5 เดือนมาแล้วที่กล้องถ่ายภาพ และอุปกรณ์อื่นๆของผมโดนขโมยไป เรื่องเกิดขึ้นวันที่ 11 ส.ค. 2556 ที่นครสวรรค์ คนร้ายได้งัดบ้านครอบครัวภรรยาของผมช่วงหัวค่ำเป็นช่วงที่คนในบ้านออกไปข้างนอกกันเกือบหมด เหลือเพียงพ่อตาของผม อายุ 70 ปี อยู่เพียงคนเดียว คนร้ายได้ปีนระเบียงหลังบ้านและงัดประตูเข้าไปรื้อค้นภายในห้อง และได้ขโมยกระเป๋ากล้องถ่ายภาพ ที่ข้างในมีกล้องและอุปกรณ์เต็มกระเป๋าไป (ทั้งกล้อง Canon 7D,เลนส์ Sigma 70-200 mm.f/2.8, เลนส์ Sigma 50 mm.f/1.4, เลนส์ Canon Macro 100 mm.f/2.8, TeleConverter Sigma 1.4x ,แฟลช Canon 580EXII) ทันทีที่ผมเปิดห้องนอน ก็พบสภาพห้องที่ถูกรื้อค้น ก็รีบติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที รอนานครับกว่าจะมา(เกือบ 2 ชั่วโมง) พอมาถึงก็ตรวจบริเวณรอบๆ แล้วก็บอกกับผมว่ารออีก2วันนะ จะมีพิสูจน์หลักฐานมาตรวจที่เกิดเหตุอีกที(เอ่อ...โจรขึ้นวันนี้ อีก2วันมาเก็บหลักฐาน มันคงอยู่ครบนะครับ ช่วงนั้นฝนตกด้วย) ผมบอกตรงๆว่าไม่ได้คาดหวังเลยว่าเขาจะจับคนร้ายได้ เท่าที่ทำได้คือ ให้น้องชายภรรยาช่วยกระจายข่าว รวมถึงรูปพรรณของสิ่งของที่ถูกขโมยไป ให้กับร้านรับฝากขายของมือสอง และเพื่อนๆ คนรู้จักให้มากที่สุด เผื่อคนร้ายจะเอาของที่ขโมยไปมาขาย ซึ่งไม่มีวี่แววที่ผมจะได้ของคืนเลยจริงๆครับ เซ็งมากๆทั้งเสียอุปกรณ์การทำงานไป 1 ชุด แล้วยังเจอการทำงานแบบตำรวจไทยบางนายแบบนี้อีก ทำใจอย่างเดียวเลยจริงๆ เวลาที่ผมกลับไปนครสวรรค์แรกๆ ก็ยังมีการสอบถามน้องชายภรรยาว่ามีข่าวบ้างไหม คำตอบคือเงียบครับ ไม่มีข่าวเลย ยิ่งบางครั้งมีตำรวจ สภ.โกรกพระ แวะมามาที่โรงงาน ช่วงเทศกาลปีใหม่,ตรุษจีน (มาทำไมคงรู้นะครับ เขามาขอความอนุเคราะห์ครับ มาตลอดเลย แต่ไม่เคยตามของที่โดนขโมยไปคืนมาให้ได้ เก่งไหมครับ!! ) ผมก็ถามนะว่าเป็นยังไงบ้าง คำตอบคือพี่ตามให้อยู่ แต่ไม่มีข่าวเลย 555+(ขอหัวเราะให้ทีมงานนี้สักครั้ง) เวลาผ่านไปกว่า 5 เดือน ยอมรับเลยว่าทำใจว่าไม่ได้ของคืนแล้ว แต่วัน 13 ก.พ. 2557 ระหว่างผมรอเพื่อนที่นัดกัน จะไปซื้ออุปกรณ์ถ่ายภาพแถวสะพานเหล็ก ผมเดินไปเจอเลนส์ Sigma 70-200 ตัวนึง บนแผงค้าอุปกรณ์กล้องมือ2 ตรงหัวมุมสะพานเหล็ก ผมจำได้ทันทีว่านี่มันเป็นเลนส์ที่ผมโดนขโมยไป อึ้งครับ!! ผมรีบเข้าไปแกล้งว่าสนใจเลนส์ ขอดูหน่อย ยิ่งพิจารณายิ่งใช่ครับ ผมวางเลนส์ตัวนั้นลงแล้วเดินไปแบบไม่มีอะไรให้คนขายสงสัย แล้วผมรีบเดินไปหาตำรวจที่ป้อมทันที แจ้งให้เขาทราบข้อมูลคร่าวๆ พี่ๆตำรวจเลยตามผมมาที่ร้านนั้น เพราะเป็นช่วงที่เขากำลังเก็บร้าน สุดท้ายก็รู้ว่าร้านนี้เป็นแผงขายกล้องมือ2 จะมีคนวิ่งของเอาของมาขายต่ออีกที ซึ่งคนวิ่งของนี่ ก็ไปได้เลนส์ตัวนี้มาจากโรงรับจำนำ แถวสะพานใหม่ ดอนเมือง คราวนี้ผมเองกลับต้องดดนสอบปากคำจากร้อยเวรฯ เกือบ 4 ชั่วโมง เนื่องจากเลนส์ตัวนี้ผมซื้อมือ2มา ไม่มีหลักฐานการซื้อ หรือหมายเลขยืนยันได้ ที่ผมจำได้คือตัวเลนส์ผมติด"เคฟล่า"เอง มันเป็นลักษณะเฉพาะมากๆ สุดท้ายเลยรู้ว่าเลนส์ตัวนี้เป็น1ชิ้นจากทั้งเซ็ทที่หลุดจำนำ แล้วมีคนซื้อมาเพื่อขายต่อ เเต่เขาไม่มีเงินพอที่จะเอาของออกมาหมด ตั้งใจว่าจะเอาตัวนี้มาขายก่อน แล้วค่อยกลับไปเอาที่เหลือมาอีกที คราวนี้ผมเลยบอกไปว่าผมมีหลักฐานการซื้ออุปกรณ์ตัวอื่นๆนะ เพราะเป็นเครื่องศูนย์ มีครบเลย เราเอาตัวนี้ไปรวมกับที่เหลือแล้วเช็คดูได้ไหม ซึ่งก็เป็นแนวทางที่ตำรวจเห็นด้วย แต่เพราะวันรุ่งขึ้น(14 ก.พ.)เป็นวันหยุดวันมาฆบูชา และโรงรับจำนำหยุดประจำวันเสาร์ด้วย ผมเลยต้องรออีก 2 วัน กว่าจะได้ไปดูของครับ พอถึงวันอาทิตย์ทาง สน.พระราชวังก็ให้พี่ "ด.ต.วีระ"ไปด้วย พี่เขาประสานงานให้ทุกอย่างเลย ทำให้การต่อรองกับดรงรับจำนำง่ายขึ้น(โรงรับจำนำมีกฎหมายคุ้มครอง และที่สำคัญ เส้นใหญ่มากครับ ใครของหายแล้วเจอที่โรงรับจำนำ อย่าไปโวยวายนะครับ คุยดีๆก่อน ขอให้เขาช่วย โอกาสได้ของคืนจะง่ายกว่า) ทันทีที่พนักงานอุ้มกระเป๋ากล้องลงมาให้ดูของว่าใช่ของผมไหม บอกได้เลยว่า โคตรดีใจ มันเป็นของผมแน่ๆ ผู้จัดการโรงรับจำนำบอกเลยว่าผมโชคดีมาก สำหรับเขานี่มันโอกาส "1 ใน ล้าน"เลยนะ ส่วนใหญ่ไม่ได้คืน ถึงผมต้องเสียเงินไถ่ถอนของออกมาด้วยเงิน 21,700 บาทก็เถอะ เพราะผมได้ชื่อคนจำนำ ซึ่งน่าจะเป็นคนร้ายที่งัดบ้านและขโมยมา ซึ่งพอเช็คชื่นในระบบออนไลน์แล้ว โอ้ว!!นี่มันโจรมีระดับเลยนะ มูลค่าความเสียหายที่มันทำนี่หลายสิบล้านเลย ขณะนี้ถูกจับตัวได้แล้ว แล้วอีกไม่กี่วันผมจะขึ้นไปแจ้งความให้ดำเนินคดีกับมันอีก 1 คดี ตอนนี้รู้สึกดีนะที่ได้ของคืน ครบทุกชิ้น ภูมิใจที่ตามของได้เอง ที่สำคัญโจรที่ขโมยของผม มันไม่ใช่โจรห้าร้อย...มันเป็น"โจร 50 ล้าน" แต่ผมได้ของคืนเฟ้ย!! 55555+
ลิ้งค์ของคนร้ายที่ถูกจับได้ครับ
http://www.phitsanulokhotnews.com/2013/11/02/45019
(แชร์ประสบการณ์)โดนงัดบ้านขโมยกล้อง...5เดือนผ่านไป ได้กล้องคืน
ลิ้งค์ของคนร้ายที่ถูกจับได้ครับ
http://www.phitsanulokhotnews.com/2013/11/02/45019