สืบเนื่องมาจากผมได้ติดตาม content ในเพจอยู่เพจนึงชื่อว่า
"ตามหลักจิตวิทยาแล้ว" เป็นเพจที่มีสาระดีครับ
ซึ่งผมต้องขอเกริ่นให้ทราบก่อนว่า ลักษณะเพจนี้คือ เน้นชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ "จิตวิทยาในประเทศไทย" อันเนื่องด้วยสมัยนี้ มีคนไทยด้วยกันเองนี่แหละที่มักนำข้อความมาอ้างอิง (จริงๆมันคือการพาดพิงอย่างส่งเดช) ว่า "นักจิตวิทยากล่าวว่า...." หรือ "ตามหลักจิตวิทยาแล้ว...." ซึ่งพวกข้อความที่ขึ้นต้นมาทำนองนี้ พบว่าหลายๆ ข้อความไม่ใช่เรื่องจริงตามหลักจิตวิทยาที่เขาศึกษากัน! ดังนั้นเพจ "ตามหลักจิตวิทยาแล้ว" ก็เลยกลายเป็นศูนย์กลางในการรวมข้อมูลที่ถูกต้องมาหักล้างความเชื่อที่กล่าวอ้างอย่างผิดๆ และส่งต่อกันทั่วสื่อออนไลน์ (โดยเฉพาะเพจคำคมวัยรุ่น)
จะว่าไปก็เหมือนนั่งดูเกมจับผิด คือ พอมีใครโพสต์อะไรที่อ้างว่าเป็นจิตวิทยา ก็จะมีการเอามาพิสูจน์ให้เห้นจะจะ จากคนที่เขาเรียนมาทางด้านนี้โดยตรง เพื่อหาข้อสรุปว่าจริงๆแล้วมันเป็แค่เรื่องที่ "คนบางคน" คิดมโนขึ้นมาเองหรือเปล่า
ทีนี้... เรื่องมันเกิดขึ้น เมื่อ ทางเพจ "ตามหลักจิตวิทยาแล้ว" ได้โพสต์เปรยๆ ถึงเรื่องศาสตร์จิตวิทยาในประเทศไทยว่า ในเมืองไทยมีหนังสือให้ศึกษาน้อยเมื่อเทียบกับต่างชาติ (ภาษาอังกฤษ) ซึ่งเขามีหนังสือเขียนไว้ให้ได้ศึกษากันมากมาย คนต่างประเทศจึงมีพื้นความรู้เกี่ยวกับเรื่องของจิตใจคน/พฤติกรรมมนุษย์ที่พอสมควร แต่ในไทยไม่ค่อยมีคนแปลเป็นภาษาไทยให้อ่าน หรือถ้าจะแปลกันจริงๆ ก็ค่อนข้างยากเพราะต้องมาศึกษาศัพท์เฉพาะทางจิตเวช รวมถึงเรื่องการทำวิจัย หรือ research methodology ในเชิงจิตวิทยา จึงจะสามารถอ่านข้อมูลของเขาได้เข้าใจแบบถูกต้อง ประมาณนี้ ....
แล้วอ่านไป ก็เจอย่อหน้าสุดท้าย เขาได้พูดทิ้งท้ายถึงเรื่องที่ว่า "คนไทยเอาข้อมูลผิดๆ มาแชร์กัน"
โดยมีการพูดถึงเพจอีกเพจนึง อ่านตามรูปครับ...
source: https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=413514568786933&id=220036768134715
หลังจากอ่าน post ดังกล่าวจบไปแล้วนั้น
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าเพจที่เขายกมาพูดตำหนินั้น มันโพสต์ไว้ว่าอะไรอย่างไร
ผมจึงได้เข้าไปดูเพจที่ใช้ชื่อ "นักจิตวิทยากล่าวว่า" ปรากฏว่าแต่ละ post ของเขามีแต่สถานะคำคมความรักความสัมพันธ์แนวๆวัยรุ่น ไม่มีการอ้างอิงนักจิตวิทยาใดๆ ไม่มี Ref. ไม่มี Credit ไม่ว่าจะเป็น psychologist ในไทยหรือนักจิตวิทยาเจ้าของทฤษฎีสำคัญๆ ของต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีแอคเค้าทน์ที่ใข้ชื่อ "นักจิตวิทยากล่าวว่า" อยู่ในโซเชี่ยลทวิตเตอร์ด้วย
เมื่อเข้าไปอ่านหน้า wall ของเพจเฟซบุ๊กของเขา ผมก็พบว่ามีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงลบมากมาย โดยมีการซักให้อธิบายมาหน่อยเถอะว่าแต่ละโควตนั้นแท้จริงแล้วมันเป็นยังไงกันแน่ มีที่มาจากไหน ใครกล่าว หรือว่า gu กล่าวเอง
เช่น :-
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้



.
.
.
อ่าห์ ผมก็เริ่มได้กลิ่นต้มยำกุ้ง (มาม่า) เลยไปสืบสาวว่านักจิตวิทยาแห่มาทักท้วงจากไหน ปรากฏว่ายิ่งไปกว่านั้น มีการจัดทำเพจแสดงจุดยืนในเชิงคัดค้านการกล่าวอ้างจิตวิทยาไปใข้โดยทั้งๆ ที่เกิดจากการคิดมโนของเขาเอง ไม่ได้ยึดถือหลักพื้นฐานความรู้ทางจิตวิทยาแต่ประการใด โดยมีการใช้ชื่อเพจว่า
"ชมรมคนเกลียดเพจนักจิตวิทยากล่าวว่า"
โดยใน page ที่รวมพลคนต่อต้านนี้ ได้มีการนำเอาคำพูดที่อาจารย์จิตวิทยาท่านหนึ่งได้กล่าวไว้ มาอัปโหลดไว้ให้อ้างอิงด้วย
ซึ่งผมว่าน่าสนใจ และเป็นโควตที่อ่านแล้วเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

source ต้นฉบับมาจากเพจภาควิชาจิตวิทยา ม.ธรรมศาสตร์: https://www.facebook.com/photo.php?fbid=719328124776028&set=a.233711496671029.55645.175246332517546&type=1
ส่วนตัวแล้ว ผมก็ขอร่วมประณามพฤติกรรมของผู้ที่กระทำการสร้างและส่งต่อข้อมูลที่ผิดๆ ไม่ใช่เฉพาะในสาขาจิตวิทยา แต่รวมถึงทุกๆ สาขา แม้กระทั่งด้านการแพทย์เองผมก็เห็นมีหลายเพจโพสต์อะไรผิดๆ เยอะ แล้วชาวบ้านก็หลงเชื่อโดยขาดวิจารณญาณ ไตร่ตรอง รับข้อมูล .... มีแต่เสียกับเสีย คือ คนอ่านก็ได้ความรู้ติดหัวไปแบบผิดๆ แล้วไปแชร์ ไปเล่าก็ให้คนอื่นเข้าไปผิดตามไปด้วยกันอีก นี่แหละครับ
เป็นเรื่องธรรมดาเมื่อมี "ข่าวลือ" เกิดขึ้นที่ไหน ที่นั่นก็มักจะมี "คนหูเบา" อยู่ด้วยเสมอ เพราะมันคู่กัน
ภาระจึงกลับกลายไปตกอยู่ที่คนที่ต้องออกมานั่งแก้ ซึ่งแน่นอนว่าคนที่เขาโพสต์เผยแพร่ไปแล้ว คงกลัวที่จะเสียหน้าในการต้องออกมาบอกว่าตัวเองให้ข้อมูลผิดพลาด ทว่าถ้าแอดมินหรือคนที่คุมสื่อตรงนี้ควรเล็งเห็นถึงความถูกต้องของข้อมูลให้มากๆ ไม่ใช่สักจะมุ่งเผยแพร่ให้ไว ให้เร็วก่อนเพจอื่นๆ หรือจะเอาแต่ยอด like เยอะๆ ซึ่งมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะติดตามเพจพวกนี้อีกต่อไป
สุดท้ายอยากบอกคุณผู้อ่านว่า เลือกเสพจากสื่อที่มันถูกต้อง น่าเชื่อถือ ไว้ใจได้ (แม้ในโลกไซเบอร์จะมีแหล่งพวกนี้อยู่จำนวนไม่มากก็ตาม) ยังไงก็เตือนไว้ก่อน เผลอๆคนรอบตัวเราที่มีตรรกะแปลกๆก็เป็นผลมาจากการโดนสะกดจิต-ล้างสมองจากข้อมูลเพี้ยนๆ พวกนี้โดยที่ไม่รู้ตัวนะครับ เหอะเหอะ .... สวัสดี และขอบคุณหากท่านจะช่วยส่งต่อเรื่องราวนี้ไปให้คนได้รับทราบเหมือนกัน
ประณาม page ที่อ้างว่านักจิตวิทยากล่าว แต่จริงๆ กลับไม่ได้กล่าว (NO Based on Psychology)
ซึ่งผมต้องขอเกริ่นให้ทราบก่อนว่า ลักษณะเพจนี้คือ เน้นชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ "จิตวิทยาในประเทศไทย" อันเนื่องด้วยสมัยนี้ มีคนไทยด้วยกันเองนี่แหละที่มักนำข้อความมาอ้างอิง (จริงๆมันคือการพาดพิงอย่างส่งเดช) ว่า "นักจิตวิทยากล่าวว่า...." หรือ "ตามหลักจิตวิทยาแล้ว...." ซึ่งพวกข้อความที่ขึ้นต้นมาทำนองนี้ พบว่าหลายๆ ข้อความไม่ใช่เรื่องจริงตามหลักจิตวิทยาที่เขาศึกษากัน! ดังนั้นเพจ "ตามหลักจิตวิทยาแล้ว" ก็เลยกลายเป็นศูนย์กลางในการรวมข้อมูลที่ถูกต้องมาหักล้างความเชื่อที่กล่าวอ้างอย่างผิดๆ และส่งต่อกันทั่วสื่อออนไลน์ (โดยเฉพาะเพจคำคมวัยรุ่น)
จะว่าไปก็เหมือนนั่งดูเกมจับผิด คือ พอมีใครโพสต์อะไรที่อ้างว่าเป็นจิตวิทยา ก็จะมีการเอามาพิสูจน์ให้เห้นจะจะ จากคนที่เขาเรียนมาทางด้านนี้โดยตรง เพื่อหาข้อสรุปว่าจริงๆแล้วมันเป็แค่เรื่องที่ "คนบางคน" คิดมโนขึ้นมาเองหรือเปล่า
ทีนี้... เรื่องมันเกิดขึ้น เมื่อ ทางเพจ "ตามหลักจิตวิทยาแล้ว" ได้โพสต์เปรยๆ ถึงเรื่องศาสตร์จิตวิทยาในประเทศไทยว่า ในเมืองไทยมีหนังสือให้ศึกษาน้อยเมื่อเทียบกับต่างชาติ (ภาษาอังกฤษ) ซึ่งเขามีหนังสือเขียนไว้ให้ได้ศึกษากันมากมาย คนต่างประเทศจึงมีพื้นความรู้เกี่ยวกับเรื่องของจิตใจคน/พฤติกรรมมนุษย์ที่พอสมควร แต่ในไทยไม่ค่อยมีคนแปลเป็นภาษาไทยให้อ่าน หรือถ้าจะแปลกันจริงๆ ก็ค่อนข้างยากเพราะต้องมาศึกษาศัพท์เฉพาะทางจิตเวช รวมถึงเรื่องการทำวิจัย หรือ research methodology ในเชิงจิตวิทยา จึงจะสามารถอ่านข้อมูลของเขาได้เข้าใจแบบถูกต้อง ประมาณนี้ ....
แล้วอ่านไป ก็เจอย่อหน้าสุดท้าย เขาได้พูดทิ้งท้ายถึงเรื่องที่ว่า "คนไทยเอาข้อมูลผิดๆ มาแชร์กัน"
โดยมีการพูดถึงเพจอีกเพจนึง อ่านตามรูปครับ...
source: https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=413514568786933&id=220036768134715
หลังจากอ่าน post ดังกล่าวจบไปแล้วนั้น
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าเพจที่เขายกมาพูดตำหนินั้น มันโพสต์ไว้ว่าอะไรอย่างไร
ผมจึงได้เข้าไปดูเพจที่ใช้ชื่อ "นักจิตวิทยากล่าวว่า" ปรากฏว่าแต่ละ post ของเขามีแต่สถานะคำคมความรักความสัมพันธ์แนวๆวัยรุ่น ไม่มีการอ้างอิงนักจิตวิทยาใดๆ ไม่มี Ref. ไม่มี Credit ไม่ว่าจะเป็น psychologist ในไทยหรือนักจิตวิทยาเจ้าของทฤษฎีสำคัญๆ ของต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีแอคเค้าทน์ที่ใข้ชื่อ "นักจิตวิทยากล่าวว่า" อยู่ในโซเชี่ยลทวิตเตอร์ด้วย
เมื่อเข้าไปอ่านหน้า wall ของเพจเฟซบุ๊กของเขา ผมก็พบว่ามีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงลบมากมาย โดยมีการซักให้อธิบายมาหน่อยเถอะว่าแต่ละโควตนั้นแท้จริงแล้วมันเป็นยังไงกันแน่ มีที่มาจากไหน ใครกล่าว หรือว่า gu กล่าวเอง
เช่น :-
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
.
.
.
อ่าห์ ผมก็เริ่มได้กลิ่นต้มยำกุ้ง (มาม่า) เลยไปสืบสาวว่านักจิตวิทยาแห่มาทักท้วงจากไหน ปรากฏว่ายิ่งไปกว่านั้น มีการจัดทำเพจแสดงจุดยืนในเชิงคัดค้านการกล่าวอ้างจิตวิทยาไปใข้โดยทั้งๆ ที่เกิดจากการคิดมโนของเขาเอง ไม่ได้ยึดถือหลักพื้นฐานความรู้ทางจิตวิทยาแต่ประการใด โดยมีการใช้ชื่อเพจว่า "ชมรมคนเกลียดเพจนักจิตวิทยากล่าวว่า"
โดยใน page ที่รวมพลคนต่อต้านนี้ ได้มีการนำเอาคำพูดที่อาจารย์จิตวิทยาท่านหนึ่งได้กล่าวไว้ มาอัปโหลดไว้ให้อ้างอิงด้วย
ซึ่งผมว่าน่าสนใจ และเป็นโควตที่อ่านแล้วเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนตัวแล้ว ผมก็ขอร่วมประณามพฤติกรรมของผู้ที่กระทำการสร้างและส่งต่อข้อมูลที่ผิดๆ ไม่ใช่เฉพาะในสาขาจิตวิทยา แต่รวมถึงทุกๆ สาขา แม้กระทั่งด้านการแพทย์เองผมก็เห็นมีหลายเพจโพสต์อะไรผิดๆ เยอะ แล้วชาวบ้านก็หลงเชื่อโดยขาดวิจารณญาณ ไตร่ตรอง รับข้อมูล .... มีแต่เสียกับเสีย คือ คนอ่านก็ได้ความรู้ติดหัวไปแบบผิดๆ แล้วไปแชร์ ไปเล่าก็ให้คนอื่นเข้าไปผิดตามไปด้วยกันอีก นี่แหละครับ เป็นเรื่องธรรมดาเมื่อมี "ข่าวลือ" เกิดขึ้นที่ไหน ที่นั่นก็มักจะมี "คนหูเบา" อยู่ด้วยเสมอ เพราะมันคู่กัน
ภาระจึงกลับกลายไปตกอยู่ที่คนที่ต้องออกมานั่งแก้ ซึ่งแน่นอนว่าคนที่เขาโพสต์เผยแพร่ไปแล้ว คงกลัวที่จะเสียหน้าในการต้องออกมาบอกว่าตัวเองให้ข้อมูลผิดพลาด ทว่าถ้าแอดมินหรือคนที่คุมสื่อตรงนี้ควรเล็งเห็นถึงความถูกต้องของข้อมูลให้มากๆ ไม่ใช่สักจะมุ่งเผยแพร่ให้ไว ให้เร็วก่อนเพจอื่นๆ หรือจะเอาแต่ยอด like เยอะๆ ซึ่งมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะติดตามเพจพวกนี้อีกต่อไป
สุดท้ายอยากบอกคุณผู้อ่านว่า เลือกเสพจากสื่อที่มันถูกต้อง น่าเชื่อถือ ไว้ใจได้ (แม้ในโลกไซเบอร์จะมีแหล่งพวกนี้อยู่จำนวนไม่มากก็ตาม) ยังไงก็เตือนไว้ก่อน เผลอๆคนรอบตัวเราที่มีตรรกะแปลกๆก็เป็นผลมาจากการโดนสะกดจิต-ล้างสมองจากข้อมูลเพี้ยนๆ พวกนี้โดยที่ไม่รู้ตัวนะครับ เหอะเหอะ .... สวัสดี และขอบคุณหากท่านจะช่วยส่งต่อเรื่องราวนี้ไปให้คนได้รับทราบเหมือนกัน