หวัง คสช. ยุติปัญหาขัดแย้งชุมชน-เหมืองทองคำอัครา (Cilp VDO)

การเข้าร้องเรียนต่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ของ น.ส.สื่อกัญญา ธีระชาติดำรง แกนนำกลุ่มต่อต้านการทำเหมืองทองคำของบริษัทอัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) พร้อมรายชื่อชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากการประกอบกิจการเหมืองทองคำจำนวน  179 รายชื่อ (แม้ว่า 9 คนเข้าแจ้งความในเวลาต่อมาว่าถูกแอบอ้างรายชื่อ และ 2 คนได้เป็นบุคคลที่เสียชีวิตไปแล้ว) ทำให้ปัญหาดังกล่าวได้รับความสนใจจาก คสช.ทันที โดยได้มอบหมายให้ พ.อ.สุพจน์ บูรณะจารี พร้อมด้วย พ.อ.ดุสิต ปุระเสาร์ รองผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบจังหวัดทหารบกเพชรบูรณ์ ประจำพื้นที่จังหวัดพิจิตร หาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน

           ปัญหาผลกระทบจากเหมืองทองคำนานัปการ ที่ถูกร้องเรียนโดยแกนนำกลุ่มเดียวกันนี้มาแล้วหลายหน่วยงาน ทั้งที่อยู่ในกระบวนการสืบเสาะหาข้อเท็จจริงและอยู่ในขั้นตอนของศาลก็ถูกจับขึ้นมาหารือหาทางแก้ปัญหากันอีกครั้ง โดย คสช. ยืนยันว่าไม่มีเจตนาจะปิดกิจการของเหมืองแร่ทองคำ แต่มุ่งหาข้อสรุปเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างชาวบ้านในชุมชนกับเหมืองแร่ทองคำที่มีมายาวนานให้ยุติลง
คสช.เริ่มสางปมความขัดแย้งเพื่อแก้ปัญหา โดยแต่งตั้งคณะกรรมการ 5 ฝ่าย ที่ประกอบด้วย ฝ่ายชาวบ้าน ฝ่ายเหมืองทอง ฝ่ายนักวิชาการ ฝ่ายปกครอง ฝ่ายราชการทหารตำรวจ ลงพื้นที่เก็บข้อมูลในทุกมิติให้เสร็จสิ้นในเวลา 2 เดือน เพื่อตรวจสอบและและหากการลงพื้นที่ทำทุกอย่างแล้ว พบว่าเหมืองทองอัคราทำถูกต้องตามหลักวิชาการและตามหลักกฎหมาย ชาวบ้านต้องยอมรับผลดังกล่าวนี้ และหากพบว่าเหมืองสร้างความเดือนร้อนให้กับชุมชนจริง ทุกอย่างก็ต้องเดินไปตามกระบวนการแก้ไขที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ ซึ่งทั้งสองฝ่ายต้องยอมรับผลจากการลงพื้นที่ครั้งนี้โดยไม่มีเงื่อนไข

           16 สิงหาคม 2557 คือวันเริ่มต้นการเก็บข้อมูลครั้งแรก ที่คณะทำงานได้ลงพื้นที่เก็บน้ำจากแหล่งน้ำทั้งน้ำบนดิน น้ำใต้ดิน รวมทั้งดิน ตะกอนในน้ำ พืชผักและสัตว์ประจำถิ่น เพื่อตรวจดูสารตกค้างประเภทโลหะหนัก ปรอท แมงกานีส สารหนู และไซยาไนต์ว่ามีการปนเปื้อนหรือไม่
ข้อมูลที่ได้ทั้งหมดจะส่งส่งไปตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการของ 3 หน่วยงานหลัก คือ กรมพัฒนาที่ดิน  สำนักสิ่งแวดล้อมภาค 3 จังหวัดพิษณุโลก และห้องปฏิบัติการที่เหมืองเป็นผู้เลือก  จากนั้นรอผลการตรวจวิเคราะห์ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ก็จะทราบข้อมูลที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาที่หวังว่าจะเบ็ดเสร็จเด็ดขาดตามเป้าหมายของ คสช. บนผลวิเคราะห์ที่ต้องถูกต้องตรงกันทั้ง 3 ห้องปฏิบัติการ
จากการลงพื้นที่พูดคุยกับชาวบ้านคนหนึ่งจากหมู่ 8 ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จังหวัดพิจิตร กล่าวว่าเขามีความหวังว่าการลงพื้นที่ของ คสช.ในครั้งนี้ที่จะได้ยุติเรื่องความขัดแย้ง เพราะหากผลตรวจวิเคราะห์ออกมาแล้วพบว่าไม่มีสารปนเปื้อนตกค้างที่เป็นอันตราย ก็จะได้ใช้ชีวิตอย่างมั่นใจ หมดความวิตกกังวล แต่ถ้าเป็นจริงตามที่ชาวบ้านเข้าใจเหมืองก็จะต้องปิดกิจการไปและไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับชุมชนอีก  

           ขณะที่ ‘เชิดศักดิ์ อรรถอารุณ’ ผู้จัดการฝ่ายใบอนุญาต เหมืองทองอัครา ยืนยันว่า การประกอบกิจการเหมืองทองคำไม่ได้ส่งกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมในชุมชนแน่นอน เพราะเหมืองคงไม่ทุบหม้อข้าวตัวเองที่ลงทุนไปมหาศาลด้วยการปล่อยให้มีผลกระทบต่อชาวบ้านและชุมชน พร้อมระบุว่าการเดินหน้ายื่นหนังสือร้องเรียนของแกนนำที่ผ่านมามีวาระซ่อนเร้นแอบแฝง เพียงแต่ผู้บริหารของเหมืองไม่เคยออกมาเปิดโปงผลประโยชน์ซ้อนเร้นของแกนนำฝ่ายต่อต้านเหมือง ทั้งที่มีข้อมูลหลักฐานที่แน่นหนา เพราะเกรงจะถูกมองว่ารังแกชาวบ้านที่ไม่ทางสู้ แต่การนิ่งเงียบกลับถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ร้ายและตกเป็นจำเลยสังคมอยู่ฝ่ายเดียว จึงนำข้อมูลและหลักฐานมาเปิดเผยให้สังคมได้รับทราบ
จากข้อมูลที่มีทำให้เชื่อได้ว่า แกนนำชาวบ้านบางรายที่ต่อต้านเหมืองโดยเรียกร้องกับหน่วยงานต่างๆ นั้น มีผลประโยชน์แอบแฝง เนื่องจากต้องการขายที่ดินที่อยู่ติดกับเหมืองในราคาที่สูงเกินความเป็นจริง โดยเจรจาเสนอขายที่ดินเปล่าทั้งมีเอกสารสิทธิ์ และไม่มีเอกสารสิทธิ์ ไร่ละ 5 แสนบาท บ้านหลังละ 1-5 ล้านบาท รวมราคาเสนอขายทั้งหมด 323 ล้านบาท

           นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานที่ชัดเจนว่าแกนนำบางราย ยังได้ค่าดำเนินการอีก 7-10% จากราคาที่ดินที่เสนอขาย ซึ่งหากกรณีมีการซื้อขายเกิดขึ้นจริงจะทำให้แกนนำรายนี้มีรายได้จากการขายที่และค่าดำเนินการมากกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งหากมองจากคนนอกก็พบว่าเป็นเม็ดเงินที่เป็นแรงจูงใจให้ความขัดแย้งยังยืดเยื้อได้ดีทีเดียว

           งานนี้ก็คงวัดใจกันทั้งเหมือง ชาวบ้าน และคนกลางว่าใครจะมีเป้าหมายในใจอย่างไร  ก็ได้แต่หวังว่าการลงพื้นที่เป็นแม่งานของคสช. จะใช้ความเด็ดขาดตรงไปตรงมายุติปัญหาขัดแย้งระหว่างชุมชน-เหมืองทองคำอัคราได้อย่างเบ็ดเสร็จสมบูรณ์เสียที

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


รายละเอียดเพิ่มเติม http://goo.gl/9h7UED
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่