ขอกราบเท้าละ ขอเชิญ ดร. กปปส ทั้งหลาย มาแสดงภูมิเรื่อง ระบอบปชต กับ การเมือง ในกระทู้นี้ที ( มาช่วยชี้แนะผมที )

กระทู้สนทนา
คือ อ่านเยอะดูเยอะ แล้วทนไม่ไหว ที่เห็นดูถูกคนรากหญ้าอย่างผมว่าไม่มีความคิด เรียนหนังสือน้อย ไม่ควรมีสิทธิ   เดวผมจะขออธิบายความเข้าใจระบอบ ปชต กับ การเมือง เป็นข้อๆ ตามความเข้าใจของผม แล้วเชิญ  ดร. อธิการ หรือ กปปส  คนไหนก็ได้  ที่คิดว่า เข้าใจ ระบอบปชต เข้าใจการเมือง  ช่วยมาชี้แนะผมที  ( ผมจะ ย้ำกระทู้ 3 วัน ถ้าไม่มีใครกล้ามาแสดง ภูมิความรู้ ถือว่า  อธิการ กปปส  เหล่านั้น ฉลาดไม่จริง )


  1. ท่านบอกว่า  เพราะพวกผมไม่เข้าใจ ปชต ทำให้ไม่ได้  คนดี มาบริหารบ้านเมือง  ฉะนั้นพวกผมจึงไม่ควรมีสิทธิเท่าท่าน

      -  ผมอยากจะบอกว่า ท่านครับ ระบอบ ปชต ไม่ใช่ระบอบ ที่ทำให้คนดี ได้อำนาจบริหาร  แต่  ระบอบ ปชต คือ ระบอบ ที่ทำให้  คนต้องทำดีต่อปชชส่วนใหญ่  เพื่อจะได้อำนาจบริหาร   ถามว่าต่างกันตรงไหน  ต่างกันฟ้ากับเหว  เพราะสิ่งท่านเข้าใจ มันคือระบอบ เผด็จการโบราณ ที่อ้างตัวว่าเป็นคนดี  คนอื่นเลวเป็นทุรยศต่อบ้านเมือง ฉะนั้น เราจะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ คนที่เราคิดว่าดี  ได้อำนาจบริหาร  ไม่ว่าจะดูถูก คนเห็นต่าง   ตัดสิทธิ์คนที่เห็นไม่เหมือนตน  ด้วยข้ออ้างหลอกตัวเองต่างๆนานา ( ดังที่ผมจะกล่าวในข้อต่อไป )
        ทีนี้ท่านคงพอจะรู้แล้ว  ว่าทำไม ปชป ไม่เคยได้อำนาจ บริหาร ในวิถี ทาง ปชต  เพราะ ปชป ไม่เคยทำตัวให้ดีกว่า  แล้วไปแข่ง  เพื่อให้ ปชช  เลือก แต่  วิธี ที่ ปชปใช้คือ  ด่าคู่แข่ง เลว  แต่ไม่เคยทำตัวให้ดีกว่า แล้ว ก็หาทางทำลายคู่แข่งทุกอย่าง ไม่เลือกวิธีการ  ขอให้ตนได้อำนาจ   แล้ว ปชช ส่วนใหญ่ ที่ไหนมันจะเลือก

  2. ท่านบอกว่า ยังไม่ควรมีการเลือกตั้ง  แต่ควรให้เทือกตั้ง หรือ สว. ไม่ควรเลือกตั้ง เพราะจะทำลายระบอบ ปชต

        - ข้อนี้ยิ่งชัดเจน ถึงความไม่รู้ ในระบอบ ปชต   ถ้าท่านเข้าใจข้อ 1 ที่ผมพูดไปแล้ว ข้อนี้แถบไม่ต้องตอบ  อย่างที่ผมบอกไปแล้ว  
" ระบอบปชต  คือ  ระบอบที่บังคับให้คนต้องแข่งกันทำดี  เพื่อส่วนรวม  จึงจะได้อำนาจบริหาร "  ถามว่าอะไรคือหัวใจ ของระบอบนี้  ก็คือการเลือกตั้ง  เพราะ  การเลือกตั้ง เป็นหัวใจสำคัญ  ที่ทำให้คน  ที่ต้องการอำนาจ บริหาร  ต้องแข่งกันทำดีต่อส่วนรวม  เพื่อให้ คนส่วนใหญ่ของประเทศได้เลือกตั้ง แล้วตัดสินว่าใคร  ควรได้อำนาจ บริหารประเทศ     


   3. ประเทศไทย ยังไม่ควรใช้  1  สิทธิ   1เสียง เพราะ คนส่วนใหญ่ การศึกษาน้อย  ยากจน ...  บราๆๆ

      - อันนี้มาว่ากันที่ ละประเด็น เรื่องแรก  การ ศึกษา  ถามว่าคนที่จบ  วิศว ,  หมอ  , สถาปัตยกรรม  ในมหาลัย  ได้ลงวิชา การเมืองการปกครองหรือป่าว  ตอบเลยว่าป่าว  หมอแค่ อนาโตมีก็จะไม่ไหว  ก็เรียน มาแค่  ม.6  เหมือนกันหมด  ( ใครจะเถียง ) แล้วเอา  เรื่องการเรียน มาอ้างได้ไง  ก็ ไม่ได้เรียนเหมือนกัน  เคยมีคำพูดของ  ปราญ จีน  ว่า  "อ่านตำราหมื่นเล่มมิสู้เดินทางหมื่นลี้"  ยิ่งเป็นเรื่องการเมือง  ยิ่งเป็นเรื่องชีวิต  คนที่เรียนหนังสือน้อย  เขาต้องดิ้นรน หาเลี้ยงดูพ่อแม่  ตั้งแต่ อายุ  ยังไม่ทัน 20 ด้วยซ้ำ ต้องเจอคนหลายรูปแบบ  มีประสบการณ์ ไม่รู้เท่าไร  เทียบกับคน  ที่เรียนสูงบางคน  ยัง แบมือ ขอตังค์พ่อแม่อยู่เลย  บางทีรับผิดชอบแค่ตัวเองยังไม่ได้เลย  เพราะโลกแคบ

     - ประเด็นต่อมา  หน้าที่การงาน  ท่าน บอกว่า หมอ  ศาล  ต้องได้ สิทธิเลือกตั้งมากกว่า  ผมถามว่า  อาชีพเหล่านี้  ชีวิตจริง ได้ทำงานกับคนหมู่มากไหม  ป่าว  ส่วนใหญ่ทำงานกับคนน้อยๆ  ไม่ได้ บริหารอะไร เท่าไร  ทำงานตามตำรับตำรา  แล้วจะเอา  ความรู้ ความสามารถ อะไรที่บอกว่า  จะเลือกผู้นำได้ดีกว่า  ( ช่วยมาอธิบายหน่อย ) ผิดกับ คนที่ทำงานเป็นลูกน้อง  คนเหล่านี้  เขาเจอเจ้านายหรือผู้นำมาทุกรูปแบบ เขามองออกว่าคนไหนดีเลวยังไงเหมาะสมไหม  ที่จะนำพาชีวิตเขาไปได้  เพราะถ้าเขามองไม่ออก  ชีวิตเขาลำบาก   

     -  ประเด็นต่อมา  เรื่อง ฐานะ  ท่านบอกว่าต้องคนมีเงิน  ถึงจะเลือกคนดีมีประสิทธิภาพได้  ซึ่งผมขอบอกว่าไม่จริง  มุมมองท่านตื้นเขิน โลกแคบ  ในอดีต  ประเทศ กรีกกรุง เอเธน ต้นกำเนิด ปชต  ก็เป็นพวกชนชั้นล่างฐานะไม่ดีที่เรียกร้องและพัฒนา  ระบอบ ปชต  นี้จนรุ่งเรือง  ทำให้  กรุง เอเธน แซงหน้าประเทศเผด็จการแถวๆนั้น  จนทุกวันนี้ชาวโลกที่มีอารยะยอมรับว่า ระบอบ ปชต  ถึงแม้ไม่ดีที่สุดแต่ก็ดีกว่า ระบอบเผด็จการโบราณ แน่นอน  ถามว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้นเพราะ  คนจน  คนยากจนจะเป็นคนกลุ่ม  แรกที่ได้รับผลจากการบริหารบ้านเมือง   และผลที่เขาได้รับ  รุนแรงเดือดร้อนทำให้เขาต้องใช้ สติ ใช้ความคิดประสบการณ์ในการใช้สิทธิ  เลือกตั้งผิดกับคนมีฐานะที่ไม่ค่อยจะได้รับผลอะไร จากการบริหารบ้านเมือง เพราะ ตัวเองอยู่สุขสบายอยู่แล้วทีนี้พอใคร มายุแหย่กระตุ้นอีโก้ ทำให้เกลียด  ก็จะเกลียดแบบไม่มีสติ  ยับยั้งชั่งใจอะไรจะทำอะไรที่เอาแต่ใจ  ให้มันได้สนองความสะใจ  ด้วยเหตุที่เป็นคนรวยไม่เคยลำบาก  จึงไม่ค่อยเห็นใจคนอื่น  ผิดกับคนจน  ที่เขาลำบากเขารู้ว่าความลำบากมันทุกข์ขนาดไหน  การโดนดูถูกมันเจ็บปวดขนาดไหน  แต่คนรวยไม่เคยรู้  จึงยัง แสดงการดูถูกออกหน้าออกตา  เหมือนคนบ้า   ( สมัยก่อนที่  คนจน เขารับเงินซื้อเสียง เพราะ เมื่อก่อน  บ้านเรามันไม่ใช่ระบอบ  ปชต  แท้จริง  เลือกใครไป  เดว มันก็ให้ ป๋าเป็นนายกอยู่ดี   แต่เดวนี้มันไม่ใช่  คนที่เขาเลือกต้องเป็นนายก ต้องทำงานให้เขา  ผลการวิจัย จึงแสดงให้เห็นว่า  การซื้อเสียง แทบไม่มีผลกับการเลือกตั้ง และ สิ่งที่ยืนยัน  คำพูดนี้ คือ การเลือกตั้ง  53  ภายใต้กฎอัยการศึก  ปชช ก็ยังไม่ยอมถูกกดหัว )


       สุดท้าย ที่ผมพูดมา เดวจะหาว่าผมมโนเอาเอง  แต่ผมมีสิ่งยืนยันข้อความข้างบน  นั้นคือ สภาพปัจจุบัน ที่คนรวย คนที่อ้างว่าตัวเองมีการศึกษา  มีประสิทธิภาพดีกว่ากลับให้การสนับสนุน  ม๊อบ  กปปส  เพราะคิดตื้นๆว่าถ้ากำจัดผู้นำที่เราเกลียด  แล้ว  ประเทศชาติจะดีขึ้น  ไม่ว่าวิธีนั้น  จะต้องเหยียบย่ำใครกดหัวใคร   ทั้งที่ความจริง  ประเทศจะเจริญก้าวหน้า  ไม่ใช่แค่มีผู้นำที่ไม่โกง  หรือ มีผู้นำที่ดี แต่มีสิ่งสำคัญกว่านั้น คือ  ปชช  ในชาติต้องมีความรักสามัคคี  เห็นอกเห็นใจกัน  แต่คนที่บอกว่าตนเองฉลาดเรียนสูง ฐานะดี  กลับไม่รู้  กลับเลือกที่จะแก้ปัญหาแบบไม่ใช้สติ ใช้แต่อารมณ์  คือ ดูถูกเพื่อร่วมชาติ  กดหัวเพื่อร่วมชาติ เพื่อ สนองอีดโก้ตนเอง ให้ได้อย่างใจตนเอง ผมถามหน่อยเหอะ  ว่าประเทศชาติ ที่ ประชาชนในชาติดูถูกกัน  เกลียดกัน  จะมีวันเจริญไหมต่อให้เอาพระอิน พระหรม ที่ไหน มาเป็นผู้นำ  ประเทศชาตินั้นมันจะเจริญไปได้ยังไง  มันก็มีแต่ความเสื่อม รออยู่เบื้องหน้า  

       เปรียบ ประเทศเป็นทีม ฟุตบอล ที่ต้องเล่นเป็นทีม  กัปตันทีม ต้องได้รับเลือกจาก เสียงส่วนใหญ่ของลูกทีม  ทีมนั้นถึงจะเล่นบอลได้เป็นทีมเวิร์ค  มีประสิทธิภาพ  แต่ถ้าจะเอาแต่ใจ  ตัวเองต้องเป็นกัปตัน เที่ยวด่าคนอื่น เลว คนอื่นเล่นไม่เก่ง  ทุกคนต้องเชื่อฟังตัวเอง  มันก็ต้องเล่นคนเดว  แล้ว มันจะพาทีมแบบนี้ไปแข่งกับใคร  อย่าหวังจะไปบอลโลก  ไปเตะกับวัด โคกอีแร้งก็แพ้  


        "สุดท้าย ประเทศ ก็เหมือนบ้านหลังหนึ่ง มี ปชช  60 ล้าน เป็นหลังคาแต่ละแผ่น  จะมีตับจากบ้าง  กระเบื้องบ้าง  ทองคำบ้าง  เราก็ไม่ควรจะมาแบ่งชนชั้น มาดูถูกกัน  ใครไม่ใช่ กระเบื้อง  เป็น แค่ตับจาก  เอามันออกไปจากบ้าน  ทุบมันทำลายมัน  ทำแบบนั้น  บ้านนี้ประเทศนี้มันก็เหมือน  บ้านที่หลังคาผัง  จะสวยงามยังไง  มีเฟอร์นิเจอร์แพงแค่ไหน  แต่ถ้าฝนตก แล้วหลังคารั่ว  มันก็ท่วมทั้งบ้าน  มันก็อยู่กันไม่ได้ทั้งบ้าน  ถึงแม้เราต้องพัฒนาคุณภาพ  ของกระเบื้อง  แต่ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน  ตับจากอาจจะพัฒนาไปเป็น กระเบื้องฉนวน  ส่วนใครเป็นทองจะพัฒนาไปเป็น  โซลาเซล  ก็เป็นไป  แต่สิ่งสำคัญ  หลังคาต้องเป็นเนื้อเดียวกัน  มันถึงจะทำให้บ้านนี้ประเทศนี้  ร่มเย็นเป็นสุข "
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่