ห้างสยามสแควร์วัน มลพิษและการบริหารงานสุดแย่ของห้าง

กระทู้สนทนา

การบริหารจัดการ ร้องทุกข์ ปัญหาชีวิต ปัญหาสังคม คุ้มครองผู้บริโภค

วันนี้ผมมีเรื่องของห้างสรรพสินค้าสยามแสควร์วันจะมาแชร์ให้เพื่อนๆ ฟัง ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มเปิดห้างจนถึงปัจจุบัน รวมถึงการเอารัดเอาเปรียบของห้างกับทางผู้เช่า และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องมลพิษของห้าง ทั้งกลิ่นที่เกิดจากการก่อสร้างตกแต่ง กลิ่นจากห้องน้ำ (ปัสสาวะและอุจจาระ) กลิ่นขยะ กลิ่นอาหารบนชั้น 4-5 ครับ ซึ่งกลิ่นดังกล่าวเมื่อรวมตัวกันจะทำให้เกิดเป็นก๊าซไข่เน่า หรือ ก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ และสารเคมีจากการก่อสร้างตกแต่งภายในห้างที่ไม่ได้มีการควบคุมที่ดี ส่งผลให้สารเคมีตกค้างอยู่ในอาคารและถูกปล่อยมาตามระบบปรับอากาศส่งผลให้ของต่างๆและอุปกรณ์ภายในร้านได้รับความเสียหาย

เพื่อบางคน งง ว่าห้างนี้อยู่ตรงไหน ถ้าใครพอจะจำได้ พื้นที่ตรงนี้เป็นโรงหนังสยามเก่าที่ถูกเผาทำลายไปในช่วงที่บ้านเมืองเราวุ่นวายในช่วงปี 2553 ตอนนี้พื้นที่ตรงนี้ก็ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ เป็นห้าง 7 ชั้น บนพื้นที่ 8 ไร่ ริมถนนพระราม 1 อยู่ตรงข้ามสยามพารากอน และติดกับ digital gateway ภายใต้การดูแลของสำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ห้างนี้เปิดให้บริการตั้งแต่ 5 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา โดยได้มีการเร่งรัดให้ผู้ประกอบการเข้าไปเปิดร้าน โดยบังคับว่าหากไม่เปิดตามกำหนดในวันที่ดังกล่าว จะริบสิทธิคืน และเมื่อผู้ประกอบการทั้งหลาย เริ่มทะยอยเปิดร้าน ตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2557 ปรากฏพบว่าทางห้างยังตบแต่งไม่แล้วเสร็จ ยังมีร้านอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้ตบแต่งหรืออยู่ในระหว่างตบแต่ง ทำให้เกิดฝุ่นละออง และมลพิษทางอากาศ ทางเสียงซึ่งมีการตัด อ็อกเชื่อม อยู่ตลอดเวลาทั้งในเวลาทำการและนอกเวลาทำการของห้าง
ประกอบกับการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตราฐาน และระบบบำบัดและระบบกรองอากาศที่ไม่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ในชั้นใต้ดินและชั้น 1 ของห้างมีกลิ่นเหม็นออกมาทางท่อแอร์ตั้งแต่ห้างเปิดให้บริการจนถึงปัจจุบัน ทางกลุ่มผู้เช่าได้ยื่นจดหมายร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องนี้มาแล้ว 5 ครั้ง แต่ก็ไม่มีฝ่ายใดออกมาช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2557 ที่ผ่านมา กทม โดยกรมอนามัย ได้เข้ามาตรวจวัดค่ามลพิษภายในอาคาร ผลการตรวจสรุปได้ว่าในตัวอาคารมีก๊าซไข่เน่า หรือ ก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ สูงตั้งแต่ 10-83 ppm เปรียบเทียบกับการวัดค่าภายนอกอาคารที่วัดได้ไม่ถึง 4 ppm นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่กรมอนามัยยังแจ้งอีกว่าไม่ควรจะมีก๊าซไข่เน่าภายในอาคาร
ผลพวงจากมลภาวะภายในอาคารส่งผลกระทบต่อ
1 ลูกค้าที่มาเดินในอาคาร เจ้าของร้านค้าที่มาขายของในอาคารนี้ มีหลายคนป่วยเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เนื่องจาก ต้องสูดดม กลิ่น และมลพิษในอาคารมาเป็นเวลา 5 เดือน โดยไม่มีการแก้ไขใดๆ

2 สิ่งของ อุปกรณ์ ที่อยู่ภายในอาคารได้รับความเสียหาย

จนถึงปัจจุบัน ผู้เกี่ยวข้องและผู้ที่รับผิดชอบ ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ที่เป็นรูปธรรมเพื่อแก้ไขปัญหานี้
ทางกลุ่มผู้เช่าร้านค้าในห้างได้รวมตัวและติดประกาศ เกี่ยวกับ ปัญหามลพิษภายในอาคารให้คนภายนอกได้รับทราบ

แต่ทางห้างใช้อำนาจที่มีอยู่ในมือ สั่งการปิดร้านค้าที่เอากระดาษมาแปะที่กระจกร้าน เพื่อบอกความจริงที่เกิดขึ้นในห้าง โดยการเอาไม้อัดแผ่นใหญ่มาปิดครอบร้านค้าไว้ เพื่อปกปิดความจริงที่จะถูกเปิดเผย

แต่ทางเจ้าของร้านค้าและกลุ่มผู้เช่า รับไม่ได้กับการกระทำดังกล่าว จึงเดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจปทุมวัน และร้องเรียนไปยังช่อง 3 ให้ช่วยเสนอข่าวเกี่ยวกับมลพิษภายในห้างและการถูกเอารัดเอาเปรียบของห้าง

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2557 ทางห้างได้ออกจดหมายรูปแบบข่าวประชาสัมพันธ์ (งง ว่าเค้าใช้จดหมายข่าวประชาสัมพันธ์ ออกมาชี้แจงปัญหาที่เกิดขึ้น) โดยไม่มีการลงนามโดยผู้บริหารห้างเลย เพราะอะไร (วันหยุดติดเสาร์-อาทิตย์ มั้ง มองในแง่ดี)

หลังจากอ่านจดหมายที่ทางห้างออกมาชี้แจงอย่างละเอียด ก็พอจะเข้าใจความหมายของคำว่า สีข้างถลอกมันเป็นอย่างนี้นี่เอง
ขอถามกลับไปที่ห้างนะครับว่าการออกจดหมายฉบับนี้ออกมามันคือการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องหรือเปล่า
โดยรายละเอียดในจดหมายข่าวประชาสัมพันธ์ เค้าชี้แจงว่าในวันที่กรมอนามัยเข้ามาตรวจ เครื่องบำบัดน้ำเสียเกิดขัดข้องทำให้ผลตรวจที่ออกมาเกินกว่าค่ามาตารฐาน

แต่ ตั้งแต่ห้างเปิดตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา ไม่เคยมีวันไหนที่ไม่เหม็น แถมวันที่กรมอนามัยเข้ามาตรวจน่าจะเป็นวันที่ห้างมีกลิ่นเหม็นน้อยที่สุดก็ว่าได้ เนื่องจากก่อนที่กรมอนามัยจะเข้ามาตรวจได้มีการแจ้งกับทางห้างไว้ก่อนแล้ว จึงสามารถดำเนินการขายผ้าเอาหน้ารอดไปได้ แต่นี่ขนาดขายผ้าเอาหน้ารอดแล้วยังมีค่าก๊าซก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ สูงตั้งแต่ 10-83 ppm ทุกท่านลองคิดดูนะครับว่า ช่วงเวลาปกติที่ไม่ต้องขายผ้าเอาหน้ารอดจะเป็นอย่างไร

ขอบอกนะครับยิ่งออกมาแก้ตัวน้ำขุ่นๆ แบบนี้จะทำให้สถานการณ์บานปลายเข้าไปอีก แทนที่จะออกมายอมรับและรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
อนิจจัง รู้สึกหดหู่ใจ โกหกผู้เช่า โกหกประชาชน สมควรแล้วครับที่สยามสแควร์กำลังเดินเข้าไปในจุดอับสุดของยุค เพราะการบริหารแบบนี้

ข้อมูลเพิ่มเติมวันที่ 21 ตุลาคม 2557
หลังจากที่มีข่าวเรื่องกลิ่นเหม็นในห้างออกไปตามสื่อต่างๆ ทางห้างได้มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องกลิ่นโดยทันที โดยเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม2557 ได้ให้รถดูดส้วมเข้ามาดูดของเสียออกจากบ่อบำบัด เพื่อลดกลิ่นเหม็นภายในห้าง ซึ่งส่งผลให้ห้างมีกลิ่นเหม็นลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่คงเป็นการแก้ไขปัญหาระยะสั้น ทั้งนี้ ห้างควรมีการวางแผนการแก้ไขปัญหาระยะยาว ในเรื่องนี้ต่อไป

วันที่ 21 ตุลาคม 2557 ทางห้างได้เชิญกองมลพิษ เข้ามาตวรจวัดค่าก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์อีกครั้ง ผลปรากฎว่า พื้นที่ชั้นใต้ดินและชั้น 1 ภายในห้างไม่มีค่าก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ เหลืออยู่ในอาคาร ก็ขอขอบคุณห้างที่ช่วยแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนหลังจากมีข่าวนี้สะพัดออกไป เพราะถ้าไม่มีข่าวนี้ก็คงจะปล่อยให้มีกลิ่นเหม็นต่อไปอย่างไม่มีกำหนด
แต่ขอนิดหนึ่ง รปภ หรือการ์ด ห้าง ช่วยเลิกทำตัวแย่ๆ นิสัยเสียด้วยนะครับ ฝากถึงผู้บริหารห้าง เวลารับคนช่วยดูสันดานด้วยครับ สันดานอย่างนี้กรุณาอย่าไปรับมาเป็นพนักงานนะครับ