Edit : เพิ่มลิงค์
EP.2
http://pantip.com/topic/32178924 <<< โจ๊กฮุงลี , พระใหญ่อันศักดิ์สิทธิ์ , สำนักชีฉีหลิน+สวนหนานเหลียน , SOL , ข้าวอบหม้อดิน
EP.3
http://pantip.com/topic/32186966 <<< อาหารร้านดาวมิชลิน , บันไดเลื่อนที่ยาวที่สุดในโลก , ขึ้นเขาเดอะพีค , ชาร์ลี บราวน์
EP.4
http://pantip.com/topic/32194294 <<< พิซซ่าอันเท่าฝาบ้าน , ล็อกเกอร์เก็บของ , In Town Check In , ขึ้นเครื่องกลับไทย
สวัสดีครับ รีวิวนี้ก็เป็นรีวิวแรกของผมเลยนะครับ ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ยังไงฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะครับ
เกริ่นนำเล็กน้อย สำหรับผู้ที่ไปเหยียบดินแดนฮ่องกงจนพรุนแล้ว รีวิวนี้อาจไม่น่าสนใจเท่าใด แต่สำหรับผมมันคือครั้งแรกครับ
ที่ไปต่างประเทศด้วยตัวเองครั้งแรก ขึ้นเครื่องบินตัวคนเดียวครั้งแรก ไม่มีเพื่อนไปด้วย ไม่มีครอบครัวไปด้วย และไม่ได้ไปกับทัวร์
อดีตฮ่องกงนี้ผมเคยไปมาแล้ว แต่เป็นการไปกับทัวร์ และเป็นเพียง Stop Over ขากลับ (วันครึ่ง) ขาไปแวะเพียง Transit เครื่องเพื่อไปอเมริกา
และตอนนั้นก็อายุเพียง 14
จริงๆ ใจผมอยากไปญี่ปุ่น แต่เมื่อประมาณต้นเดือนมกราคม 57 เพจโปรโมชั่นเพจนึง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/ArPaeDotCom?fref=ts ได้มีโปรฮ่องกงของสายการบิน Emirates มา ในราคารวมทุกสิ่งเพียง 5,960 ผมจึงไม่ลังเลที่จะลองการเที่ยวคนเดียวครั้งแรกที่ฮ่องกงนี้ โดยจองไป 4วัน3คืน
ในส่วนโรงแรม ผมจองไปที่นิยมของชาวไทยอย่าง Hop Inn. ครับ
และยังได้ซื้อประกันการเดินทางไว้ด้วย เผื่อเหตุสุดวิสัย
ผมซื้อตั๋วต่างๆ ไปจากไทยครับ ในราคาที่ประหยัดกว่าไปซื้อหน้างานจริงเยอะพอควร
Edit : เพิ่มสถานที่ซื้อตั๋วนะครับ เนื่องจากหลังไมค์กันเข้ามาเยอะ ผมการันตีว่าตั๋วที่นี่ใช้ได้จริง (เพราะใช้มาแล้ว 55+)
และคุณบอลก็บริการดีมาก รวดเร็วในการโต้ตอบเมล์ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.wow-hk.com/
22 พฤษภาคม 2557
วันแรกของการเดินทาง
ผมเตรียมเงินสดไปทั้งสิ้น 7,000 เหรียญ โดยเรต ณ วันที่แลกคือ 1 ต่อ 4.23
ออกเดินทางกันเลย
ระหว่างทางเดินก็จะมีบอร์ดให้ดูตลอด ไม่ต้องกลัวพลาดเลย
ผมชอบมุมนี้จัง มันดูอลังดี
ลำนี้นี่เอง ที่จะพาเราโบยบิน
บะบาย ไทยแลนด์
สายการบินนี้ขาไปกับขากลับ คนละเรื่องเลยครับ การบริการขาไปดีกว่าราวฟ้ากับดิน
(อารมณ์โดนเหยียดเชื้อชาตินิดนึง ว่าตานี่เอเชียนะ)
แต่เอาเถอะมาดูบรรยากาศเล็กๆบนเครื่องดีกว่า
ถึงแล้ว แต่หมอกจัดมาก ถึงมากที่สุด
เมื่อออกจากงวงช้างมา ก็เจอกับป้ายนี้ครับ
ยินดีต้อนรับสู่ฮ่องกง มีภาษาไทยด้วย
จากนั้นเรายังต้องนั่งรถไฟต่อไปอีก เพื่อไปผ่านตม. และรับกระเป๋ากัน
บนรถไฟคนแน่นขนัด
รถไฟวิ่งเร็วมาก
จากนั้นก็เดินตามทางไปเรื่อยๆ โดยมีความจำในหัวจากรีวิวของผู้ที่เคยไปมาแล้ว ว่าจะต้องเจอโน่นนี่นั่น แต่ก็ไม่เจอ เจอแต่ทางเดิน
ก็เดินตามเค้า โง่ๆ เซ่อๆ ไป
จนกระทั่งเดินถึงตม. ก็ยังไม่รู้เรื่องว่าเนี่ยคือ ตม.แระนะ ยังจะถ่ายรูปอีก (สังเกตุจนท.ด้านซ้ายกำลังจะเข้ามาห้าม ไม่ให้ถ่ายรูป)
คือเรื่องตม. นี่โง่มาก คิดว่าจะผ่านยาก ไอ้เราก็เตรียมไปซะเยอะทั้งนามบัตร หนังสือรับรองการทำงาน E-Ticket ขากลับ ใบจองโรงแรม
สรุป ด้วยความเมา (จากไวน์บนเครื่อง คือซัดไป 6 ขวดได้) ยื่นไปแค่ Passport เค้าถามว่าครั้งแรกเหรอ พอตอบเยส พี่ท่านก็ยิ้มให้ แล้ว Print Slip อะไรไม่รู้ยื่นคืนมาพร้อม Passport เราก็คิดว่าต้องไปเจออีกด่านป่ะวะ เพราะที่จำได้มันต้องปั้มลงสมุดไม่ใช่เหรอ
ปรากฎ หลุดออกมาตรงรับกระเป๋าเฉย โคตรงง ถึงโรงแรมต้องขอยืมที่แม๊กซ์เค้ามาเย็บ เดี๋ยวหายไปล่ะงานงอก
รับกระเป๋ากันเถอะ
ให้ดูห้องน้ำเค้านิดนึง คือมีที่วางของพร้อมกับช่องเสียบกระเป๋าเดินทาง คืออำนวยความสะดวกมากๆ
ไม่ว่าคุณจะปลดหนักหรือเบา เราช่วยคุณได้ ของที่คุณถือมา ไม่ต้องเป็นห่วง
จากนั้นก็ขึ้นไป 1 ชั้น เป็นชั้นขาออก เพื่อซื้อซิมที่ร้านนี้ 1010
ไม่ต้องทำอะไรมาก ยื่นมือถือไป บอกสิ่งที่ต้องการ เดี๋ยวเค้าจะเก็บเงินคุณไปและจัดการให้คุณเสร็จสรรพ
และที่สำคัญ เค้าจะเอาซิมเดิมแปะกาวคืนไว้ในซองซิมกันหายด้วย (บริการดีสุดๆไปเลย)
ผมเลือกวิธีเข้าเมืองด้วย Airport Express นะครับ
(คราวหน้าขาเข้าเมืองจะนั่งรถเมล์ เพื่อดูเมืองเค้าบ้าง เริ่มชินกะการเดินทาง อิอิ ส่วนขากลับค่อย AE เพื่อ Intown Check In พอ)
เมื่อถึงสถานีปลายทาง จะมี Shuttle bus มารับเราไปส่งตามจุดต่างๆ ฟรีอีกครั้ง
เราจะนั่งสาย K3 เพื่อไป จิมซาจุ่ยกันครับ
และเนื่องจากผมบินบ่าย ถึงก็เย็น ออกมาก็มืด คนเลยม่ายมี
นั่งคนเดียวเลยครับ สบายกันไป อิอิ
ถึงโรงแรมที่จองไว้ เป็นห้องเดี่ยว แต่ได้อัพเกรดเป็นห้องเตียงคู่ ใหญ่ขึ้น สบายขึ้น เหมือนจะดี
แต่มีประสบการณ์ที่ไม่ดีเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ในโรงแรม (ไม่เกี่ยวกับโรงแรมโดยตรง)
หากรีวิวนี้มีผู้สนใจ ผมจะแยกรีวิว Hop Inn. ออกมาต่างหากอีกครั้งครับ
วันแรกตามแพลนคือ ไปเที่ยว Temple Street Night Market และกินซูชิ
แต่ด้วยความโง่ + Google map ห่วยแตกสุดๆ หลงตั้งกะหาโรงแรม แล้วยังจะหาร้านซูชิอีก
เอาคู่มือไปด้วย แต่ดันไม่ได้พก เดินตาม Google map พี่ท่านพาผมเดินจนจะออกนอกเมือง
สุดท้ายตัดสินใจ กลับโรงแรมถาม Front ซะเลย ก็เลยรอดมาได้
รถไฟใต้ดินที่นั่นดูไม่ยากเลยครับ ง่ายจริงๆยอมรับเลย แม้สายจะเยอะแยะ แต่ดูง่ายมากๆ
ขั้นแรกลงไปใต้ดิน หาสายที่จะไป Tsuen Wan และนั่งไปลงที่ สถานี Jordan ทางออก A
ถึงแว้ว
ผู้คนมากมาย ข้าวของเยอะแยะ ถ้าไม่ติดว่ามีแต่คนพูดจีนใส่ คงคิดว่าจตุจักรไปแล้ว
ส่วนคนที่กลัวอดอาหารไทย ไม่ต้องกลัวนะครับ ที่นี่มีเยอะมาก
ตลาดแห่งนี้ มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า ตลาดนัดผู้ชาย ตอนแรกสงสัย ผู้ชายยังไง ต่างหูก็มี แหวนก็มี เสื้อผ้าผู้หญิงก็มี
จนมาเจอเจ้าสิ่งนี้เลยเริ่มเข้าใจ
สุดท้ายหลงไปหลงมา กว่าจะลากสังขารไปถึง Sushi One ได้ ก็เกือบปิดร้าน
ไม่รู้เพราะเหนื่อยกับการเดินทาง หรือยังไม่ชินกับการใช้ชีวิต หรือเพราะลด 50% จึงไม่รู้สึกว่าอร่อยเลยแม้แต่น้อย
ข้าวก็แข็ง ปลาก็คาว ร้อนด้วย แถมคนแน่นมาก เด็กเสิร์ฟไม่ใส่ใจ ความรู้สึกพอๆกับอยู่ร้านบุฟเฟต์ชื่อดังในไทย
ผมสั่งไปเยอะมาก เพราะหิว แต่กินไม่หมด สุดท้ายเขี่ยข้าวทิ้งกินแต่หน้ามัน
จากนั้นก็กลับโรงแรมด้วยสติที่ใกล้เลือนลาง ในเวลาเกือบตี 1
ท้ายนี้ใคร่กราบขอบพระคุณที่ติดตามครับ ใครผ่านไปผ่านมา แวะ ติ-ชมได้นะครับ
สัญญาว่าจะตอบทุกคอมเมนท์
มือใหม่หัดเที่ยว + รีวิวขอรับ พบ EP.2 ได้เร็วๆ นี้
[CR] Hong Kong เที่ยวไม่ง้อไกด์ ไปไม่ง้อใคร ทั้งหลง และ มึน แต่ติดตรึงในดวงใจ EP.1
Edit : เพิ่มลิงค์
EP.2 http://pantip.com/topic/32178924 <<< โจ๊กฮุงลี , พระใหญ่อันศักดิ์สิทธิ์ , สำนักชีฉีหลิน+สวนหนานเหลียน , SOL , ข้าวอบหม้อดิน
EP.3 http://pantip.com/topic/32186966 <<< อาหารร้านดาวมิชลิน , บันไดเลื่อนที่ยาวที่สุดในโลก , ขึ้นเขาเดอะพีค , ชาร์ลี บราวน์
EP.4 http://pantip.com/topic/32194294 <<< พิซซ่าอันเท่าฝาบ้าน , ล็อกเกอร์เก็บของ , In Town Check In , ขึ้นเครื่องกลับไทย
สวัสดีครับ รีวิวนี้ก็เป็นรีวิวแรกของผมเลยนะครับ ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ยังไงฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะครับ
เกริ่นนำเล็กน้อย สำหรับผู้ที่ไปเหยียบดินแดนฮ่องกงจนพรุนแล้ว รีวิวนี้อาจไม่น่าสนใจเท่าใด แต่สำหรับผมมันคือครั้งแรกครับ
ที่ไปต่างประเทศด้วยตัวเองครั้งแรก ขึ้นเครื่องบินตัวคนเดียวครั้งแรก ไม่มีเพื่อนไปด้วย ไม่มีครอบครัวไปด้วย และไม่ได้ไปกับทัวร์
อดีตฮ่องกงนี้ผมเคยไปมาแล้ว แต่เป็นการไปกับทัวร์ และเป็นเพียง Stop Over ขากลับ (วันครึ่ง) ขาไปแวะเพียง Transit เครื่องเพื่อไปอเมริกา
และตอนนั้นก็อายุเพียง 14
จริงๆ ใจผมอยากไปญี่ปุ่น แต่เมื่อประมาณต้นเดือนมกราคม 57 เพจโปรโมชั่นเพจนึง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ได้มีโปรฮ่องกงของสายการบิน Emirates มา ในราคารวมทุกสิ่งเพียง 5,960 ผมจึงไม่ลังเลที่จะลองการเที่ยวคนเดียวครั้งแรกที่ฮ่องกงนี้ โดยจองไป 4วัน3คืน
ในส่วนโรงแรม ผมจองไปที่นิยมของชาวไทยอย่าง Hop Inn. ครับ
และยังได้ซื้อประกันการเดินทางไว้ด้วย เผื่อเหตุสุดวิสัย
ผมซื้อตั๋วต่างๆ ไปจากไทยครับ ในราคาที่ประหยัดกว่าไปซื้อหน้างานจริงเยอะพอควร
Edit : เพิ่มสถานที่ซื้อตั๋วนะครับ เนื่องจากหลังไมค์กันเข้ามาเยอะ ผมการันตีว่าตั๋วที่นี่ใช้ได้จริง (เพราะใช้มาแล้ว 55+)
และคุณบอลก็บริการดีมาก รวดเร็วในการโต้ตอบเมล์ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
22 พฤษภาคม 2557
วันแรกของการเดินทาง
ผมเตรียมเงินสดไปทั้งสิ้น 7,000 เหรียญ โดยเรต ณ วันที่แลกคือ 1 ต่อ 4.23
ออกเดินทางกันเลย
ระหว่างทางเดินก็จะมีบอร์ดให้ดูตลอด ไม่ต้องกลัวพลาดเลย
ผมชอบมุมนี้จัง มันดูอลังดี
ลำนี้นี่เอง ที่จะพาเราโบยบิน
บะบาย ไทยแลนด์
สายการบินนี้ขาไปกับขากลับ คนละเรื่องเลยครับ การบริการขาไปดีกว่าราวฟ้ากับดิน
(อารมณ์โดนเหยียดเชื้อชาตินิดนึง ว่าตานี่เอเชียนะ)
แต่เอาเถอะมาดูบรรยากาศเล็กๆบนเครื่องดีกว่า
ถึงแล้ว แต่หมอกจัดมาก ถึงมากที่สุด
เมื่อออกจากงวงช้างมา ก็เจอกับป้ายนี้ครับ
ยินดีต้อนรับสู่ฮ่องกง มีภาษาไทยด้วย
จากนั้นเรายังต้องนั่งรถไฟต่อไปอีก เพื่อไปผ่านตม. และรับกระเป๋ากัน
บนรถไฟคนแน่นขนัด
รถไฟวิ่งเร็วมาก
จากนั้นก็เดินตามทางไปเรื่อยๆ โดยมีความจำในหัวจากรีวิวของผู้ที่เคยไปมาแล้ว ว่าจะต้องเจอโน่นนี่นั่น แต่ก็ไม่เจอ เจอแต่ทางเดิน
ก็เดินตามเค้า โง่ๆ เซ่อๆ ไป
จนกระทั่งเดินถึงตม. ก็ยังไม่รู้เรื่องว่าเนี่ยคือ ตม.แระนะ ยังจะถ่ายรูปอีก (สังเกตุจนท.ด้านซ้ายกำลังจะเข้ามาห้าม ไม่ให้ถ่ายรูป)
คือเรื่องตม. นี่โง่มาก คิดว่าจะผ่านยาก ไอ้เราก็เตรียมไปซะเยอะทั้งนามบัตร หนังสือรับรองการทำงาน E-Ticket ขากลับ ใบจองโรงแรม
สรุป ด้วยความเมา (จากไวน์บนเครื่อง คือซัดไป 6 ขวดได้) ยื่นไปแค่ Passport เค้าถามว่าครั้งแรกเหรอ พอตอบเยส พี่ท่านก็ยิ้มให้ แล้ว Print Slip อะไรไม่รู้ยื่นคืนมาพร้อม Passport เราก็คิดว่าต้องไปเจออีกด่านป่ะวะ เพราะที่จำได้มันต้องปั้มลงสมุดไม่ใช่เหรอ
ปรากฎ หลุดออกมาตรงรับกระเป๋าเฉย โคตรงง ถึงโรงแรมต้องขอยืมที่แม๊กซ์เค้ามาเย็บ เดี๋ยวหายไปล่ะงานงอก
รับกระเป๋ากันเถอะ
ให้ดูห้องน้ำเค้านิดนึง คือมีที่วางของพร้อมกับช่องเสียบกระเป๋าเดินทาง คืออำนวยความสะดวกมากๆ
ไม่ว่าคุณจะปลดหนักหรือเบา เราช่วยคุณได้ ของที่คุณถือมา ไม่ต้องเป็นห่วง
จากนั้นก็ขึ้นไป 1 ชั้น เป็นชั้นขาออก เพื่อซื้อซิมที่ร้านนี้ 1010
ไม่ต้องทำอะไรมาก ยื่นมือถือไป บอกสิ่งที่ต้องการ เดี๋ยวเค้าจะเก็บเงินคุณไปและจัดการให้คุณเสร็จสรรพ
และที่สำคัญ เค้าจะเอาซิมเดิมแปะกาวคืนไว้ในซองซิมกันหายด้วย (บริการดีสุดๆไปเลย)
ผมเลือกวิธีเข้าเมืองด้วย Airport Express นะครับ
(คราวหน้าขาเข้าเมืองจะนั่งรถเมล์ เพื่อดูเมืองเค้าบ้าง เริ่มชินกะการเดินทาง อิอิ ส่วนขากลับค่อย AE เพื่อ Intown Check In พอ)
เมื่อถึงสถานีปลายทาง จะมี Shuttle bus มารับเราไปส่งตามจุดต่างๆ ฟรีอีกครั้ง
เราจะนั่งสาย K3 เพื่อไป จิมซาจุ่ยกันครับ
และเนื่องจากผมบินบ่าย ถึงก็เย็น ออกมาก็มืด คนเลยม่ายมี
นั่งคนเดียวเลยครับ สบายกันไป อิอิ
ถึงโรงแรมที่จองไว้ เป็นห้องเดี่ยว แต่ได้อัพเกรดเป็นห้องเตียงคู่ ใหญ่ขึ้น สบายขึ้น เหมือนจะดี
แต่มีประสบการณ์ที่ไม่ดีเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ในโรงแรม (ไม่เกี่ยวกับโรงแรมโดยตรง)
หากรีวิวนี้มีผู้สนใจ ผมจะแยกรีวิว Hop Inn. ออกมาต่างหากอีกครั้งครับ
วันแรกตามแพลนคือ ไปเที่ยว Temple Street Night Market และกินซูชิ
แต่ด้วยความโง่ + Google map ห่วยแตกสุดๆ หลงตั้งกะหาโรงแรม แล้วยังจะหาร้านซูชิอีก
เอาคู่มือไปด้วย แต่ดันไม่ได้พก เดินตาม Google map พี่ท่านพาผมเดินจนจะออกนอกเมือง
สุดท้ายตัดสินใจ กลับโรงแรมถาม Front ซะเลย ก็เลยรอดมาได้
รถไฟใต้ดินที่นั่นดูไม่ยากเลยครับ ง่ายจริงๆยอมรับเลย แม้สายจะเยอะแยะ แต่ดูง่ายมากๆ
ขั้นแรกลงไปใต้ดิน หาสายที่จะไป Tsuen Wan และนั่งไปลงที่ สถานี Jordan ทางออก A
ถึงแว้ว
ผู้คนมากมาย ข้าวของเยอะแยะ ถ้าไม่ติดว่ามีแต่คนพูดจีนใส่ คงคิดว่าจตุจักรไปแล้ว
ส่วนคนที่กลัวอดอาหารไทย ไม่ต้องกลัวนะครับ ที่นี่มีเยอะมาก
ตลาดแห่งนี้ มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า ตลาดนัดผู้ชาย ตอนแรกสงสัย ผู้ชายยังไง ต่างหูก็มี แหวนก็มี เสื้อผ้าผู้หญิงก็มี
จนมาเจอเจ้าสิ่งนี้เลยเริ่มเข้าใจ
สุดท้ายหลงไปหลงมา กว่าจะลากสังขารไปถึง Sushi One ได้ ก็เกือบปิดร้าน
ไม่รู้เพราะเหนื่อยกับการเดินทาง หรือยังไม่ชินกับการใช้ชีวิต หรือเพราะลด 50% จึงไม่รู้สึกว่าอร่อยเลยแม้แต่น้อย
ข้าวก็แข็ง ปลาก็คาว ร้อนด้วย แถมคนแน่นมาก เด็กเสิร์ฟไม่ใส่ใจ ความรู้สึกพอๆกับอยู่ร้านบุฟเฟต์ชื่อดังในไทย
ผมสั่งไปเยอะมาก เพราะหิว แต่กินไม่หมด สุดท้ายเขี่ยข้าวทิ้งกินแต่หน้ามัน
จากนั้นก็กลับโรงแรมด้วยสติที่ใกล้เลือนลาง ในเวลาเกือบตี 1
ท้ายนี้ใคร่กราบขอบพระคุณที่ติดตามครับ ใครผ่านไปผ่านมา แวะ ติ-ชมได้นะครับ
สัญญาว่าจะตอบทุกคอมเมนท์
มือใหม่หัดเที่ยว + รีวิวขอรับ พบ EP.2 ได้เร็วๆ นี้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น