ทักษิณเคยโฟนอินเข้ามาคุยโวว่าจะล้างหนี้ประเทศ โจมตีรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนั้นว่าทำงานไม่เป็น ดีแต่กู้ แถมคุยโม้ด้วยว่าจะใช้เงินในอากาศมาลงทุนเมกะโปรเจกท์ แล้วพรรคเพื่อไทยก็อมน้ำลายทักษิณมาโม้เป็นนโยบายหาเสียง ต้มตุ๋นหลอกลวงประชาชนต่ออีกทอดหนึ่ง
ก่อนเลือกตั้ง ถูกซักว่าจะเอาเงินมาจากไหน พรรคเพื่อไทยก็พูดขึงขัง ยืนยันชัดถ้อยชัดคำว่าจะไม่กู้
โม้ว่าจะใช้ “เงินในอากาศ” และจะ “ล้างหนี้ประเทศ” !
เอาเข้าจริง ก็ตระบัดสัตย์ ฉีกสัญญาประชาคม!
นโยบายทั้งหลายแหล่ที่คุยว่าจะทำให้ประชาชนก็ผิดสัญญา ล่าช้า ไม่ครบถ้วน เงินเดือนหมื่นห้า ค่าแรงสามร้อย จำนำข้าวหมื่นห้า กระชากค่าครองชีพ เลิกกองทุนน้ำมัน ฯลฯ ไม่สมราคาคุยเลยสักอย่าง
ตรงกันข้าม หนี้ท่วมแผ่นดิน ทั้งหนี้รัฐและหนี้ครัวเรือน กิจการค้าขายเจ๊ง ส่งออกข้าวเสียหาย ราคาพลังงาน ค่าน้ำมันแพงกว่าแต่ก่อน
แถมยังมีหน้าจะผลักดันกฎหมายล้างผิดคนโกง ช่วยเหลือเอื้อประโยชน์ทักษิณ พี่ชายนายกฯ เปิดทางให้เรียกเงินที่โกงไปจากแผ่นดินกลับเข้ากระเป๋าตัวเอง 46,000 ล้านบาท!
ดีแต่โม้ เอาแต่กู้ ของแท้!
5) ที่ผ่านมา รัฐบาลยิ่งลักษณ์ถลุงเงินมือเติบ
ไม่ใช่เงินของตระกูลชินวัตร ไม่ใช่เงินทักษิณ ไม่ใช่ว่ารัฐบาลหาเงินเก่ง
แต่เอาเงินมาจากไหน... เอาแต่กู้!
เงินในอากาศไม่มีจริง แต่หนี้สินที่รัฐบาลให้คนไทยแบกไว้บนหลัง คือความจริงที่หนักหนาขึ้นทุกวัน
ประเทศชาติเวลานี้ เหมือนจำนองประเทศมาให้ยิ่งลักษณ์ผลาญ!
1) ที่ประชุม ครม.ยังไม่ยอมนำร่าง พ.ร.บ.การให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน วงเงิน 2 ล้านล้านบาท เข้าพิจารณาและอนุมัติในคราวเดียวกัน แต่อ้างว่าจะเอาเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้า และเมื่อ ครม.อนุมัติแล้วจะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรราวปลายเดือน มี.ค.
แต่หลักการที่อนุมัติไปนั้น คือต้องกู้แน่ๆ
นี่ก็เท่ากับว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์กำลังเล่นเกมการเมือง แสร้งถ่วงเวลาไปหลังเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เพราะเกรงกระแสสังคมจะถลกหนัง ประจานระบอบทักษิณที่ดีแต่โม้ สร้างหนี้ท่วมประเทศ ใช่หรือไม่
2) ไม่ต้องพูดถึงการสร้างหนี้ในงบประมาณแผ่นดินประจำปีบานเบอะ
ไม่นับรวมหนี้จากโครงการรับจำนำข้าวหลายแสนล้านบาท ซึ่งจนถึงวันนี้ยังถมไม่เต็ม ถลุงเงินไปแล้วกว่า 500,000 ล้านบาท
ไม่นับหนี้โครงการลงทุนบริหารจัดการน้ำ 350,000 ล้านบาท ที่อนุมัติให้กู้ไปแล้ว และกำลังใช้เล่ห์เหลี่ยม ทำเหมือนเซ็นเช็คเปล่าให้กู้ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะครบวงเงิน
รัฐบาลชุดนี้อยู่มาไม่ถึง 2 ปี แต่สร้างหนี้ให้ประเทศชาติหัวโตไปอีกเกินครึ่งศตวรรษ!
3) ที่ร้ายเหลือเกิน คือ ในความพยายามสร้างหนี้ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์นั้น ได้ใช้วิธีซิกแซ็ก หมกเม็ด เล่นแร่แปรธาตุ ซุกซ่อนโยกย้ายบัญชี ทำทุกวิถีทางเพื่อจะได้กู้ เพื่อให้ประเทศชาติมีหนี้ท่วมหัว
ยกตัวอย่าง กรณี พ.ร.ก.กู้เงินบริหารจัดการน้ำฯ 350,000ล้านบาท รัฐบาลยิ่งลักษณ์อ้างว่าต้องรีบใช้เงิน จะเป็นจะตาย หลอกศาลรัฐธรรมนูญเพื่อจะออกเป็น พ.ร.ก.ให้จงได้ ปรากฏว่า ตั้งแต่ ม.ค.2555 ผ่านมาถึงจนวันนี้ มีการกู้เงิน 10,000 ล้านบาท จะสิ้นสุดเส้นตาย 30 มิ.ย. 2556 อยู่แล้ว... ไหนล่ะจำเป็นฉุกเฉินเร่งด่วนจนมิอาจหลีกเลี่ยงได้
แล้วที่น่าเกลียด คือ เมื่อกู้ไม่ทัน แทนที่จะรู้สำนึก กลับจะใช้วิธีซิกแซ็ก เซ็นสัญญาเงินกู้ที่เหลือ 3 แสนกว่าล้านบาท เอาไว้ล่วงหน้า ทั้งๆ ที่ ยังไม่ชัดเจนว่าจะกู้ไปทำอะไรด้วยซ้ำ การทำเช่นนี้ไม่น่าจะกระทำได้ เพราะเสมือนตีเช็คเปล่าให้นักการเมืองไปกู้เงินแทนประเทศชาติโดยไม่ผ่านการ พิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร
ไม่ต้องเอ่ยถึงการโอนหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ ไปให้แบงก์ชาติดูแล เพื่อเปิดทางให้รัฐบาลได้ก่อหนี้มากขึ้น
มันเหมือนกับว่า รัฐบาลชุดนี้ตั้งใจเหลือเกินที่จะทำให้ประเทศชาติมีหนี้ท่วมหัว!
4) สิ่งที่กระทำในวันนี้ สวนทางกับที่พลพรรคเพื่อไทยเคยหาเสียง แตกต่างกับที่ทักษิณคุยโวเอาไว้อย่างชนิดหน้ามือเป็นหลังตีนhttp://www.manager.co.th/
ถ้าวันนั้นไม่โม้ไว้เยอะ จะล้างหนี้ประเทศจะไม่กู้ใช้เงินในอากาศมาลงทุนเมกะโปรเจกท์ เล่นโม้ไว้เยอะแต่ทำบ่ได้ 2ล้านๆ อดแหลก
ทักษิณเคยโฟนอินเข้ามาคุยโวว่าจะล้างหนี้ประเทศ โจมตีรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนั้นว่าทำงานไม่เป็น ดีแต่กู้ แถมคุยโม้ด้วยว่าจะใช้เงินในอากาศมาลงทุนเมกะโปรเจกท์ แล้วพรรคเพื่อไทยก็อมน้ำลายทักษิณมาโม้เป็นนโยบายหาเสียง ต้มตุ๋นหลอกลวงประชาชนต่ออีกทอดหนึ่ง
ก่อนเลือกตั้ง ถูกซักว่าจะเอาเงินมาจากไหน พรรคเพื่อไทยก็พูดขึงขัง ยืนยันชัดถ้อยชัดคำว่าจะไม่กู้
โม้ว่าจะใช้ “เงินในอากาศ” และจะ “ล้างหนี้ประเทศ” !
เอาเข้าจริง ก็ตระบัดสัตย์ ฉีกสัญญาประชาคม!
นโยบายทั้งหลายแหล่ที่คุยว่าจะทำให้ประชาชนก็ผิดสัญญา ล่าช้า ไม่ครบถ้วน เงินเดือนหมื่นห้า ค่าแรงสามร้อย จำนำข้าวหมื่นห้า กระชากค่าครองชีพ เลิกกองทุนน้ำมัน ฯลฯ ไม่สมราคาคุยเลยสักอย่าง
ตรงกันข้าม หนี้ท่วมแผ่นดิน ทั้งหนี้รัฐและหนี้ครัวเรือน กิจการค้าขายเจ๊ง ส่งออกข้าวเสียหาย ราคาพลังงาน ค่าน้ำมันแพงกว่าแต่ก่อน
แถมยังมีหน้าจะผลักดันกฎหมายล้างผิดคนโกง ช่วยเหลือเอื้อประโยชน์ทักษิณ พี่ชายนายกฯ เปิดทางให้เรียกเงินที่โกงไปจากแผ่นดินกลับเข้ากระเป๋าตัวเอง 46,000 ล้านบาท!
ดีแต่โม้ เอาแต่กู้ ของแท้!
5) ที่ผ่านมา รัฐบาลยิ่งลักษณ์ถลุงเงินมือเติบ
ไม่ใช่เงินของตระกูลชินวัตร ไม่ใช่เงินทักษิณ ไม่ใช่ว่ารัฐบาลหาเงินเก่ง
แต่เอาเงินมาจากไหน... เอาแต่กู้!
เงินในอากาศไม่มีจริง แต่หนี้สินที่รัฐบาลให้คนไทยแบกไว้บนหลัง คือความจริงที่หนักหนาขึ้นทุกวัน
ประเทศชาติเวลานี้ เหมือนจำนองประเทศมาให้ยิ่งลักษณ์ผลาญ!
1) ที่ประชุม ครม.ยังไม่ยอมนำร่าง พ.ร.บ.การให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน วงเงิน 2 ล้านล้านบาท เข้าพิจารณาและอนุมัติในคราวเดียวกัน แต่อ้างว่าจะเอาเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้า และเมื่อ ครม.อนุมัติแล้วจะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรราวปลายเดือน มี.ค.
แต่หลักการที่อนุมัติไปนั้น คือต้องกู้แน่ๆ
นี่ก็เท่ากับว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์กำลังเล่นเกมการเมือง แสร้งถ่วงเวลาไปหลังเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เพราะเกรงกระแสสังคมจะถลกหนัง ประจานระบอบทักษิณที่ดีแต่โม้ สร้างหนี้ท่วมประเทศ ใช่หรือไม่
2) ไม่ต้องพูดถึงการสร้างหนี้ในงบประมาณแผ่นดินประจำปีบานเบอะ
ไม่นับรวมหนี้จากโครงการรับจำนำข้าวหลายแสนล้านบาท ซึ่งจนถึงวันนี้ยังถมไม่เต็ม ถลุงเงินไปแล้วกว่า 500,000 ล้านบาท
ไม่นับหนี้โครงการลงทุนบริหารจัดการน้ำ 350,000 ล้านบาท ที่อนุมัติให้กู้ไปแล้ว และกำลังใช้เล่ห์เหลี่ยม ทำเหมือนเซ็นเช็คเปล่าให้กู้ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะครบวงเงิน
รัฐบาลชุดนี้อยู่มาไม่ถึง 2 ปี แต่สร้างหนี้ให้ประเทศชาติหัวโตไปอีกเกินครึ่งศตวรรษ!
3) ที่ร้ายเหลือเกิน คือ ในความพยายามสร้างหนี้ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์นั้น ได้ใช้วิธีซิกแซ็ก หมกเม็ด เล่นแร่แปรธาตุ ซุกซ่อนโยกย้ายบัญชี ทำทุกวิถีทางเพื่อจะได้กู้ เพื่อให้ประเทศชาติมีหนี้ท่วมหัว
ยกตัวอย่าง กรณี พ.ร.ก.กู้เงินบริหารจัดการน้ำฯ 350,000ล้านบาท รัฐบาลยิ่งลักษณ์อ้างว่าต้องรีบใช้เงิน จะเป็นจะตาย หลอกศาลรัฐธรรมนูญเพื่อจะออกเป็น พ.ร.ก.ให้จงได้ ปรากฏว่า ตั้งแต่ ม.ค.2555 ผ่านมาถึงจนวันนี้ มีการกู้เงิน 10,000 ล้านบาท จะสิ้นสุดเส้นตาย 30 มิ.ย. 2556 อยู่แล้ว... ไหนล่ะจำเป็นฉุกเฉินเร่งด่วนจนมิอาจหลีกเลี่ยงได้
แล้วที่น่าเกลียด คือ เมื่อกู้ไม่ทัน แทนที่จะรู้สำนึก กลับจะใช้วิธีซิกแซ็ก เซ็นสัญญาเงินกู้ที่เหลือ 3 แสนกว่าล้านบาท เอาไว้ล่วงหน้า ทั้งๆ ที่ ยังไม่ชัดเจนว่าจะกู้ไปทำอะไรด้วยซ้ำ การทำเช่นนี้ไม่น่าจะกระทำได้ เพราะเสมือนตีเช็คเปล่าให้นักการเมืองไปกู้เงินแทนประเทศชาติโดยไม่ผ่านการ พิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร
ไม่ต้องเอ่ยถึงการโอนหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ ไปให้แบงก์ชาติดูแล เพื่อเปิดทางให้รัฐบาลได้ก่อหนี้มากขึ้น
มันเหมือนกับว่า รัฐบาลชุดนี้ตั้งใจเหลือเกินที่จะทำให้ประเทศชาติมีหนี้ท่วมหัว!
4) สิ่งที่กระทำในวันนี้ สวนทางกับที่พลพรรคเพื่อไทยเคยหาเสียง แตกต่างกับที่ทักษิณคุยโวเอาไว้อย่างชนิดหน้ามือเป็นหลังตีนhttp://www.manager.co.th/