~ ~ สวัสดีค่ะทุกคน นี่เป็นโพสต์แรกของอีฟค่ะ
จะเล่าประสบการณ์การไปภูกระดึงครั้งแรก ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ
ไปช่วง 13 - 15 ธันวาคม 2557 ค่ะ ช่วงนี้ไม่มีทากนะคะ ไม่ต้องกลัวค่ะ
ไม่ต้องพกพวกสเปร์กันยุงกันทากไปก็ได้ค่ะ หนักเปล่าๆ ไม่มีสักตัว
ตอนแรกลุ้นเหมือนกันว่าร่างกายจะไหวมั้ย เพราะปกติไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเท่าไร
ปรากฏว่าเหนื่อยน้อยกว่าที่คิดไว้ ตอนแรกคิดว่าจะเหนื่อยสักเลเวล 10 เอาเข้าจริงเหนื่อยแค่ เลเวล 5 เองค่ะ
อาจจะล้าๆ บ้างช่วงขาขึ้น แต่ขาลงนี่สนุกมาก วิ่งเร็วเหมือนนักวิ่ง ที่จริงแค่เบรคไม่ได้
ขอบคุณรองเท้ารัดส้น ที่ทำให้การขึ้นเขาลงเขาเป็นเรื่องง่ายขึ้น
กินตลอดทาง แวะทุกซำ นอนเต็นท์ (เช่าที่อุทยานเลย) หนาวสุดๆ
อาบน้ำทุกวัน แต่น้ำนี่ฟีลลิ่งเหมือนอาบน้ำแช่น้ำแข็ง
สำหรับคนที่ไปครั้งแรกนะคะ
ไม่มีไฟฟ้าค่ะ พกพวกแบตสำรองไปเยอะๆ เลยค่ะ
ถ้าชาร์จแบตที่นี่คิด 20 บ./ 2 ชม.
ไฟฉาย ตะเกียง LED เล็กๆ ไว้ให้ความสว่างในเต็นท์ค่ะ
ออ เรื่องของการแพ็กกระเป๋านะคะ ถ้าจะให้ดีแพ็กเป็นใบเดียวเลยค่ะ
เพราะตอนที่เขาชั่งน้ำหนักให้ลูกหาบแบกให้เรา เขาจะคิดแยกเป็นชิ้นค่ะ
ถุงนอนหนักแค่ขีดเดียวก็ปัดเป็น 1 กก. เลยทีเดียว
ราคาจ้างลูกหาบตอนนี้ กิโลกรัมละ 30 บาทค่ะ
พกพวกขนม ที่น้ำหนักไม่มากติดกระเป๋าเป้เล็กๆ ไว้กินคลายเครียดขณะเดินทางด้วยก็จะดีมากเลย
อย่าลืมหมวกนะคะ เพราะทางเดินระหว่างหลังแป ไปยังจุดกางเต็นท์ค่อนข้างร้อนค่ะ
ไปครั้งหน้าอีฟจะถือร่มไปด้วยค่ะ
ออ เรื่องรองเท้า ส่วนตัวคิดว่ารองเท้ารัดส้นตอบโจทย์ได้ดีที่สุดค่ะ
เพราะขาลง ทางจะชัน บางทีเราจะเหมือนวิ่งลง ถ้าใส่ผ้าใบ เท้าจะลื่นๆ ไปชนขอบหน้ารองเท้า
อีฟใส่รองเท้าตามรูปเลยค่ะ ซื้อใหม่เพื่องานนี้โดยตรง ฮี่ ๆ ๆ
การเดินทาง : ขับรถไปเองค่ะ ก่อนถึงภูกระดึงนักท่องเที่ยวจะแวะถ่ายรูปที่ผานกเค้าก่อนค่ะ
สถานที่จอดรถ : สามารถเข้าไปจอดที่หน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยวได้เลยค่ะ
เข้าไปถึงต้องไปต่อคิวเพื่อซื้อบัตรเข้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ค่าบริการผู้ใหญ่คนละ 40 บาท เด็ก 20 บาท
นอกจากนี้ต้องติดต่อเรื่องการกางเต็นท์และการจองห้องพักนะคะ
อีฟและเพื่อนๆ นอนเต็นท์ค่ะ คิดค่าบริการกางเต็นท์คนละ 30 บาทค่ะ
(พวกเต็นท์ และเครื่องนอนไปติดต่อด้านบนเลยนะคะ)
ราคาห้องพักไม่แน่ใจค่ะ แต่เต็นท์ที่นอนได้ 3 คน ค่าเช่าคืนละ 250 บาทค่ะ
ผ้าห่มโตโต้ ผืนละ 30 บาท เบาะรองนอน 20 บาท ถุงนอน 30 บาท หมอน 10 บาท (ราคาต่อคืนค่ะ)
แนะนำว่าพกแค่ถุงนอนพอค่ะ อย่างอื่นไปเช่าที่โน่น ไม่เหม็นอย่างที่คิด
ไปถึงเช้าๆ จะดีหน่อยค่ะ คนยังไม่เยอะเท่าไร ในภาพนี้ประมาณ 7:00 น.
เราจะเดินทางจากลูกศรล่างขึ้นบนตามนี้ แต่ละซำจะมีที่สำหรับนั่งพักและกินอะไรหวานๆ เย็นๆ ตลอดทาง
และบริเวณทางขึ้นจะมีจุดให้ถ่ายรูปเล็กน้อยค่ะ สู้ๆ
ทางเดินจากปางกกคำไปยังซำแฮก บรรยากาศจะเป็นแบบนี้ค่ะ ยังร้อนๆ อยู่บ้าง
เย้ ๆ ๆ ถึงแล้วซำแฮก แวะกินข้าว ซะหน่อย ราคาตามป้ายจ้า ตอนนี้ยังไม่สูงมาก ราคายังไม่แพงเท่าไร
กะเพราหมูสับ รสชาติเผ็ดพอสมควรใครกินไม่เผ็ดต้องบอกป้าคนทำด้วยนะคะ ไม่งั้นกินไม่ได้แน่ๆ
นี่คือห้องน้ำที่ซำแฮกนะคะ มันเลิศมากค่ะ ยังไม่ปวดค่ะอีฟยังไม่เข้า
เดินๆ ไปจะเจอลูกหาบแบบนี้ตลอดทาง ก็ทักทายพี่เขาไปเรื่อยๆ ให้กำลังใจกันไปตลอดทาง
ถามพี่เขาว่า ไหวมั้ยคะ สู้ๆ นะคะ พี่เขาชูสองนิ้วแทนคำตอบ
แข็งแรงสุดๆ แต่ละคนจะแบกคนละ 30 - 60 กก. เลยทีเดียว
ทางขึ้นจะเป็นแบบนี้ค่ะ
ออ มีจุดแวะพักของลูกหาบด้วยนะคะ ตอนแรกที่เห็นก็งงว่ากิ่งไม้แบบนี้มีไว้ทำไม ตอนนี้เข้าใจละ จุดแวะพักของเหล่าพี่ลูกหาบนี่เอง
ถามไถ่เล็กน้อยก็ขอถ่ายรูปกับพี่เขา แต่ละคนเป็นกันเองมาก
บรรยากาศการเดินระหว่างซำบอน ไปซำกกกอก จะเป็นแบบนี้
ถึงแล้วค่ะ ซำกกกอก
มีของกินเพียบค่ะ เฉาก๊วยแก้วละ 20 บาท ไอติมหลอด ขนมเพียบค่ะ
เดินต่ออีกสักพักจะถึงซำกอซาง
ทางเดินจากซำกอซางไปยัง พร่านพรานแป
ถึงพร่านพรานแปแล้วค่ะ
จากพร่านพรานแป ไปยังซำกกหว้า
จากพร่านพรานแป ไปยังซำกกหว้า เริ่มเจอคนเดินสวนทางกลับลงมาข้างล่างเยอะขึ้นแล้วค่ะ
ถึงซำกกหว้าแล้วค่ะ
ร้านอาหารก็มีให้เลือกเยอะแยะเหมือนเดิมค่ะ
นั่งพักซะหน่อย บางคนนี่ถึงขั้นนอนพักแบบจริงจังกันเลยก็มี
ลองชิมข้าวจี่ดู เอิ่ม หน้าตาน่ากินมาก แต่แข็งสุดพลัง ไม้ละ 10 บาท
ส่วนกล้วยฉาบมีสองแบบ เค็มและหวาน ถุงละ 20 บาท
พักแล้วก็เดินต่อค่ะ ทางเดินไปยังซำกกไผ่ ต้นไผ่จะเริ่มเยอะค่ะ
ถึงแล้วค่ะ ซำกกไผ่ สมชื่อนะคะ กกไผ่เยอะมาก (กก ภาษาอีสานแปลว่า ต้น ค่ะ)
กำลังเดินต่อไปยังซำกกโดน
บางทีลูกหาบเดินสวนทางกัน เราก็ต้องหยุดให้เขาเดินไปก่อนนะคะ เกรงใจเขาค่ะ คงหนักมากๆ
เห็นซำกกโดนอยู่รำไรแล้ว
และแล้วก็ถึงซำกกโดนค่ะ
มองจากซำกกโดน วิวด้านล่างสวยมากค่ะ
เฟินเยอะมาก
วิวด้านล่างเมื่อมองจากซำกกโดน
ร้านค้าเพียบ เช่นเคยค่ะ ให้เราได้เลือกกินกันอย่างจุใจ
ของที่ระลึกก็มีนะคะ อย่างที่บอก ราคาจะแพงขึ้นตามความสูงค่ะ ชั้นนี้น่าจะตัวละ 160 บาท 2 ตัว 300 บาทนะคะ ลืมละ อิอิ
เสื้อยืดเพียบค่ะ ที่จริงเอาเสื้อกันหนาวมาแล้วมาหาเสื้อยืดใส่ที่นี่น่าจะดีกว่านะคะ
และจุดที่เริดมากอยู่ตรงนี้ค่ะ กรี๊ดดด ให้ตายสิ มีชาเขียวให้กินด้วย โอ๊ย ปลื้มปริ่มค่ะ
ซื้อแบบถุกระดาษ ถุงละ 40 บาทค่ะ ราคาถือว่ารับได้ รสชาติโอเค แม่ค้าท่าทางใจดีค่ะ
พอพักหายเหนื่อยเราก็ไปกันต่อค่ะ เป้าหมายต่อไปคือ ซำแคร่ค่ะ
ถึงแล้วค่ะซำแคร่
จากซำแคร่ไปหลังแป
จากซำแคร่ไปจุดสุดท้ายคือหลังแป ทางเดินก็เริ่มชันขึ้นอีกค่ะ
ทางแคบลง แถวนี้หินล้วนๆ ค่ะ
มีบันไดเป็นระยะค่ะ
แถวนี้อากาศเย็น และชันเอาเรื่องเลย
นั่งพักก่อนปีนต่อก็มีค่ะ
บันไดอีกจุดค่ะ
ใกล้ถึงหลังแปหรือยังนะ ไกลจัง
แทบจะทุกคนต้องเอาต้นไม้เป็นที่ยึดเหนี่ยวค่ะ เพราะฉะนั้นไม่แปลกที่ต้นไม้จะเงาวับเลย
ปีนกันต่อไป
อีกนิดเดียว
แค่เห็นก็เหนื่อยรอละ
เอาเลยค่ะ เลือกทางที่ชอบ ที่ชอบได้เลย (คุณพี่หาบ มีเวอร์ชั่นหาบเก้าอี้ด้วยนะคะ)
ถึงแล้วจ้า หลังแป
ต่อไปเราจะเดินจากหลังแปมุ่งหน้าสู่จุดกางเต็นท์กันนะคะ
ต้นสน ณ จุดนี้ ว่ากันว่าทุกคนต้องถ่ายรูปค่ะ
ยาวไป ยาวไป
เย้ ๆ ถึงแล้วค่าจุดที่เราจะนอนกันคืนนี้
มาติดต่อเรื่องเต็นท์ให้เรียบร้อยก่อนนะคะ
ห้องน้ำและห้องอาบน้ำค่ะ
มีเครื่องทำน้ำอุ่นเวอร์ชั่นหยอดเหรียญด้วยนะคะ แต่เครื่องเสียค่ะ เสียใจสุดๆ
[CR] Review : ครั้งแรกที่ภูกระดึง ใครว่ายาก
จะเล่าประสบการณ์การไปภูกระดึงครั้งแรก ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ
ไปช่วง 13 - 15 ธันวาคม 2557 ค่ะ ช่วงนี้ไม่มีทากนะคะ ไม่ต้องกลัวค่ะ
ไม่ต้องพกพวกสเปร์กันยุงกันทากไปก็ได้ค่ะ หนักเปล่าๆ ไม่มีสักตัว
ตอนแรกลุ้นเหมือนกันว่าร่างกายจะไหวมั้ย เพราะปกติไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเท่าไร
ปรากฏว่าเหนื่อยน้อยกว่าที่คิดไว้ ตอนแรกคิดว่าจะเหนื่อยสักเลเวล 10 เอาเข้าจริงเหนื่อยแค่ เลเวล 5 เองค่ะ
อาจจะล้าๆ บ้างช่วงขาขึ้น แต่ขาลงนี่สนุกมาก วิ่งเร็วเหมือนนักวิ่ง ที่จริงแค่เบรคไม่ได้
ขอบคุณรองเท้ารัดส้น ที่ทำให้การขึ้นเขาลงเขาเป็นเรื่องง่ายขึ้น
กินตลอดทาง แวะทุกซำ นอนเต็นท์ (เช่าที่อุทยานเลย) หนาวสุดๆ
อาบน้ำทุกวัน แต่น้ำนี่ฟีลลิ่งเหมือนอาบน้ำแช่น้ำแข็ง
สำหรับคนที่ไปครั้งแรกนะคะ
ไม่มีไฟฟ้าค่ะ พกพวกแบตสำรองไปเยอะๆ เลยค่ะ
ถ้าชาร์จแบตที่นี่คิด 20 บ./ 2 ชม.
ไฟฉาย ตะเกียง LED เล็กๆ ไว้ให้ความสว่างในเต็นท์ค่ะ
ออ เรื่องของการแพ็กกระเป๋านะคะ ถ้าจะให้ดีแพ็กเป็นใบเดียวเลยค่ะ
เพราะตอนที่เขาชั่งน้ำหนักให้ลูกหาบแบกให้เรา เขาจะคิดแยกเป็นชิ้นค่ะ
ถุงนอนหนักแค่ขีดเดียวก็ปัดเป็น 1 กก. เลยทีเดียว
ราคาจ้างลูกหาบตอนนี้ กิโลกรัมละ 30 บาทค่ะ
พกพวกขนม ที่น้ำหนักไม่มากติดกระเป๋าเป้เล็กๆ ไว้กินคลายเครียดขณะเดินทางด้วยก็จะดีมากเลย
อย่าลืมหมวกนะคะ เพราะทางเดินระหว่างหลังแป ไปยังจุดกางเต็นท์ค่อนข้างร้อนค่ะ
ไปครั้งหน้าอีฟจะถือร่มไปด้วยค่ะ
ออ เรื่องรองเท้า ส่วนตัวคิดว่ารองเท้ารัดส้นตอบโจทย์ได้ดีที่สุดค่ะ
เพราะขาลง ทางจะชัน บางทีเราจะเหมือนวิ่งลง ถ้าใส่ผ้าใบ เท้าจะลื่นๆ ไปชนขอบหน้ารองเท้า
อีฟใส่รองเท้าตามรูปเลยค่ะ ซื้อใหม่เพื่องานนี้โดยตรง ฮี่ ๆ ๆ
การเดินทาง : ขับรถไปเองค่ะ ก่อนถึงภูกระดึงนักท่องเที่ยวจะแวะถ่ายรูปที่ผานกเค้าก่อนค่ะ
สถานที่จอดรถ : สามารถเข้าไปจอดที่หน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยวได้เลยค่ะ
เข้าไปถึงต้องไปต่อคิวเพื่อซื้อบัตรเข้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ค่าบริการผู้ใหญ่คนละ 40 บาท เด็ก 20 บาท
นอกจากนี้ต้องติดต่อเรื่องการกางเต็นท์และการจองห้องพักนะคะ
อีฟและเพื่อนๆ นอนเต็นท์ค่ะ คิดค่าบริการกางเต็นท์คนละ 30 บาทค่ะ
(พวกเต็นท์ และเครื่องนอนไปติดต่อด้านบนเลยนะคะ)
ราคาห้องพักไม่แน่ใจค่ะ แต่เต็นท์ที่นอนได้ 3 คน ค่าเช่าคืนละ 250 บาทค่ะ
ผ้าห่มโตโต้ ผืนละ 30 บาท เบาะรองนอน 20 บาท ถุงนอน 30 บาท หมอน 10 บาท (ราคาต่อคืนค่ะ)
แนะนำว่าพกแค่ถุงนอนพอค่ะ อย่างอื่นไปเช่าที่โน่น ไม่เหม็นอย่างที่คิด
ไปถึงเช้าๆ จะดีหน่อยค่ะ คนยังไม่เยอะเท่าไร ในภาพนี้ประมาณ 7:00 น.
เราจะเดินทางจากลูกศรล่างขึ้นบนตามนี้ แต่ละซำจะมีที่สำหรับนั่งพักและกินอะไรหวานๆ เย็นๆ ตลอดทาง
และบริเวณทางขึ้นจะมีจุดให้ถ่ายรูปเล็กน้อยค่ะ สู้ๆ
ทางเดินจากปางกกคำไปยังซำแฮก บรรยากาศจะเป็นแบบนี้ค่ะ ยังร้อนๆ อยู่บ้าง
เย้ ๆ ๆ ถึงแล้วซำแฮก แวะกินข้าว ซะหน่อย ราคาตามป้ายจ้า ตอนนี้ยังไม่สูงมาก ราคายังไม่แพงเท่าไร
กะเพราหมูสับ รสชาติเผ็ดพอสมควรใครกินไม่เผ็ดต้องบอกป้าคนทำด้วยนะคะ ไม่งั้นกินไม่ได้แน่ๆ
นี่คือห้องน้ำที่ซำแฮกนะคะ มันเลิศมากค่ะ ยังไม่ปวดค่ะอีฟยังไม่เข้า
เดินๆ ไปจะเจอลูกหาบแบบนี้ตลอดทาง ก็ทักทายพี่เขาไปเรื่อยๆ ให้กำลังใจกันไปตลอดทาง
ถามพี่เขาว่า ไหวมั้ยคะ สู้ๆ นะคะ พี่เขาชูสองนิ้วแทนคำตอบ
แข็งแรงสุดๆ แต่ละคนจะแบกคนละ 30 - 60 กก. เลยทีเดียว
ทางขึ้นจะเป็นแบบนี้ค่ะ
ออ มีจุดแวะพักของลูกหาบด้วยนะคะ ตอนแรกที่เห็นก็งงว่ากิ่งไม้แบบนี้มีไว้ทำไม ตอนนี้เข้าใจละ จุดแวะพักของเหล่าพี่ลูกหาบนี่เอง
ถามไถ่เล็กน้อยก็ขอถ่ายรูปกับพี่เขา แต่ละคนเป็นกันเองมาก
บรรยากาศการเดินระหว่างซำบอน ไปซำกกกอก จะเป็นแบบนี้
ถึงแล้วค่ะ ซำกกกอก
มีของกินเพียบค่ะ เฉาก๊วยแก้วละ 20 บาท ไอติมหลอด ขนมเพียบค่ะ
เดินต่ออีกสักพักจะถึงซำกอซาง
ทางเดินจากซำกอซางไปยัง พร่านพรานแป
ถึงพร่านพรานแปแล้วค่ะ
จากพร่านพรานแป ไปยังซำกกหว้า
จากพร่านพรานแป ไปยังซำกกหว้า เริ่มเจอคนเดินสวนทางกลับลงมาข้างล่างเยอะขึ้นแล้วค่ะ
ถึงซำกกหว้าแล้วค่ะ
ร้านอาหารก็มีให้เลือกเยอะแยะเหมือนเดิมค่ะ
นั่งพักซะหน่อย บางคนนี่ถึงขั้นนอนพักแบบจริงจังกันเลยก็มี
ลองชิมข้าวจี่ดู เอิ่ม หน้าตาน่ากินมาก แต่แข็งสุดพลัง ไม้ละ 10 บาท
ส่วนกล้วยฉาบมีสองแบบ เค็มและหวาน ถุงละ 20 บาท
พักแล้วก็เดินต่อค่ะ ทางเดินไปยังซำกกไผ่ ต้นไผ่จะเริ่มเยอะค่ะ
ถึงแล้วค่ะ ซำกกไผ่ สมชื่อนะคะ กกไผ่เยอะมาก (กก ภาษาอีสานแปลว่า ต้น ค่ะ)
กำลังเดินต่อไปยังซำกกโดน
บางทีลูกหาบเดินสวนทางกัน เราก็ต้องหยุดให้เขาเดินไปก่อนนะคะ เกรงใจเขาค่ะ คงหนักมากๆ
เห็นซำกกโดนอยู่รำไรแล้ว
และแล้วก็ถึงซำกกโดนค่ะ
มองจากซำกกโดน วิวด้านล่างสวยมากค่ะ
เฟินเยอะมาก
วิวด้านล่างเมื่อมองจากซำกกโดน
ร้านค้าเพียบ เช่นเคยค่ะ ให้เราได้เลือกกินกันอย่างจุใจ
ของที่ระลึกก็มีนะคะ อย่างที่บอก ราคาจะแพงขึ้นตามความสูงค่ะ ชั้นนี้น่าจะตัวละ 160 บาท 2 ตัว 300 บาทนะคะ ลืมละ อิอิ
เสื้อยืดเพียบค่ะ ที่จริงเอาเสื้อกันหนาวมาแล้วมาหาเสื้อยืดใส่ที่นี่น่าจะดีกว่านะคะ
และจุดที่เริดมากอยู่ตรงนี้ค่ะ กรี๊ดดด ให้ตายสิ มีชาเขียวให้กินด้วย โอ๊ย ปลื้มปริ่มค่ะ
ซื้อแบบถุกระดาษ ถุงละ 40 บาทค่ะ ราคาถือว่ารับได้ รสชาติโอเค แม่ค้าท่าทางใจดีค่ะ
พอพักหายเหนื่อยเราก็ไปกันต่อค่ะ เป้าหมายต่อไปคือ ซำแคร่ค่ะ
ถึงแล้วค่ะซำแคร่
จากซำแคร่ไปหลังแป
จากซำแคร่ไปจุดสุดท้ายคือหลังแป ทางเดินก็เริ่มชันขึ้นอีกค่ะ
ทางแคบลง แถวนี้หินล้วนๆ ค่ะ
มีบันไดเป็นระยะค่ะ
แถวนี้อากาศเย็น และชันเอาเรื่องเลย
นั่งพักก่อนปีนต่อก็มีค่ะ
บันไดอีกจุดค่ะ
ใกล้ถึงหลังแปหรือยังนะ ไกลจัง
แทบจะทุกคนต้องเอาต้นไม้เป็นที่ยึดเหนี่ยวค่ะ เพราะฉะนั้นไม่แปลกที่ต้นไม้จะเงาวับเลย
ปีนกันต่อไป
อีกนิดเดียว
แค่เห็นก็เหนื่อยรอละ
เอาเลยค่ะ เลือกทางที่ชอบ ที่ชอบได้เลย (คุณพี่หาบ มีเวอร์ชั่นหาบเก้าอี้ด้วยนะคะ)
ถึงแล้วจ้า หลังแป
ต่อไปเราจะเดินจากหลังแปมุ่งหน้าสู่จุดกางเต็นท์กันนะคะ
ต้นสน ณ จุดนี้ ว่ากันว่าทุกคนต้องถ่ายรูปค่ะ
ยาวไป ยาวไป
เย้ ๆ ถึงแล้วค่าจุดที่เราจะนอนกันคืนนี้
มาติดต่อเรื่องเต็นท์ให้เรียบร้อยก่อนนะคะ
ห้องน้ำและห้องอาบน้ำค่ะ
มีเครื่องทำน้ำอุ่นเวอร์ชั่นหยอดเหรียญด้วยนะคะ แต่เครื่องเสียค่ะ เสียใจสุดๆ