[CR] (Chapter 1) Lost in Japan#Osaka,Wakayama,Tottori,Kyoto,Tokyo#2 สาว ตะลุย 5 เมือง กับ 8 วัน 7 คืน ด้วยงบ 40,000 บาท

สวัสดีค่ะทุกท่านก่อนอื่นขออธิบายเรื่องราวในการท่องเที่ยวครั้งนี้ในแบบฉบับตัวเองไม่ใช่ในแบบรีวิวน่ะค่ะ เพราะว่าพี่ๆน้าๆอาๆทำกันไว้หลายคนแล้วดีมากๆ แต่ขอทำเป็นการเล่าสู่กันฟังเพื่อเป็นแรงบรรดาลใจให้กับผู้หญิงที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวค่ะ อ่ะ!! แนะนำให้รู้จักกันก่อนค่ะ จขกท.ชื่อดาด้าและเพื่อนร่วมเดินทางชื่อจ๊ะโอ๋ค่ะ อมยิ้ม17 ทริปญี่ปุ่นเราเดินทางกันตั้งแต่ 13-21 ตุลาคม 2557 4 หมื่นบาทรวมทุกอย่างค่ะ
ปล.รูปชัดบ้างไม่ชัดบ้าง ต้องขออภัยค่ะ อมยิ้ม07
..จุดเริ่มต้น..พาพันขยัน
ด้วยความที่ดาด้าเป็นสมาชิก airasia เมื่อตอนเดือนพ.ย. 56 ได้มีเมลส่งเข้ามาว่ามีโปรโมชั่นบินไปญี่ปุ่นราคาเริ่มต้น 3490 บาท แต่จองตอนนี้บินปีหน้าน่ะค่ะ แรกๆก็เฉยๆค่ะแต่พอดีจ๊ะโอ๋มาเห็นเราก็เลยคุยกันเล่นๆว่า "เนี่ยๆไปญี่ปุ่นโคตรถูกเลยอยากไปเนอะ" เท่านั้นแหละค่ะเพื่อนก้อสนอง need ทันที ตอนแรกเราคิดว่าไปญี่ปุ่นแพงอ่ะใช้เงินเยอะไปเกาหลีดีกว่า แต่เพื่อนบอกว่า "ไปทำไมเกาหลีใครๆก็ไปกัน มันง่ายไป จะไปเที่ยวทั้งทีก็ต้องญี่ปุ่นเลย"....นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆของพวกเราค่ะ

....จองตั๋วเครื่องบิน....เพี้ยนทุบคอม
ตอนแรกพวกเราตั้งใจว่าอยากไปดูใบไม้แดงกัน ซึ่งในญี่ปุ่นเนี่ยก็จะช่วงพ.ย.ค่ะ แต่ด้วยความชะล่าใจในการจองตั๋วเครื่องบินทำให้กำหนดการที่อยากไปมันเลื่อนขึ้นมาจนถึงช่วงต.ค. นั้นก็เพราะเที่ยวบินที่เราต้องการไม่ตรงกับวันเที่ยวเลยในช่วงพ.ย. เวลาจึงร่นมาถึงกลางเดือนตุลาคมค่ะ ซึ่งนั่นก็หมายถึงเราอดดูใบไม้แดงแน่นอนค่ะ ความซวยครั้งที่ 1 ในเรื่องการจองตั๋วมาจากตอนทำงานค่ะ คือคุยโทรศัพท์กับลูกค้าไปด้วยจองตั๋วไปด้วย นี่บอกเลยน่ะค่ะว่าอย่าทำแบบเราเด็ดขาด มันทำให้ดาด้าจองตั๋ววันไปผิดพลาดค่ะเพราะเรากะว่าจะบินดึกถึงเช้า แต่ตอนจองดูไม่ละเอียดจึงได้ตั๋วบินกลางวันถึงดึกแทนค่ะ ร้องไห้...ขอโทษน่ะเพื่อนโอ๋  อ่อเราจองกันช่วงพ.ย. 56 แต่ไปเที่ยวกัน ต.ค.57 น่ะค่ะ เอาซะหายอยากเลยค่ะ 5555++ เนื่องจากตอนที่เราจองกันยังทำงานอยู่ที่จ.เชียงใหม่ต้นทางพวกเราจึงเริ่มต้นจากเชียงใหม่ไปลงโอซาก้าค่ะ ส่วนสาเหตุที่เลือกลงโอซาก้าน่ะเหรอ ไม่รู้ค่ะจองไปแบบมึนๆ อมยิ้ม24เมื่อเราได้ขาไปลงโอซาก้าขากลับก็ต้องเป็นโตเกียวค่ะ ความซวยที่ 2 คือ มันไม่มีไฟลท์จากโตเกียวมาลงเชียงใหม่ค่ะ อ้าวทำไง เรา 2 คนก็เลยต้องเลือกลงกรุงเทพค่ะแล้วนั่งเครื่องอีกต่อมาลงเชียงใหม่ค่ะ


...hotel only!!!...นานาเชิด
เนื่องจากเรา 2 คนเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างเรื่องเยอะและมีเงื่อนไขว่าโรงแรมนั่นต้องไม่นอนรวม มีห้องน้ำส่วนตัว โรงแรมติดสถานี ใกล้ของกิน ไม่อันตรายในการเดินกลับดึกๆ ไวไฟฟรีในห้องนอน แต่ราคาต้องไม่เกินคืนละ 3000 บาท...555++ เซียนหลายท่านคงปวดขมับล่ะซิค่ะ และแน่นอนค่ะเราหาได้ง่ายมากไม่เกินกำลังผู้หญิงที่ชื่นชอบของถูกและดีอย่างพวกเรา โรงแรมที่จองเราเปรียบเทียบกัน 2 เว็บค่ะคือ agoda.com และ booking.com โรงแรมที่เราได้มานั่นมี 3 ที่ค่ะคือ shin-osaka station hotel 2 คืน Ibis style kyoto 1 คืน และ Horidome villa tokyo 3 คืน ค่ะ



...กำหนดการเดินทาง วันเที่ยวและที่เที่ยว...เม่าสงสัย
ก่อนอื่นต้องขอบคุณเพื่อนโอ๋ที่ไว้ใจให้เราเป็นคนทำตารางเที่ยวและแผนเดินทางทั้งหมด ด้วยความที่เที่ยว 7 วัน หลายคนคงใส่สถานที่เที่ยวฮิตๆลงไปเยอะมาก ซึ่งเราก็เป็น 1 ในนั้นค่ะ แต่ด้วยความที่มีสถานที่ที่เรา 2 คนอยากไปเป็นพิเศษ เลยตัดบางรายการออกไปบ้างค่ะ
ด้าขออธิบายคร่าวๆเรื่องการทำแผนเที่ยวน่ะค่ะเผื่อบางคนอาจจะนำไปใช้เป็นประโยชน์ได้บ้างค่ะ

1.ทำความเข้าใจในประเทศญี่ปุ่น..เราจะไปเที่ยวบ้านเขาเราก็ต้องทราบเรื่องประเพณี วัฒนธรรม อะไรทำได้ไม่ได้ในญี่ปุ่นก่อนน่ะค่ะ นั่นเพราะเพื่อเป็นการรักษาภาพลักษณ์ของคนไทยค่ะ อ่ออีกเรื่องที่สำคัญคือ ศึกษาเรื่องรถไฟ ตั๋วต่างๆไว้คร่าวๆค่ะ คร่าวๆน่ะค่ะเพราะแรกๆคุณจะงง 8 ด้าน เหมือนพวกเราค่ะ งงจนปิดเว็บรีวิวไปหลายเดือน เราจะเริ่มเข้าใจมากขึ้นตอนเริ่มทำตารางเทียวนั่นแหละค่ะ ของแบบนี้ต้องใช้เวลามากเลยน่ะขอบอก!!

2.เปิดเว็บท่องเที่ยวญี่ปุ่นหรือรีวิวต่างๆ...เพื่อเราจะได้ดูว่ามีที่ไหนน่าสนใจบ้าง อะไรฮิตในบ้านเขาหรือหมู่คนไทย รีวิวต่างๆหรือแฟนเพจในเฟสบุคช่วยได้เยอะค่ะ ใครมีเวลาเยอะอาจจะใส่ไปได้ทั้งหมด ส่วนใครเวลาน้อยเหมือนเราก็เอาแบบคร่าวๆพอค่ะ เพราะเที่ยวญี่ปุ่นไปครั้งเดียวไม่พอจริงๆค่ะ ^-^

3. กางแผนที่ประเทศญี่ปุ่น...เรื่องนี้ค่อนข้างสำคัญค่ะ เมื่อคุณทราบคร่าวๆว่าจังหวัดหรือเมืองที่คุณอยากไป เราก็มาเทียบดูกับรูปนี้น่ะค่ะ เราก็จะทราบว่ามันพอจะเป็นไปได้มั้ยที่เราจะต้องนั่งรถไฟ บวกลบคุณหารเวลาในการเดินทางและเดินเที่ยวเผื่อสักที่ละ 2-3 ชั่วโมงค่ะ เครดิตรูปจากในพันทิปค่ะ

4.กำหนดที่เที่ยวในแต่ละวัน...เมื่อเรารู้ว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหน สถานที่ไหนบ้าง เราก็เริ่มกำหนดที่เที่ยวลงในแต่ละวันค่ะ ส่วนตัวดาด้าทำลงใน excel น่ะค่ะ อย่างเช่นของดาด้าเที่ยว โอซาก้า 3 วัน เกียวโต 1 วัน และโตเกียว 4 วัน ก็จะระบุไปเลยว่าโอซาก้า 3 วันเนี่ยเราไปเที่ยว conan town, tottori-tamaden, wakayama และเก็บตกในโอซาก้าวันสุดท้าย แบบนี้เป็นต้นค่ะ ลองดูตามตารางที่แนบมาอาจจะพอเข้าใจได้ดีขึ้นค่ะ

...hyperdia เพื่อนรักและสารพัดตั๋ว pass ต่างๆในญี่ปุ่น....เม่าเนิร์ด
จะไปเที่ยวญี่ปุ่นต้องรู้จักเว็บนี้ไว้ค่ะ www.hyperdia.com มันช่วยคุณได้มากในเรื่องการนั่งรถไฟในญี่ปุ่น เริ่มจากเราต้องรู้ว่าเราจะเดินทางจากไหนไปไหน เมื่อไหร่ ตรงนี้ไม่ขออธิบายน่ะค่ะเพราะมีพี่ๆในพันทิปทำไว้เยอะมากแล้วค่ะ ในส่วนตรงนี้แหละค่ะคุณจะเริ่มทราบและเข้าใจว่า คุณจะต้องใช้ตั๋วประเภทไหนในการเดินทางในญี่ปุ่น ส่วนตัวของเราแน่นอนเดินทางข้ามภูมิภาคขนาดนี้ก้อต้องเลือก JR PASS ค่ะ พวกเราซื้อกันอาทิตย์สุดท้ายก่อนเดินทางไปญี่ปุ่น ในราคา 8700 บาทค่ะ ถูกมั้ยค่ะ!! 555++ ส่วนที่จะงงและเลือกยากคงเป็นในโตเกียวเพราะพวกเราใช้ JR PASS กันน้อยมากเลยค่ะมีบางวันที่เราซื้อตั๋วเหมา metro+subway 1 day pass ค่ะ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆสามารถศึกษารายละเอียดของเซียนญี่ปุ่นทั้งหลายในพันทิปได้น่ะค่ะ ส่วนตรงนี้ไม่ขออธิบายเยอะค่ะเดี๋ยวงง 555++


....เอกสารประกอบการเที่ยว ไวไฟ ประกันภัยท่องเที่ยว เสื้อผ้า และกระเป๋าเดินทาง....เม่าเซย์โน

หัวข้อสุดท้ายในบท 1 นี้ ขอจบด้วยเรื่องที่หลายๆคนอาจจะมองข้ามไปแต่ขอมาเล่าให้ฟังถึงระสบการณ์เล็กๆน้อยๆที่พวกเราได้เจอกันมาค่ะ

1.เอกสารประกอบท่องเที่ยว....ปริ้นท์ไปเถอะค่ะหรือจะเซฟเก็บไว้ในไอแพด มือถือก้อได้ค่ะ มันสำคัญมาก ทั้งแผนที่เที่ยว กำหนดการเที่ยวในแต่ละวัน เบอร์โทรสถานที่สำคัญๆต่างๆ รูปโรงแรม รูปสถานที่เที่ยว หรือแม้แต่สแกนพาสปอร์ตค่ะ พวกนี้สำคัญมากในบางครั้ง internet
ก็ไม่ได้มีบทบาทสำคัญกับพวกเราไปซะทุกเรื่อง มีรูปเก็บไว้อุ่นใจกว่าค่ะ เชื่อดาววววเถอะค่ะดาวพลาดมาแล้วว!!!

2.pocket wifi หลายคนอ่านรีวิวมาคงเช่ากันเยอะใช่มั้ยค่ะ หรืออาจจะซื้อซิมเล่นเนตมาใช้ตอนอยู่ญี่ปุ่น แต่เรา 2 คนไม่ค่ะ เปรี้ยววววไงค่ะ!! 555++ มั่นใจมากและบวกด้วยความงกเล็กๆ คือความตั้งใจเราจริงๆเนี่ยเพราะเรามาเที่ยวกันค่ะ เวลามีเน็ตเราจะก้มหน้าก้มตากดแต่โทรศัพท์ อัพรูปใช่มั้ยค่ะ เราก็อาจจะไม่ได้เห็นทัศนียภาพสวยๆของญี่ปุ่นค่ะ มาเที่ยวน่ะค่ะ เราเลยขอใช้ไวไฟฟรีที่โรงแรมแทนล่ะกันค่ะ หุหุ ^.^ แต่...มันช่วยได้เยอะค่ะเวลาเราเดินทางไม่ตรงตามกำหนดเรา ซึ่งมันก็เกิดกับพวกเราทุกวันอยู่แล้ว พวกเราไม่ซีเรียสค่ะ เรามาถึงขนาดนี้ค่ะ ถามเอาค่ะ ง่ายดี

3.ประกันภัยท่องเที่ยว....ซื้อเถอะค่ะเพื่อคนที่คุณรัก บริษัทไหนก็ได้ที่มันครอบคลุมในส่วนที่คุณท่องเที่ยว อย่างกรณีเพื่อนโอ๋วันที่เดินทางไปญี่ปุ่นวันแรกกระเป๋าตกหล่นค่ะ เพื่อนโอ๋เลยได้เคลมประกันตอนกลับมาไทย ขณะนั้นก็มีกลุ่มครอบครัวมนุษย์ป้าโวยวายด่าสายการบินเป็นบ้าเป็นหลัง
เราก็บอกนางว่ามันเกิดขึ้นได้เป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เพราะเรานั่ง low cost น่ะค่ะ นางก็โวยวายจะไปเอาผิดที่ใคร ใครจะรับผิดชอบ ถามไปถามมานางไม่ได้ทำประกันภัยไว้ค่ะ ไม่ได้ใช้บัตรอะไรสักอย่าง อืมมม...นี้แหละค่ะความซวยไม่เข้าใครออกใคร เพื่อนก็สามารถเอาใบเสร็จที่ซื้อเสื้อผ้าไปเคลมได้ และเวลาที่กระเป๋าจะมาส่งอย่าลืมกำชับพนักงานโรงแรมไว้ว่าให้ระบุเวลามาส่งด้วย เพราะเราสามารถนำใบนั่นไปเคลมประกันหากเกินกว่า 8 ชั่วโมงน่ะค่ะ

4.เสื้อผ้าสำคัญไฉน.....สะสะสำคะคัญสิค่ะ อ้าวติดอ่างซะงั้น 555++ นึกถึงตัวเองตอนไปญี่ปุ่น คือด้วยความที่เราอยู่เชียงใหม่เราก็จะชินกับอากาศเย็นของที่นี้ 15 องศา โอ๊ยยชิวๆสิวๆ เราเด็กเหนือน่ะเสื้อคลุมธรรมดาๆตัวนึงพอแล้ว เราขี้ร้อนด้วย ตอนอยู่สนามบินคันไซ ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ พอออกมาจากสนามบินตอน 7 โมงเช้าเท่านั้นล่ะ โอ็ยยยยสั่นดิกๆๆ วิ่งหาที่กำบังลม โอซาก้าอากาศหนาวแบบลมเย็นมากกก อย่าได้บังอาจใส่แต่เสื้อคลุมเด็ดขาด
ทริปนั่นดาด้าเลยได้ใส่สูทเที่ยวค่ะ 555++ เสื้อสวยๆหมกอยู่ในกระเป๋าค่ะ เสื้อแขนยาวหรอ มีตัวเดียวค่ะใส่ซ้ำด้วย เสื้อผ้าแฟชั่นหรอค่ะ 55++ อดใส่ค่ะหนำซ้ำยังใส่เสื้อซ้อน 2 ตัวด้วย อนาถาตัวเองสุดๆค่ะ สีเสื้อผ้าก็สำคัญน่ะค่ะด้วยส่วนตัวชอบสีโอรส ชมพู ส้มอ่อน และขาว จัดไปทั้งกระเป๋าค่ะ โอ้โห!! ญี่ปุ่นมุง 555++ ไม่ขนาดนั้นคือเราคงเด่นอ่ะค่ะ แค่สีเสื้อคลุมก็เด่นแล้วววววว ดูได้จากรูป 555++

คือคนที่นั่นเขาคงนิยมใส่เสื้อผ้าสีเรียบๆ เช่น ดำ น้ำเงิน เทา เขียวเข้ม น้ำตาลเข้มหรือน้ำตาลอ่อน ทำนองนี้ ส่วนกางเกงยีนส์ก็มีตัวเดียวค่ะ นอกนั้นขาสั้นค่ะ เลยได้ไปเหมาถุงน่องแบบหนามาใส่เลยค่ะ...อ่อพูดถึงถุงน่อง ที่สถานีชินโอซาก้ามีร้านนึงที่จะแปะป้าย sales เยอะๆๆทั้งร้านอยู่ชั้น 3 อ่ะค่ะ ใกล้ๆพวกร้าน 551 horai ร้านนั้นจะขายถุงน่องเยอะมากกกก และมีความหนาให้เลือก แบบ 50 80 110 ซึ่งสามารถเลือกได้หมดค่ะ ลองไป shop กันดูน่ะค่ะสาวๆ เสียดายลืมถ่ายรูป!! ฉะนั้นไปเที่ยวหน้าไหนอย่าลืมอัพเดตแฟชั่นในญี่ปุ่นไปด้วยน่ะค่ะจะได้ไม่ต้องขนเสื้อเฟลอร์ไปตอน 18 องศาหรือมีแต่เสื้อคลุมแบบดาด้าค่ะ  ฮัดชิ้ววว!!!

5.กระเป๋าเดินทาง....พยายามหาสัญลักษณ์ประดับกระเป๋าไว้ค่ะ เช่นของดาด้าผูกริบบิ้นสีฟ้าที่หูจับด้านข้าง และ tagชื่อตัวเองของ best western ตอนแรกที่ซื้อกระเป๋าสีม่วง คิดว่า "เออสีเด่นๆแปลกๆเนี่ยแหละคนหยิบผิดยาก" แต่ปรากฎว่าตอนรอกระเป๋าที่สนามบินคันไซ สีม่วงเพียบบบบบบ!!อมยิ้ม15


เป็นไงมั่งค่ะยังไงก็ขอบคุณมากน่ะค่ะที่อ่านกันจนจบ ขอฝากทริปเที่ยวญี่ปุ่นในตอนต่อๆไปด้วยน่ะค่ะ ขอบอกคนที่กำลังเก็บเงินไปเที่ยวญี่ปุ่นน่ะค่ะว่า "ญี่ปุ่นไปเที่ยวครั้งเดียวไม่พอจริงๆค่ะ"

นานาขอบคุณ

ตอนที่ 2 ออกแล้วน่ะค่ะอย่าลืมติดตามชมค่ะ
http://pantip.com/topic/32790968
ชื่อสินค้า:   ญี่ปุ่น โอซาก้า เกียวโต โตเกียว
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่