สวัสดีครับทุกท่าน
อิมโพรไวส์ ในทางของดนตรีแจ๊ส หมายถึงการด้นสด ตามอารมณ์ของศิลปินที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ซึ่งศิลปินต้องมีความสามารถพื้นฐานทั้งทางด้านตัวโน๊ต อุปกรณ์และการสื่อสารจากอารมณ์ออกมาเป็นเสียงดนตรี
ส่วนการออกท่องเที่ยวแบบอิมโพรไวส์นั้น หากใช้คำว่าด้นสด เหมือนจะดูดีเกินไป ขอเรียกว่าไปตายเอาดาบหน้าจะเหมาะสมดีกว่า พื้นฐานสำคัญในการท่องเที่ยวแบบนี้คือ ต้องรู้ว่าตัวเองชอบอะไร ร่างกายแข็งแรง(เกี่ยวอะไร?!) รู้ข้อจำกัด ให้เวลาตัวเองให้เรียนรู้ตามธรรมชาติ เปิดใจให้กว้างแต่ควรมีกฎ ส่วนใครชอบท่องเที่ยวแบบป็อปที่ทุกอย่างต้องรวดเร็ว ฮ๊อบอิน ฮ๊อบเอ้าท์ คลิ๊ก คลิ๊ก คลิ๊ก ถ่ายรูปแล้วกลับบ้านก็ไม่ว่ากันครับ 555
ตอน 0. จัดกระเป๋าแบบง่าย
ตอน 1. My only plan is to improvise
ตอน 2. เมื่อมาถึงมาดริดคุณคือคนมาดริด
ตอน 3. ความรักของนักเดินทาง
ตอน 4. สุนัขจิ้งจอกในเซบีญ่า
ตอน 5. Jack Johnson ที่บาเซโลน่า
ตอน 6. โลคัส ชายหนุ่มผู้วิ่งจากสวิสฯถึงนิซ
ตอน 7. หน่อไม้ฝรั่ง(เศษ) กับ Beat Box
ตอน 8. ดาวอส อัลไพน์ มาราธอน และปาร์ตี้ลับ ใน เซนต์มอริส
ตอน 9. Mountain calls me home
ตอน 10. ล่องแคนนูจากทูน ไปเบิร์น ได้ไหม
ตอน 11. วันชาติสวิสฯ หรือสงการณ์เฟสติวัลกันแน่ !!
--
ขออนุญาติแนะนำตัวก่อนนะครับ
ตอนเด็กผมฝันว่า (นอนหลับและฝัน) ได้ออกบินไปพร้อมกับนก ขี่หลังโลมาในทะเล ปีเขาไปหยอกล้อกอลิล่า จำได้ลางๆว่าพอตื่นขึ้นแล้วหัวใจเต้นแรง แต่ด้วยสังคมที่เลี้ยงดูด้วยทีวีและป้ายโฆษณา ทำให้ความฝันเปลี่ยนไปเป็นการนั่งกระดิ๊กทีนชมทะเลในรีสอท์แสนสบาย มีพนักงานสาวสวยยกเครื่องดื่มมาให้ พอจะเดินทางก็นั่งใน BMW ฟังเพลงออกจากลำโพง B&O พร้อมกับนั่งสไลด์ Smart phone เช็คสเตตัสเพื่อนๆ จบมื้อเย็นด้วยดินเนอร์จากเชฟรางวัลยางรถยนต์
ชีวิตก็เหมือนจะดีตามมาตรฐาน หากคืนหนึ่งผมไม่ได้ฝันแบบเดิมอีกครั้งเมื่อครั้งยังเด็ก ... หลังจากคืนนั้น สิ่งที่ทำเป็นอย่างแรกคือลบเฟสบุ๊คแอคเคาน์ พร้อมประกาศก้องว่า กูจะใช้ชีวิตออฟไลน์ !!! วิถีชีวิตจึงเริ่มเปลี่ยนไปเป็นแบบเร่ร่อนแต่ไม่ถึงขนาดเป็นคนจรจัด หลงรักในทุกสิ่งที่คนตั้งใจทำ ชอบพบปะผู้คน อาหาร ดนตรี กีฬาทุกประเภท และชอบเดินทางเป็นชีวิตจิตใจเพื่อจะเติมเต็มช่วงเวลาที่หายไป
ที่เขียนลงพันทิปไม่ได้เขียนรีวิวนะครับ ไม่คิดว่าประสบการณ์ สถานที่ หรือผู้คนที่เจอ จะวัดออกมาเป็นคะแนนอะไรได้ เอาเป็นว่ามาเล่าเหตุการณ์ที่ไปพบเจอดีกว่า ส่วนเหตุผลที่เล่าคือเผื่อจะมีคนที่สนใจการเดินทางแบบนี้เยอะขึ้นครับ
ทริปนี้มีอย่างเดียวที่แน่นอนคือขาไปลงที่มาดริด และขากลับที่ซูริค
หมายเหตุ
ข้อมูลสถานที่ เหตุการณ์ และผู้คน เกิดขึ้นจริง แต่คำอธิบายเพิ่มเติมเป็นเพียงทัศนคติและความรู้สึกของผมในแต่ละขณะ อาจจะไม่ใช่ fact ตามหลักประวัติศาสตร์หรือวิชาการ สามารถเสริมได้ตามอัธยาศัยเพื่อประโยชน์ของเพื่อนๆที่อ่านนะครับ สำหรับชื่อคน หากมีการกล่าวถึงผมขอใช้เป็นนามแฝงนะครับ
[Improvise trip] 33 วัน Solo Backpack EUROPE จากมาดริดถึงซูริค ตอน 1
อิมโพรไวส์ ในทางของดนตรีแจ๊ส หมายถึงการด้นสด ตามอารมณ์ของศิลปินที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ซึ่งศิลปินต้องมีความสามารถพื้นฐานทั้งทางด้านตัวโน๊ต อุปกรณ์และการสื่อสารจากอารมณ์ออกมาเป็นเสียงดนตรี
ส่วนการออกท่องเที่ยวแบบอิมโพรไวส์นั้น หากใช้คำว่าด้นสด เหมือนจะดูดีเกินไป ขอเรียกว่าไปตายเอาดาบหน้าจะเหมาะสมดีกว่า พื้นฐานสำคัญในการท่องเที่ยวแบบนี้คือ ต้องรู้ว่าตัวเองชอบอะไร ร่างกายแข็งแรง(เกี่ยวอะไร?!) รู้ข้อจำกัด ให้เวลาตัวเองให้เรียนรู้ตามธรรมชาติ เปิดใจให้กว้างแต่ควรมีกฎ ส่วนใครชอบท่องเที่ยวแบบป็อปที่ทุกอย่างต้องรวดเร็ว ฮ๊อบอิน ฮ๊อบเอ้าท์ คลิ๊ก คลิ๊ก คลิ๊ก ถ่ายรูปแล้วกลับบ้านก็ไม่ว่ากันครับ 555
ตอน 0. จัดกระเป๋าแบบง่าย
ตอน 1. My only plan is to improvise
ตอน 2. เมื่อมาถึงมาดริดคุณคือคนมาดริด
ตอน 3. ความรักของนักเดินทาง
ตอน 4. สุนัขจิ้งจอกในเซบีญ่า
ตอน 5. Jack Johnson ที่บาเซโลน่า
ตอน 6. โลคัส ชายหนุ่มผู้วิ่งจากสวิสฯถึงนิซ
ตอน 7. หน่อไม้ฝรั่ง(เศษ) กับ Beat Box
ตอน 8. ดาวอส อัลไพน์ มาราธอน และปาร์ตี้ลับ ใน เซนต์มอริส
ตอน 9. Mountain calls me home
ตอน 10. ล่องแคนนูจากทูน ไปเบิร์น ได้ไหม
ตอน 11. วันชาติสวิสฯ หรือสงการณ์เฟสติวัลกันแน่ !!
--
ขออนุญาติแนะนำตัวก่อนนะครับ
ตอนเด็กผมฝันว่า (นอนหลับและฝัน) ได้ออกบินไปพร้อมกับนก ขี่หลังโลมาในทะเล ปีเขาไปหยอกล้อกอลิล่า จำได้ลางๆว่าพอตื่นขึ้นแล้วหัวใจเต้นแรง แต่ด้วยสังคมที่เลี้ยงดูด้วยทีวีและป้ายโฆษณา ทำให้ความฝันเปลี่ยนไปเป็นการนั่งกระดิ๊กทีนชมทะเลในรีสอท์แสนสบาย มีพนักงานสาวสวยยกเครื่องดื่มมาให้ พอจะเดินทางก็นั่งใน BMW ฟังเพลงออกจากลำโพง B&O พร้อมกับนั่งสไลด์ Smart phone เช็คสเตตัสเพื่อนๆ จบมื้อเย็นด้วยดินเนอร์จากเชฟรางวัลยางรถยนต์
ชีวิตก็เหมือนจะดีตามมาตรฐาน หากคืนหนึ่งผมไม่ได้ฝันแบบเดิมอีกครั้งเมื่อครั้งยังเด็ก ... หลังจากคืนนั้น สิ่งที่ทำเป็นอย่างแรกคือลบเฟสบุ๊คแอคเคาน์ พร้อมประกาศก้องว่า กูจะใช้ชีวิตออฟไลน์ !!! วิถีชีวิตจึงเริ่มเปลี่ยนไปเป็นแบบเร่ร่อนแต่ไม่ถึงขนาดเป็นคนจรจัด หลงรักในทุกสิ่งที่คนตั้งใจทำ ชอบพบปะผู้คน อาหาร ดนตรี กีฬาทุกประเภท และชอบเดินทางเป็นชีวิตจิตใจเพื่อจะเติมเต็มช่วงเวลาที่หายไป
ที่เขียนลงพันทิปไม่ได้เขียนรีวิวนะครับ ไม่คิดว่าประสบการณ์ สถานที่ หรือผู้คนที่เจอ จะวัดออกมาเป็นคะแนนอะไรได้ เอาเป็นว่ามาเล่าเหตุการณ์ที่ไปพบเจอดีกว่า ส่วนเหตุผลที่เล่าคือเผื่อจะมีคนที่สนใจการเดินทางแบบนี้เยอะขึ้นครับ
ทริปนี้มีอย่างเดียวที่แน่นอนคือขาไปลงที่มาดริด และขากลับที่ซูริค
หมายเหตุ
ข้อมูลสถานที่ เหตุการณ์ และผู้คน เกิดขึ้นจริง แต่คำอธิบายเพิ่มเติมเป็นเพียงทัศนคติและความรู้สึกของผมในแต่ละขณะ อาจจะไม่ใช่ fact ตามหลักประวัติศาสตร์หรือวิชาการ สามารถเสริมได้ตามอัธยาศัยเพื่อประโยชน์ของเพื่อนๆที่อ่านนะครับ สำหรับชื่อคน หากมีการกล่าวถึงผมขอใช้เป็นนามแฝงนะครับ