วันนี้อ่านหลายกระทู้ จะมีหลายคนที่ยังคงแสดงความเห็นไปในทางโยนความผิดให้ กกต. ที่ยังไม่ยอมอนุมัติให้กู้เงิน มาจ่ายค่าข้าว
เพราะเรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบของ รัฐบาลอยู่แล้ว เพราะตั้งแต่ กขช.มีมติรับจำนำข้าวปี 56/57 ในวันที่ 26 สิงหาคม 2556 ก็เป็นเรื่องที่ให้สงสัยอยู่แล้วว่า จะเอาเงินจากไหนมารับจำนำข้าวรอบนี้
http://pantip.com/topic/30896282
ซึ่งจากการขออนุมัติโครงการจำนำข้าวปี 56/57 จากครม.ในวันที่ 3 กันยายน 2556 ทางกระทรวงพาณิชย์เสนอกรอบวงเงินไว้ 270,000 ล้าน โดยให้กระทรวงการคลังพิจารณาหาเงินทุนให้ ธกส.ดำเนินโครงการ
ซึ่งทางกระทรวงการคลังได้เสนอข้อสังเกตว่า วงเงินดังกล่าวต้องอยู่ในกรอบ 5 แสนล้านบาทเดิม
ซึ่งตรงนี้ คิดว่าทั้งครม.ก็คงเข้าใจตรงกันว่า เงินจำนำข้าวปี 56/57 นี้จะอยู่ในกรอบวงเงินเดิมที่ 5 แสนล้านบาท
http://pantip.com/topic/31466605
ซึ่งหลังจากวันนั้น รัฐบาลก็คงมีการพิจารณาหาเงินเพื่อรับจำนำในรอบนี้ให้ได้ โดยสุดท้าย ได้ข้อสรุปว่า จะกู้ประมาณ 130,000 ล้าน และใช้เงินจากการระบายข้าวประมาณ 140,000 ล้านบาท
ซึ่งตามแนวคิดนี้ เงินที่ต้องใช้ก่อนก็ต้องเป็นส่วนของเงินกู้แน่นอน เพราะเงินที่จะได้จากการระบายข้าว ก็จะค่อย ๆ ได้มา กว่าจะได้ครบทั้งก้อน ก็คงต้องไปใช้จ่ายในช่วงท้ายโครงการ
แต่เนื่องจากมีปัญหาติดขัดอยู่ตรงที่ กรอบ 5 แสนล้านบาท ภายในสิ้นปี 56 ดังนั้น ทางกระทรวงการคลังจึงยังไม่ดำเนินการกู้เงินในทันที ถึงแม้รับรู้ถึงความจำเป็นของเงินก้อนนี้ ว่าจำเป็นต้องใช้เร่งด่วนก็ตาม
http://pantip.com/topic/31243539
ซึ่งเมื่อกระทรวงการคลังไม่ยอมเริ่มกระบวนการกู้เงินสักที ทางธกส.ก็ไม่มีทางออกอื่น นอกจากการทวงเงินการระบายข้าวจากกระทรวงพาณิชย์ และชะลอการจ่ายเงิน
แต่ในข้อเท็จจริง ก็รู้ ๆ กันอยู่แล้วว่า การระบายข้าวทำไม่ได้อย่างที่คิด ได้เงินน้อยกว่าที่คาด เมื่อระบายข้าวไม่ได้ ก็ไม่มีเงินจ่ายค่าข้าวให้ชาวนาแน่นอน แต่รัฐบาลก็ทำแค่การดึงเวลา รับปากกับชาวนาไปวัน ๆ กะดึงให้เลยสิ้นปี เพื่อปิดบัญชีจำนำข้าวให้อยู่ในกรอบวงเงิน 5 แสนล้านบาทที่กำหนดให้ได้เท่านั้น
แล้วค่อยดำเนินการกู้เงิน ในเดือนนี้
แต่เมื่อรัฐบาลยุบสภาไปก่อน ทำให้กระบวนการกู้เงิน ต้องล่าช้าออกไป เพราะต้องปรึกษากับ กกต.ก่อนกู้
ซึ่งเมื่อพิจารณาจากปริมาณข้าวที่รับจำนำเข้ามา ตั้งแต่เริ่มโครงการในเดือนตุลาคม 2556
สิ้นเดือนตุลาคม มียอดข้าวเข้าโครงการประมาณ 1 ล้านตัน ก็ต้องการเงินประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท ยังไม่จ่ายเงินชาวนาเลย
สิ้นเดือน พฤศจิกายน มีข้าวเข้าโครงการประมาณ 4.5 ล้านตัน คิดเป็นเงินประมาณ 7 หมื่นล้านบาท จ่ายเงินให้ชาวนาไปประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
สิ้นเดือนธันวาคม มีข้าวเข้าโครงการประมาณ 9.5 ล้านตัน คิดเป็นเงินประมาณ 1.6 แสนล้านบาท จ่ายเงินให้ชาวนาไปประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท
จะเห็นว่า โครงการจำนำข้าวเป็นหนี้ชาวนา ประมาณ 6 หมื่นล้านบาท ตั้งแต่สิ้นเดือนพฤศจิกายน (ก่อนยุบสภา)แล้ว
และก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงสิ้นปี เป็นหนี้ถึง 135,000 ล้านบาท
แต่รัฐบาลก็ไม่มีความพยายามที่จะชำระหนี้ก้อนนี้ให้ได้ กลับทำแค่ดึงเวลาให้ถึงสิ้นปีแค่นั้น
และค่อยทำหนังสือถึง กกต.เมื่อต้นปีแค่นั้น (หนังสือถึง กกต. วันที่ 8 มกราคม)
ซึ่งถ้ารัฐบาลจริงใจกับชาวนาจริง ก็คงไม่ปล่อยเวลาล่วงเลยมาจนถึงต้นปี ค่อยวางแผนจะกู้เงินอย่างนี้
ถ้ารักชาวนามาก ก็คงจะกู้ตั้งแต่เริ่มโครงการแล้ว เพราะมันดูออกไม่ยากว่า ไม่มีเงินจ่ายค่าข้าวแน่นอน
หรือถ้ามองโลกในแง่ดีมาก ๆ คิดว่าจะระบายข้าวได้มาก อย่างที่กระทรวงพาณิชย์พยายามโม้เป็นระยะ ๆ อย่างน้อยถึงช่วงเดือนพฤศจิกายน ก็ควรจะยอมรับความจริงว่า ไม่ควรเชื่อ กระทรวงพาณิชย์มาก แล้ววางแผนกู้เงินได้แล้ว
หรือเป็นเพราะช่วงนั้น เรื่องการเมืองรุมเร้ารัฐบาลมากไป เลยคิดไม่ทัน ปล่อยเวลาให้เลยมา จนเกิดการยุบสภาก่อน ก็ควรจะรีบปรึกษา กกต.ตั้งแต่เดือนธันวาคมแล้ว ไม่ใช่ปล่อยเวลาล่วงเลยมาอีกเดือนนึง ค่อยเดือดร้อน เพราะเจอทวงค่าข้าวอย่างหนัก
แล้วไม่พอยังเล่นโยนความผิดให้ กกต.รับไปด้วย
มันคงไม่ถูกต้องเท่าไหร่แน่ ๆ
เรื่องเงินจำนำข้าว อย่าโยนความผิดให้ กกต.เลยครับ
เพราะเรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบของ รัฐบาลอยู่แล้ว เพราะตั้งแต่ กขช.มีมติรับจำนำข้าวปี 56/57 ในวันที่ 26 สิงหาคม 2556 ก็เป็นเรื่องที่ให้สงสัยอยู่แล้วว่า จะเอาเงินจากไหนมารับจำนำข้าวรอบนี้
http://pantip.com/topic/30896282
ซึ่งจากการขออนุมัติโครงการจำนำข้าวปี 56/57 จากครม.ในวันที่ 3 กันยายน 2556 ทางกระทรวงพาณิชย์เสนอกรอบวงเงินไว้ 270,000 ล้าน โดยให้กระทรวงการคลังพิจารณาหาเงินทุนให้ ธกส.ดำเนินโครงการ
ซึ่งทางกระทรวงการคลังได้เสนอข้อสังเกตว่า วงเงินดังกล่าวต้องอยู่ในกรอบ 5 แสนล้านบาทเดิม
ซึ่งตรงนี้ คิดว่าทั้งครม.ก็คงเข้าใจตรงกันว่า เงินจำนำข้าวปี 56/57 นี้จะอยู่ในกรอบวงเงินเดิมที่ 5 แสนล้านบาท
http://pantip.com/topic/31466605
ซึ่งหลังจากวันนั้น รัฐบาลก็คงมีการพิจารณาหาเงินเพื่อรับจำนำในรอบนี้ให้ได้ โดยสุดท้าย ได้ข้อสรุปว่า จะกู้ประมาณ 130,000 ล้าน และใช้เงินจากการระบายข้าวประมาณ 140,000 ล้านบาท
ซึ่งตามแนวคิดนี้ เงินที่ต้องใช้ก่อนก็ต้องเป็นส่วนของเงินกู้แน่นอน เพราะเงินที่จะได้จากการระบายข้าว ก็จะค่อย ๆ ได้มา กว่าจะได้ครบทั้งก้อน ก็คงต้องไปใช้จ่ายในช่วงท้ายโครงการ
แต่เนื่องจากมีปัญหาติดขัดอยู่ตรงที่ กรอบ 5 แสนล้านบาท ภายในสิ้นปี 56 ดังนั้น ทางกระทรวงการคลังจึงยังไม่ดำเนินการกู้เงินในทันที ถึงแม้รับรู้ถึงความจำเป็นของเงินก้อนนี้ ว่าจำเป็นต้องใช้เร่งด่วนก็ตาม
http://pantip.com/topic/31243539
ซึ่งเมื่อกระทรวงการคลังไม่ยอมเริ่มกระบวนการกู้เงินสักที ทางธกส.ก็ไม่มีทางออกอื่น นอกจากการทวงเงินการระบายข้าวจากกระทรวงพาณิชย์ และชะลอการจ่ายเงิน
แต่ในข้อเท็จจริง ก็รู้ ๆ กันอยู่แล้วว่า การระบายข้าวทำไม่ได้อย่างที่คิด ได้เงินน้อยกว่าที่คาด เมื่อระบายข้าวไม่ได้ ก็ไม่มีเงินจ่ายค่าข้าวให้ชาวนาแน่นอน แต่รัฐบาลก็ทำแค่การดึงเวลา รับปากกับชาวนาไปวัน ๆ กะดึงให้เลยสิ้นปี เพื่อปิดบัญชีจำนำข้าวให้อยู่ในกรอบวงเงิน 5 แสนล้านบาทที่กำหนดให้ได้เท่านั้น
แล้วค่อยดำเนินการกู้เงิน ในเดือนนี้
แต่เมื่อรัฐบาลยุบสภาไปก่อน ทำให้กระบวนการกู้เงิน ต้องล่าช้าออกไป เพราะต้องปรึกษากับ กกต.ก่อนกู้
ซึ่งเมื่อพิจารณาจากปริมาณข้าวที่รับจำนำเข้ามา ตั้งแต่เริ่มโครงการในเดือนตุลาคม 2556
สิ้นเดือนตุลาคม มียอดข้าวเข้าโครงการประมาณ 1 ล้านตัน ก็ต้องการเงินประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท ยังไม่จ่ายเงินชาวนาเลย
สิ้นเดือน พฤศจิกายน มีข้าวเข้าโครงการประมาณ 4.5 ล้านตัน คิดเป็นเงินประมาณ 7 หมื่นล้านบาท จ่ายเงินให้ชาวนาไปประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
สิ้นเดือนธันวาคม มีข้าวเข้าโครงการประมาณ 9.5 ล้านตัน คิดเป็นเงินประมาณ 1.6 แสนล้านบาท จ่ายเงินให้ชาวนาไปประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท
จะเห็นว่า โครงการจำนำข้าวเป็นหนี้ชาวนา ประมาณ 6 หมื่นล้านบาท ตั้งแต่สิ้นเดือนพฤศจิกายน (ก่อนยุบสภา)แล้ว
และก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงสิ้นปี เป็นหนี้ถึง 135,000 ล้านบาท
แต่รัฐบาลก็ไม่มีความพยายามที่จะชำระหนี้ก้อนนี้ให้ได้ กลับทำแค่ดึงเวลาให้ถึงสิ้นปีแค่นั้น
และค่อยทำหนังสือถึง กกต.เมื่อต้นปีแค่นั้น (หนังสือถึง กกต. วันที่ 8 มกราคม)
ซึ่งถ้ารัฐบาลจริงใจกับชาวนาจริง ก็คงไม่ปล่อยเวลาล่วงเลยมาจนถึงต้นปี ค่อยวางแผนจะกู้เงินอย่างนี้
ถ้ารักชาวนามาก ก็คงจะกู้ตั้งแต่เริ่มโครงการแล้ว เพราะมันดูออกไม่ยากว่า ไม่มีเงินจ่ายค่าข้าวแน่นอน
หรือถ้ามองโลกในแง่ดีมาก ๆ คิดว่าจะระบายข้าวได้มาก อย่างที่กระทรวงพาณิชย์พยายามโม้เป็นระยะ ๆ อย่างน้อยถึงช่วงเดือนพฤศจิกายน ก็ควรจะยอมรับความจริงว่า ไม่ควรเชื่อ กระทรวงพาณิชย์มาก แล้ววางแผนกู้เงินได้แล้ว
หรือเป็นเพราะช่วงนั้น เรื่องการเมืองรุมเร้ารัฐบาลมากไป เลยคิดไม่ทัน ปล่อยเวลาให้เลยมา จนเกิดการยุบสภาก่อน ก็ควรจะรีบปรึกษา กกต.ตั้งแต่เดือนธันวาคมแล้ว ไม่ใช่ปล่อยเวลาล่วงเลยมาอีกเดือนนึง ค่อยเดือดร้อน เพราะเจอทวงค่าข้าวอย่างหนัก
แล้วไม่พอยังเล่นโยนความผิดให้ กกต.รับไปด้วย
มันคงไม่ถูกต้องเท่าไหร่แน่ ๆ