มากกว่าอนาล็อก ทั้งขั้นตอนและอุปกรณ์ที่มาก และอุปกรณ์ภายใน Head End ที่อาจมีประสิทธิภาพที่ไม่สูงนัก มีความรวดเร็วไม่เพียงพอ และยังถูกควบคุมด้วยระบบเวลาอีกด้วย ทำให้สัญญาณทีวีดิจิตอลจึงช้ากว่าทีวีระบบอื่นๆ

ดังนั้น ทางแก้ปัญหาที่ควรจะทำคือ
(1) ควรจะให้สถานีเครื่องส่งช่วยหน่วงเวลาทีวีอนาล็อกให้มีเวลาห่างจากทีวีดิจิตอลไม่เกิน 5 วินาที ซึ่งอาจเสียเปรียบต่อดาวเทียมระบบต่างๆ ก็ได้
(2) ปรับปรุงอุปกรณ์ Head End อันนี้ควรทำอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ Head End ของช่อง 5 ที่มีปัญหากับช่อง 7 เอามากๆ
(3) ใช้ระบบ Fiber Optic แทนระบบดาวเทียมในการส่งสัญญาณไปสถานีเครื่องส่ง ซึ่งจะทำแบบนี้ได้โครงข่ายอินเทอร์เน็ตจะต้องขยายโครงข่ายไปตามสถานีเครื่องส่งของจังหวัดต่างๆ ให้ครบทุกสถานีทั้งสถานีหลักและสถานีย่อย รวมถึง Gap Filler ในบางจุดด้วยครับ.


ขอให้ทุกท่านดูทีวีด้วยความสุขและความฟินด้วยนะครับ อิอิ

อินาง เอ้ย! นายเบนซ์อภินันท์-Abhinan'zCH Twitter: @benz_abhinan - Facebook: Abhinan'z CH
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่