เผด็จการหัวใจ บทที่ 7

กระทู้สนทนา
เผด็จการหัวใจ
บทก่อนหน้า

บทที่ 1 http://pantip.com/topic/32503484
บทที่ 2 http://pantip.com/topic/32507791
บทที่ 3 http://pantip.com/topic/32515306
บทที่ 4 http://pantip.com/topic/32526983
บทที่ 5 http://pantip.com/topic/32540807
บทที่ 6 http://pantip.com/topic/32556724


ขอบคุณทุกโหวต ทุกความคิดเห็น ทุกกำลังใจเช่นเคยครับ
ริมแม่โขง ถูกใจ, เอ-เอก 65 ถูกใจ, PuPaKae ถูกใจ , มานีโอลา ถูกใจ, thezirconถูกใจ, เจ้าหญิงงัวเงีย ถูกใจ
ป้าทุยบ้านทุ่ง ทึ่ง Invernessถูกใจ,


-------------------------------------------------------------------------------------------------------





....กระนั้นวิธีที่โอบวงแขนไว้รอบเอวเธอ ก็ทำให้อดนึกไม่ได้ว่า เขาจะเคยทำเช่นนี้กับผู้หญิงคนอื่นมาแล้วสักกี่ครั้ง...




เผด็จการหัวใจ




บทที่เจ็ด






บุหงาเตือนตัวเองว่า เธอเคยโดนจูบมาก่อน กับชายที่ดูเหมือนมีความชำนาญในการทำให้ผู้หญิงเคลิบเคลิ้ม แต่นั่นเทียบกับสกลไม่ได้เลย

เขาแทบไม่ได้สัมผัสริมฝีปากของเธอ ทว่า เพียงแค่นั้น ก็ยังทำให้รู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปทั้งตัว มันราวจะหลอมละลายทุกสิ่งทุกอย่างในร่างกาย ได้ในวินาทีเดียว

ไม่ใช่การจูบแบบจู่โจมล่วงล้ำ... จูบของเขาเป็นแบบเรียบง่ายและซื่อเหลือเกิน...

คล้ายกับแค่อยากจะทดสอบ ระดับขั้นของความสนิทสนม

เมื่อเธอโน้มตัวเข้าไปใกล้ยิ่งขึ้น เขายังสะดุ้งเล็กน้อย นั่นไม่ทำให้แปลกใจเท่าไร เพราะหญิงสาวรู้อยู่เหมือนกันว่า ชายหนุ่มเป็นพวกไม่ค่อยยอมปล่อยให้ใครแตะเนื้อต้องตัวได้ง่ายๆ

หนวดสั้นๆ ของเขาทำให้เธอรู้สึกจั๊กจี้นิดหน่อย แต่บุหงาก็ไม่ได้ผลักไส

อีกทั้งหลังจากที่เธอบอกเขาว่า นี้คือสิ่งที่คู่สามีภรรยาปฏิบัติต่อกันได้ตามปกติ เขาจึงไม่ได้มีความผิดอะไร กับการทำเช่นนี้

เมื่อเขาเริ่มเรียนรู้ เธอก็จำเป็นที่จะต้องตอบสนอง

บุหงาวางมือไว้บนไหล่ของชายหนุ่ม ร่างเขาบึกบึนเหมือนไม้ใหญ่ต้นแกร่ง เมื่อเธอเปิดริมฝีปากเล็กน้อยและขยับเข้าแนบชิดกับริมฝีปากเขา เธอก็รับรู้ถึงความสั่นไหวไปทั้งตัว

รวมถึงใจกลางร่างกายเขา ก็ยังส่งปฏิกิริยาแข็งขันจนเธอก็รู้สึกได้

แต่สกลยังไม่ได้ถอยห่าง ยังคงยืนงันอยู่อย่างนั้น ราวกับทั้งตัวของเขาเปลี่ยนเป็นหินไปแล้ว ตั้งแต่วินาทีที่เธอตอบสนอง

นิ้วมือของหญิงสาวเลื่อนจากไหล่ลงมายังแผงอกที่แข็งแกร่งไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ

การที่เธอเติบโตในท่ามกลางผู้คนห้อมล้อม แต่ยังไม่เคยกอดหรือจูบกับใครอย่างนี้มาก่อน นี่จึงเป็นครั้งแรกที่รู้สึกได้ว่า การอยู่ในอ้อมกอดของใครสักคนนั้น มีความสุขถึงแค่ไหน

บุหงารู้สึกดีที่ได้วางฝ่ามือไว้บนแผงอกของสกล สัมผัสกับความเต้นระทึกจากหัวใจของอีกฝ่าย

จากนั้นเธอก็เลื่อนมือลงมาที่เอวเขาอย่างช้าๆ รับรู้การตอบสนองของเขาตลอดเวลา

เขาช่างไร้เดียงสาเหลือเกิน...

เมื่อนิ้วมือของหญิงสาววางลงบนเข็มขัดของชายหนุ่ม ขณะมือของเขาก็เคลื่อนมาที่ไหล่ของเธอ คราวนี้เป็นเธอเองที่ต้องใจเต้นไม่เป็นส่ำ เพราะนิ้วของเขาเลื่อนต่ำมาทางด้านหน้าอกเสื้อ

บุหงาระบายลมหายใจร้อนผ่าว ทั้งที่ริมฝีปากยังแนบอยู่กับริมฝีปากอุ่นของเขา

ขณะที่มือของสกลป่ายอยู่เหนือทรวงอก ในใจของหญิงสาวก็บอกว่า ไม่ถูกต้อง...

การกระทำเช่นนี้ของเขา ควรเกิดขึ้นในห้องนอน บนที่นอน... ในที่รโหฐาน...

นานมากแล้ว ที่เธอไม่มีอารมณ์อื่นนอกจากความโกรธและความกลัว แต่การเล้าโลมของสกลกลับอบอุ่นราวแสงอาทิตย์ยามเช้า ที่ส่องต้องมาสัมผัสกับผิวกายของเธอ

เขาเหมือนเด็กที่เพิ่งค้นพบบางสิ่งบางอย่าง...

เพียงแค่ไม่มีส่วนไหนของร่างกายเขา ที่ยังหลงเหลือความเป็นเด็กอยู่เลย ซึ่งนั่นทำให้เธอยิ่งรู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งตัว

ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนทำให้บุหงารู้สึกอบอุ่นแบบนี้ แม้กระทั่งสนธยา คนรัก

ทำไมเธอถึงยอมปล่อยกายปล่อยใจมากมายขนาดนี้ ให้กับผู้ชายที่เพิ่งรู้จักไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง

บุหงารู้จักสนธยามาเกือบทั้งชีวิต แต่เขาก็ไม่เคยได้สัมผัสแนบชิดมากขนาดนี้มาก่อน

ตอนนี้ สกลต่างหากที่เป็นสามีของเธอ บุหงาพยายามบอกตัวเอง

เขาเป็นผู้ชายที่เธอต้องปฏิบัติหน้าที่ของภรรยา...

แต่นี่...  มันน่าจะเกินความรู้สึกแค่ว่า เป็นหน้าที่...

ที่เกิดขึ้นอยู่ขณะนี้ มันเป็นเพื่อความอบอุ่นและเพื่อความสุขสมของเธอเองล้วนๆ

ตอนนี้มือของสกลวางแนบแน่นอยู่บนเอวของเธอ ความรุ่นร้อนและพลังของฝ่ามือนั่นผ่านทะลุเข้าไปในเสื้อผ้า

ปากของเขาเผยอออกเล็กน้อยเหมือนอย่างที่เธอทำ และแรงการกดเบาๆ ก็เพิ่มขึ้นเมื่อแนบริมฝีปากลงมา

บุหงาตัวสั่นอีกครั้ง เพราะความรุ่มร้อน ที่เปลี่ยนเป็นกองเพลิงอยู่ภายในหัวใจ

กองเพลิงที่เธอไม่เคยรู้รส ลุกลามผ่านแขนขา และปลุกเร้าโลหิตทุกหยาดหยด

ความโกรธที่เคยมีกับใครๆ ทั้งหลาย หายกลับห้วงสวรรค์ไปแล้ว เธอยังแปลกใจว่า มีชีวิตมาถึงวันนี้ได้อย่างไร โดยไม่เคยพบเจอกับความรู้สึกเช่นในขณะนี้

บุหงาถอนตัวจากการจุมพิต และลดหน้าผากลงแนบกับไหล่แข็งแกร่ง พร้อมกับพยายามควบคุมความรู้สึกที่กระเจิดกระเจิงภายใน

ทำไม... ผู้ชายคนหนึ่ง ผู้ชายที่เงียบขรึม กลับทำให้เธอค้นพบสิ่งสำคัญ ที่ขาดหายไปจากชีวิต

ทั้งที่เขาแทบไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่า กำลังทำอะไรอยู่...

“ผม... ผมทำอะไรผิด... หรือเปล่า”

สกลถาม ทั้งที่ยังหายใจถี่ คำพูดของเขาตะกุกตะกัก คล้ายไม่แน่ใจ

“เปล่าคะ”

เธอโกหก รู้ดีว่ามีบางอย่างผิดไปมาก ซึ่งไม่ใช่จากตัวเขา หรือกับทั้งคู่ ความผิดนั้นเกิดขึ้นจากตัวเธอเองล้วนๆ

“คือ... หนวดของคุณ...”

บุหงาเบี่ยงเบนแรงปรารถนาของตนเองไปอีกทางหนึ่ง

“หนวดของคุณตำหน้าฉันน่ะค่ะ”

ทันใดนั้น เขาก็ผละห่างออกไปโดยไม่พูดแม้แต่คำเดียว

จากนั้น... เป็นเวลาอีกครู่หนึ่ง ที่เธอเฝ้ามองเขาทำงาน เก็บเครื่องไม้เครื่องมือทั้งหมดเข้าที่ทาง

บุหงาบอกไม่ได้ว่า ปฏิกิริยาของชายหนุ่มตรงหน้าขณะนี้ เป็นเพราะเขาโกรธหรือเป็นเพราะเขาประหม่าในสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นไปหมาดๆ

เป็นอีกครั้งที่สกลไม่ได้มองเธอ ไม่แม้กระทั่งจะชำเลืองดู ราวกับเขาลืมไปแล้วว่ามีเธอยืนอยู่ในโรงเก็บของนี้ด้วย

“ฉันว่า... ฉันควรกลับเข้าบ้านแล้วละค่ะ คือแบบว่า... อีกสักเดี๋ยวเราควรจะได้กินมื้อเย็นด้วยกัน ฉันเห็นมะระแต่ยังไม่ได้เด็ด ไข่ไก่ก็ยังอยู่ในรัง ยังไม่ได้เอาน้ำข้าวให้เจ้าสามตัวนั่นกิน”

เธอรู้ตัวดีว่า กำลังพูดจาไร้สาระ...

ตลอดชีวิตที่ผ่านมา หญิงสาวเคยนึกรังเกียจพวกผู้ชาย ที่พูดเพียงแค่เพราะอยากจะพูด แต่ตอนนี้เธอกลับกำลังทำแบบนั้น ทำให้ต้องสั่งตัวเองให้รีบล่าถอยออกมา ก่อนที่อะไรๆ จะดูแย่มากไปกว่านี้



(มีต่อ)
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  แต่งนิยาย
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่