เกมส์รักเดิมพันหัวใจ ตอนที่ 3




พลุโอ่งพลุพลุโอ่งพลุอมยิ้มพลุโอ่งพลุพลุโอ่งพลุอมยิ้มพลุโอ่งพลุพลุโอ่งพลุ

ความเดิมตอนที่แล้ว ตอนที่ 2  http://pantip.com/topic/32167776/comment3

“น้ำค้างเป็นผู้หญิงที่น่าค้นหา และฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเธอมีเสน่ห์ประเภทไหนกันถึงได้ทำให้ผู้ชายอย่างฉันอยากมีปัญหากับนายได้”


“ปากดีใช้ได้เลยนี่ นายควรจะรู้ประวัติของฉันไว้นะ เจ้าหนู” ชายยิ้มอย่างเหนือกว่าแล้วเขาก็เดินจากไป ธนูมองเขาราวกับสายตาของหมาป่าที่กำลังจ้องเสือ เขาไม่อยากจะลงชื่อหมอนี่ไว้ในสมุดแห่งความเป็นเพื่อนเลยแม้แต่นิดเดียว


เมื่อหมอเห็นธนูเขาจึงรีบวิ่งเข้ามาหาและบอกว่าเขามีกุญแจดอกสำคัญที่จะไขความลับของน้ำค้างได้แล้ว


“เอาไว้ก่อนเถอะ สิ่งที่ฉันอยากรู้ก็คือประวัติของหมอนั่น” ด้วยสายตาที่ขึงขังทำให้หมอต้องสงบปากและมองไปยังชายผู้ชายที่เป็นศัตรูอันดับหนึ่งของธนู


……………………………………………………….

              ธนูเห็นบอร์ดติดประกาศเกี่ยวกับขวัญใจชาวหอ อันดับหนึ่งของหอชาย ก็คือ ชาย ชาตรี จากหอพักนนทรี รูปของชายที่แปะเอาไว้ยิ่งทำให้ธนูหมั่นไส้ ยิ่งเมื่ออ่านประวัติของเขาที่ติดอยู่ด้านล่างยิ่งพาให้เหม็นขี้หน้า

“นักกีฬายูโดเหรียญทองกีฬามหาวิทยาลัย กำลังได้รับการเทียบเคียงให้เข้าร่วมทีมชาติ, อันดับหนึ่งงานประกวดอัจฉริยะด้านสิ่งประดิษฐ์หุ่นยนต์แม่บ้าน หึย...เรียนวิศวะเหมือนกับเราเลยนี่หว่า อะไรเนี่ย ได้รับตำแหน่งเดือนประจำปี โอ๊ย...จะบ้าตาย หมอนี่เนี่ยนะหุ่นอย่างกับรถถังสงครามโลก จะอ๊วก...” แล้วธนูก็เบือนหน้าหนีมาดูบอร์ดข้าง ๆ ที่เป็นบอร์ดขวัญใจชาวหอฝ่ายหญิง และภาพที่เขาเห็นก็คือรูปของประกายดาว หญิงสาวในดวงใจของเขานั่นเอง

“ประกายดาว ทับทิม จากหอพักลีลาวดี คณะศิลปกรรมศาสตร์ ปีหนึ่ง อันดับหนึ่งการประกวดภาพวาดของศิลปินหน้าใหม่และตำแหน่งดาวประจำปี....คนนี้ต่างหากที่สมควรจะได้รับรางวัล” เขายืนมองรูปเธออย่างชื่นชม สายตานั้นหวานเชื่อมราวกับจะแทรกเข้าไปอยู่ร่วมกับเธอในภาพนั้น สาว ๆ เดินผ่านเขาต่างพากันซุบซิบนินทา เมื่อประกายดาวกับตุ่นเดินผ่านมาเห็นเขาตุ่นก็เริ่มใส่ไฟ

“ดูสิดาว ท่าทางหมอนั่นจะชอบเธอมากนะ อึ๋ย อย่าบอกนะว่าจะทำอะไรกับรูปนั่น” ประกายดาวมองดูเขาแล้วเข้าไปทัก ธนูถึงกับสะดุ้งเมื่อเห็นสาวในดวงใจมายืนอยู่ตรงหน้า

“คุณมาทำอะไรที่นี่เหรอคะ”

“เอ่อ...ผม...” เขาชี้นิ้วไปที่รูปของเธอ แล้วก็รีบเปลี่ยนไปชี้ที่รูปของชาย  อย่างเขินอาย  แล้วทั้งสามก็พากันมานั่งคุยริมสระน้ำ ตุ่นเองก็อยากจะรู้จากปากของธนูเหมือนกันว่าตกลงเขาต้องการจะจีบใครกันแน่

“เอ่อ...ผมปะเปล่าจีบน้ำค้างนะครับ”

“งั้นคุณก็จีบยัยดาว”

“อ๊ะ...เอ่อ ผม ผม” ธนูน้ำท่วมปากเมื่อโดนคำถามที่แทงเข้าไปถึงในหัวใจ เขาอยากจะบอกว่าใช่แต่ก็กลัวความรู้สึกของฝ่ายตรงข้าม ประกายดาวอมยิ้มแล้วถามเขาว่าทำไมเขาถึงต้องตามน้ำค้างไปทุกที่ด้วย ธนูลำบากใจที่จะตอบ แต่เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว เขาคงจะไม่สามารถทำอะไรได้ เขาจึงบอกพวกเธอไปตามตรง ว่า...

“เพื่อนของผมแอบชอบเธออยู่น่ะครับ”

“หา...เพื่อนของคุณเหรอ” สองสาวถึงกับตกใจ เพราะพวกเธอเข้าใจเขาผิดมาตั้งแต่แรก

“แล้วทำไมเพื่อนคุณไม่มาจีบยัยน้ำค้างเองล่ะ” ตุ่นสงสัย หมอจึงรีบช่วยเพื่อนตอบกลบเกลื่อน

“อ้อ...เขาเป็นคนขี้อายมาก ๆ น่ะ แค่คุยกับผู้หญิงยังไม่กล้าเลย แล้วยิ่งไปหลงรักผู้หญิงอย่างน้ำค้างด้วย ยิ่งยากไปกันใหญ่”

“จริงด้วยสินะ ยัยน้ำค้างของเรา ใช่ผู้หญิงธรรมดา ๆ ที่ไหน”ตุ่นเริ่มคลายความสงสัย

“แล้วทำไมคุณถึงไม่บอกพวกเราล่ะคะ พวกเราน่ะช่วยคุณได้นะ”

“ใช่ ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงได้มาหลงเสน่ห์ยัยน้ำค้างผู้หญิงตายด้านอย่างนั้นได้” ประกายดาวตีมือของตุ่นเตือนไม่ให้ตำหนิน้ำค้าง ธนูโล่งอกที่ดูเหมือนสาว ๆจะเชื่อเขาอย่างสนิทใจ เขาจึงทำทีแสร้งเป็นหนุ่มเจ้าคำถาม

“จริงด้วยสิครับ ทำไมน้ำค้างถึงเป็นผู้หญิงตายด้านอย่างนั้นไปได้ล่ะครับ แข็งอย่างกับต้นไม้ไม่ไว้วางใจใคร มองใครก็ดูขวางโลกไปหมด” ดูเหมือนทุกคนจะพุ่งคำถามมาที่ประกายดาว หญิงสาวเพื่อนสนิทที่สุดของน้ำค้าง ใช่ว่าเธอเองอยากจะเก็บความลับของน้ำค้างไว้ เพราะเธอเองก็อยากจะปลดปล่อยเพื่อนรักให้ร่าเริงเหมือนหญิงสาวคนอื่น ๆ บ้างเสียที

“น้ำค้างไม่ใช่ผู้หญิงตายด้านหรอกนะคะ แต่เป็นคนที่เข้มแข็งมากกว่า ตั้งแต่มีภาระต้องดูแลบ้านสีรุ้ง แทนพ่อกับแม่ที่เสียชีวิตไป ทำให้เขาไม่อยากจะสนใจใครทั้งนั้น เขากลัวความสูญเสียน่ะค่ะ”

“ความสูญเสีย” ธนูกับตุ่นเอ่ยขึ้นพร้อมกัน

“คนที่เคยสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างแล้วต้องใช้ชีวิตอยู่เพียงคนเดียวบนโลก มันทำให้เธอต้องเข้มแข็งเพื่อปกป้องตัวเองให้ได้ น้ำค้างไม่เคยได้รับการปกป้องจากใคร ไม่เคยแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น เพราะเธอไม่ต้องการความรักจากใคร”

“ไม่ต้องการความรักอย่างนั้นเหรอ”

“เขาคงกลัวว่าจะปกป้องคนที่เขารักไม่ได้ กลัวว่าจะสูญเสียเขาไป จึงเลือกที่จะอยู่เพียงลำพัง”

“โห ยัยโง่นั่นคิดอะไรได้แคบถึงเพียงนี้”

“ฉันไม่รู้ว่าคุณต้องการข้อมูลอะไร แต่อย่างน้อย คุณควรจะทำให้เพื่อนของคุณเข้าใจในตัวตนที่แท้จริงของน้ำค้าง แล้วยอมรับเธอให้ได้ น้ำค้างเองก็มีความอ่อนไหวเหมือนกับผู้หญิงคนอื่น ๆ เพียงแต่เธอไม่เคยแสดงมันออกมาต่อหน้าใคร ฉันคงช่วยพวกคุณได้เพียงเท่านี้”

“แค่นี้ก็เพียงพอแล้วล่ะครับ ผมต้องขอบคุณคุณมากเลยนะครับ คุณ...ดาว” ธนูขอบคุณเธอจากใจพร้อมกับส่งสายตาหวานฉ่ำ สาวน้อยยิ้มให้อย่างเขินอาย จนตุ่นเห็นท่าไม่ดีรีบเข้ามาขวางกลาง

“นี่ แล้วนายไม่รีบไปบอกเพื่อนของนายหรือไง” ธนูได้สติจึงรีบโบกมือลาหญิงสาวทั้งสองแล้ววิ่งไปอย่างมีความสุขหมอรีบวิ่งตามเพื่อนไป

……………………………………………………….

เมื่อนึกถึงคำพูดของประกายดาวธนูก็นั่งคิดนอนคิดถึงแต่เรื่องของน้ำค้าง เธอเป็นผู้หญิงที่มีโลกส่วนตัวของตัวเอง เขาจะผิดไหม หากเดินก้าวล้ำเส้นเข้าไปเหยียบอยู่บนโลกใบเดียวกับเธอ แล้วการโกหกคำโตของเขาก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก

“เฮ้ย... ไอ้ธนู ฉันมีข้อมูลใหม่เฟ้ย ข้อมูล...” หมอวิ่งมาอย่างเริงร่าแต่พอเห็นเพื่อนนอนอย่างหมดสภาพเขาก็ลดเสียงต่ำลง

“นี่แกเป็นอะไรขึ้นมาอีกวะ”

“มีเรื่องคิดนิดหน่อย แกมีข้อมูลอะไรก็ว่ามา” หมอจึงร่าเริงอีกครั้งเขารีบเล่าเรื่องที่ได้มาให้ธนูฟังอย่างตื่นเต้น

“แกจำไอ้ชายได้ไหม คนที่เป็นศัตรูตัวฉกาจของแกฉันไปหาข้อมูลมาเรียบร้อยแล้ว โอ้โหน่าตกใจมากเลยนะแก หมอนั่นน่ะมันไม่ธรรมดา เป็นถึงประธานหอทั้งที่อายุยังน้อยแถมยังเป็นดาวเด่นของหออีก”

“นั่นฉันรู้แล้ว....” ธนูตอบด้วยเสียงอันเรียบเฉย ทำให้ลดความภาคภูมิใจของหมอไป แต่หมอก็ไม่หยุดเพียงเท่านั้น เขายังมีข้อมูลเด็ดที่อยากจะเล่าให้เพื่อนรักฟัง

“อันนี้ไม่พลาด แกต้องไม่เคยรู้มาก่อนแน่ ๆ ว่าหมอนี่มันเป็นเสือผู้หญิง ขั้นเทพเลย”

“หา...เสือผู้หญิง” ธนูตกใจทันทีที่ได้ยินเพราะเขาเพิ่งรู้มากว่าหมอนั่นไม่ยอมปล่อยน้ำค้างไปง่ายๆ

“ใช่... ผู้หญิงที่ผ่านมือมันน่ะแหลกเป็นจุลไปหมด แบบพวกจีบทิ้งจีบขว้างน่ะ แหม๊...เหมือนแกไม่มีผิด” ธนูหันมองหมอตาขวาง จนหมอต้องรีบแย้ง

“แฮ่...อดีตน่ะ ฉันหมายถึงอดีต ตอนนี้แกออกจะเป็นสุภาพบุรุษนี่หว่า จริงมะ"  ธนูพยักหน้าแบบให้อภัย หมอลุยต่อ

"แต่ที่ร้ายไปกว่านั้นนะ รู้สึกว่าตอนนี้เป้าหมายของมันอยู่ที่ดาวมหา’ลัยที่ชื่อว่าประกายดาว” ข้อมูลนี้ทำให้ธนูรู้สึกว่ามันแปลก ๆ

“แต่ฉันคิดว่าไม่น่าจะใช่นะ เพราะว่า....”

“เพราะว่าอะไร” หมอสงสัยในคำพูดของธนู ซึ่งธนูเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจในคำพูดของชายเท่าไรนัก เขาบอกว่าน้ำค้างเป็นของเขา แล้วประกายดาวล่ะ

“ฮึ้ย...หมอนี่ มันจะควบสองเลยรึไงฟะ...” ธนูเริ่มยัวะ แล้วเขาก็รีบขับรถบึ่งออกไปในทันที เล่นเอาหมอที่ยังสับสนในคำพูดของเพื่อนกระพริบตาปริบ ๆ

……………………………………………………….
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่