๙ แล้ว ๖ ๖ แล้ว ๙ ไม่รู้อะไรคือเหตุ อะไรคือผล ?? อะไรคือแต้มต่อสำคัญของคนเล่นหุ้นปั่น หุ้นต้มตุ๋น

ขอบคุณทุกๆท่าน ที่ช่วยกดโหวต และร่วมออกความเห็นครับ

อมยิ้ม17อมยิ้ม17อมยิ้ม17อมยิ้ม17




เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว  อาจารย์ไพบูลย์เชิญไปออกรายการ มันนี่ทอลค์ ของทรูวิชั่น
โดยคุยกันในหัวข้อ  "ลงทุนอย่างไรไม่ให้เครียด"


คำถามส่วนใหญ่จากอาจารย์ไพบูลย์  อาจารย์นิเวศน์  
ผมตอบได้โดยไม่ลังเลที่จะตอบ

แต่มีคำถามหนึ่ง ที่อาจารย์ถาวรถามแล้ว  ทำเอาผมอึ้ง  จนลืมตอบในรายการ

อาจารย์ถาวร โชติชื่น ถามผมว่า

"ที่คุณ...ลงทุนแล้วไม่เครียด  เพราะคุณได้กำไรหรือเปล่า"

ทำเอาตอนนั้น  ไปไม่เป็นเลย   นั่นซิ    
ที่ผมไม่เครียด  เพราะผมซื้อขายแล้วได้กำไรหรือเปล่า

ไม่รู้จะตอบอย่างไร   ตอนนั้นเลยตอบไปว่า

แล้วทำไม ผมถึงได้กำไรหละครับ   อมยิ้ม06อมยิ้ม06อมยิ้ม06อมยิ้ม06อมยิ้ม06


* ได้รับดีวีดี บันทึกที่ไปออกรายการจากโปรดิวเซอร์   ฟังดูแล้ว
ที่ผมพูดไปจริงๆคือ  แล้วทำไมผมไม่ขาดทุน  ไม่ได้ตอบว่า  ทำไมได้กำไร




พอกลับมาบ้านนั่งนึก

จริงๆแล้ว    ผมได้กำไร(ไม่ได้ขาดทุน) เลยไม่เครียด
หรือว่า
วิธีการลงทุนของผม ไม่เครียด  จึงได้กำไร(ไม่ได้ขาดทุน)




ผมขอตอบแบบเข้าข้างตัวเองว่า

เหตุมาจาก  วิธีการลงทุนของผม  มันทำแล้วไม่เครียด
เลยได้กำไรตามมาครับ  อมยิ้ม06อมยิ้ม06อมยิ้ม06อมยิ้ม06

ไม่ใช่ว่า พอได้กำไร  แล้วค่อยมาโม้ว่า  ผมไม่เครียดจากการลงทุน  

อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16

ลองไล่ดูว่า  ทำไมวิธีการลงทุนของผม ทำแล้วไม่เครียด

๑  ผมไม่เคยคิดจะเอาชนะตลาดหุ้น  ราคาหุ้นให้ได้ตลอดเวลา
แบบเอาเป็นเอาตาย  นั่งจ้องลุ้นทุกนาที ทุกชั่วโมง  
หุ้นบางตัวผมนั่งดูมันเมื่อมีเวลาว่าง  เกือบทุกวันที่ตลาดเปิดทำการ
นั่งดู จากสิบบาทกว่า จนกลายเป็นร้อยกว่าบาท ได้แบบสบายๆ  

๒  เป้าหมายในการซื้อหุ้นและถือหุ้นคือ
หุ้นที่ซื้อและถือ   ให้ผลตอบแทนดีกว่าเอาเงินไปฝากประจำธนาคารซักสองสามเท่า
พอเป้าหมายต่ำ มีความเป็นไปได้มาก  
ก็เลยมีกำไรส่วนเกินทุนตามมาเองครับ

๓  อะไรที่ผมไม่รู้ ไม่มีความสามารถ  
ผมจะทนดูราคาหุ้นมันขึ้นได้อย่างสบายๆ
ไม่มานั่งนึกว่า ทำไมมันกำไรมากกว่า เร็วกว่า หุ้นที่เราซื้อและถือเอาไว้

๔  จะไม่เอาผลที่รู้แล้วในอนาคต  มาตัดสินการกระทำของเราในอดีต
ตัวอย่างล่าสุดคือ  ขายไอเฟควอร์แรนท์ไปแค่สองสามวัน
ที่หน่วยละ  ๖.๒๐ บาท  หนึ่งแสนหน่วย
มันขึ้นต่อไปอีก สามบาทกว่า

สิ่งที่ผมจะไม่ทำคือ  พอรู้ว่าตอนนี้  
ซึ่งก็คืออนาคตของอดีต  ไอเฟควอร์แรนท์อยู่ที่ เก้าบาทกว่า

ก็กลับไปหงุดหงิดหรือเสียดายว่า  
ทำไมไปขายตอนนั้น  ไม่เอามาขายตอนนี้
สิ่งที่ผมจะระมัดระวังมากคือ   การพูดว่า รู้งี้  ตกรถ ติดตอย ขายหมู
มั่นใจว่า ไม่ว่าผมจะซื้อหรือขายหุ้นตัวไหน  
จะไม่ค่อยบ่นแบบนั้นผ่านเวบ
หรือบ่น  ก็บ่นแบบสนุกๆเท่านั้น

ขอเครียดในใจคนเดียวก็พอ  ฮาฮา

๕  ผมจะใช้วิธีการลดความเครียด เพื่อรักษาแต้มต่อในการถือหุ้นให้มีต่อไป
  ด้วย "คลายเครียดเรโช"










อีกประเด็นที่ผมได้ตอบคำถามของอาจารย์นิเวศน์เรื่องถือพอร์ตไว้กี่เปอร์เซนต์ของเงินที่มี

ผมตอบว่า  เมื่อปีที่แล้ว  ได้ชักเงินออกจากพอร์ต  ไปประมาณ สามสิบเปอร์เซนต์  
จากที่เคยถือหุ้นไว้ร้อยเปอร์เซนต์ เกือบตลอดเวลา



เหตุผลคือ

๑  ได้ถามตัวเองว่า   ถ้าพลาดตอนนี้  จะมีเวลาให้แก้ตัวอีกกี่ปี

๒  ถ้าหมกมุ่นเอากำไรเพิ่มมากขึ้น ได้เงินมากขึ้น  จะมีเวลาใช้เงินอีกกี่ปี





สองคำถามนี้   ผมว่าสำคัญมากสำหรับนักลงทุนทุกคน

นักลงทุนหน้าใหม่ในตลาด
ที่เล่นหุ้นปั่น ตอนอายุยี่สิบ  
มีแต้มต่อเหนือกว่านักลงทุนหน้าใหม่ที่เริ่มเล่นหุ้นปั่น ตอนอายุห้าสิบ
โดยมีเวลาเหลือให้แก้ตัว  มากกว่าตั้งสามสิบปี !!!!!!!!


ดังนั้น จะตามเข้าไปตะลุมบอน หุ้นปั่น  หุ้นต้มตุ๋น
นอกจากพิจารณาเรื่องความสามารถในการเล่นเกมล่าส่วนเกินทุนแล้ว
ให้ถามตัวเอง  ตามคำถามสองข้อข้างบนด้วยครับ

อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16

ไปๆมาๆ  ทำไมป๋าแฟรงค์ ซิเนตร้า
ช่างร้องเพลงที่รู้ใจเราจริงๆ  
มันสะท้อนชีวิตในตลาดหุ้นของผม  ได้ดีมากเลยครับ


อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16




คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่