สวัสดีคร้าบบ พี่ๆ เพื่อนๆ ยังจำ
การประกวดสิ่งประดิษฐ์จากวัสดุไอทีเหลือใช้ที่ประกาศผลไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาได้มั้ยครับ
วันนี้พาพันมีสกู๊ปพิเศษมาฝากพี่ๆทุกคน เป็นรีวิวการไปทัศนศึกษา London Design Festival 2013 ที่ประเทศอังกฤษ ของเจ้าของผลงาน Eco Joy คุณฉัตรไชย บุญฤดี ผู้ชนะเลิศรางวัลที่หนึ่งโครงการ Use Me Again ใส่ความคิด พิชิตขยะ กับผศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต อาจารย์ สถาปนิก นักออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม และที่ปรึกษาโครงการของ Pantip Network เองครับ
อาจารย์สิงห์ผู้ซึ่งมีคิวแน่นตลอดทั้งปี แต่เพื่อไปให้ความรู้กับผู้ชนะเลิศอย่างเต็มที่จึงได้ล็อคคิวตัวเองไว้ให้โครงการนี้ตั้งแต่ตุลาคมปีที่แล้ว ส่วนโปรแกรมทัศนศึกษาครั้งนี้ได้พี่พิทักษ์ศักดิ์หรือพี่คุณ สมาชิกพันทิปที่เรียนอยู่ที่ลอนดอนมาช่วยวางแผนการเดินทางกับอาจารย์สิงห์ซึ่งใช้เวลาจัดโปรแกรมกันนานกว่าครึ่งปีเพราะอีเว้นท์ต่างๆที่ลอนดอนยังไม่ชัดเจน ต่างตั้งใจกันไว้ว่าจะให้เป็นทริปที่เจาะลึกไปเป็น Londoner กันเลยทีเดียว นับว่าพิเศษสุดๆ เฉพาะผู้ชนะเลิศจริงๆครับ
ก่อนอื่น

ต้องขอคารวะผู้ใหญ่ใจดีที่ให้การสนับสนุนน้องพาพันในการจัดทำสกู๊ปพิเศษบันทึกของพาพันทั้ง 4 ตอนนี้ หากไม่ได้ท่านทั้งสอง พาพันคงไม่มีโอกาสไปติดตามเก็บภาพและเรื่องราวของพี่ฉัตรไชยหรือพี่แบงค์กะอาจารย์สิงห์มาฝากพี่ๆ เป็นแน่เลยครับ

ตลอดทั้ง 5 วันตั้งแต่วันที่ 18 ถึง 22 กันยายนที่ผ่านมา พี่แบงค์กะอาจารย์สิงห์ก็เลยมีพาพันร่วมคณะไปลุยลอนดอนด้วย
อ้อ.... เกือบลืมครับ คือว่าภาพในรีวิวนี้บางภาพเป็นของพี่แบงค์และอาจารย์สิงห์ถ่ายไว้เอง และส่งมาให้ ส่วนที่พาพันถ่ายต้องกระซิบพี่ๆ ไว้ก่อนว่าอาจสวยสู้พี่ๆมือโปรไม่ได้ เพราะพาพันยังมือใหม่และบางรูปก็ถ่ายแบบฉุกละหุกจริงๆ ยังไงก็ขอโทษไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ....งั้นเริ่มกันเลย ไปติดตามพวกเค้ากันคร้าบบบ
จาก กรุงเทพ ถึง (100% Design) London บันทึกของพาพัน ตอนที่หนึ่ง

5 ทุ่มครึ่งคืนพุธที่ 17 พวกเรานัดเจอกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ตรงหน้า GATE B5 ครับ พาพันเดินทางโดยใช้ Airport Link พญาไท-สุวรรณภูมิ สาย City Line เพราะรถติดไปไม่ทันรอบ Express Line แต่ก็ยังเร็วดีใช้เวลาประมาณ 45 นาทีมั้งครับ

พอขึ้นมาจากสถานี Airport Link ก็เจอส่วนเชื่อมต่อสนามบินเห็นบูธแลกเงิน SCB กะว่าจะแลกเงินปอนด์อยู่พอดี แต่อาจารย์สิงห์รอเช็คอินพร้อมพาพันอยู่เลยต้องรีบวิ่งไปขึ้นลิฟอย่างด่วนจี๋ ที่ชั้น 4 ผู้โดยสารขาออกเห็นมีบูธแลกเงิน SCB อยู่ 2 จุดครับ พอผ่าน Immigration เรียบร้อยแล้วพาพันก็ตัวเบาขึ้นเพราะเหลือเป้หิ้วขึ้นเครื่องใบเดียวคร้าบบบ ทีนี้ก็มองหา SCB Exchange Booth พาพันจะแลกเงินด้วยบัตรเครดิตครับ

ปลอดภัยไม่ต้องถือเงินสดมาแลก และสะดวกมากสำหรับคนที่ยุ่งๆไม่มีเวลาและไม่ได้ต้องการจะแลกเงินจำนวนเยอะๆ ใช้บัตรเครดิต SCB ซื้อเงินปอนด์ในอัตรแลกเงินของธนาคารได้ไม่มีค่าธรรมเนียมนะครับ พาพันได้กระเป๋าใบใหญ่แถมมาด้วยเพราะซื้อเกิน 20,000 บาทนิดหน่อย เหมือนช่วงนี้เค้ามีโปรโมชั่นแถมกระเป๋าถึงสิ้นเดือนตุลาคมนี้ครับ
เครื่องบินจะออกตีหนึ่งสิบนาทีบินตรงไม่แวะจอดไหนประมาณ 12 ชั่วโมง เผอิญคืนนั้นพี่แบงค์เป็นหวัดไม่สบายนิดหน่อยทุกคนจึงตกลงกันว่าขึ้นเครื่องแล้วนอนเลย จะได้มีแรงไว้เดินดูนิทรรศการ 100% Design London เมื่อถึงครับ ที่จริงก้อง่วงกันทุกคนเลย พี่แบงค์หลับสนิทปลุกไม่ตื่นจนพาพันต้องกระโดดข้ามออกไปเข้าห้องน้ำเพราะอั้นไว้นาน
07:15 Heathrow Airport
ถึงลอนดอนแล้วดีใจจังครับ พวกเรารีบเดินไปด่านตรวจคนเข้าเมืองเพราะคนเยอะมากกกก เข้าคิวและเตรียมพาสปอร์ตพร้อมเอกสารเดินทางเข้าเมืองที่กรอกแล้วตั้งแต่บนเครื่อง คิวรอของจุดตรวจคนเข้าเมืองจะแบ่งคนออกเป็นหลายประเภท EU Citizen / Non EU Citizen / Express line by invitation ฯลฯ พี่แบงค์ต้องมาเข้าคิวอยู่ข้างหลังพาพันกะอาจารย์ถัดออกไปเยอะพอควร ซึ่งเป็นความผิดของพาพันเองที่ไม่ได้นัดแนะกะพี่แบงค์ให้ดีตอนเดินออกจากเครื่อง ทำให้พี่แบงค์ยืนรออยู่ตรงปากทางออกเครื่องคนเดียว ยิ่งยืนคอยคนก็มาเยอะขึ้นๆ พอถึงคิวพาพันเจ้าหน้าที่ชายหน้ายิ้มยาก(แต่ใจดีสุดๆ)ตรวจพาสปอร์ตไปจ้องหน้าพาพันไป แล้วก็ถามว่าทำงานอะไร.... มาทำอะไรที่ลอนดอน.... จะอยู่กี่วัน.... พักที่ไหน..... และมากันกี่คน.... พาพันก้อส่งยิ้มตอบไปว่ามากัน3คนครับ เค้าไม่ยิ้มและกวาดตามองหาถามว่าอีกสองคนอยู่ไหน ให้ไปเรียกมาพร้อมกันหมดแล้วถามคำถามเดียวกันกับเราทีละคน พวกเราเลยโชคดีได้ถูกตรวจเช็คเข้าเมืองพร้อมกันอย่างรวดเร็ว และเมื่อผ่านด่านออกมาแล้วก็ไปรับกระเป๋าเดินทาง แวะเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย แล้วจึงเดินออกมาข้างนอกใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงซึ่งเร็วกว่าที่คิดกันไว้มากเลย พวกเราเห็นว่ายังเช้าไปที่พี่คุณจะมาถึงไปหาที่นั่งกินกาแฟรอดีกว่า



มีตู้ซิมมือถือหลายจุดตรงบริเวณส่วนผู้โดยสารขาเข้า ใครที่มาถึงแล้วต้องการก็สามารถซื้อซิมได้เลยครับ มีหลาย package หลายราคาให้เลือกครับ เริ่มต้นที่ 20 ปอนด์ แต่พวกเราไม่มีใครซื้อ คิดว่าจะแวะไปซื้อที่ร้านตอนเข้าเมืองแทน แต่ปรากฏว่าไม่ได้ซื้อกันซักซิมพวกเราจึงไม่สามารถติดต่อกันได้หากคลาดกันหรือหลงกัน และวิธีการตามหาระหว่างพวกเราขณะเดินทางจึงกลายเป็นเรื่องที่ลุ้น สนุกไปอีกแบบครับ
เดินออกมาได้แป๊บเดียวก็เห็นคนมารอรับกันมากมาย บ้างถือป้าย บ้างก็กระดาษต่างๆ เอ...ว่าแต่พวกเราจะเจอกับพี่คุณมั้ยน๊าาา ว่าแล้วก็เหลือบเห็นชายหนุ่มสวมแว่นตาอยู่ทางซ้าย..... โน่น...พี่คุณยืนรออยู่แล้วครับ พาพันเคยเจอพี่คุณครั้งนึงจึงพอเลาๆจำได้ ดีใจจังคร้าบบบ.....

พี่คุณเข้ามาทักทายแสดงความยินดีจับมือกับพี่แบงค์และสวัสดีอาจารย์สิงห์อย่างเป็นทางการ แต่ทุกคนสนิทกันเร็วมากเพราะติดต่อกันทางอีเมลมานานหลายเดือนมาก อาจารย์ถามว่ามารับเช้าขนาดนี้ตื่นกี่โมงเนี่ย.... พี่คุณบอก “ตื่นตีห้ากว่าครับ” แล้วพี่คุณก้อสำรวจเสื้อผ้าพวกเราว่าโอเคกับอากาศวันนี้ไหม... พี่คุณบอกว่าพวกเราโชคดีมากวันนี้อากาศดี 10-20 องศาไม่มีฝนอาจมีแดดด้วย พวกเราคุยกันไปเดินกันไปเพื่อไปซื้อบัตรหอย หรือ Oystercard ไว้ใช้เดินทางตลอดช่วงเวลาที่อยู่ที่ลอนดอนกันครับ งานนี้พี่คุณลงรายละเอียดการเดินทางแต่ละวันทุกจุดทุกที่แบบไม่มีหลงทางกันเลยล่ะ แถมจะรายงานภูมิอากาศให้พวกเราเตรียมตัวทุกเช้า โอ้... พวกเราสบายแล้วครับ

Oystercard สามารถซื้อเองได้ที่ตู้หรือที่เคาเตอร์ก็ได้ครับ พี่คุณพาพาพันไปที่เคาเตอร์เพื่อสอบถามว่าพวกเราควรใช้แบบไหนที่สะดวกและราคาประหยัด เจ้าหน้าที่หน้าเฉยแต่ใจเย็นมากอธิบายให้ฟังอย่างดีบอกความแตกต่างการใช้บัตรต่างๆ ยืนคุยพักใหญ่ก็ตัดสินใจเลือกซื้อแบบที่เหมาะกับพวกเรา 3 ใบ ใช้บัตรเครดิตซื้อได้ง่ายมากครับ และเจ้าบัตรหอยนี้เมื่อจะเดินทางกลับเมืองไทยสามารถเอาบัตรมาคืนที่สถานีใต้ดินของสนามบิน Heathrow จะได้ refund เงินค่ามัดจำบัตร 5 ปอนด์และเงินคงเหลือในบัตรคืนทั้งหมดด้วยครับ แต่อย่าลืมเก็บใบเสร็จที่ซื้อไว้ด้วยนะครับ เพราะอาจต้องใช้ตอนเอาบัตรหอยมาคืนคร้าบบบ
พอได้บัตรหอยกันครบทุกคนแล้ว เราก็ลากกระเป๋าเดินทางเดินไปสถานีรถไฟใต้ดินหรือทูป เพื่อจะนั่งรถไฟสายสีน้ำเงิน (Piccadilly Line) ไปลงสถานี King's Cross เอากระเป๋าไปเก็บที่โรงแรม Magaro Hotel, Belgrove Street, Camden, London WC1H 8AB กันก่อนเดินทางไปงาน 100% Design London ครับ

พี่แบงค์ดูจะสนุกหายหวัดทันทีเลยครับ หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูป พาพันก็ตื่นเต้นครับ คนที่นี่เค้าชอบอ่านหนังสือกันจริงๆ ทั้งหนังสือพิมพ์ หนังสือ อ่านแบบจริงจังเลยครับ
เดี๋ยวมาเล่าต่อนะครับ.......
[CR][SR] 3 หนุ่ม 3 มุม พาเที่ยว 100% Design London บันทึกของพาพัน ตอนแรก
วันนี้พาพันมีสกู๊ปพิเศษมาฝากพี่ๆทุกคน เป็นรีวิวการไปทัศนศึกษา London Design Festival 2013 ที่ประเทศอังกฤษ ของเจ้าของผลงาน Eco Joy คุณฉัตรไชย บุญฤดี ผู้ชนะเลิศรางวัลที่หนึ่งโครงการ Use Me Again ใส่ความคิด พิชิตขยะ กับผศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต อาจารย์ สถาปนิก นักออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม และที่ปรึกษาโครงการของ Pantip Network เองครับ
อาจารย์สิงห์ผู้ซึ่งมีคิวแน่นตลอดทั้งปี แต่เพื่อไปให้ความรู้กับผู้ชนะเลิศอย่างเต็มที่จึงได้ล็อคคิวตัวเองไว้ให้โครงการนี้ตั้งแต่ตุลาคมปีที่แล้ว ส่วนโปรแกรมทัศนศึกษาครั้งนี้ได้พี่พิทักษ์ศักดิ์หรือพี่คุณ สมาชิกพันทิปที่เรียนอยู่ที่ลอนดอนมาช่วยวางแผนการเดินทางกับอาจารย์สิงห์ซึ่งใช้เวลาจัดโปรแกรมกันนานกว่าครึ่งปีเพราะอีเว้นท์ต่างๆที่ลอนดอนยังไม่ชัดเจน ต่างตั้งใจกันไว้ว่าจะให้เป็นทริปที่เจาะลึกไปเป็น Londoner กันเลยทีเดียว นับว่าพิเศษสุดๆ เฉพาะผู้ชนะเลิศจริงๆครับ
ก่อนอื่น
ตลอดทั้ง 5 วันตั้งแต่วันที่ 18 ถึง 22 กันยายนที่ผ่านมา พี่แบงค์กะอาจารย์สิงห์ก็เลยมีพาพันร่วมคณะไปลุยลอนดอนด้วย
อ้อ.... เกือบลืมครับ คือว่าภาพในรีวิวนี้บางภาพเป็นของพี่แบงค์และอาจารย์สิงห์ถ่ายไว้เอง และส่งมาให้ ส่วนที่พาพันถ่ายต้องกระซิบพี่ๆ ไว้ก่อนว่าอาจสวยสู้พี่ๆมือโปรไม่ได้ เพราะพาพันยังมือใหม่และบางรูปก็ถ่ายแบบฉุกละหุกจริงๆ ยังไงก็ขอโทษไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ....งั้นเริ่มกันเลย ไปติดตามพวกเค้ากันคร้าบบบ
จาก กรุงเทพ ถึง (100% Design) London บันทึกของพาพัน ตอนที่หนึ่ง
5 ทุ่มครึ่งคืนพุธที่ 17 พวกเรานัดเจอกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ตรงหน้า GATE B5 ครับ พาพันเดินทางโดยใช้ Airport Link พญาไท-สุวรรณภูมิ สาย City Line เพราะรถติดไปไม่ทันรอบ Express Line แต่ก็ยังเร็วดีใช้เวลาประมาณ 45 นาทีมั้งครับ
พอขึ้นมาจากสถานี Airport Link ก็เจอส่วนเชื่อมต่อสนามบินเห็นบูธแลกเงิน SCB กะว่าจะแลกเงินปอนด์อยู่พอดี แต่อาจารย์สิงห์รอเช็คอินพร้อมพาพันอยู่เลยต้องรีบวิ่งไปขึ้นลิฟอย่างด่วนจี๋ ที่ชั้น 4 ผู้โดยสารขาออกเห็นมีบูธแลกเงิน SCB อยู่ 2 จุดครับ พอผ่าน Immigration เรียบร้อยแล้วพาพันก็ตัวเบาขึ้นเพราะเหลือเป้หิ้วขึ้นเครื่องใบเดียวคร้าบบบ ทีนี้ก็มองหา SCB Exchange Booth พาพันจะแลกเงินด้วยบัตรเครดิตครับ
ปลอดภัยไม่ต้องถือเงินสดมาแลก และสะดวกมากสำหรับคนที่ยุ่งๆไม่มีเวลาและไม่ได้ต้องการจะแลกเงินจำนวนเยอะๆ ใช้บัตรเครดิต SCB ซื้อเงินปอนด์ในอัตรแลกเงินของธนาคารได้ไม่มีค่าธรรมเนียมนะครับ พาพันได้กระเป๋าใบใหญ่แถมมาด้วยเพราะซื้อเกิน 20,000 บาทนิดหน่อย เหมือนช่วงนี้เค้ามีโปรโมชั่นแถมกระเป๋าถึงสิ้นเดือนตุลาคมนี้ครับ
เครื่องบินจะออกตีหนึ่งสิบนาทีบินตรงไม่แวะจอดไหนประมาณ 12 ชั่วโมง เผอิญคืนนั้นพี่แบงค์เป็นหวัดไม่สบายนิดหน่อยทุกคนจึงตกลงกันว่าขึ้นเครื่องแล้วนอนเลย จะได้มีแรงไว้เดินดูนิทรรศการ 100% Design London เมื่อถึงครับ ที่จริงก้อง่วงกันทุกคนเลย พี่แบงค์หลับสนิทปลุกไม่ตื่นจนพาพันต้องกระโดดข้ามออกไปเข้าห้องน้ำเพราะอั้นไว้นาน
07:15 Heathrow Airport
ถึงลอนดอนแล้วดีใจจังครับ พวกเรารีบเดินไปด่านตรวจคนเข้าเมืองเพราะคนเยอะมากกกก เข้าคิวและเตรียมพาสปอร์ตพร้อมเอกสารเดินทางเข้าเมืองที่กรอกแล้วตั้งแต่บนเครื่อง คิวรอของจุดตรวจคนเข้าเมืองจะแบ่งคนออกเป็นหลายประเภท EU Citizen / Non EU Citizen / Express line by invitation ฯลฯ พี่แบงค์ต้องมาเข้าคิวอยู่ข้างหลังพาพันกะอาจารย์ถัดออกไปเยอะพอควร ซึ่งเป็นความผิดของพาพันเองที่ไม่ได้นัดแนะกะพี่แบงค์ให้ดีตอนเดินออกจากเครื่อง ทำให้พี่แบงค์ยืนรออยู่ตรงปากทางออกเครื่องคนเดียว ยิ่งยืนคอยคนก็มาเยอะขึ้นๆ พอถึงคิวพาพันเจ้าหน้าที่ชายหน้ายิ้มยาก(แต่ใจดีสุดๆ)ตรวจพาสปอร์ตไปจ้องหน้าพาพันไป แล้วก็ถามว่าทำงานอะไร.... มาทำอะไรที่ลอนดอน.... จะอยู่กี่วัน.... พักที่ไหน..... และมากันกี่คน.... พาพันก้อส่งยิ้มตอบไปว่ามากัน3คนครับ เค้าไม่ยิ้มและกวาดตามองหาถามว่าอีกสองคนอยู่ไหน ให้ไปเรียกมาพร้อมกันหมดแล้วถามคำถามเดียวกันกับเราทีละคน พวกเราเลยโชคดีได้ถูกตรวจเช็คเข้าเมืองพร้อมกันอย่างรวดเร็ว และเมื่อผ่านด่านออกมาแล้วก็ไปรับกระเป๋าเดินทาง แวะเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย แล้วจึงเดินออกมาข้างนอกใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงซึ่งเร็วกว่าที่คิดกันไว้มากเลย พวกเราเห็นว่ายังเช้าไปที่พี่คุณจะมาถึงไปหาที่นั่งกินกาแฟรอดีกว่า
มีตู้ซิมมือถือหลายจุดตรงบริเวณส่วนผู้โดยสารขาเข้า ใครที่มาถึงแล้วต้องการก็สามารถซื้อซิมได้เลยครับ มีหลาย package หลายราคาให้เลือกครับ เริ่มต้นที่ 20 ปอนด์ แต่พวกเราไม่มีใครซื้อ คิดว่าจะแวะไปซื้อที่ร้านตอนเข้าเมืองแทน แต่ปรากฏว่าไม่ได้ซื้อกันซักซิมพวกเราจึงไม่สามารถติดต่อกันได้หากคลาดกันหรือหลงกัน และวิธีการตามหาระหว่างพวกเราขณะเดินทางจึงกลายเป็นเรื่องที่ลุ้น สนุกไปอีกแบบครับ
เดินออกมาได้แป๊บเดียวก็เห็นคนมารอรับกันมากมาย บ้างถือป้าย บ้างก็กระดาษต่างๆ เอ...ว่าแต่พวกเราจะเจอกับพี่คุณมั้ยน๊าาา ว่าแล้วก็เหลือบเห็นชายหนุ่มสวมแว่นตาอยู่ทางซ้าย..... โน่น...พี่คุณยืนรออยู่แล้วครับ พาพันเคยเจอพี่คุณครั้งนึงจึงพอเลาๆจำได้ ดีใจจังคร้าบบบ.....
พี่คุณเข้ามาทักทายแสดงความยินดีจับมือกับพี่แบงค์และสวัสดีอาจารย์สิงห์อย่างเป็นทางการ แต่ทุกคนสนิทกันเร็วมากเพราะติดต่อกันทางอีเมลมานานหลายเดือนมาก อาจารย์ถามว่ามารับเช้าขนาดนี้ตื่นกี่โมงเนี่ย.... พี่คุณบอก “ตื่นตีห้ากว่าครับ” แล้วพี่คุณก้อสำรวจเสื้อผ้าพวกเราว่าโอเคกับอากาศวันนี้ไหม... พี่คุณบอกว่าพวกเราโชคดีมากวันนี้อากาศดี 10-20 องศาไม่มีฝนอาจมีแดดด้วย พวกเราคุยกันไปเดินกันไปเพื่อไปซื้อบัตรหอย หรือ Oystercard ไว้ใช้เดินทางตลอดช่วงเวลาที่อยู่ที่ลอนดอนกันครับ งานนี้พี่คุณลงรายละเอียดการเดินทางแต่ละวันทุกจุดทุกที่แบบไม่มีหลงทางกันเลยล่ะ แถมจะรายงานภูมิอากาศให้พวกเราเตรียมตัวทุกเช้า โอ้... พวกเราสบายแล้วครับ
Oystercard สามารถซื้อเองได้ที่ตู้หรือที่เคาเตอร์ก็ได้ครับ พี่คุณพาพาพันไปที่เคาเตอร์เพื่อสอบถามว่าพวกเราควรใช้แบบไหนที่สะดวกและราคาประหยัด เจ้าหน้าที่หน้าเฉยแต่ใจเย็นมากอธิบายให้ฟังอย่างดีบอกความแตกต่างการใช้บัตรต่างๆ ยืนคุยพักใหญ่ก็ตัดสินใจเลือกซื้อแบบที่เหมาะกับพวกเรา 3 ใบ ใช้บัตรเครดิตซื้อได้ง่ายมากครับ และเจ้าบัตรหอยนี้เมื่อจะเดินทางกลับเมืองไทยสามารถเอาบัตรมาคืนที่สถานีใต้ดินของสนามบิน Heathrow จะได้ refund เงินค่ามัดจำบัตร 5 ปอนด์และเงินคงเหลือในบัตรคืนทั้งหมดด้วยครับ แต่อย่าลืมเก็บใบเสร็จที่ซื้อไว้ด้วยนะครับ เพราะอาจต้องใช้ตอนเอาบัตรหอยมาคืนคร้าบบบ
พอได้บัตรหอยกันครบทุกคนแล้ว เราก็ลากกระเป๋าเดินทางเดินไปสถานีรถไฟใต้ดินหรือทูป เพื่อจะนั่งรถไฟสายสีน้ำเงิน (Piccadilly Line) ไปลงสถานี King's Cross เอากระเป๋าไปเก็บที่โรงแรม Magaro Hotel, Belgrove Street, Camden, London WC1H 8AB กันก่อนเดินทางไปงาน 100% Design London ครับ
พี่แบงค์ดูจะสนุกหายหวัดทันทีเลยครับ หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูป พาพันก็ตื่นเต้นครับ คนที่นี่เค้าชอบอ่านหนังสือกันจริงๆ ทั้งหนังสือพิมพ์ หนังสือ อ่านแบบจริงจังเลยครับ
เดี๋ยวมาเล่าต่อนะครับ.......
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น