บทก่อนหน้า
บทที่ ๑
http://pantip.com/topic/32012168
บทที่ ๒
หลังจากชายหนุ่มลับตัวไป ดาริกานอนดูหนังต่อไปอีกพักใหญ่ ๆ จนรู้สึกหิวจึงลุกขึ้นไปเปิดตู้เย็นแบบ ‘มินิบาร์’ ที่อยู่ในห้อง แต่พบเพียงขวดน้ำเปล่าสองขวด ขนมขบเคี้ยวอีกไม่กี่ถุง และช็อคโกแล็ตสองแท่ง จึงปิดทีวีแล้วเดินออกไปยังห้องนั่งเล่น หญิงสาวเปิดตู้เย็นใหญ่ที่ตั้งอยู่ในมุมครัวโดยหวังว่าจะมีอาหารอะไรให้กินบ้าง แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อเจอตู้เย็นที่ค่อนข้างว่างเปล่า มีเพียงน้ำเปล่า ไวน์ขาวและแชมเปญแช่อยู่ไม่กี่ขวด
“พี่วีนี่ ทิ้งเราไว้คนเดียวแล้วจะหาอะไรไว้ให้กินด้วยก็ไม่มีเลยนะ” พึมพำบ่นผู้เป็น ‘สามี’ อยู่คนเดียว คนหิวยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลาและพบว่าเป็นเวลาเลยเที่ยงเล็กน้อย ความคิดบางอย่างจึงบังเกิดพร้อมรอยยิ้ม
“ไปกินข้าวกับพี่วีดีกว่า” ว่าแล้วก็เดินกลับไปห้องของตนเอง หยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือมุมห้องขึ้นมาทำท่าจะกดหมายเลข ก่อนจะชะงักไปเมื่อระลึกได้ว่า เธอยังไม่มีหมายเลขโทรศัพท์มือถือของเขาเลย
“โอ๊ย อะไรกันนี่ โล่สามีดีเด่นปีนี้ อย่าหวังจะได้เลยไอ้พี่วี มีอย่างที่ไหน เอาภรรยาที่เพิ่งกลับมาถึงบ้านหลังจากไปอยู่ที่อื่นตั้งสี่ปีมาทิ้งไว้คนเดียว อาหารก็ไม่ทิ้งไว้ให้ แม้แต่เบอร์โทรศัพท์ก็ไม่มี บ้าที่สุดเลย” บ่นพึมพำพลางเดินหาหมายเลขโทรศัพท์ของรีสอร์ทไปทั่วแต่ก็ไม่เจอ จนสุดท้ายไปได้นามบัตรของชายหนุ่มซึ่งวางอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือในห้องนอนของเขา จึงกดหมายเลขแล้วกดโทรออก
“Blue Ocean Yacht Club and Resort, Ladda’s speaking. How may I help you?
เสียงหวานปลายสายตอบรับเป็นภาษาอังกฤษ ตามมาตรฐานโรงแรมหลายดาว ดาริกาแจ้งความจำนงเป็นภาษาไทย
“สวัสดีค่ะ ขอสายคุณปรวีร์ค่ะ”
“รอสักครู่นะคะ” ปลายสายว่าอย่างนั้น ก่อนจะได้ยินเสียงสัญญาณรอสาย ชั่วอึดใจเดียว ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงอีกคนตอบกลับมา แหม กว่าจะเข้าถึงเจ้าของรีสอร์ทนี่มันยากจริงแฮะ หญิงสาวคิดใจใจ
“Blue Ocean Yacht Club and Resort, Maleewan’s speaking. How may I help you?
“สวัสดีค่ะ ขอสายคุณวีค่ะ” หญิงสาวตอบง่าย ๆ หากคนปลายสายยังคงถามกลับน้ำเสียงเป็นงานเป็นการ ติดจะรำคาญน้อย ๆ
“ไม่ทราบใครจะเรียนสายคะ”
“ดาริกาค่ะ” คนหิวเริ่มหงุดหงิด หลายนาทีที่พยายามต่อโทรศัพท์ถึงเขาแต่ก็ยังไม่ได้คุยกัน และต้องตอบคำถามซ้ำสองครั้ง ทำให้หิวธรรมดาเริ่มจะกลายเป็นโมโหหิว !
“คุณวีออกไปทานข้าวค่ะ มีอะไรฝากไว้ไหมคะ”
“เขาไปทานที่ไหนคะ” แม้แต่ตัวเองยังรู้สึกได้ถึงความหงุดหงิดในน้ำเสียงที่ถามออกไป
“เอ่อ... ห้องอาหาร Blue Lotus ค่ะ” ปลายสายทำท่าลังเลก่อนที่จะบอกออกมา เพราะคงจะสัมผัสอะไรบางอย่างในน้ำเสียงของเธอได้
“ขอบคุณค่ะ” เมื่อได้คำตอบที่ต้องการ ดาริกาก็วางสายทันที ไม่เปิดโอกาสให้คนทางปลายสายได้ถามอะไรอีก
หญิงสาวสำรวจตัวเองในกระจกเงาแบบเต็มตัวในห้องนอน ก่อนจะพบว่าเสื้อผ้าชุดที่เธอใส่อยู่ค่อนข้างยับยู่จากการนอนเกลือกกลิ้งดูหนังบนเตียง จึงเปลี่ยนเป็นชุดเดรสสั้นแขนกุดสีดำความยาวเหนือเข่าขึ้นมาพอสมควร เผยเรียวขายาว ตัวชุดเป็นผ้ายืดที่แนบไปกับรูปร่าง อวดสะโพกผาย เอวคอด และหน้าอกหน้าใจที่เกินมาตรฐานหญิงไทยไปนิด เมื่อพอใจกับชุดที่ใส่ หญิงสาวก็ตบแป้งเล็กน้อย หยิบลิปกลอสมาแต้มริมฝีปาก ฉีดน้ำหอมอีกนิด จากนั้นใส่รองเท้าส้นสูงแบบลำลอง เมื่อเรียบร้อยก็หยิบกระเป๋าและเดินออกจากบ้าน เมื่อมองเห็นรถยนต์ของชายหนุ่มจอดอยู่ก็นิ่งคิดสักพัก ก่อนจะตัดสินใจก้าวเดิน
ห้องอาหาร Blue Lotus หาไม่ยาก เพราะมีป้ายบอกทางที่ชัดเจน ใช้เวลาเดินไม่กี่นาที หญิงสาวก็พาตัวเองมายืนอยู่หน้าห้องอาหารซึ่งมีทั้งส่วนที่เป็นห้องแอร์ กรุกระจกมองเห็นทะเลสีครามทอดยาวสุดสายตา กับส่วนที่เป็นเทอเรซ เปิดโล่งรับลมและกลิ่นอายทะเลเต็มที่ ดาริกากวาดสายตาไปยังบริเวณที่เป็นเทอเรซเพื่อมองหาชายหนุ่ม ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นเขานั่งอยู่ ไม่ใช่คนเดียวอย่างที่เธอคิด แต่กับผู้หญิงหน้าตาสะสวยทีเดียว คนที่โมโหหิวธรรมดาเลยรู้สึกโมโหหิวมาก !
หนอย อีตาพี่วี บอกว่างานยุ่ง มีกรุ๊ปเข้า ทิ้งเราไว้บ้านแต่ตัวเองออกมานั่งกินข้าวกับสาว หญิงสาวเข่นเขี้ยวในใจ ก่อนจะเดินตรงไปยังสองหนุ่มสาวที่กำลังก้มอ่านเมนูตรงหน้า
“ขอโทษค่ะ ขอนั่งด้วยคนได้ไหมคะ” ส่งเสียงออกไป เรียกสองคนที่นั่งอยู่ก่อนให้เงยหน้าขึ้นมองด้วยความรู้สึกที่แตกต่าง ฝ่ายหญิงมองอย่างตระหนก สายตาอ่านได้ความว่า นี่ไม่ใช่ศูนย์อาหารนะยะ จะได้ขอนั่งร่วมโต๊ะ ! ในขณะแววตาฝ่ายชายอ่านได้ว่า เฮ้ย ! มาได้ไง ก่อนจะตั้งสติได้ และหันไปกล่าวกับหญิงสาวร่วมโต๊ะ
“ขอตัวสักครู่นะครับคุณลักษณ์” แล้วก็คว้าแขนคนที่ยืนอยู่ให้เดินห่างออกไป
“น้องดา มาได้ยังไง” ถามน้ำเสียงกระซิบกระซาบ
“น้องดาหิว ตู้เย็นพี่วีไม่มีอะไรให้กินเลย ก็เลยกะว่าจะมาหาอะไรกินกับพี่วี แต่... ฮึ ! ใครจะไปรู้ล่ะว่าพี่วีจะไม่ว่าง” ว่าแล้วก็ปรายสายตาไปยังโต๊ะที่ชายหนุ่มเพิ่งจากมา ก่อนจะหันกลับมากล่าวน้ำเสียงเง้างอด
“งานยุ่งแบบนี้บอกตรง ๆ ก็ได้ น้องดาจะไปว่าอะไรคะ” ชายหนุ่มชะงักไปเพราะตามไม่ทัน ก่อนจะร้องเสียงหลง
“เฮ้ย ! ไม่ใช่... งานจริง ๆ” แต่ดูเหมือนคนฟังจะไม่เชื่อ
“ไม่เห็นต้องปิดบังเลย มีแฟนก็มีไปสิคะ หรือเราจะไปหย่ากันเลยดี พี่วีจะได้มีอิสระ ไม่ต้องแอบน้องดาแบบนี้” หมายความตามที่พูด รู้สึกไม่ชอบใจที่ตนเองเป็นสาเหตุให้คนที่รักเหมือนพี่ชายต้องทำอะไรหลบ ๆ ซ่อน ๆ และสงสารผู้หญิงที่ถึงจะเป็นคนรักของเขา แต่สถานะจริง ๆ คือ ‘ชู้’ จะแค่ทางใจหรือทางกายด้วยก็เถอะ
“งานจริง ๆ นั่นน่ะลูกค้า คุณพิลาสลักษณ์ส่งกรุ๊ปใหญ่ให้เราประจำ กรุ๊ปวันนี้ก็ของเธอ ส่งกรุ๊ปเสร็จพี่วีเลยเลี้ยงข้าวเขา” ชายหนุ่มอธิบาย หากแต่คนฟังปักใจเสียแล้ว เพราะจำสายตาของหญิงสาวที่เงยขึ้นมามองเธอได้ดี ถ้าไม่มีอะไรกัน ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงทำหน้าราวกับเธอมาขัดจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มอย่างนั้นเล่า
“กล้าแนะนำว่าน้องดาเป็นใครหรือเปล่าล่ะ” ถามพลางยักคิ้วอย่างท้าทาย ปากแข็งดีนัก กล้าบอกไหมเล่าว่าเธอคือภรรยา ว่าแล้วก็เดินนำเขากลับมาที่โต๊ะอาหาร ได้ยินเสียงก้าวเท้ายาว ๆ ตามมา และก่อนที่เธอจะทันตั้งตัง เขาก็เดินมายืนเคียง ยื่นแขนมาโอบเอวและแนะนำเธอกับผู้หญิงที่เงยหน้ามองด้วยดวงตาเบิกนิด ๆ
“ขอโทษครับคุณลักษณ์ ขออนุญาตแนะนำให้รู้จักภรรยาผม ดาริกา เดชดำงรงกุลครับ” แนะนำกับคนที่นั่งอยู่แล้วก็หันมายักคิ้วให้คนที่อยู่ในอ้อมแขน ราวกับจะบอกว่า ทำไมจะไม่กล้าเล่า เล่นเอาคนที่ไม่คาดว่าเขาจะกล้าแนะนำเธอกับผู้หญิงตรงหน้า เพราะมั่นใจมากว่าสองคนนี้เป็นอะไรกันมากกว่าคู่ค้าแน่นอนถึงกับอ้าปากค้าง ในใจเข่นเขี้ยว แนะนำเฉย ๆ ก็ได้ ไม่เห็นต้องเปลี่ยนนามสกุลให้ด้วยเลย พี่วีบ้า ก่อนจะหันไปยิ้มแหยกล่าวทักทายหญิงสาวตรงหน้า เมื่อชายหนุ่มแนะนำให้รู้จัก
“ส่วนนี่คุณพิลาสลักษณ์แห่ง The Luxury Holidays ครับน้องดา รู้จักกันไว้ ต่อไปน้องดาเข้ามาช่วยงานพี่วีคงได้ติดต่อกันมากขึ้น”
“สวัสดีค่ะคุณพิลาสลักษณ์” ดาริกายกมือไหว้เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายมีวัยวุฒิมากกว่า
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ หวังว่าต่อไปคงได้คุยกันมากขึ้น แต่ตอนนี้น้องดาไม่รบกวนแล้วค่ะ เชิญตามสบาย น้องดาจะไปสั่งอาหารให้ไปส่งที่บ้าน แล้วเจอกันตอนเย็นค่ะพี่วี” ว่าเสร็จก็หันมาบอกชายหนุ่ม ก่อนที่จะพาร่างสูงระหงเดินไปยังเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม เพื่อจัดการสั่งอาหารกลางวันสำหรับตนเอง
ปรวีร์หันกลับมายิ้มให้คนที่นั่งตรงข้าม หญิงสาวเงียบไปตั้งแต่เขาแนะนำภรรยาให้รู้จัก ไม่ใช่ว่าชายหนุ่มจะไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรกับตน แต่เพราะเขาไม่ได้คิดอะไรกับเธอมากไปกว่าคนร่วมธุรกิจกัน เขาจึงไม่เคยตอบรับไมตรีที่หญิงสาวยื่นมาให้ แต่เขาก็ไม่เคยปฏิเสธเธออย่างจริงจังเช่นกัน ยังคงไปไหนมาไหนด้วย รับประทานอาหารร่วมกันบ่อย ๆ แม้เขาจะบอกตัวเองว่าเขาไปกับเธอในฐานะคู่ค้าเท่านั้น แต่ก็พอรู้ว่าหญิงสาวรู้สึกและคิดว่ามีอะไรระหว่างเขาและเธอมากกว่านั้น
ชายหนุ่มยอมรับว่าไม่กล้าปฏิเสธออกไปตรง ๆ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ของรีสอร์ทถูกส่งมาจาก The Luxury Holidays จึงไม่อยากทำอะไรที่จะเป็นการทำลายความสัมพันธ์อันดีนี้ลงซึ่งอาจจะส่งผลต่อธุรกิจ แต่เมื่อดาริกาเข้ามาได้จังหวะพอดี เขาจึงฉวยโอกาสเปิดตัว ‘ภรรยา’ ซึ่งก็เป็นการบอกหญิงสาวไปกลาย ๆ ว่าเขาไม่ใช่คนตัวเปล่า และเป็นเหตุผลว่าทำไมที่ผ่านมาเขาจึงไม่เคยพัฒนาความสัมพันธ์กับเธอมากไปกว่าที่เคยเป็นมา
ปรวีร์ได้แต่หวังว่า พิลาสลักษณ์จะมีความเป็นมืออาชีพพอที่จะแยกเรื่องส่วนตัวและเรื่องงานออกจากกัน เพราะหากหลังจากนี้พิลาสลักษณ์ไม่ส่งลูกค้ามาให้ รีสอร์ทของเขาต้องประสบกับปัญหาอย่างแน่นอน
หมี่ฮกเกี้ยน โลบะ ปอเปี๊ยะสด โอ๊ะเอ๋ว อาวโป่ง ห่อหมก ทอดมันภูเก็ต ปลาทรงเครื่อง น้ำชุบ ติ่มซำ... ปรวีร์ก้มลงอ่านรายการในกระดาษในมือที่คนตรงหน้าส่งให้ในทันทีที่เขาก้าวเข้าบ้าน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนที่ยืนยิ้มแฉ่งด้วยใบหน้าที่มีเครื่องหมายคำถามขนาดใหญ่คาดอยู่บนหน้าผาก
“แหม ดูทำหน้าเข้า มันคืออาหารที่น้องดาอยากกินจนจะลงแดงแล้วค่ะ และมันเป็นหน้าที่ของสามีที่ดีที่จะพาน้องดาตระเวณกินด้วย เข้าใจไหมคะ” ตอบแล้วก็ยิ้มประจบ ก็มีแต่เขานี่ละที่จะพาเธอไปหากินของเหล่านี้ได้ จะให้ไปเองคนเดียวก็กระไรอยู่
“คืนนี้เลยหรือไง”
“ใช่ค่ะ พี่วีไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสิคะ น้องดาไม่อยากควงท่านผู้บริหาร” ว่าพลางย่นจมูกใส่ชุดสูททำงานของเขา ชายหนุ่มจึงกล่าวขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าตามคำสั่งอย่างว่าง่าย ดูท่าทางแล้ว หากเขาไม่ตามใจเธอ คืนนี้ชีวิตของเขาอาจจะไม่สงบสุขเป็นแน่
เพราะดาริกาอยู่ในชุดเสื้อกล้ามเข้ารูปสีขาวกับกระโปรงบานยาวและรองเท้าแตะสาน ชายหนุ่มจึงออกมาในชุดกางเกงขาสั้นเพียงเข่า เสื้อยืดสีกรมท่าขนาดพอดีตัว และรองเท้าแตะแบบคีบ เมื่อเดินมาจนถึงคนที่ยืนรออยู่ก็ยื่นแขนให้ ซึ่งหญิงสาวก็คล้องแขนเข้ากับแขนแข็งแรงของเขาในทันที ก่อนที่จะเดินควงกันออกจากบ้านตรงไปยังรถที่จอดอยู่ด้านหลัง
“น้องดาอยากกินอะไรก่อน หวังว่าจะไม่อยากกินทุกอย่างในกระดาษนั่นภายในคืนนี้หรอกนะ” ชายหนุ่มถามคนที่กำลังก้าวขึ้นรถที่เขาเปิดประตูให้ซึ่งกำลังฮัมเพลงเบา ๆ อย่างอารมณ์ดี
“อืม... น้องดาว่าไปกินหมี่ก่อนก็ได้ค่ะ” บอกชื่อร้านหมี่ฮกเกี้ยนชื่อดังของภูเก็ตที่จำได้ว่ารสชาติอร่อยล้ำ หากคนฟังกลับบอกว่า
“เดี๋ยวนี้ร้านนั้นไม่อร่อยเหมือนเดิมแล้วล่ะ พี่วีว่าไปที่ตลาดดีกว่า จะได้มีให้เลือกหลายร้าน”
“อ้าว... หรือคะ งั้นก็ตามที่พี่วีว่าก็ได้ค่ะ ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องขับรถไป ๆ มา ๆ หลายที่ แต่พวกห่อหมก น้ำชุบ ปลาทรงเครื่อง พวกนี้เอาไว้เป็นกลางวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน ส่วนติ่มซำก็เป็นพรุ่งนี้เช้า” วางแผนเป็นฉาก ๆ ราวกับว่าใช้เวลาทั้งวันคิดเรื่องนี้ จนคนฟังอดยิ้มไม่ได้
“หมายความว่าพรุ่งนี้เช้าพี่วีต้องพาน้องดาไปกินติ่มซำอีกอย่างนั้นใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ” ตอบพลางฉีกยิ้มตาหยีอย่างประจบประแจง ซึ่งคนถูกประจบก็ทำได้เพียงส่ายศีรษะอย่างอ่อนใจระคนเอ็นดูเท่านั้นเอง
พันธนาการสีกุหลาบ บทที่ ๒
บทที่ ๑ http://pantip.com/topic/32012168
หลังจากชายหนุ่มลับตัวไป ดาริกานอนดูหนังต่อไปอีกพักใหญ่ ๆ จนรู้สึกหิวจึงลุกขึ้นไปเปิดตู้เย็นแบบ ‘มินิบาร์’ ที่อยู่ในห้อง แต่พบเพียงขวดน้ำเปล่าสองขวด ขนมขบเคี้ยวอีกไม่กี่ถุง และช็อคโกแล็ตสองแท่ง จึงปิดทีวีแล้วเดินออกไปยังห้องนั่งเล่น หญิงสาวเปิดตู้เย็นใหญ่ที่ตั้งอยู่ในมุมครัวโดยหวังว่าจะมีอาหารอะไรให้กินบ้าง แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อเจอตู้เย็นที่ค่อนข้างว่างเปล่า มีเพียงน้ำเปล่า ไวน์ขาวและแชมเปญแช่อยู่ไม่กี่ขวด
“พี่วีนี่ ทิ้งเราไว้คนเดียวแล้วจะหาอะไรไว้ให้กินด้วยก็ไม่มีเลยนะ” พึมพำบ่นผู้เป็น ‘สามี’ อยู่คนเดียว คนหิวยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลาและพบว่าเป็นเวลาเลยเที่ยงเล็กน้อย ความคิดบางอย่างจึงบังเกิดพร้อมรอยยิ้ม
“ไปกินข้าวกับพี่วีดีกว่า” ว่าแล้วก็เดินกลับไปห้องของตนเอง หยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือมุมห้องขึ้นมาทำท่าจะกดหมายเลข ก่อนจะชะงักไปเมื่อระลึกได้ว่า เธอยังไม่มีหมายเลขโทรศัพท์มือถือของเขาเลย
“โอ๊ย อะไรกันนี่ โล่สามีดีเด่นปีนี้ อย่าหวังจะได้เลยไอ้พี่วี มีอย่างที่ไหน เอาภรรยาที่เพิ่งกลับมาถึงบ้านหลังจากไปอยู่ที่อื่นตั้งสี่ปีมาทิ้งไว้คนเดียว อาหารก็ไม่ทิ้งไว้ให้ แม้แต่เบอร์โทรศัพท์ก็ไม่มี บ้าที่สุดเลย” บ่นพึมพำพลางเดินหาหมายเลขโทรศัพท์ของรีสอร์ทไปทั่วแต่ก็ไม่เจอ จนสุดท้ายไปได้นามบัตรของชายหนุ่มซึ่งวางอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือในห้องนอนของเขา จึงกดหมายเลขแล้วกดโทรออก
“Blue Ocean Yacht Club and Resort, Ladda’s speaking. How may I help you?
เสียงหวานปลายสายตอบรับเป็นภาษาอังกฤษ ตามมาตรฐานโรงแรมหลายดาว ดาริกาแจ้งความจำนงเป็นภาษาไทย
“สวัสดีค่ะ ขอสายคุณปรวีร์ค่ะ”
“รอสักครู่นะคะ” ปลายสายว่าอย่างนั้น ก่อนจะได้ยินเสียงสัญญาณรอสาย ชั่วอึดใจเดียว ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงอีกคนตอบกลับมา แหม กว่าจะเข้าถึงเจ้าของรีสอร์ทนี่มันยากจริงแฮะ หญิงสาวคิดใจใจ
“Blue Ocean Yacht Club and Resort, Maleewan’s speaking. How may I help you?
“สวัสดีค่ะ ขอสายคุณวีค่ะ” หญิงสาวตอบง่าย ๆ หากคนปลายสายยังคงถามกลับน้ำเสียงเป็นงานเป็นการ ติดจะรำคาญน้อย ๆ
“ไม่ทราบใครจะเรียนสายคะ”
“ดาริกาค่ะ” คนหิวเริ่มหงุดหงิด หลายนาทีที่พยายามต่อโทรศัพท์ถึงเขาแต่ก็ยังไม่ได้คุยกัน และต้องตอบคำถามซ้ำสองครั้ง ทำให้หิวธรรมดาเริ่มจะกลายเป็นโมโหหิว !
“คุณวีออกไปทานข้าวค่ะ มีอะไรฝากไว้ไหมคะ”
“เขาไปทานที่ไหนคะ” แม้แต่ตัวเองยังรู้สึกได้ถึงความหงุดหงิดในน้ำเสียงที่ถามออกไป
“เอ่อ... ห้องอาหาร Blue Lotus ค่ะ” ปลายสายทำท่าลังเลก่อนที่จะบอกออกมา เพราะคงจะสัมผัสอะไรบางอย่างในน้ำเสียงของเธอได้
“ขอบคุณค่ะ” เมื่อได้คำตอบที่ต้องการ ดาริกาก็วางสายทันที ไม่เปิดโอกาสให้คนทางปลายสายได้ถามอะไรอีก
หญิงสาวสำรวจตัวเองในกระจกเงาแบบเต็มตัวในห้องนอน ก่อนจะพบว่าเสื้อผ้าชุดที่เธอใส่อยู่ค่อนข้างยับยู่จากการนอนเกลือกกลิ้งดูหนังบนเตียง จึงเปลี่ยนเป็นชุดเดรสสั้นแขนกุดสีดำความยาวเหนือเข่าขึ้นมาพอสมควร เผยเรียวขายาว ตัวชุดเป็นผ้ายืดที่แนบไปกับรูปร่าง อวดสะโพกผาย เอวคอด และหน้าอกหน้าใจที่เกินมาตรฐานหญิงไทยไปนิด เมื่อพอใจกับชุดที่ใส่ หญิงสาวก็ตบแป้งเล็กน้อย หยิบลิปกลอสมาแต้มริมฝีปาก ฉีดน้ำหอมอีกนิด จากนั้นใส่รองเท้าส้นสูงแบบลำลอง เมื่อเรียบร้อยก็หยิบกระเป๋าและเดินออกจากบ้าน เมื่อมองเห็นรถยนต์ของชายหนุ่มจอดอยู่ก็นิ่งคิดสักพัก ก่อนจะตัดสินใจก้าวเดิน
ห้องอาหาร Blue Lotus หาไม่ยาก เพราะมีป้ายบอกทางที่ชัดเจน ใช้เวลาเดินไม่กี่นาที หญิงสาวก็พาตัวเองมายืนอยู่หน้าห้องอาหารซึ่งมีทั้งส่วนที่เป็นห้องแอร์ กรุกระจกมองเห็นทะเลสีครามทอดยาวสุดสายตา กับส่วนที่เป็นเทอเรซ เปิดโล่งรับลมและกลิ่นอายทะเลเต็มที่ ดาริกากวาดสายตาไปยังบริเวณที่เป็นเทอเรซเพื่อมองหาชายหนุ่ม ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นเขานั่งอยู่ ไม่ใช่คนเดียวอย่างที่เธอคิด แต่กับผู้หญิงหน้าตาสะสวยทีเดียว คนที่โมโหหิวธรรมดาเลยรู้สึกโมโหหิวมาก !
หนอย อีตาพี่วี บอกว่างานยุ่ง มีกรุ๊ปเข้า ทิ้งเราไว้บ้านแต่ตัวเองออกมานั่งกินข้าวกับสาว หญิงสาวเข่นเขี้ยวในใจ ก่อนจะเดินตรงไปยังสองหนุ่มสาวที่กำลังก้มอ่านเมนูตรงหน้า
“ขอโทษค่ะ ขอนั่งด้วยคนได้ไหมคะ” ส่งเสียงออกไป เรียกสองคนที่นั่งอยู่ก่อนให้เงยหน้าขึ้นมองด้วยความรู้สึกที่แตกต่าง ฝ่ายหญิงมองอย่างตระหนก สายตาอ่านได้ความว่า นี่ไม่ใช่ศูนย์อาหารนะยะ จะได้ขอนั่งร่วมโต๊ะ ! ในขณะแววตาฝ่ายชายอ่านได้ว่า เฮ้ย ! มาได้ไง ก่อนจะตั้งสติได้ และหันไปกล่าวกับหญิงสาวร่วมโต๊ะ
“ขอตัวสักครู่นะครับคุณลักษณ์” แล้วก็คว้าแขนคนที่ยืนอยู่ให้เดินห่างออกไป
“น้องดา มาได้ยังไง” ถามน้ำเสียงกระซิบกระซาบ
“น้องดาหิว ตู้เย็นพี่วีไม่มีอะไรให้กินเลย ก็เลยกะว่าจะมาหาอะไรกินกับพี่วี แต่... ฮึ ! ใครจะไปรู้ล่ะว่าพี่วีจะไม่ว่าง” ว่าแล้วก็ปรายสายตาไปยังโต๊ะที่ชายหนุ่มเพิ่งจากมา ก่อนจะหันกลับมากล่าวน้ำเสียงเง้างอด
“งานยุ่งแบบนี้บอกตรง ๆ ก็ได้ น้องดาจะไปว่าอะไรคะ” ชายหนุ่มชะงักไปเพราะตามไม่ทัน ก่อนจะร้องเสียงหลง
“เฮ้ย ! ไม่ใช่... งานจริง ๆ” แต่ดูเหมือนคนฟังจะไม่เชื่อ
“ไม่เห็นต้องปิดบังเลย มีแฟนก็มีไปสิคะ หรือเราจะไปหย่ากันเลยดี พี่วีจะได้มีอิสระ ไม่ต้องแอบน้องดาแบบนี้” หมายความตามที่พูด รู้สึกไม่ชอบใจที่ตนเองเป็นสาเหตุให้คนที่รักเหมือนพี่ชายต้องทำอะไรหลบ ๆ ซ่อน ๆ และสงสารผู้หญิงที่ถึงจะเป็นคนรักของเขา แต่สถานะจริง ๆ คือ ‘ชู้’ จะแค่ทางใจหรือทางกายด้วยก็เถอะ
“งานจริง ๆ นั่นน่ะลูกค้า คุณพิลาสลักษณ์ส่งกรุ๊ปใหญ่ให้เราประจำ กรุ๊ปวันนี้ก็ของเธอ ส่งกรุ๊ปเสร็จพี่วีเลยเลี้ยงข้าวเขา” ชายหนุ่มอธิบาย หากแต่คนฟังปักใจเสียแล้ว เพราะจำสายตาของหญิงสาวที่เงยขึ้นมามองเธอได้ดี ถ้าไม่มีอะไรกัน ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงทำหน้าราวกับเธอมาขัดจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มอย่างนั้นเล่า
“กล้าแนะนำว่าน้องดาเป็นใครหรือเปล่าล่ะ” ถามพลางยักคิ้วอย่างท้าทาย ปากแข็งดีนัก กล้าบอกไหมเล่าว่าเธอคือภรรยา ว่าแล้วก็เดินนำเขากลับมาที่โต๊ะอาหาร ได้ยินเสียงก้าวเท้ายาว ๆ ตามมา และก่อนที่เธอจะทันตั้งตัง เขาก็เดินมายืนเคียง ยื่นแขนมาโอบเอวและแนะนำเธอกับผู้หญิงที่เงยหน้ามองด้วยดวงตาเบิกนิด ๆ
“ขอโทษครับคุณลักษณ์ ขออนุญาตแนะนำให้รู้จักภรรยาผม ดาริกา เดชดำงรงกุลครับ” แนะนำกับคนที่นั่งอยู่แล้วก็หันมายักคิ้วให้คนที่อยู่ในอ้อมแขน ราวกับจะบอกว่า ทำไมจะไม่กล้าเล่า เล่นเอาคนที่ไม่คาดว่าเขาจะกล้าแนะนำเธอกับผู้หญิงตรงหน้า เพราะมั่นใจมากว่าสองคนนี้เป็นอะไรกันมากกว่าคู่ค้าแน่นอนถึงกับอ้าปากค้าง ในใจเข่นเขี้ยว แนะนำเฉย ๆ ก็ได้ ไม่เห็นต้องเปลี่ยนนามสกุลให้ด้วยเลย พี่วีบ้า ก่อนจะหันไปยิ้มแหยกล่าวทักทายหญิงสาวตรงหน้า เมื่อชายหนุ่มแนะนำให้รู้จัก
“ส่วนนี่คุณพิลาสลักษณ์แห่ง The Luxury Holidays ครับน้องดา รู้จักกันไว้ ต่อไปน้องดาเข้ามาช่วยงานพี่วีคงได้ติดต่อกันมากขึ้น”
“สวัสดีค่ะคุณพิลาสลักษณ์” ดาริกายกมือไหว้เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายมีวัยวุฒิมากกว่า
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ หวังว่าต่อไปคงได้คุยกันมากขึ้น แต่ตอนนี้น้องดาไม่รบกวนแล้วค่ะ เชิญตามสบาย น้องดาจะไปสั่งอาหารให้ไปส่งที่บ้าน แล้วเจอกันตอนเย็นค่ะพี่วี” ว่าเสร็จก็หันมาบอกชายหนุ่ม ก่อนที่จะพาร่างสูงระหงเดินไปยังเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม เพื่อจัดการสั่งอาหารกลางวันสำหรับตนเอง
ปรวีร์หันกลับมายิ้มให้คนที่นั่งตรงข้าม หญิงสาวเงียบไปตั้งแต่เขาแนะนำภรรยาให้รู้จัก ไม่ใช่ว่าชายหนุ่มจะไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรกับตน แต่เพราะเขาไม่ได้คิดอะไรกับเธอมากไปกว่าคนร่วมธุรกิจกัน เขาจึงไม่เคยตอบรับไมตรีที่หญิงสาวยื่นมาให้ แต่เขาก็ไม่เคยปฏิเสธเธออย่างจริงจังเช่นกัน ยังคงไปไหนมาไหนด้วย รับประทานอาหารร่วมกันบ่อย ๆ แม้เขาจะบอกตัวเองว่าเขาไปกับเธอในฐานะคู่ค้าเท่านั้น แต่ก็พอรู้ว่าหญิงสาวรู้สึกและคิดว่ามีอะไรระหว่างเขาและเธอมากกว่านั้น
ชายหนุ่มยอมรับว่าไม่กล้าปฏิเสธออกไปตรง ๆ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ของรีสอร์ทถูกส่งมาจาก The Luxury Holidays จึงไม่อยากทำอะไรที่จะเป็นการทำลายความสัมพันธ์อันดีนี้ลงซึ่งอาจจะส่งผลต่อธุรกิจ แต่เมื่อดาริกาเข้ามาได้จังหวะพอดี เขาจึงฉวยโอกาสเปิดตัว ‘ภรรยา’ ซึ่งก็เป็นการบอกหญิงสาวไปกลาย ๆ ว่าเขาไม่ใช่คนตัวเปล่า และเป็นเหตุผลว่าทำไมที่ผ่านมาเขาจึงไม่เคยพัฒนาความสัมพันธ์กับเธอมากไปกว่าที่เคยเป็นมา
ปรวีร์ได้แต่หวังว่า พิลาสลักษณ์จะมีความเป็นมืออาชีพพอที่จะแยกเรื่องส่วนตัวและเรื่องงานออกจากกัน เพราะหากหลังจากนี้พิลาสลักษณ์ไม่ส่งลูกค้ามาให้ รีสอร์ทของเขาต้องประสบกับปัญหาอย่างแน่นอน
หมี่ฮกเกี้ยน โลบะ ปอเปี๊ยะสด โอ๊ะเอ๋ว อาวโป่ง ห่อหมก ทอดมันภูเก็ต ปลาทรงเครื่อง น้ำชุบ ติ่มซำ... ปรวีร์ก้มลงอ่านรายการในกระดาษในมือที่คนตรงหน้าส่งให้ในทันทีที่เขาก้าวเข้าบ้าน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนที่ยืนยิ้มแฉ่งด้วยใบหน้าที่มีเครื่องหมายคำถามขนาดใหญ่คาดอยู่บนหน้าผาก
“แหม ดูทำหน้าเข้า มันคืออาหารที่น้องดาอยากกินจนจะลงแดงแล้วค่ะ และมันเป็นหน้าที่ของสามีที่ดีที่จะพาน้องดาตระเวณกินด้วย เข้าใจไหมคะ” ตอบแล้วก็ยิ้มประจบ ก็มีแต่เขานี่ละที่จะพาเธอไปหากินของเหล่านี้ได้ จะให้ไปเองคนเดียวก็กระไรอยู่
“คืนนี้เลยหรือไง”
“ใช่ค่ะ พี่วีไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสิคะ น้องดาไม่อยากควงท่านผู้บริหาร” ว่าพลางย่นจมูกใส่ชุดสูททำงานของเขา ชายหนุ่มจึงกล่าวขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าตามคำสั่งอย่างว่าง่าย ดูท่าทางแล้ว หากเขาไม่ตามใจเธอ คืนนี้ชีวิตของเขาอาจจะไม่สงบสุขเป็นแน่
เพราะดาริกาอยู่ในชุดเสื้อกล้ามเข้ารูปสีขาวกับกระโปรงบานยาวและรองเท้าแตะสาน ชายหนุ่มจึงออกมาในชุดกางเกงขาสั้นเพียงเข่า เสื้อยืดสีกรมท่าขนาดพอดีตัว และรองเท้าแตะแบบคีบ เมื่อเดินมาจนถึงคนที่ยืนรออยู่ก็ยื่นแขนให้ ซึ่งหญิงสาวก็คล้องแขนเข้ากับแขนแข็งแรงของเขาในทันที ก่อนที่จะเดินควงกันออกจากบ้านตรงไปยังรถที่จอดอยู่ด้านหลัง
“น้องดาอยากกินอะไรก่อน หวังว่าจะไม่อยากกินทุกอย่างในกระดาษนั่นภายในคืนนี้หรอกนะ” ชายหนุ่มถามคนที่กำลังก้าวขึ้นรถที่เขาเปิดประตูให้ซึ่งกำลังฮัมเพลงเบา ๆ อย่างอารมณ์ดี
“อืม... น้องดาว่าไปกินหมี่ก่อนก็ได้ค่ะ” บอกชื่อร้านหมี่ฮกเกี้ยนชื่อดังของภูเก็ตที่จำได้ว่ารสชาติอร่อยล้ำ หากคนฟังกลับบอกว่า
“เดี๋ยวนี้ร้านนั้นไม่อร่อยเหมือนเดิมแล้วล่ะ พี่วีว่าไปที่ตลาดดีกว่า จะได้มีให้เลือกหลายร้าน”
“อ้าว... หรือคะ งั้นก็ตามที่พี่วีว่าก็ได้ค่ะ ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องขับรถไป ๆ มา ๆ หลายที่ แต่พวกห่อหมก น้ำชุบ ปลาทรงเครื่อง พวกนี้เอาไว้เป็นกลางวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน ส่วนติ่มซำก็เป็นพรุ่งนี้เช้า” วางแผนเป็นฉาก ๆ ราวกับว่าใช้เวลาทั้งวันคิดเรื่องนี้ จนคนฟังอดยิ้มไม่ได้
“หมายความว่าพรุ่งนี้เช้าพี่วีต้องพาน้องดาไปกินติ่มซำอีกอย่างนั้นใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ” ตอบพลางฉีกยิ้มตาหยีอย่างประจบประแจง ซึ่งคนถูกประจบก็ทำได้เพียงส่ายศีรษะอย่างอ่อนใจระคนเอ็นดูเท่านั้นเอง