เรื่องอำนาจการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของ สนช. นั้น มีรายละเอียด ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องอยู่หลายบท หลายมาตรา
เราจะอธิบายออกเป็น 2 level โดยระดับแรกจะลงเฉพาะกว้างๆง่ายๆ เหมาะแก่การเป็นยาสลายมโนแบบเบสิคพื้นฐาน
แต่ถ้าใครอาการหนัก มโนลึกมาก... ให้เปิดข้อความที่ซ่อนไว้ เพื่อลงไปดูในรายละเอียด....

เพื่อเพิ่มบรรยากาศในการสลาย "มโน" กรุณาใช้เม้าส์คลิ๊กเพลย์เบาๆในยูตู๊บ เพื่อฟังเพลงประกอบการรับยาครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
มโน 1. สนช. ไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
1. คสช. รัฐประหาร เมื่อ 22 พ.ค.57 ประกาศให้รัฐธรรมนูญ 50 สิ้นสุดลง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://library2.parliament.go.th/giventake/content_ncpo/ncpo-annouce11.pdf
2. คสช. ซึ่งเป็น "รัฏฐาธิปัตย์" เต็มสูบ คำประกาศของรัฏฐาธิปัตย์ถือเป็นกฏหมาย มีผลบังคับใช้
คสช. ประกาศให้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ต่อไป เพื่อให้องค์กรอิสระ และองค์กรอื่น ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้อย่างต่อเนื่องและเป็นธรรม ในกรณีที่สำคัญคือ การดำรงอยู่ของ ปปช. และ วุฒิสภา
ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ ...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่ ๒๔/๒๕๕๗
เรื่อง ให้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ต่อไป
เพื่อให้องค์กรอิสระ และองค์กรอื่น ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐
ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้อย่างต่อเนื่องและเป็นธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงประกาศให้
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังต่อไปนี้ มีผลบังคับใช้ต่อไป
๑. พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๔๒
๒. พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒
๓. พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. ๒๕๕๐
๔. พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๕๒
๕. พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่ง
ทางการเมือง พ.ศ. ๒๕๔๒
ทั้งนี้ จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ประกาศ ณ วันที่ ๒๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
3. พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒
มาตรา ๕๘ มีสาระสำคัญอยู่ ๒ ประการ คือ
3.1 เมื่อผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือตำแหน่งระดับสูง[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(๑) นายกรัฐมนตรี
(๒) รัฐมนตรี
(๓) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
(๔) สมาชิกวุฒิสภา
(๕) ประธานศาลฎีกา
(๖) ประธานศาลรัฐธรรมนูญ
(๗) ประธานศาลปกครองสูงสุด
(๘) อัยการสูงสุด
(๙) กรรมการการเลือกตั้ง
(๑๐) ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา
(๑๑) ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
(๑๒) กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน
(๑๓) รองประธานศาลฎีกา
(๑๔) รองประธานศาลปกครองสูงสุด
(๑๕) หัวหน้าสำนักตุลาการทหาร
(๑๖) รองอัยการสูงสุด
(๑๗) ผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่
ส่อว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ (เคสนายกปู) ส่อว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือส่อว่า
จงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย(เคสนายนิคม และ นายสมศักดิ์ และ สส. สว. ที่ร่วมผ่านร่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา สว.)
3.2 วุฒิสภามีอำนาจดำเนินการถอดถอนผู้นั้นออกจากตำแหน่ง ได้ตามบทบัญญัติในหมวดนี้
สรุปว่า ปปช. มีอำนาจเหมือนเเดิม ทุกประการ และการถอดถอนได้ถูกกำหนดไว้แล้วว่าเป็นหน้าที่ของวุฒิสภา
รวมถึงมีกระบวนการ วิธีการในการถอดถอน และ
กำหนดตัดสิทธิ์ทางการเมืองของผู้ถูกถอดถอน 5 ปี เสร็จสรรพ ตามมาตรา 58 - 65
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ http://www.thailandlawyercenter.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538974558&Ntype=19
4. คสช. ประกาศให้วุฒิสภาสิ้นสุดลง ในเบื้องแรกให้อำนาจหน้าที่เป็นของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://library2.parliament.go.th/giventake/content_ncpo/ncpo-annouce30.pdf และเมื่อรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว ปี 57 ได้ประกาศใช้ ก็ให้อำนาจหน้าที่ของวุฒิสภา เป็นของ สนช. ตามมาตรา ๖
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ให้มีสภานิติบัญญัติแห่งชาติประกอบด้วยสมาชิกจํานวนไม่เกินสองร้อยยี่สิบคนซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งจากผู้มีสัญชาติไทยโดยการเกิดและมีอายุไม่ต่ํากว่าสี่สิบปี ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติถวายคําแนะนําให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติทําหน้าที่สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และรัฐสภา
สรุปว่า อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายของวุฒิสภา ยังคงอยู่ ไม่หายสาบสูญ หรือสะดุด หยุดลงแต่ประการใด เพียงแต่มีบุคคล หรือ คณะบุคคลอื่นเป็นผู้ดำเนินการแทนตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันคณะบุคคลที่ใช้อำนาจของวุฒิสภา คือ สนช.
เพราะฉะนั้นที่มโนกันว่า สนช. ไม่มีอำนาจถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือมโนเสร็จแล้ว ถามว่าจะถอดถอนฯ มีกฎหมายใดรองรับ
ก็ขอตอบให้เลิกมโนกันได้แล้วนะครับ ว่า
"การถอนถอนนายนิคม นายสมศักดิ์ คุณยิ่งลักษณ์ และทีมงานอีกหลายร้อยชีวิตนั้น สนช. ได้อาศัยอำนาจตาม รัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว ปี 57 มาตรา 6 ประกอบกับ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 58 ในการดำเนินการ "
(มีต่อ)
ปล. คุณสาวเหลือน้อย ...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เขียนถึงการศึกษาของเรา หลายคราว หลายวาระ ทำตัวเหมือนเด็กเห่อของเล่น พิจารณาแล้วไม่เหมาะแก่ทั้งคุณวุฒิและวัยวุฒิของคุณ หนำซ้ำยังมีการลากโยง เปรียบเทียบกับอาจารย์ หรือนักกฎหมายท่านอื่น อย่างไม่เหมาะสม เลิกได้ก็เลิกครับ แต่ถ้าเลิกไม่ได้ ยังต้องทำต่อไปในอนาคต ถ้ายังจะเอานักกฎหมายฝ่ายแดงคนใดมาเทียบ ก็จะบอกโปรไฟล์เราเพิ่มให้อีกหน่อย เราใช้เวลา 3 ปีเศษ ในการจบ 2 ปริญญา ทั้งนิติศาสตร์และปริญาโท HR หาคนทางฝั่งคุณมาให้ถูกคนและเหมาะสมละกัน (ฮา)
~ ศรอรชุน ~
.... เรียนเชิญเสื้อแดงโดยเฉพาะคุณสาวเหลือน้อยและคุณตระกองขวัญ มารับ "ยาสลาย มโน" ว่าด้วยอำนาจการถอดถอนของ สนช. ....
เราจะอธิบายออกเป็น 2 level โดยระดับแรกจะลงเฉพาะกว้างๆง่ายๆ เหมาะแก่การเป็นยาสลายมโนแบบเบสิคพื้นฐาน
แต่ถ้าใครอาการหนัก มโนลึกมาก... ให้เปิดข้อความที่ซ่อนไว้ เพื่อลงไปดูในรายละเอียด....
เพื่อเพิ่มบรรยากาศในการสลาย "มโน" กรุณาใช้เม้าส์คลิ๊กเพลย์เบาๆในยูตู๊บ เพื่อฟังเพลงประกอบการรับยาครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
มโน 1. สนช. ไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
1. คสช. รัฐประหาร เมื่อ 22 พ.ค.57 ประกาศให้รัฐธรรมนูญ 50 สิ้นสุดลง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2. คสช. ซึ่งเป็น "รัฏฐาธิปัตย์" เต็มสูบ คำประกาศของรัฏฐาธิปัตย์ถือเป็นกฏหมาย มีผลบังคับใช้
คสช. ประกาศให้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ต่อไป เพื่อให้องค์กรอิสระ และองค์กรอื่น ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้อย่างต่อเนื่องและเป็นธรรม ในกรณีที่สำคัญคือ การดำรงอยู่ของ ปปช. และ วุฒิสภา
ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ ...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3. พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒
มาตรา ๕๘ มีสาระสำคัญอยู่ ๒ ประการ คือ
3.1 เมื่อผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือตำแหน่งระดับสูง[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ ส่อว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ (เคสนายกปู) ส่อว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย(เคสนายนิคม และ นายสมศักดิ์ และ สส. สว. ที่ร่วมผ่านร่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา สว.)
3.2 วุฒิสภามีอำนาจดำเนินการถอดถอนผู้นั้นออกจากตำแหน่ง ได้ตามบทบัญญัติในหมวดนี้
สรุปว่า ปปช. มีอำนาจเหมือนเเดิม ทุกประการ และการถอดถอนได้ถูกกำหนดไว้แล้วว่าเป็นหน้าที่ของวุฒิสภา
รวมถึงมีกระบวนการ วิธีการในการถอดถอน และกำหนดตัดสิทธิ์ทางการเมืองของผู้ถูกถอดถอน 5 ปี เสร็จสรรพ ตามมาตรา 58 - 65[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
4. คสช. ประกาศให้วุฒิสภาสิ้นสุดลง ในเบื้องแรกให้อำนาจหน้าที่เป็นของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ และเมื่อรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว ปี 57 ได้ประกาศใช้ ก็ให้อำนาจหน้าที่ของวุฒิสภา เป็นของ สนช. ตามมาตรา ๖ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สรุปว่า อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายของวุฒิสภา ยังคงอยู่ ไม่หายสาบสูญ หรือสะดุด หยุดลงแต่ประการใด เพียงแต่มีบุคคล หรือ คณะบุคคลอื่นเป็นผู้ดำเนินการแทนตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันคณะบุคคลที่ใช้อำนาจของวุฒิสภา คือ สนช.
เพราะฉะนั้นที่มโนกันว่า สนช. ไม่มีอำนาจถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือมโนเสร็จแล้ว ถามว่าจะถอดถอนฯ มีกฎหมายใดรองรับ
ก็ขอตอบให้เลิกมโนกันได้แล้วนะครับ ว่า
"การถอนถอนนายนิคม นายสมศักดิ์ คุณยิ่งลักษณ์ และทีมงานอีกหลายร้อยชีวิตนั้น สนช. ได้อาศัยอำนาจตาม รัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว ปี 57 มาตรา 6 ประกอบกับ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 58 ในการดำเนินการ "
(มีต่อ)
ปล. คุณสาวเหลือน้อย ...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
~ ศรอรชุน ~