เที่ยวไปกินเจไป @ ไชน่าทาวน์ 2014 : ตั๊กหลักเกี้ยตลาดน้อย : ชิวสี่ @ วัดบำเพ็ญจีนพรต
เป็นตอนที่สองต่อจาก "เที่ยวไปกินเจไป @ ไชน่าทาวน์ 2014 : ตั๊กหลักเกี้ยตลาดน้อย : ชิวอิก"
http://pantip.com/topic/32692068
คำเตือน : ภาพและบทความ มีลิขสิทธิ์คุ้มครอง
วันเสาร์ที่ 27-9-14 วันชิวสี่ วันที่สี่ของเทศกาลกินเจครั้งแรก ของปี 2014
15.15 น.นั่งรถไปลงที่ใกล้แยกราชวงศ์ ข้ามถนนเยาวราชไปเข้าซอยเยาวราช 8 (เจริญกรุง 14)
หรือ ตรอกเต๊า หรือ ตรอกวัดกันมาตุยาราม เป็นซอยที่สามารถเข้าด้านหลังของสองวัด
คือ วัดกุศลสมาคร(อนัมนิกาย) บนถนนราชวงศ์ และวัดกันมาตุยาราม(ธรรมยุตินิกาย) ถนนมังกร
ประมาณ 10 เมตรจากปากซอย ทางด้านซ้ายมือ คือ วัดบำเพ็ญจีนพรต(นิกายมหายาน)
วัดจีนที่เล็กที่สุดในประเทศไทย มีขนาดแค่สามห้องแถว ห้าชั้น
จากริมถนนซอย สามารถมองเห็นพระสังกัจจายน์ หรือ พระศรีอาริยเมตไตร ในวิหารส่วนหน้า
เหนือประตูทางเข้าวัด มีป้าย"กิ๋วอ๊วงเซ่งหวย" (มหานวราชาพุทธสันนิบาต)
ปิดอยู่หน้าป้ายชื่อวัด เนื่องจากอยู่ในช่วงเทศกาลกินเจ
วัดบำเพ็ญจีนพรต (ย่งฮกยี่) สังกัดคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย
เป็นปฐมสังฆารามฝ่ายมหายาน จีนนิกาย (นิกายฌาณ สาขาหลินฉี)
ตั้งอยู่ในตรอกวัดกันมาตุยาราม ถนนเยาวราช แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ
วัดบำเพ็ญจีนพรต นับเป็นสังฆารามของคณะสงฆ์จีนนิกาย ที่เก่าแก่แห่งหนึ่งในประเทศไทย
เดิมเป็นวิหารพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ร้าง ชื่อ “ ย่งฮกอำ ” มีป้ายชื่อลงปีรัชกาลเฉียนหลง
ปีอิกเบ้า (ค.ศ. 1795 ) ตรงกับ พ.ศ. 2338 กล่าวกันว่าสร้างโดยชาวจีนในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์
ก่อนสร้างวัดกุศลสมาคร ฝ่ายอนัมนิกาย (วัดญวน) ได้มีพระอนัมมาอาศัยพักอยู่ชั่วคราว
เมื่อสร้างวัดเสร็จจึงย้ายไปอยู่วัดญวน ต่อมาพระอาจารย์สกเห็งจาริกมาจากประเทศจีน
ราวก่อนปี พ.ศ. 2414 และพำนักอยู่ ณ สถานที่นี้ ท่านได้ปฏิสังขรณ์วิหารพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์
พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น “ ย่งฮกยี่ ” มีป้ายชื่อลงปี พ.ศ. 2430 (รัชกาลกวงสู ปีที่ 13 ค.ศ. 1887 )
แล้วกราบบังคมทูลขอพระราชทานนามวัด จากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
และได้รับพระราชทานนามวัดว่า “ วัดบำเพ็ญจีนพรต ” (ปัจจุบันยังมีป้ายพระราชทานนามวัด
ประดิษฐานอยู่ด้านหน้าอุโบสถ) และโปรดพระราชทานสมณศักดิ์ พระอาจารย์สกเห็ง
เป็นพระอาจารย์จีนวังสสมาธิวัตร เจ้าคณะใหญ่จีนนิกายรูปแรก (วิกิ)
ในวัดจีน ด้านหลังขององค์พระศรีอารยเมตไตรย ซึ่งเป็นองค์ประธานของวิหารส่วนหน้า
จะประทับยืนไว้ด้วยพระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง คือ พระสกันทโพธิสัตว์ หรือ เหวยถวอผูซ่า
หรือ พระเวทโพธิสัตว์ หรือ “อุ่ยท้อผ่อสัก”ในสำเนียงแต้จิ๋ว มีหน้าที่ปกป้ปงพระพุทธศาสนา
ภายในวัดแขวนโคม(เต็งลั้ง)สีเหลือง
และท่งฮวงสีเหลือง
ซึ่งเป็นสีของเทศกาลกินเจ
ทางด้านขวาระหว่างอุโบสถและวิหารส่วนหน้า มีศาลรวมเทพเจ้า
แถวบนสุดจากซ้ายไปขวา คือ ฮั่วท้อเซียนซือ ไฉ่ซิ่งเอี๊ยและไท้ส่วยเอี๊ย
ภูเขาเงิน(งึ่นซัว)-ภูเขาทอง(กิมซัว) หนุนหลังสะสมเพิ่มพูนโภคทรัพย์
ส่วนอุโบสถของวัดบำเพ็ญจีนพรต มีความกว้าง 7.80 เมตร ยาว 10.20 เมตร
ด้านหน้าพระประธาน คือ กิ๋วอ๊วงฮุกโจ๊ว หรือ นพเคราะห์พุทธเจ้า หรือ มหานวราชาพุทธเจ้า
ภายในอุโบสถประดิษฐานพระประธาน 3 องค์ (ซำปอฮุกโจ้ว)
องค์กลาง คือ พระศากยมุนีพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าแห่งโลกปัจจุบัน
องค์ทางขวา คือ พระอมิตาภะพุทธเจ้า และองค์ทางซ้าย คือ พระไภษัชยะคุรุพุทธเจ้า
ด้านซ้ายของพระไภษัชยะคุรุพุทธเจ้า คือ พระโมคคัลลานะ
ด้านขวาของพระอมิตาภะพุทธเจ้า คือ พระสารีบุตร
ช่วงเทศกาลกินเจ วัดบำเพ็ญจีนพรต จะมีการห่มผ้าเหลืองพระประธานทั้ง 3 องค์
พระประธานทั้งสามองค์ทำจากกระดาษแบบเปเปอร์มาเช่
และ ลงรักปิดทองจนเหลืองอร่าม เหมือนพระพุทธรูปทองเหลือง
แท่นด้านหน้าพระประธาน ประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่าง รวมถึงพระพุทธรูปศิลปพม่า
สองข้างของอุโบสถ คือ "จับโป๊ยหล่อฮั่ง" หรือ สิบแปดอรหันต์ ข้างละ 9 องค์
สร้างด้วยกระดาษสังเคราะห์ แบบเปเปอร์มาเช่
ศาลรองประธานของวัด ทางด้านขวามือ คือ ตั่วเหล่าเอี๊ย อดีตเง็กเซียนฮ่องเต้
ศาลรองประธานของวัด ทางด้านซ้ายมือ คือ เทพเจ้ากวนอู เง็กเซียนฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน
15.55 น.ก่อนการทำวัตรเย็นของนิกายมหายาน
จะมีพระสงฆ์และเณร ช่วยกันจุดเทียนและถวายน้ำชา ตามจุดสักการะภายในวัด
การทำวัตรเย็นจะเริ่มประมาณสี่โมงเย็น โดยมีการตีกลองประกาศการทำวัตร
การสวดทำวัตร จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
ไม่ได้อยู่จนพระสงฆ์ทำวัตรเย็นเสร็จ
เราจะกลับมาวัดบำเพ็ญจีนพรต เพื่อชมวัดทั้ง 5 ชั้น
เมื่อเขียนถึง"เที่ยวไปกินไป @ ไชน่าทาวน์ : ถนนราชวงศ์"
[CR] เที่ยวไปกินเจไป @ ไชน่าทาวน์ 2014 : ตั๊กหลักเกี้ยตลาดน้อย : ชิวสี่ @ วัดบำเพ็ญจีนพรต
เป็นตอนที่สองต่อจาก "เที่ยวไปกินเจไป @ ไชน่าทาวน์ 2014 : ตั๊กหลักเกี้ยตลาดน้อย : ชิวอิก"
http://pantip.com/topic/32692068
คำเตือน : ภาพและบทความ มีลิขสิทธิ์คุ้มครอง
วันเสาร์ที่ 27-9-14 วันชิวสี่ วันที่สี่ของเทศกาลกินเจครั้งแรก ของปี 2014
15.15 น.นั่งรถไปลงที่ใกล้แยกราชวงศ์ ข้ามถนนเยาวราชไปเข้าซอยเยาวราช 8 (เจริญกรุง 14)
หรือ ตรอกเต๊า หรือ ตรอกวัดกันมาตุยาราม เป็นซอยที่สามารถเข้าด้านหลังของสองวัด
คือ วัดกุศลสมาคร(อนัมนิกาย) บนถนนราชวงศ์ และวัดกันมาตุยาราม(ธรรมยุตินิกาย) ถนนมังกร
ประมาณ 10 เมตรจากปากซอย ทางด้านซ้ายมือ คือ วัดบำเพ็ญจีนพรต(นิกายมหายาน)
วัดจีนที่เล็กที่สุดในประเทศไทย มีขนาดแค่สามห้องแถว ห้าชั้น
จากริมถนนซอย สามารถมองเห็นพระสังกัจจายน์ หรือ พระศรีอาริยเมตไตร ในวิหารส่วนหน้า
เหนือประตูทางเข้าวัด มีป้าย"กิ๋วอ๊วงเซ่งหวย" (มหานวราชาพุทธสันนิบาต)
ปิดอยู่หน้าป้ายชื่อวัด เนื่องจากอยู่ในช่วงเทศกาลกินเจ
วัดบำเพ็ญจีนพรต (ย่งฮกยี่) สังกัดคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย
เป็นปฐมสังฆารามฝ่ายมหายาน จีนนิกาย (นิกายฌาณ สาขาหลินฉี)
ตั้งอยู่ในตรอกวัดกันมาตุยาราม ถนนเยาวราช แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ
วัดบำเพ็ญจีนพรต นับเป็นสังฆารามของคณะสงฆ์จีนนิกาย ที่เก่าแก่แห่งหนึ่งในประเทศไทย
เดิมเป็นวิหารพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ร้าง ชื่อ “ ย่งฮกอำ ” มีป้ายชื่อลงปีรัชกาลเฉียนหลง
ปีอิกเบ้า (ค.ศ. 1795 ) ตรงกับ พ.ศ. 2338 กล่าวกันว่าสร้างโดยชาวจีนในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์
ก่อนสร้างวัดกุศลสมาคร ฝ่ายอนัมนิกาย (วัดญวน) ได้มีพระอนัมมาอาศัยพักอยู่ชั่วคราว
เมื่อสร้างวัดเสร็จจึงย้ายไปอยู่วัดญวน ต่อมาพระอาจารย์สกเห็งจาริกมาจากประเทศจีน
ราวก่อนปี พ.ศ. 2414 และพำนักอยู่ ณ สถานที่นี้ ท่านได้ปฏิสังขรณ์วิหารพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์
พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น “ ย่งฮกยี่ ” มีป้ายชื่อลงปี พ.ศ. 2430 (รัชกาลกวงสู ปีที่ 13 ค.ศ. 1887 )
แล้วกราบบังคมทูลขอพระราชทานนามวัด จากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
และได้รับพระราชทานนามวัดว่า “ วัดบำเพ็ญจีนพรต ” (ปัจจุบันยังมีป้ายพระราชทานนามวัด
ประดิษฐานอยู่ด้านหน้าอุโบสถ) และโปรดพระราชทานสมณศักดิ์ พระอาจารย์สกเห็ง
เป็นพระอาจารย์จีนวังสสมาธิวัตร เจ้าคณะใหญ่จีนนิกายรูปแรก (วิกิ)
ในวัดจีน ด้านหลังขององค์พระศรีอารยเมตไตรย ซึ่งเป็นองค์ประธานของวิหารส่วนหน้า
จะประทับยืนไว้ด้วยพระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง คือ พระสกันทโพธิสัตว์ หรือ เหวยถวอผูซ่า
หรือ พระเวทโพธิสัตว์ หรือ “อุ่ยท้อผ่อสัก”ในสำเนียงแต้จิ๋ว มีหน้าที่ปกป้ปงพระพุทธศาสนา
ภายในวัดแขวนโคม(เต็งลั้ง)สีเหลือง
และท่งฮวงสีเหลือง
ซึ่งเป็นสีของเทศกาลกินเจ
ทางด้านขวาระหว่างอุโบสถและวิหารส่วนหน้า มีศาลรวมเทพเจ้า
แถวบนสุดจากซ้ายไปขวา คือ ฮั่วท้อเซียนซือ ไฉ่ซิ่งเอี๊ยและไท้ส่วยเอี๊ย
ภูเขาเงิน(งึ่นซัว)-ภูเขาทอง(กิมซัว) หนุนหลังสะสมเพิ่มพูนโภคทรัพย์
ส่วนอุโบสถของวัดบำเพ็ญจีนพรต มีความกว้าง 7.80 เมตร ยาว 10.20 เมตร
ด้านหน้าพระประธาน คือ กิ๋วอ๊วงฮุกโจ๊ว หรือ นพเคราะห์พุทธเจ้า หรือ มหานวราชาพุทธเจ้า
ภายในอุโบสถประดิษฐานพระประธาน 3 องค์ (ซำปอฮุกโจ้ว)
องค์กลาง คือ พระศากยมุนีพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าแห่งโลกปัจจุบัน
องค์ทางขวา คือ พระอมิตาภะพุทธเจ้า และองค์ทางซ้าย คือ พระไภษัชยะคุรุพุทธเจ้า
ด้านซ้ายของพระไภษัชยะคุรุพุทธเจ้า คือ พระโมคคัลลานะ
ด้านขวาของพระอมิตาภะพุทธเจ้า คือ พระสารีบุตร
ช่วงเทศกาลกินเจ วัดบำเพ็ญจีนพรต จะมีการห่มผ้าเหลืองพระประธานทั้ง 3 องค์
พระประธานทั้งสามองค์ทำจากกระดาษแบบเปเปอร์มาเช่
และ ลงรักปิดทองจนเหลืองอร่าม เหมือนพระพุทธรูปทองเหลือง
แท่นด้านหน้าพระประธาน ประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่าง รวมถึงพระพุทธรูปศิลปพม่า
สองข้างของอุโบสถ คือ "จับโป๊ยหล่อฮั่ง" หรือ สิบแปดอรหันต์ ข้างละ 9 องค์
สร้างด้วยกระดาษสังเคราะห์ แบบเปเปอร์มาเช่
ศาลรองประธานของวัด ทางด้านขวามือ คือ ตั่วเหล่าเอี๊ย อดีตเง็กเซียนฮ่องเต้
ศาลรองประธานของวัด ทางด้านซ้ายมือ คือ เทพเจ้ากวนอู เง็กเซียนฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน
15.55 น.ก่อนการทำวัตรเย็นของนิกายมหายาน
จะมีพระสงฆ์และเณร ช่วยกันจุดเทียนและถวายน้ำชา ตามจุดสักการะภายในวัด
การทำวัตรเย็นจะเริ่มประมาณสี่โมงเย็น โดยมีการตีกลองประกาศการทำวัตร
การสวดทำวัตร จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
ไม่ได้อยู่จนพระสงฆ์ทำวัตรเย็นเสร็จ
เราจะกลับมาวัดบำเพ็ญจีนพรต เพื่อชมวัดทั้ง 5 ชั้น
เมื่อเขียนถึง"เที่ยวไปกินไป @ ไชน่าทาวน์ : ถนนราชวงศ์"