มาต่อกันนะคะ ภาคสอง ของ อ่านเรืองของคนที่ประสบความสำเร็จ แล้ว มาอ่านเรื่องของคนที่หมดตัวกันดีกว่า นะคะ

สวัสดีค่ะ จากกระทู้นี้นะคะ

อ่านเรื่องคนที่ประสบความสำเร็จมากันมากแล้ว.....มาอ่านเรืองคนหมดตัว...กันดีไหมคะ

มาต่อนะคะ
    จังหวัดที่ฉันอยู่นี่ มีชายแดนต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ชายแดนแห่งนี้ มีการค้าขายอยู่ในระดับที่ดีมาก
และฉันมีเพื่อนคนหนึ่ง มีที่ดินอยู่บริเวณที่ถือว่าเป็นย่านการค้าของชายแดนแห่งนี้  เมื่อก่อนที่กระแส AEC จะมีมา
ฉันมองเห็นว่า ทำเล ตรงนี้ น่าจะทำร้านขายของพวกโชว์ห่วย ฉันอยากจะทำเป็นร้านที่ใหญ่ที่สุด สำหรับชายแดนแห่งนี้
คำว่าใหญ่ ที่สุด ก็ประมาณร้านชำ ตึกแถว 2 ห้องในกรุงเทพ เท่านั้น ฉันอยากทำขายส่ง เพราะว่า ประชาชนในประเทศดังกล่าว ถ้าเรามีอะไร เขาซื้อหมด น้ำปลา น้ำตาล ผงชูรส กะปิ น้ำปลา ก็เลยเอ่ยปากกับเพื่อน ขอเช่าที่ดินดังกล่าวที่จะทำการค้านี้  เพื่อนไม่ให้  ไม่ได้หวงที่ดินนะคะ แต่เขามองไม่เห็นว่า มันจะขายได้อย่างไร และใครจะมาดูแลให้ ด้วย ตัวดิฉัน รับราชการอยู่ในตัวจังหวัด และ งานก็ยุ่งมาก  ในใจ วางแผนว่า จะให้เพื่อนคนนี้ ดูแลให้ เพราะเธอโสด ไม่ได้ทำงาน
แต่เธอก็ปฏิเสธที่จะทำให้   ปัจจุบันนี้ บริเวณชายแดนแห่งนี้ กลายเป็นจุดหมายหลักสำหรับการเดินทางมาท่องเที่ยวทางจังหวัดดิฉัน ถือว่า เป็นแหล่งซื้อของที่สำคัญ  เปรียบเทียบกับตลาดแม่สายเลยก็ว่าได้  และที่ดินแห่งนั้น เพื่อนก็ได้ทำเป็นห้องให้คนเช่าไปแล้ว ....ได้แต่...เสียดาย
    เพื่อนคนนี้ ไม่ทราบว่า เป็นคนดวงขัดลาภรึเปล่านะคะ  คือ เมื่อตอนที่ ท่านหลวงตามหาบัวท่านละสังขาร
อายุของท่าน 98 ปี ดิฉัน ซึ่งปกติไม่เคยเล่นหวย ล็อตเตอรี่ไม่เคย  แต่ครั้งนี้ สังหรณ์ใจว่า มันน่าจะออกนะ
เลยโทรบอกให้ซื้อหวยให้ด้วย 098  ราคา 1,000 บาท ตัวเดียวเลย เพื่อน คนนี้ก็พูดจายอกย้อน ฉันหงุดหงิด เลยบอกว่างั้นไม่ต้องซื้อแล้ว  ผลปรากฏว่า หวยออกเลขนั้นจริง ๆ...เสียดายยยยยย  และมีอีกหลายครั้งที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้...
    ย้อนกลับไปที่ เรื่องที่ดินอีกสักนิดนะคะ  ที่ดิน 50 ตรว. มีถนนผ่านสองข้าง หลังจากนั้น ดิฉันตัดสินใจซื้อ ( เงินที่ซื้อ เป็นเงินกู้สหกรณ์ค่ะ ตั้งใจว่า จะซื้อบ้าน จำนวน เกือบ ๆ จะ สามล้าน บาท )
    ที่ดินที่ว่านี้ คนที่ขายเป็นคนรู้จักกัน นายหน้า ก็คนรู้จักกัน   ดิฉันมีนิสัยที่แย่มาก มาก คือ ง่าย ๆ อะไรก็ได้
พอจะซื้อที่ดิน ไม่เคยไปเช็คราคาประเมินเลย   เขาบอกว่า 550,000 บาท ก็ซื้อราคานั้นเลย ไม่ต่อสักคำ
พอไปถึงที่ดิน เห็นราคาประเมินแล้ว หงายเงิบค่ะ มันแค่ 300,000 บาท เท่านั้น ดิฉันก็ถามคนขายว่า ทำไม ถึงทำบาปดิฉันจังเลย  แต่สุดท้ายก็ซื้อค่ะ เพราะรับปากเขาไว้แล้ว   ช่างเป็นคนดีมั้ยคะ  เงินหายไปก้อนใหญ่ ๆ แล้วนะคะ  ซื้อไว้แล้ว ไม่ได้ทำอะไร มัวแต่คิดแบบบ้าน คิดหาช่าง หาคนมาทำบ้านให้ ในความรู้สึก ตอนนั้น มันช่างหายากจริง ๆ
    เงินที่ซื้อที่ดินก็ซื้อไป ดอกเบี้ยที่กู้มา ก็บานไป ไม่สนใจค่ะ ไม่เคยคิด ไม่เคยดู
    หลังจากได้ที่ดินผืนนี้มา
    หลังจากนั้น ก็ได้ไปพบ หมู่บ้านเล็ก ๆ มีบ้านแค่ 5-6 หลัง อยู่ติดถนนบายพาส และสามารถเดินทางไปได้หลายทาง  3-4 ทาง จะไปห้างสรรพสินค้า ใช้เวลาแค่ ไม่ถึง 5 นาที ก็ถึงแล้ว ( ห้างโรบินสันค่ะ ) จะไปโรงเรียน ไปตลาดไม่เกิน 5 นาทีเช่นกัน คือ อยู่ตรงกลางพอดี แต่ไม่ใช่ในเขตเทศบาลนะคะ พอดีมีทางลัดค่ะ  ไปได้หลากหลายเส้นทางมาก มาก
    สนใจ  ก็เลยโทรถามเจ้าของโครงการ  บ้าน 70 ตรว.  1,750,000 บาท ดีใจมาก ว่าราคาถูก ( ลืมคิดไปว่า ของถูก และ ดี ในเวลาเดียวกัน ไม่มีในโลก )
    ดูจากเงินที่กู้มา ซื้อที่ดินดังกล่าวได้ 1 แปลง แถมได้บ้านอีกหลัง โอ้วว ช่างดีอะไรอย่างนี้
    เมื่อได้พบเจ้าของโครงการ ปรากฏว่าเป็นเพื่อนของเพื่อน ยิ่งดีใจใหญ่ ว่าเขาจะต้องดูแลให้เราเป็นอย่างดีแน่ ๆ
ผู้หญิงตัวคนเดียว สบายล่ะเรา ( ตอนที่ซื้อบ้านหลังนี้...มีเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน มาซื้อด้วย อยู่ติดกัน )
วันที่ทำสัญญา พี่เขาบอกว่า ให้ทำแบบนี้นะ คือ ซื้อที่ดินแยกต่างหาก แล้วให้จ้างเขารับเหมาทำบ้านให้  แล้วตอนที่ไปโอน
ให้ คนซื้อเป็นคนออกค่าโอนนะ เราก็รับปาก แบบคนไม่คิดอะไรมากไง คิดแบบสั้น ๆ ง่าย ๆ เข้าว่า
    ช่วงเวลาของการทำบ้าน เป็นการทำบ้านที่ยาวนานมาก เนื่องจากว่า เจ้าของโครงการ แจ้งว่า ยังแยกโฉนดไม่ได้
เงินที่มี ก็เริ่มเต้น ตุ๊บ ตั๊บ
    ระหว่างทำบ้าน มีคนชวนไปเสี่ยงโชคที่คาสิโน ชายแดน ดิฉันก็ไปกับเขาค่ะ เล่นอะไรนะคะ ที่อยู่ข้างนอกห้องที่เขาเล่นไพ่ ที่หยอดเงิน  ประมาณ สล็อตแมทชีน  ไปใหม่ ก็แลกเงิน 500 บาท หยอด อุ๊ย ลงทุนไป 500 บาท ได้มา 1,500 บาท ดีใจค่ะ ลงใหม่ ให้มากกว่าเดิม  ทำไป ทำมา เงินหายไปเกือบล้าน  แค่สล็อต นะคะ ไพ่ บาคารา ไม่รู้จัก ไม่เล่น
ไม่สนุก  เอามันส์เข้าว่า  จากครั้งแรก 500 ทำไปทำมา บางวัน 30,000 บาท ก็มี  แต่ไม่เข็ดค่ะ หลง งม งาย หน้ามืดตามัว
    บ้านก็ไม่เคยไปดู เพราะว่าไว้ใจว่า พี่เขาน่าจะคุมให้ และยังมีโฟร์แมนอีก ปรากฏว่า โฟร์แมนลาออก เหลือแต่ช่าง ไร้ฝีมือเป็นคนทำ เจ้าของก็ไม่ได้คุมให้ เจ้าของไม่เคยมาดูงานเลย
    เงินหายไปเกือบล้าน จาก คาสิโน  คิดแบบคนโง่ ๆ ว่า ยังดี ยังมีเงินบางส่วนเหลืออยู่
    เรื่องการทำบ้าน ทางโครงการ แจ้งให้ไปเลือกกระเบื้อง โดยบอกว่า มีงบให้เท่านี้ แต่ถ้าเราอยากจะได้สินค้าที่แพงกว่านี้ก็ได้  แต่ให้จ่ายส่วนต่างเอง ดิฉันก็ปฏิบัติ เพราะเห็นว่า ของที่ให้เลือก คุณภาพไม่ดี สีไมสวย  ดูเงินแล้ว คิดว่าพอจ่ายได้
    ในระหว่างงานปูกระเบื้อง  คนงานปูกระเบื้องถามว่า จะทำเคาน์เตอร์ในห้องน้ำมั้ย  ฉันบอกเอาสิ  แต่ไม่ได้บอกขนาดหรอกนะ ว่าจะเอาเท่าไร เพราะคิดว่าช่างน่าจะรู้ เคาน์เตอร์ตรงอ่างล้างมือ  ช่างก็ทำไป ปรากฏว่า  เมื่อทำเสร็จแล้ว
ต้องทุบทิ้ง เอาใหม่ สาเหตุเพราะว่า ประตูปิดไม่ได้ ไม่เข้าใจว่า ทำไม ไม่วัดให้ดีก่อน ...เสียเงินทิ้งไปเปล่า ๆๆ
    งานกระเบื้องในห้องน้ำ พอทำเสร็จแล้ว เป็นแอ่งกระทะ น้ำขัง ทุบใหม่ค่ะท่าน ไม่เอา เสียเงินอีกแล้ว
    ไม่ทราบว่า ช่างเป็นเหมือนกันหมดมั้ยคะ มักง่าย เอาลวก ๆ เข้าว่า
    ดิฉันแจ้งทางโครงการว่า ต้องการทำหน้าต่าง ขอวงกบเป็นไม้
    โครงการ ตอบตกลง แต่ไม้ที่ได้ มันเป็นไม้เนื้ออ่อนค่ะ พอดิฉันต่อว่า ก็ตอบว่า ราคามันได้แค่นี้ นึกในใจ ทำไมไม่ถาม  จะเพิ่มเงินให้ ฉันเลยบอกไม่เอา ให้เอาแบบอลูมิเนียมเหมือนเดิม เงินค่าวงกบที่ซื้อมา ก็เสียฟรี
    งานบันได ตามแบบมีบันได 3 ขั้น  ช่างก็ทำให้ 3 ขั้นตามแบบ แต่....แต่ละขั้นมีความกว้างประมาณ 3 นิ้ว
อย่าว่าแต่ Teen เลยค่ะ ฝาหอยก็ผ่านไม่ได้ ดิฉันต่อว่า ช่าง คำตอบคือ มันก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ เลยโทรหาเจ้าของโครงการ
เจ้าของตอบว่า เอางี้แล้วกัน  ผมจะแก้ไขให้ แต่คุณต้องจ่ายค่าแรงเองนะ……นี่ ฉันผิดใช่มั้ย
    ในระหว่างนั้น เจ้าของจ้างเสมียนมาใหม่  และมีอะไร ก็บอกกับเราว่ามีอะไรให้บอกเสมียน
    วันหนึ่ง เสมียนมาบอกกับเราว่า จะต่อเติมครัวมั้ย เราก็มองว่า ถ้าทำให้มันเสร็จไปเลยก็ดี  และคิดว่า เจ้าของโครงการ ให้มาบอกเรา  เราก็เลยตกลงให้ทำ  เสมียนบอกราคามา 350,000 บาท เราตกลง แต่ให้เขียนรายละเอียดมาให้
ปรากฏว่า รายการนี้ เสมียนจับกินเอง
    จ่าย 350,000 ไปแล้ว เดี่ยวเสมียนก็บอกว่า รายการนี้ คุณต้องจ่ายเองนะ รายการนั้นต้องซื้อนี้พิ่มอีกนะ บางรายการ เราไม่ได้สั่ง ชีก็ทำไปก่อน เช่นเรื่องสี เราบอกว่า เราชอบสีเขียว ชีก็ชิงทาสีก่อน ปรากฏว่า มันเป็นเขียวเข้ม มาก
ก็ต้องทาใหม่ เสียเงินอีกแล้ว
    เรื่องสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ เราไปซื้อมาให้ ด้วยหวังว่า เถ้าแก่จะเคลียร์เงินให้ ตอนโอน
    ในช่วงที่เสมียนคนนี้เข้ามา มีเรื่องให้ต้องจ่ายค่าบ้าน จ่ายแล้ว จ่ายอีก เยอะแยะไปหมด ส่วนที่ต่อเติมหลังบ้าน
เจ้าของโครงการไม่ได้เป็นคนให้ทำ เธอเอาพรรคพวกของเธอมาทำเอง แต่เจ้าของโครงการก็ไม่บอกอะไร จนกระทั่งงานเสร็จจึงมาว่าดิฉัน ว่า บ้านยังไม่เสร็จ ยังไม่ได้โอน ให้ต่อเติมได้อย่างไร เป็นอะไรมา ผมไม่รับผิดชอบนะ
ดิฉันก็ว่า อ้าว ก็พี่บอกหนูว่า มีอะไรให้บอกเสมียน นี่หนูไม่ได้บอกนะ เสมียนมาบอกหนูเอง แล้วพี่ก็มาดูบ้านหนูบ่อย ๆ ทำไม พี่ไม่ท้วงแต่แรกล่ะ หนูจะได้ยกเลิก เรื่องช่างไฟ ก็เหมือนกัน  สุดท้ายมาบอกว่า ช่างไฟ นั่น ราคาแพงมากนะ
ช่างไฟ ได้ขอเงินดิฉันเพิ่มอีก เรื่องอะไรไม่ทราบ ดิฉันไม่ให้ บอกว่า มันแพงมากแล้ว สุดท้ายไม่ได้จ่าย แต่ช่างไฟ ก็ทำงานให้ไม่เรียบร้อย เพราะตอนที่ต่อโทรศัพท์  ตามความจริง ต้องต่อสายโทรศัพท์จากในบ้าน ผ่านท่อใต้ดิน มาที่ประตูหน้าบ้าน เพื่อเชื่อมที่เสาไฟใช่มั้ยคะ ปรากฏว่า ช่างไม่ได้ทำ เพียงแต่ทิ้งสายโทรศัพท์ไว้ตรงหัวไว้หนึ่งเมตร  ดู๊ ดู มันทำ
ดิฉันก็ต้องจ้างช่างคนอื่น มาเดินสายนอกให้ เสียเงินอีก
    ส่วนเสมียนคนนั้น ก็บอกดิฉันว่าตรงนี้ จ่ายค่านี้ ตรงนั้นจ่ายค่านั้น เยอะแยะไปหมด  ด้วยความที่คิดว่า
ถ้าเสร็จงาน น่าจะมีการเคลียร์กันเกิดขึ้น ปรากฏว่า เจ้าของโครงการมาบอกดิฉันว่า เสมียนเป็นพวก 18 มงกฎ
และ เธอได้หนีไปแล้ว พร้อมกับบัญชีต่าง ๆ
    กลับมาหาที่ดิน 50 ตรว. ผืนนั้นอีกครั้งนะคะ  ในระหว่างทำบ้าน มีคนมาขอซื้อที่ดินดิฉันผืนนี้ ความจริงไม่ได้อยากขายเลยค่ะ อยากเก็บเอาไว้ แต่ว่า รับปากเขาไปแล้ว ถามขายราคาเท่าเดิมอีกด้วย  
    เห็นมั้ยคะ ว่า ความหายนะ มันเริ่มมาเยือนไปเรื่อย ๆ
    พอขายได้ ก็เอาเงินนั้น มาลงที่บ้าน  บอกได้เลยว่า มีค่าใช้จ่ายเยอะมาก ทั้ง ๆ ที่เจ้าของโครงการรับเหมาไปแล้ว
    ค่าอะไร ต่อมิอะไร เยอะแยะไปหมด
    สุดท้าย ท้ายสุด เงินที่เตรียมเอาไว้ สามล้านหมดค่ะ หมด
    พอจะโอนบ้าน ดิฉัน ต้องไปปรับตกแต่งรายได้ เพื่อขอธนาคารกู้ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า ต้องมีปัญหาตอนส่งเงินแน่ ๆ
    ธนาคารอนุมัติให้กู้บ้านมา  2,300,000 บาท  รวมกับหนี้เก่า  3,500,000 บาท เป็น 5.800,000 บาท แถมยังไปกดเงินจากบัตรเครดิตมาให้อีก จนหมดโควตา
ในระหว่างที่ทำบ้าน เสมียนคนนี้ บอกให้ดิฉัน ซื้อนั่น ซื้อนี่  หมายถึง วัสดุในการทำบ้านนะคะ บางรายการ ดิฉันไม่ได้บอกให้ทำ เธอก็ทำ  จนในที่สุด  วันหนึ่ง ดิฉันถามว่า เธออยู่ที่ไหน เธอบอกว่า กำลังพาช่างมาทำงาน Built ให้ดิฉัน   ก็เลยพูดด้วยเสียงเข้มว่า  ฉันไม่ได้เอ่ยปากให้เธอทำนะ  คือ  ทุก ๆ เรือง  ไม่ว่าจะเป็นเหล็กดัด  ดิฉันไม่เคยเอ่ยปากเลย เธอหามาเอง แต่งานแย่มาก มาก  คือ ทำเหล็กดัดแค่ลายธรรมดา  ตารางสี่เหลี่ยมธรรมดา  มันกว้างมากเสียจน  เด็กตัวเล็ก ๆ ประมาณ 5 ขวบ น่าจะมุดไปได้  ดิฉันก็บอกกับเธอว่า  ลายมันใหญ่มาก ถ้าลายเป็นแบบนี้ จะป้องกันบ้านได้อย่างไร  คือ ช่องว่างประมาณ 1  ตารางฟุตนะคะ  เธอก็เถียงว่า ทำตามลาย  ดิฉันก็เลยให้เอาออก
ดิฉันบอกเธอว่ากำลังจะถูกแจ้งจับ จากการไปหลอกเอาเงินจากคนในโครงการ อื่น ๆ  ที่เจ้าของโครงการ กำลังทำอยู่ แล้วเธอก็หายไป
ดิฉันก็ทำเป็นไม่รู้ ไม่ชี้   บอกเธอว่า จะแจ้งจับคนทำเหล็กดัด ฐานะที่โกงเหล็กฉัน  คือ คำนวณมาแค่นี้  แต่ทำไม่ ใช้เหล็กในปริมาณน้อยกว่าที่ควรจะเป็น  เธอจึงให้คนมาถอดเหล็กดัดไปทำ  เอาไปประมาณ  2-3 เดือน ดิฉันโทรตาม
ก็ไม่ยอมรับสาย   จนสุดท้าย เธอก็ให้ใครไม่รู้มาคุยกับดิฉัน  บอกว่า เป็นช่างที่ทำเหล็กดัดให้ดิฉัน  ดิฉัน ต่อว่า ช่างคนนั้นว่า เมื่อไร จะเอาเหล็กมาคืนให้  ช่างคนนั้น ขอเงินดิฉันเพิ่ม ดิฉันบอกว่า จะให้ฉันเพิ่มเงินให้อย่างไร พวกคุณทำงานผิด คุณต้องแก้งาน  ฉันไม่จ่ายให้หรอก   และ เธอก็หายไปเลย  จนสุดท้าย เงินจากบัตรเครดิตก็หมด หมดตัวจริง ๆ ค่ะ
    คือ ดิฉันคำนวณดูเงินแล้วว่า น่าจะเหลือเงินเดือนพอใช้ไปแต่ละเดือนได้อย่างไม่ฟุ่มเฟือย  แต่พอต้องมากู้ธนาคารเพิ่ม แถม บัตรเครดิตเต็มวงเงินอีก  ไปไม่เป็นเลยค่ะทีนี้
    ยังค่ะ ยังไม่หมด
    ดิฉันได้ไปเซ็นต์คำประกันเงินกู้ เพื่อนในที่ทำงานคนหนึ่ง  สุดท้ายเธอหนีไปค่ะ  ทำให้ดิฉันต้องรับผิดชอบแทน โดยที่ยังไม่ได้คิดดอกเบี้ยนะคะ อีก 1,500,000 บาท
    ณ. ตอนนี้ ดิฉันไม่รู้จะหันไปทางไหนอีกแล้ว  เพราะมันตันสนิท ทุกทาง  อยากประกาศขายบ้านก็เสียดาย เพราะทำมันมาด้วยความรักมัน  คิดว่า ถ้าประกาศขาย ต้องขายได้แน่ ๆ เนื่องจาก อยู่ในทำเลยที่ดีมาก
    นี่แหล่ะค่ะ คือ เส้นทางหายนะของดิฉัน

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่