ตีตั๋วตะลุยเที่ยว 30 วัน // สไตล์เด็ก Work and Travel in America [PART : 1]
http://pantip.com/topic/30957622
Philadelphia ,PA
วางแผนกับเพื่อนว่าพวกเราจะไปเที่ยวเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลวาเนีย
เราได้ช่วยกันหาที่พัก จองตั๋วรถบัสเกรฮาวด์ เพื่อเดินทางไปเยี่ยมเยือนถิ่นแดร็กคูล่ากัน
ค่าตั๋วรถ ไป-กลับ
นิวยอร์ก - ฟิลาเดลเฟีย คนละ 28$
ค่าที่พักคนละ 25$ ต่อคืน
คราวนี้อยากจะเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์การจองที่พักของกลุ่มพวกเราให้ได้อ่านเป็นอุทาหรณ์กันนะคะ
ให้เพื่อนคนนึงหาที่พักในเว็บไซส์ทั่วไป เพื่อนก็จะถามตลอดว่า ที่นี้โอเครึป่าว ก็ดูกันไปเรื่อยๆ
จนสุดท้าย เจอที่นึง ในรูปที่พักสวย สะอาด มากกกกกกกคะ
ก็เลยตกลงกันจองที่นี้ละกัน เพื่อนก็จัดการจองให้เสร็จเรียบร้อย
มีที่อยู่กับเบอร์โทรที่พักเรียบร้อย
ด้วยความขี้เกียจ จากการทำงานหนัก เหนื่อย เราก็ไม่ได้เชคข้อมูลที่พักแม้แต่น้อย
เพราะคิดว่า ไปนอนแค่คืนเดียว ยังไงก็ได้หมดแหละ
เช้าวันที่ 5 July 2013 เราก็ได้เดินทางไปฟิลาเดลเฟียกันแต่เช้า
ไปถึง ณ จุดหมายปลายทางประมาณ 11 โมงเช้า กลุ่มพวกเราก็เดินเล่น หาอะไรกินกันให้อิ่มท้องก่อนเข้าที่พัก
จากนั้น เราก็ใช้ตัวช่วยสำคัญคือ Google Map เราก็พิมพ์ที่อยู่ที่พักที่เราทำการจองไว้เรียบร้อย
กูเกิ้ลแม๊บก็ขึ้นวิธีเดินทางไปที่พักอย่างละเอียด ให้นั่งรถไฟฟ้าจากสถานนี A ถึง L [สถานีสมมุติ เพราะจำชื่อสถานีไม่ได้คะ]
จากนั้นถึงสถานี L ให้ขึ้นรถเมล์สาย 53 เราก็เดินทางตามกูเกิ้ลแม๊บบอกทุกอย่าง
ตอนลงไปรถไฟฟ้าใต้ดิน พวกเราก็กระเหรี่ยงไม่รู้อิโหน่วอิเหน่ ก็ถามๆ เค้าไป มั่วๆ กว่าจะรู้วิธีไปก็นานพอสมควร
หลังจากได้จ่ายเงินค่าเหรียญรถไฟฟ้าเรียบร้อย พวกเราก็ไปนั่งรอรถไฟฟ้ามาหานะเธอ
พวกเรารอแบบงงๆ กันไป อิชั้นก็ได้แต่เพิ่งกูเกิ้ลแม๊บแหละคะ เพราะมันคือทุกอย่างในการเดินทาง
สิ่งที่น่าตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจ จนขนหัวลุกกำลังจะมาถึง
เมื่อเรานั่งรถไฟฟ้ามาถึงสถานีปลายทาง เพื่อนั่งรถเมล์ต่อไปยังที่พัก
พอเดินลงบันไดเท่านั้นแหละ ถึงกับอึ้งทัง เสียว กับสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า
เจอถนนมีสี่แยก หัวมุมถนนตรงที่เราเดินมาก็ชายคนหนึ่ง ท่าทางเหมือนคนจรจัด ถามเราว่า Taxi Taxi พวกเราก็ส่ายหัว เดินหนี
เพราะกลัวถูกหลอก
******************ตรงนี้เราอยากจะอธิบายให้ท่านผู้อ่านได้เห็นภาพเหลือเกิน ย่านนั้นเป็นย่านที่ทั้งน่ากลัว ทั้งอันตราย
ผู้คนที่นั้นดูสกปรก แต่ตัวเหมือนคนเร่ร่อน ถนนย่านนั้นสกปรก เต็มไปด้วยขยะเกลื่อนกราด ขยะที่เปื้อนฝุ่น เหมือนมันถูกกองไว้นานมากแล้ว
สายตาผู้คนที่เดินผ่านพวกเราทั้ง 5 คน จับจองพวกเราอย่างไม่เป็นมิตร อารมณ์ตอนนั้นเหมือนหลงเข้าไปอยู่บ้านเมืองที่มีสงครามกลางเมือง
แล้วปล่อยเมืองให้ทิ้งร้าง อย่างน่าสยดสยอง เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยย กูมาทำไมเนี๊ย???????
ตอนนั้นคิดอยู่อย่างเดียวเลยว่า "ตรูจะมีชีวิตรอดกลับบ้านมั้ยวะ?"
จากนั้นพวกเราก็ยืนรอรถเมล์คันแรกผ่านมา มันไม่จอดให้เรา เพราะเราไปยืนมั่ว ไม่ใช่ที่จอดรถเมล์
แต่โชคดีที่ตรงหัวมุมหนึ่งมีตำรวจยืนอยู่ ก็เลยเข้าไปถามตำรวจ แต่ตำรวจท่าทางไม่เป็นมิตรเอาซะเลย
ในที่สุดเราก็ได้ขึ้นรถเมล์ ค่ารถเมล์ 2.50$ [แพงมากกกกกกกกกก เท็กซัสแค่ 1.25$ เองนะ]
คนขับรถเมล์น่ากลัวมาก เราถามก็ไม่ตอบดีๆ ผู้โดยสารบนรถเมล์เป็นคนชนชั้นล่าง ที่น่ากลัวมาก ลักษณะ ท่าทาง กริยา สายตา [เราไม่ได้จะดูถูกคนนะ แค่อยากอธิบายให้เห็นภาพ สภาพความเป็นจริงที่ได้ไปเจอมา] ตอนนั้นเรากลัวมาก มากๆๆ จิงๆ ได้แต่ภาวนา ขอให้มีชีวิตรอดกลับไปเจอหน้าพ่อหน้าแม่แค่นั้นแหละ
สมบัติมีค่าต้องเก็บเข้ากระเป๋าให้หมด แม้แต่โทรศัพท์จะหยิบมาดูแผนที่ ยังต้องหลบๆ ซ่อนๆ เพราะประชากรย่านนั้น
ดูไม่เป็นมิตร
จากนั้นเราก็ดูตามกูเกิ้ลแม๊บไปเรื่อยๆ จนถึงที่หมาย ในแผนที่บอกว่าจากตรงจุดนั้นต้องเดินไปอีก
พวกเรา 5 คนก็เดินๆๆๆๆ ไปเรื่อยๆ
Finally เราก็เจอที่พักแล้วว
ซะแว๊บบบ เคาะๆๆๆ
Hi , Hallo เซย์ไฮกันนิดหน่อย แม่มบอกให้รอแป๊บนึงกำลังทำความสะอาดบ้านอยู่
พวกเราก็อยู่ข้างล่างรอ นางก็ลงมาบอกว่าเสร็จแล้ว เชิญขึ้นไปพักตามสบายมี 2 ห้องนอนนะ
ห้องใหญ่มีแอร์ ห้องเล็กไม่มีแอร์แถมล็อกประตูไม่ได้อีก อีกทั้งหน้าต่างห้องเล็กยังเชื่อมกับบ้านข้างๆอีก
ถ้าสมมุติโจรปีนขึ้นมา ก็เข้ามาได้ง่ายๆ อะ พวกเราจึงได้นอนรวมกันห้องใหญ่หมดเลย
สภาพบ้านของจริงกับในรูปต่างกันราวฟ้ากับเหว บ้านพักที่นี้ สกปรกมากกก
ห้องนอนล็อกประตูไม่ได้ ห้องน้ำก็น่ากลัว โจรสามารถปีนเข้าหน้าต่างห้องน้ำได้สบาย เพราะไม่มีลูกกรง
ตอนแรกพวกเราวางแผนว่าจะไปหาที่นั่งดื่ม เดินเล่นชมเมืองกัน
ณ เวลานั้นพวกเราได้แค่หาข้าวกิน แถวบ้าน แล้วรีบกลับบ้าน เพราะย่านนั้นสภาพเหมือนเมืองร้าง
ไม่มีอะไรความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน แม้แต่โทรศัพท์ยังไม่กล้าที่จะควักออกจากกระเป๋ามาถ่ายรูปเลยคะ
โชคดีมีร้านพิซซ่า เลยสั่งพิซซ่าใส่กล่องกลับไปทานกัน ตอนนั้นประมาณ 4 โมงเย็น พวกเราก็ขลุกกันอยู่แต่ในบ้าน
หลับกันอย่างมาราธอนมาก
ตื่นเช้าได้ฤกษ์ออกตะลุยเดินเที่ยวกัน
เริ่มต้นกันที่ Liberty Bell สามารถไปต่อแถวเพื่อเดินเข้าไปชมระฆังในอาคารได้
แต่ตามประสาพวกขี้เกียจ ก็ได้แค่ยืนชะเง้อมองอยู่ข้างนอก ละก็เดินชมเมืองไปเรื่อยๆ
ตีตั๋วตะลุยเที่ยว 30 วัน // สไตล์เด็ก Work and Travel in America [PART : 2]
http://pantip.com/topic/30957622
Philadelphia ,PA
วางแผนกับเพื่อนว่าพวกเราจะไปเที่ยวเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลวาเนีย
เราได้ช่วยกันหาที่พัก จองตั๋วรถบัสเกรฮาวด์ เพื่อเดินทางไปเยี่ยมเยือนถิ่นแดร็กคูล่ากัน
ค่าตั๋วรถ ไป-กลับ
นิวยอร์ก - ฟิลาเดลเฟีย คนละ 28$
ค่าที่พักคนละ 25$ ต่อคืน
คราวนี้อยากจะเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์การจองที่พักของกลุ่มพวกเราให้ได้อ่านเป็นอุทาหรณ์กันนะคะ
ให้เพื่อนคนนึงหาที่พักในเว็บไซส์ทั่วไป เพื่อนก็จะถามตลอดว่า ที่นี้โอเครึป่าว ก็ดูกันไปเรื่อยๆ
จนสุดท้าย เจอที่นึง ในรูปที่พักสวย สะอาด มากกกกกกกคะ
ก็เลยตกลงกันจองที่นี้ละกัน เพื่อนก็จัดการจองให้เสร็จเรียบร้อย
มีที่อยู่กับเบอร์โทรที่พักเรียบร้อย
ด้วยความขี้เกียจ จากการทำงานหนัก เหนื่อย เราก็ไม่ได้เชคข้อมูลที่พักแม้แต่น้อย
เพราะคิดว่า ไปนอนแค่คืนเดียว ยังไงก็ได้หมดแหละ
เช้าวันที่ 5 July 2013 เราก็ได้เดินทางไปฟิลาเดลเฟียกันแต่เช้า
ไปถึง ณ จุดหมายปลายทางประมาณ 11 โมงเช้า กลุ่มพวกเราก็เดินเล่น หาอะไรกินกันให้อิ่มท้องก่อนเข้าที่พัก
จากนั้น เราก็ใช้ตัวช่วยสำคัญคือ Google Map เราก็พิมพ์ที่อยู่ที่พักที่เราทำการจองไว้เรียบร้อย
กูเกิ้ลแม๊บก็ขึ้นวิธีเดินทางไปที่พักอย่างละเอียด ให้นั่งรถไฟฟ้าจากสถานนี A ถึง L [สถานีสมมุติ เพราะจำชื่อสถานีไม่ได้คะ]
จากนั้นถึงสถานี L ให้ขึ้นรถเมล์สาย 53 เราก็เดินทางตามกูเกิ้ลแม๊บบอกทุกอย่าง
ตอนลงไปรถไฟฟ้าใต้ดิน พวกเราก็กระเหรี่ยงไม่รู้อิโหน่วอิเหน่ ก็ถามๆ เค้าไป มั่วๆ กว่าจะรู้วิธีไปก็นานพอสมควร
หลังจากได้จ่ายเงินค่าเหรียญรถไฟฟ้าเรียบร้อย พวกเราก็ไปนั่งรอรถไฟฟ้ามาหานะเธอ
พวกเรารอแบบงงๆ กันไป อิชั้นก็ได้แต่เพิ่งกูเกิ้ลแม๊บแหละคะ เพราะมันคือทุกอย่างในการเดินทาง
สิ่งที่น่าตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจ จนขนหัวลุกกำลังจะมาถึง
เมื่อเรานั่งรถไฟฟ้ามาถึงสถานีปลายทาง เพื่อนั่งรถเมล์ต่อไปยังที่พัก
พอเดินลงบันไดเท่านั้นแหละ ถึงกับอึ้งทัง เสียว กับสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า
เจอถนนมีสี่แยก หัวมุมถนนตรงที่เราเดินมาก็ชายคนหนึ่ง ท่าทางเหมือนคนจรจัด ถามเราว่า Taxi Taxi พวกเราก็ส่ายหัว เดินหนี
เพราะกลัวถูกหลอก
******************ตรงนี้เราอยากจะอธิบายให้ท่านผู้อ่านได้เห็นภาพเหลือเกิน ย่านนั้นเป็นย่านที่ทั้งน่ากลัว ทั้งอันตราย
ผู้คนที่นั้นดูสกปรก แต่ตัวเหมือนคนเร่ร่อน ถนนย่านนั้นสกปรก เต็มไปด้วยขยะเกลื่อนกราด ขยะที่เปื้อนฝุ่น เหมือนมันถูกกองไว้นานมากแล้ว
สายตาผู้คนที่เดินผ่านพวกเราทั้ง 5 คน จับจองพวกเราอย่างไม่เป็นมิตร อารมณ์ตอนนั้นเหมือนหลงเข้าไปอยู่บ้านเมืองที่มีสงครามกลางเมือง
แล้วปล่อยเมืองให้ทิ้งร้าง อย่างน่าสยดสยอง เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยย กูมาทำไมเนี๊ย???????
ตอนนั้นคิดอยู่อย่างเดียวเลยว่า "ตรูจะมีชีวิตรอดกลับบ้านมั้ยวะ?"
จากนั้นพวกเราก็ยืนรอรถเมล์คันแรกผ่านมา มันไม่จอดให้เรา เพราะเราไปยืนมั่ว ไม่ใช่ที่จอดรถเมล์
แต่โชคดีที่ตรงหัวมุมหนึ่งมีตำรวจยืนอยู่ ก็เลยเข้าไปถามตำรวจ แต่ตำรวจท่าทางไม่เป็นมิตรเอาซะเลย
ในที่สุดเราก็ได้ขึ้นรถเมล์ ค่ารถเมล์ 2.50$ [แพงมากกกกกกกกกก เท็กซัสแค่ 1.25$ เองนะ]
คนขับรถเมล์น่ากลัวมาก เราถามก็ไม่ตอบดีๆ ผู้โดยสารบนรถเมล์เป็นคนชนชั้นล่าง ที่น่ากลัวมาก ลักษณะ ท่าทาง กริยา สายตา [เราไม่ได้จะดูถูกคนนะ แค่อยากอธิบายให้เห็นภาพ สภาพความเป็นจริงที่ได้ไปเจอมา] ตอนนั้นเรากลัวมาก มากๆๆ จิงๆ ได้แต่ภาวนา ขอให้มีชีวิตรอดกลับไปเจอหน้าพ่อหน้าแม่แค่นั้นแหละ
สมบัติมีค่าต้องเก็บเข้ากระเป๋าให้หมด แม้แต่โทรศัพท์จะหยิบมาดูแผนที่ ยังต้องหลบๆ ซ่อนๆ เพราะประชากรย่านนั้น
ดูไม่เป็นมิตร
จากนั้นเราก็ดูตามกูเกิ้ลแม๊บไปเรื่อยๆ จนถึงที่หมาย ในแผนที่บอกว่าจากตรงจุดนั้นต้องเดินไปอีก
พวกเรา 5 คนก็เดินๆๆๆๆ ไปเรื่อยๆ
Finally เราก็เจอที่พักแล้วว
ซะแว๊บบบ เคาะๆๆๆ
Hi , Hallo เซย์ไฮกันนิดหน่อย แม่มบอกให้รอแป๊บนึงกำลังทำความสะอาดบ้านอยู่
พวกเราก็อยู่ข้างล่างรอ นางก็ลงมาบอกว่าเสร็จแล้ว เชิญขึ้นไปพักตามสบายมี 2 ห้องนอนนะ
ห้องใหญ่มีแอร์ ห้องเล็กไม่มีแอร์แถมล็อกประตูไม่ได้อีก อีกทั้งหน้าต่างห้องเล็กยังเชื่อมกับบ้านข้างๆอีก
ถ้าสมมุติโจรปีนขึ้นมา ก็เข้ามาได้ง่ายๆ อะ พวกเราจึงได้นอนรวมกันห้องใหญ่หมดเลย
สภาพบ้านของจริงกับในรูปต่างกันราวฟ้ากับเหว บ้านพักที่นี้ สกปรกมากกก
ห้องนอนล็อกประตูไม่ได้ ห้องน้ำก็น่ากลัว โจรสามารถปีนเข้าหน้าต่างห้องน้ำได้สบาย เพราะไม่มีลูกกรง
ตอนแรกพวกเราวางแผนว่าจะไปหาที่นั่งดื่ม เดินเล่นชมเมืองกัน
ณ เวลานั้นพวกเราได้แค่หาข้าวกิน แถวบ้าน แล้วรีบกลับบ้าน เพราะย่านนั้นสภาพเหมือนเมืองร้าง
ไม่มีอะไรความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน แม้แต่โทรศัพท์ยังไม่กล้าที่จะควักออกจากกระเป๋ามาถ่ายรูปเลยคะ
โชคดีมีร้านพิซซ่า เลยสั่งพิซซ่าใส่กล่องกลับไปทานกัน ตอนนั้นประมาณ 4 โมงเย็น พวกเราก็ขลุกกันอยู่แต่ในบ้าน
หลับกันอย่างมาราธอนมาก
ตื่นเช้าได้ฤกษ์ออกตะลุยเดินเที่ยวกัน
เริ่มต้นกันที่ Liberty Bell สามารถไปต่อแถวเพื่อเดินเข้าไปชมระฆังในอาคารได้
แต่ตามประสาพวกขี้เกียจ ก็ได้แค่ยืนชะเง้อมองอยู่ข้างนอก ละก็เดินชมเมืองไปเรื่อยๆ