เมืองมายา มนตราอลเวง II บทที่ 1 (ฉบับแก้ไขเนื้อเรื่อง)

กระทู้สนทนา
เนื่องจากแต่งภาคใหม่ไปได้สักพักก็เกิดอาการตื้อตัน ไม่สามารถสื่อสิ่งที่อยากเขียนออกมาได้ตามต้องการ
หลังจากพิจารณาอยู่พักใหญ่ว่าเดินเรื่องแบบนี้มันไม่ได้ล่ะ ไม่ไหวล่ะ ก็เลยจัดการรื้อเรื่อง เรียบเรียงลำดับใหม่ดีกว่า
ขออภัยท่านผู้อ่านที่อ่านกระทู้ก่อนไปแล้วนะคะ แต่ช่วยลบความทรงจำนั้นไปเถอะค่ะ ขอร้อง T T

สำหรับภาคแรก ติดตามได้ในบล็อคค่ะ จะค่อย ๆ อัพ

*/*/*/*


               อารัมภบท

               ท่ามกลางความมืดของผืนป่ายามรัตติกาลและดวงจันทร์ซึ่งสาดส่องลอดช่องกิ่งไม้ลงมาให้แสงสลัว เขาได้ยินเสียงกรีดร้องของหญิงสาวคนหนึ่งดังแว่วมา

              มันเป็นน้ำเสียงที่แสดงถึงความหวาดกลัว สิ้นหวัง

              มันเป็นเสียงที่สื่อถึงความรวดร้าวทุกข์ทรมาน

              เสียงของนางที่เขาไม่คิดว่าจะสามารถลืมมันได้ลงแม้สักวันนั้นดังก้องสะท้อนมาตามผืนป่า เร่งเร้าหัวใจอันสั่นระรัวของเขาให้รีบก้าวตามไปโดยไว

              ต้องช่วยเหลือนางให้ได้

              เขาเคยสัญญากับตัวเองไว้ว่าจะคอยเฝ้าดู คุ้มครองนางจากสถานที่ห่างไกล ไม่ให้นางสังเกตเห็นความรู้สึกที่ซุกซ่อนอยู่ในหัวใจของผู้ชายคนหนึ่ง คนที่นางไม่เคยเห็นเป็นอื่นใดไปมากกว่าเพื่อนธรรมดา

              แต่แล้วกลับเป็นเขาเองที่ชักนำเภทภัยมาสู่นาง เป็นเพราะความประมาทเลินเล่อจากคนถือดีอย่างเขาจึงทำให้เกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นมาเช่นนี้

              ความกังวลร้อนรนในใจของชายหนุ่มยิ่งหนักหน่วงขึ้นอีก เมื่อเสียงที่แสดงถึงความหวาดกลัวทุรนทุรายของหญิงสาวเงียบสนิทลง แต่เพียงก้าวผ่านพ้นพุ่มไม้เบื้องหน้า หัวใจของเขาก็พลันกระตุกวาบ นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้เบิกกว้างอย่างตกตะลึง

              บนกลางลานโล่งที่สว่างด้วยแสงจากจันทร์เพ็ญ อมนุษย์ในร่างของครึ่งคนครึ่งสุนัขจิ้งจอกซึ่งมีใบหูเรียวแหลมและหางเป็นพวงยาวสีขาวบริสุทธิ์เงยหน้าขึ้นมองเขา นัยน์ตาสีม่วงเข้มทอประกายเย้ยหยันก่อนจะแสยะยิ้มอย่างชั่วร้ายขณะใช้มือข้างหนึ่งลูบไล้ใบหน้าหญิงสาวซึ่งนอนแน่นิ่งอยู่ภายใต้ร่างกายเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยบาดแผลเหวอะหวะของมัน

              “เจ้าสารเลวคามาร์!! “

              ชายหนุ่มคำรามก้อง ความเดือดดาลปะทุขึ้นมาในอกจนแทบคลั่ง ส่งผลให้เขาเลือกใช้เวทมนตร์รุนแรงอย่างไร้ความปรานี ไม่จำเป็นต้องไว้ชีวิตหรือให้ความเป็นธรรมตามกฎของกิลด์เมสทิคแก่เดนปีศาจตนนี้อีกต่อไป วันนี้เขาจะทำลายมันไม่ให้เหลือแม้เศษซาก

              จอมเวทหนุ่มพุ่งเข้าผลักปีศาจจิ้งจอกจนหงายหลังพ้นจากร่างของเหยื่อผู้โชคร้ายได้อย่างง่ายดาย เพราะมันบาดเจ็บเจียนตายตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว จึงไม่มีเรี่ยวแรงมาต่อกรกับจอมเวทอย่างเขา

              แต่ก็เพราะมันรู้ตัวว่าใกล้จะตายแล้วเช่นนี้เอง เจ้าปีศาจผู้ชั่วช้าจึงเลือกเหยื่อที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคนที่ทำร้ายมัน

               ผู้ใช้อาคมกดเท้าเหยียบลงไปบนอกซึ่งเต็มไปด้วยบาดแผลฉกรรจ์ของปีศาจจิ้งจอกขาว เส้นผมยาวพลิ้วสะบัดไปตามกระแสของพลังเวทจากมือที่เงื้อขึ้น นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้เช่นเดียวกับผมของเขาทอประกายอำมหิต ไร้ความปรานี

              “ไปลงนรกเสียเถอะ เจ้าปีศาจชั่ว”

              ปีศาจร้ายเบิกตาอย่างอาฆาตและยิ้มกว้าง เหมือนจะบอกเป็นนัยว่ามันจะไม่จบลงอย่างง่ายดายแค่เพียงนี้ ร่างของจิ้งจอกขาวค่อย ๆ สลายกลายเป็นธุลีด้วยเวทมนตร์จากบุรุษที่ยืนเหยียบและจ้องมองมันอย่างเย็นชา

              คามาร์ ปีศาจจิ้งจอกขาวผู้โหดเหี้ยมและชั่วช้าสูญสลายไปแล้ว ต่อไปนี้จะไม่มีใครต้องโชคร้ายหรือเจ็บตายเพราะมันอีก

              จอมเวทหนุ่มหันกลับไปยังหญิงสาวซึ่งนอนนิ่งอยู่บนพื้น สภาพของนางยับเยินและเต็มไปด้วยบาดแผล เส้นผมยาวดำขลับยุ่งเหยิงระเรี่ยปะปนกับซากใบไม้ นัยน์ตาสีน้ำเงินที่มีน้ำใส ๆ เอ่อคลอหรี่ปรืออย่างเลื่อนลอย เขาบดกรามแน่นขณะพยายามร่ายมนตร์ห้ามเลือดและบรรเทาความเจ็บปวดให้แก่นาง

              “อือ... “ นางส่ายหน้าช้า ๆ ด้วยความหวาดกลัวและครางอย่างรวดร้าว

              “ข้าอยู่นี่แล้ว โรซาเลีย เจ้าจะไม่เป็นไร” ชายหนุ่มปาดเช็ดน้ำตาที่หลั่งลงข้างแก้มและลูบศีรษะหญิงสาวอย่างปลอบประโลม

              “ชาร์....ล็...ต” นางเอ่ยเสียงแผ่วแหบระโหยจนแทบไม่ได้ยินขณะเลื่อนดวงตาที่ปริ่มไปด้วยหยาดน้ำมามองเขา แล้วมือข้างหนึ่งก็เลื่อนไปที่หน้าท้องซึ่งนูนอยู่เล็กน้อยของตนเอง

              “ลูก...ของข้า เขา...ยังปลอดภัยดีอยู่หรือไม่”

              จอมเวทหนุ่มหันไปมองของเหลวสีแดงเข้มคล้ำซึ่งหลั่งลงจากต้นขาของหญิงสาวอย่างหนักใจก่อนจะวางมือลงบนครรภ์อ่อนของนาง เขาหลับตาลงและพยายามนึกเค้นเวทมนตร์ซึ่งจะช่วยรักษาชีวิตน้อย ๆ ที่ยังไม่ทันได้ลืมตาออกมาดูโลก

              แสงจากเวทมนตร์ของพ่อมดสว่างวาบ ถ่ายทอดความอบอุ่นจากมือชายหนุ่มลงสู่ครรภ์ของหญิงสาว

              ครู่หนึ่ง... ที่เขาได้ยินเสียงสะอื้นเบา ๆ จึงลืมตาขึ้นอีกครั้ง เห็นนางกำลังร้องไห้ราวหัวใจแตกสลาย มันทำให้เขารู้สึกรวดร้าวทรมานใจไม่น้อยกว่ากัน

              ไม่สิ ความรู้สึกของเขาจะไปเทียบอย่างไรได้ บัดนี้นางคงรู้สึกเหมือนกับตกนรกทั้งเป็น

              ผู้ใช้อาคมกำมือแน่นจนข้อขึ้นขาว สตรีเพียงคนเดียวที่เขาปักใจแต่กลับปกป้องอะไรไม่ได้เลย

              “เป็นความผิดของข้าเอง... ทั้งหมดนั่น”

              จอมเวทบีบกระชับมือหญิงสาว แววตาของเขาทอประกายมุ่งมั่นและเอ่ยหนักแน่น

              “ข้าจะช่วยรักษาชีวิตลูกของเจ้าเอง โรซาเลีย เขาจะต้องได้มีชีวิตอยู่ ไม่ว่าจะแลกด้วยอะไรหรือใช้วิธีไหนก็ตาม ข้าสัญญา”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่