++ [Review] Wakamonotachi 2014 - สุขและทุกข์ของชีวิตนั้น คือความงดงาม (ไม่สปอยล์) ++








นี่เป็นละครพิเศษ ฉลองครบรอบ 55 ปีของสถานีโทรทัศน์ฟูจิทีวี โดยรีเมคมาจากละครชื่อเดียวกัน
ซึ่งสร้างในปี 1966  โดยชุมนุมดารายอดฝีมือทั้งรุ่นกลางและรุ่นเล็กคับคั่ง อาทิ ซาโตชิ ทสึมาบุกิ,
ยู อาโออิ, มัตสึชิมะ ฮิคาริ, เอตะ, นางาซาวะ มาซามิ และ ไอ ทาคาฮาชิ

ชื่อเรื่อง wakamonotachi หมายถึง Young People หรืออาจจะสื่อถึงห้าพี่น้องบ้านซาโตะ
ตามที่มีชื่อเรื่องอีกเวอร์ชั่นนึงว่า All About My Siblings ก็ได้


Details

    Title (romaji): Wakamonotachi 2014
    Format: Renzoku
    Genre: Family
    Episodes: TBA
    Viewership ratings: TBD
    Broadcast network: Fuji TV
    Broadcast period: 2014-Jul-09 start
    Air time: Wednesday 22:00
    Theme song: Wakamonotachi by Moriyama Naotaro


Cast

    Tsumabuki Satoshi as Sato Asahi
    Eita as Sato Satoru
    Mitsushima Hikari as Sato Hikari
    Emoto Tasuku as Sato Haru
    Nomura Shuhei as Sato Tadashi
    Aoi Yu as Sawabe Asuza
    Nagasawa Masami as Yashiro Takako
    Hashimoto Ai as Nagahara Kasumi
    Yoshioka Hidetaka as Shinjo Masaomi







เนื้อเรื่องกล่าวถึง ห้าพี่น้องบ้านซาโตะ ประกอบด้วย พี่ใหญ่ อาซาฮี (ซาโตชิ) พี่รอง ซาโตรุ (เอตะ)
น้องสาม ฮิคาริ (แสดงโดย ฮิคาริ บังเอิญจริงๆ ) น้องสี่ ฮารุ และน้องเล็ก ทาดาชิ เนื่องจากเมื่อ
สิบห้าปีก่อน พ่อของพวกเค้าได้ประสบอุบัติเหตุในการทำงานจนเสียชีวิต ดังนั้น หน้าที่เลี้ยงดูและ
ส่งเสียน้อง ๆ จึงเป็นหน้าที่ของพี่ใหญ่อาซาฮี โดยพี่รองซาโตรุได้ทะเลาะกันแล้วออกจากบ้านไป     

อาซาฮีเรียนไม่จบมัธยม เพื่อส่งเสียน้องๆ จึงต้องทำงานเป็นคนงานก่อสร้างเหมือนกับพ่อ อาซาฮีเป็น
คนโผงผาง ใจร้อน ชอบพูดจาสั่งสอนคนอื่น แต่พอถูกน้องย้อนเถียงไม่ทัน ก็จะสรุปด้วยการใช้กำลัง
(โดยใช้ท่ามวยปล้ำต่างๆ ) เขามักมีคำพูดติดปากว่า เขาเป็นคนที่ทำงานส่งเสียน้อง ๆ จนทุกคนมีวันนี้

อาซาฮีคบหาอยู่กับ ซาวาเบะ อาซึสะ (ยู อาโออิ) สาวร้านขายข้าวกล่อง โดยทั้งสองคนชอบดู
มวยปล้ำเหมือนกัน วันหนึ่ง อาซึสะบอกกับอาซาฮีว่า เธอตั้งท้องลูกของอาซาฮีแล้ว แต่อาซาฮี
ดูเหมือนจะลังเลใจ และไม่ยอมออกปากว่า จะทำยังไงกับอนาคตของทั้งสองคน ทำให้อาซึสะ
เสียใจมาก มิหนำซ้ำภายหลัง อาซาฮียังพบความลับของอาซึสะเรื่องหนึ่ง ซึ่งนั่นทำให้เหตุการณ์
ยิ่งเลวร้ายลงไปอีก







ฮิคาริ ทำงานเป็นพยาบาลใน NICU (Neonatal Intensive Care Unit ห้องอภิบาลทารกแรกเกิด)
เธอมีความสัมพันธ์อย่างลับ ๆ กับคุณหมอชินโจ (โยชิโอกะ ฮิเดทะกะ พระเอกเรื่อง Always) ซึ่งทำงาน
อยู่ด้วยกัน และทั้งยังเคยเป็นเพื่อนบ้านของครอบครัวนี้อีกด้วย สิ่งที่เป็นปัญหาก็คือ หมอชินโจนั้น
มีภรรยาและลูกแล้ว

ฮารุ เรียนมหาวิทยาลัย แต่ชอบทำละครเวที เขากำลังเป็นผู้กำกับละครเวทีเรื่องหนึ่ง และกำลังมี
ปัญหา เนื่องจากนางเอก (ซึ่งเป็นแฟนของฮารุด้วย) ได้ถอนตัวออกไป ส่วนทาดาชิน้องเล็ก เป็นประเภท
ไก่อ่อน (มักถูกพี่ ๆ แซวว่าเป็นหนุ่มเวอร์จิ้น) ช่วงนี้ถูกพักการเรียน เขาจึงไปเรียนที่โรงเรียนกวดวิชา
และถูกตาต้องใจกับ คาสึมิ (ทาคาฮาชิ ไอ) เด็กสาวที่ดูจะค่อนข้างใจกล้าในการคบผู้ชาย








เรื่องดำเนินไปถึงตอนที่สอง เราจึงได้พบกับพี่รองซาโตรุ (เอตะ) เขาหายหน้าไปจากครอบครัว
เนื่องจากติดคุกในคดีต้มตุ๋นเงินจากหญิงชรา ในวันที่เขาออกจากคุก มีหญิงสาวคนนึงมารอพบอยู่
เธอถามเขาว่า "นายฆ่าแม่ของฉันใช่ไหม" เธอคนนั้นคือ โยชิโระ ทาคาโกะ (มาซามิ)

ความสัมพันธ์ของห้าพี่น้องและคนรอบข้าง ที่มีทั้งความผิดพลาดในอดีต ความลับที่ไม่อยากเปิดเผย
ความทุกข์ที่เก็บซ่อนไว้ในใจ ผ่านเรื่องราวของสังคมญี่ปุ่นในระดับคนหาเช้ากินค่ำ ซึ่งเรื่องราวอัน
ดูเหมือนว่าจะไม่น่าบันเทิงใจนี้ กลับร้อยเรียงออกมาได้อย่างงดงาม มีแง่มุมอันลึกซึ้ง และมีบทพูด
ที่ซื่อ ๆ แต่กินใจ และเมื่อรวมกับพลังการแสดงอันสุดยอดของดาราทุกคน นี่คือละครแนวหลายชีวิต
ที่ผมเชื่อว่า ใครที่ได้ดูจะต้องรักและประทับใจอย่างแน่นอน (แอบเสียน้ำตาไปหลายฉาก)







หลายเหตุผลที่คุณจะรัก Wakamonotachi 2014

1. ซาโตชิ ทสึมาบุกิ  ในบทพี่ใหญ่อาซาฮีที่เป็นคนไม่มีการศึกษา เขาใจร้อน โผงผาง เสียงดัง
ตะโกนแปดหลอด ชอบพูดจาสั่งสอนน้อง ๆ แถมลำเลิกบุญคุณเป็นประจำ แต่ในเรื่องความรักกับอาซึสะ
เขากลับพูดไม่เก่ง ไม่สามารถแสดงออกถึงความรักที่มีต่อเธอออกมาได้ ทว่า ความห่วยทั้งหมดของอาซาฮี
ซาโตชิกลับแสดงออกมาได้อย่างน่ารัก และมีหลายแง่มุมที่เราจะต้องประทับใจในชายคนนี้ (บุคลิกนี้
ผมว่าคล้ายกับพ่อพระเอกในเรื่อง Tonbi)

2. มัตสึชิมะ ฮิคาริ คือดาราหญิงที่อยู่ในระดับยอดฝีมือในปัจจุบัน และในเรื่องนี้เธอก็ฝากฝีมือการแสดง
ในระดับสุดยอดอีกครั้ง โดยในบทฮิคาริ ในแง่ความรัก เธอรักคนที่มีเจ้าของ ดังนั้นไม่อาจจะสร้างครอบครัวได้
ในแง่การทำงาน เธออยู่กับเด็กทารก มีความรู้สึกถึงความเป็นแม่เปี่ยมล้น แต่หากเธอยังคบกับหมอชินโจ
ฝันนี้ของเธอคงไม่สามารถ ในแง่ของพี่น้อง เธอเป็นพี่น้องคนกลาง และเป็นผู้หญิงคนเดียวด้วย เธอจึงมักจะ
ปลีกตัวออกมาจากความขัดแย้ง แต่ในหลายสถานการณ์ เราก็จะเห็นฮิคาริแสดงความคิดเห็นที่ดีออกมา







3. ฉากที่จะเห็นประจำในเรื่องนี้ คือพี่น้องทะเลาะกัน มีสาระบ้างไม่มีสาระบ้าง บางครั้งก็ต่อยตีกันเป็นเด็ก ๆ
แต่ก็เป็นฉากทะเลาะเบาะแว้งที่รู้สึกดีจริง ๆ มันแฝงความอบอุ่น และห่วงใยที่พี่น้องมีให้แก่กัน

4. ฉากเอาตาย ทุกตอนจะมีฉากเอาตายเรียกน้ำตาอย่างน้อยฉากนึง ถ้าเล่าให้ฟังก่อนโดยยังไม่ได้ดู จะรู้สึกว่า
ทำไมมันเว่อร์แท้ แต่พอได้ดูจริง ๆ รวมทั้งที่เค้าบิ้วเรามาก่อนหน้าแล้ว รับรองได้ว่า อย่างน้อยก็ต้องรู้สึกจุก
และขอบอกว่า ร้องไห้ไปเถอะ ถ้าน้ำตามันคือความอิ่มเอมใจของเรา ความรู้สึกนี้คล้าย ๆ ตอนดูเรื่อง
Always sunset on the third street คือหนังมันก้ำกึ่งระหว่างน้ำเน่ากับไม่เน่า แต่มันก็ผ่านเส้นบาง ๆ มาได้
จนทำให้เราอินและซาบซึ้งได้สำเร็จ

5. การเปลี่ยนภาพลักษณ์ของดาราอย่าง ยู อาโออิ และ มาซามิ นางาซาวะ ที่ในเรื่องนี้ คนนึงขายข้าวกล่อง
อีกคนทำไร่ ขับรถปิ๊กอัพ แต่เชื่อเถอะว่า ซกมกขนาดไหน สองคนนี้ก็ยังดูดีและทำให้เรารักได้เสมอ







6. ดารารุ่นใหม่ฝีมือดี อย่าง ไอ ทาคาฮาชิ, เอโมโตะ ทาสึคุ ประชันบทกับพวกรุ่นพี่ได้แบบไม่เพลี่ยงพล้ำ
น้องไอ เรื่องนี้เล่นเป็นเด็กสาวท่าทางใจแตก ครอบครัวมีปัญหา ซึ่งก็คล้าย ๆ กับบทยุยใน Amachan (ช่วงหลัง)
ส่วน เอโมโตะ ทาสึคุ ผมเห็นน้องในเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก แต่น้องเล่นได้แบบไม่โดนกลบเลย

7. การเซ็ตฉากของคนหาเช้ากินค่ำ บ้านหลังเล็ก ๆ ที่แออัดยัดเยียด ซกมก วิถีชีวิตของคนระดับรากหญ้า
ผมเคยเจอกระทู้นึงที่ถามว่า มีบ้างมั้ย ละครเกาหลีญี่ปุ่น ที่ตัวละครอยู่ในบ้านที่สกปรกซกมก ก็อยากบอกว่า
อย่างน้อยก็มีเรื่องนี้ แล้วก็ Silent poor ล่ะ

8. ไตเติ้ล ใน episode 1 ไตเติ้ลงดงามมาก เป็นภาพของตัวละครในเรื่อง สลับกับภาพของคนในหลากหลายอาชีพ
บวกด้วยเพลง Wakamonotachi ของ Moriyama Naotaro ที่ไพเราะและเนื้อเพลงก็กินใจ เหมือนจะบอกเราว่า
นี่เป็นเรื่องราวของผู้คนในวงสังคม ที่เป็นคนธรรมดาเหมือนเรา ๆ ท่าน ๆ มีชีวิตที่ซ้ำซากจำเจ แต่ก็เป็นชีวิตที่
มีความงดงามในแบบของมันอยู่







สำหรับใครที่อยากติดตามแบบซับไทย ขณะนี้มีผู้แปลออกมาอยู่สองเวอร์ชั่น คือเวอร์ชั่นแปลโดย
คุณ naan และคุณ lin2yi จาก jdramath นะครับ สนใจติดตามจากเพจของ jdramath ได้เลยนะครับ
โดยจะมีปล่อยแบบออนไลน์ด้วย (dailymotion) กับอีกเวอร์ชั่น ที่แปลโดยคุณปอนด์ Pondloso
อันนี้ติดตามได้ทาง Alive ครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่