[แปล]High Speed! บทที่ 8 (จบ)

ในที่สุดก็จบแล้วค่ะ กับไลท์โนเวลเรื่องนี้ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะคะ พาพันขอบคุณ

ตอนนี้เป็นตอนจบสั้นๆคลายเครียด หลังจากแข่งกันค่ะ

ถ้ายังไงเราจะแก้คำผิดของบทก่อนๆแล้วทำเป็นไฟล์ pdf ให้อ่านกันค่ะ


*** เราแปลจากภาษาอังกฤษที่เขาแปลมาอีกทีนะคะ ไม่ใช่ภาษาญี่ปุ่น หากพบข้อผิดพลาดใดๆสามารถบอกได้ค่ะ จะได้รีบแก้ไข


*** เราไม่มีพื้นฐานเรื่องว่ายน้ำเลย เราจึงเสิร์ชหาข้อมูลในอากู๋ หากใครพบเห็นว่ามันแปล่งแปลก มันไม่ใช่ รีบบอกเลยนะคะ

<<credit >>





บทที่ 1 ว่ายน้ำ
บทที่ 2 น้ำ
บทที่ 3 ฟรี
บทที่ 4 ว่ายผลัด
บทที่ 5 สโตรค
บทที่ 6 ทีม
บทที่ 7 การแข่งขัน
(สามารถคลิกที่ชื่อบทเพื่ออ่านบทนั้นๆได้เลยค่ะ).


บทที่ 8 ซากุระ




เมื่อไปยังด้านหลังของสโมสรอิวาโทบิ ก็มีสวนเล็กๆที่สามารถมองเห็นได้จากริมสระ สวนนั้นปกคลุมไปด้วยต้นไม้นานาชนิต ที่รูปลักษณ์แตกต่างออกไปในแต่ละฤดู เริ่มการดูแลสวนด้วยการทำความสะอาดและรดน้ำ และปลูกฝังคืนแล้วพรวนดิน เนื่องจากว่าผู้ดูแลทำทั้งหมด สวนจึงเป็นไปตามรสนิยมของผู้ดูแล

ชื่อเสียงของมันเป็นที่รู้จักในช่วงปีที่ผ่านมา ดอกไม้บางชนิดเบ่งบานให้ผู้คนที่มายังสโมสรชื่นใจ ดอกคามีเลียสีแดงยามฤดูหนาว ดอกกุหลาบพันปีทีตูมและเบ่งบานยามฤดูใบไม้ผลิ ดอกไฮเดรเยียต้นหน้าร้อน ที่ออกดอกเหมือนฟองสบู่ จากนั้นก็เป็นดอกระฆัง กลิ่นหอมของมะกอกยาวฤดูใบไม้ร่วงก็ส่งกลิ่นโชยเสียจนห่อหุ่มสระเอาไว้

ตอนนี้สวนเป็นสีเหลืองของดอกตูมอ่อน

ริน นางิสะ และ ฮารุกะกำลังรอมาโคโตะอยู่ที่สวนด้านหลัง

“นี่ รินจัง ฝังของอย่างถ้วยรางวัลไปทำไมล่ะ”

นางิสะถาม

“มันเป็นสิ่งที่พวกเราทั้งสี่ได้มาด้วยกัน ถ้าเกิดว่าคนๆเดียวเก็บไว้ที่บ้านมันไม่แปลกเหรอ?”

“ถ้างั้น ถ้าพวกเราโชว์ที่สโมสรล่ะ?”

ถ้วยรางวัลและของรางวัลที่แต่ละคนได้จากการแข่งขันสามารถเก็บเอาไว้ได้ แต่ถ้าบางคนต้องการให้สโมสรเก็บไว้ในที่ปลอดภัย ก็สามารถแสดงไว้ที่สโมสรได้

“ไม่เป็นไร มันไม่ใช่ของที่เอาไว้อวดคนอื่น มันเป็นของรางวัลเพื่อพวกเราเท่านั้น เพราะงั้นเราก็จะฝังมันเพื่อเป็นสิ่งยืนยันถึงมิตรภาพของพวกเรา เหมือนของอย่างไทม์แคปซูลไง”

“ถ้างั้น มันจะถูกฝังไปตลอดเลยเหรอ?”

“เปล่า สักวันหนึ่ง วันที่พวกเราจดจำสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ การแข่งขันว่ายผลัดในวันนี้ต้องมาถึง เมื่อถึงวันนั้น พวกเราก็จะขุดมันขึ้นมาอีกครั้ง”

“วันนั้นเมื่อไหร?”

“ไม่รู้สิ อาจจะ 5 ปี หรือ 10 ปีข้างหน้า เมื่อเวลามาถึงก็รู้เองแหละ”

ประตูทางเข้าด้านหลังเปิดออก มาโคโตะมาจากตรงนั้น เขาถือถ้วยรางวัลและพรวนในมือ

“โทษทีที่ให้รอ ได้รับอนุญาตจากผู้ดูแลแล้ว แล้วก็ยืมพรวนมาด้วย”

หากพวกเขาฝังถ้วยโดนพลการ แล้วมีคนเจอถ้วยเมื่อตอนที่ปลูกดอกไม้อีกรอบ พวกเขาอาจเป็นปัญหาได้ หากถ้วยถูกทำลาย จึงไปขออนุญาต เอาถ้วยรางวัลและโล่ห์มาไว้ที่สโมสรชั่วคราว หลังจากที่ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกแล้ว คนในสโมสรก็รับฟังคำขอของพวกเขา จากนั้นมาโคโตะก็ขออนุญาต

“ถ้างั้น เริ่มกันเลยไหม?”

รินเปิดกระเป๋าด้านซ้าย เขาหยิบกล่องคุกกี้เปล่าขนาดใหญ่ออกมา

“สุดยอดเลย รินจัง แบกไอนั่นตลอดเลยเหรอ?”

รินตกใจจากคำพูดของนางิสะ

“ไม่มีทาง แค่วันนี้”

“อ่า ถ้างั้นเป็นอันที่น้องโควจังเอามาใช่ไหม..”

“อืม อันนี้แหละ”

“เอออออ๋ ตอนนั้นก็เอาออกมาก็ได้นี่”

“ถ้าตอนนั้นเอาออกมา มันก็ให้ฉันเป็นคนเหลาะแหละใช่ไหม?”

มาโคโตะถามขณะที่เอาพรวนให้กับคนอื่นๆ

“แต่ รู้ได้ไงว่าพวกเราจะได้ถ้วย?”

“ไม่เป็นต้องถามเลยมาโคโตะ นายไม่คิดว่าพวกเราชนะไม่ได้งั้นเหรอ?”

รินเปิดฝากระป๋องเปล่า

“ไม่ใช่อย่างนั้น แค่คิดว่านายนี่มั่นใจตัวเองสุดยอดเลย”

มาโคโตะนำถ้วยรางวัลให้ริน ด้วยขนาดที่สามารถถือได้ด้วยมือด้วย มีรูปนูนของคนทำท่าเริ่มด้านบนสุด หากดูจากที่ไกลๆดูเหมือนกับนกสยายปีก

เมื่อพวกเขาพยายามใส่ถัวยลงไปในกระป๋องคุกกี้ มันก็เข้าก็พอดี

“ว้าว พอดีเลย”

นางิสะตะลึง

“แน่นอน มันถ้วยเหมือนกับปีที่แล้ว”

รินชนะการแข่งขังท่ากบและฟรีสไตล์เมื่อปีที่แล้ว

“แล้วผู้ดูแลบอกว่าฝังได้ที่ไหนบ้าง?”

รินถามขณะปิดกล่องคุกกี้

“ช่วงล่างของดอกคามิเลีย”

“ดอกไหนดอกคามีเลีย?”

หลังจากนางิสะถาม  มาโคโตะและรินก็มองไปยังรอบสวน ฮารุกะชี้นิ้ว

“ตรงนั้น”

“ยอดไปเลยฮารุ รู้ด้วย”

มาโคโตะชื่นชมเขา เลิกคิ้วรูปแปดขึ้น

“ตอนที่ดอกสีแดงเริ่มบาน ยาซากิบอกฉัน”

รินที่ถือพรวนและกระป๋อง เขาก็ไปยังดอกคามีเลีย

“เอาล่ะ เริ่มขุดกัน”

เมื่อรินนำพรวดไปยังดิน มาโคโตะและนางิสะก็เริ่มขุดในจุดเดียวกัน แต่ดินนั้นแข็งเกินคาด พวกเขาไม่สามารถขุดได้ตามที่คิด

“ฮารุ อย่ามัวแต่มอง มาช่วยหน่อยสิ”

รินกล่าว ขณะโยนพรวนไปข้างๆ ฮารุกะก็ไปยังสโมสรทางประตูเข้าด้านหลัง

“ชิ คนเห็นแก่ตัว”

เมื่อทั้งสองขุดอีกครั้งอย่างไม่เต็มใจ ฮารุกะก็กลับมา ถือพรวนดินขนาดใหญ่

“ถ้าเกิดขุดกับของแบบนั้น ก็ได้ขุดจนดึกหรอก”

ทันทีที่กล่าวจบฮารุกะ ก็นำพรวนไปยังดิน แล้วกระทืบบนนั้น เขาเริ่มขุดพร้อมเสียงตุ้บ พรวนของทั้งสามก็หยุดลง ทั้งสามทำได้แต่มองฮารุกะขุน

อยู่ๆเท้าของฮารุกะที่กระทืบก็หยุดลง

“มีอะไรเหรอฮารุ?”

มาโคโตะถาม

“มีอะไรอยู่ตรงนั้น”

“อะไร”

นางิสะมองดู

“... กล่อง?”

มาโคโตะพยายามขุดมันขึ้นมาอย่างระมัดระวัง

“นี่เป็นกล่องเครื่องมือ มีผู้มาเยือนก่อนหน้าด้วย”

รินดูด้วย กล่องเครื่องมืออยู่ในกระเป๋าไวนิลใส

“มีชื่อ … เขียนอยู่ด้วย”

เมื่อมาโคโตะปัดเศษดินออก ตัวอักษรที่เขียนไว้เป็น 'มัตสึโอกะ ริน'

“ฉัน? หา นี่เป็นของที่ฉันใช้ตอนอนุบาล แต่ทำไม?”

ขณะที่รินจ้องกล่อง ฮารุกะก็พูด

“ลองเปิดดูเดี๋ยวก็รู้เอง”

“... อืม”

ขุดกล่องขึ้นมา เอาพลาสติคออก รินพยายามเปิดฝากล่อง มีเหรียญทองทั้งสี่อยู่ภายใน

นางิสะมองจากข้างๆริน

“ครั้งที่ 18 งั้นเหรอ”

“ปีนี้ครั้งที่ 41 ถ้างั้นก็ 23 ปีที่แล้ว”

“....”

เมื่อมาโคโตะกล่าว รินก็ยืนขึ้นจับเหรียญรางวัลแล้ววิ่งไปยังประตูทางเข้าด้านหลัง เปิดประตูแล้วเข้าไปด้านใน เดินผ่านล้อบบี้ เขวิ่งไปยังห้องพักที่มีภาพความสำเร็วของสมาชิกแสดงอยู่ จากนั้นก็เขายืนอยู่หน้าภาพที่เก่าที่สุดที่สุด บนเหรียญที่คล้องคอเด็กผู้ชายที่ถือถ้วยรางวัลและหัวเราะ ตัวอักษรนั้นอ่านได้ว่าครั้งที่ 18 รินเปรียบเทียบกับเหรียญที่อยู่ในมือ อย่าไม่ต้องสงสัย ….

“...พ่อ”

น้ำตาไหลตามใบแก้มของริน

กล่องไม่ได้ถูกฝังเมื่อ 23 ปีที่แล้ว แต่เป็นตอนที่รินเข้าโรงเรียนประถมที่เขาเลิกใช้กล่องเครื่องมือ และช่วงเวลานั้น พ่อของเขาก็จากไป หรือก็คือ สามคนที่เหลือได้ฝังมัน สิ่งยืนยันมิตรภาพอาจจะสัญญากับความเป็นนิรันดร์

“...พ่อ”

หลังจากที่พึมพำ รินก็เช็ดน้ำตาด้วยมือซ้าย

หลังจากนั้น เขาก็ตัดสินใจฝังกล่องคุกกี้ที่มีถ้วยอยุ่ด้านในข้างๆกล่องเครื่องมือ





ต้นซากุระมีดอกตูมเล็กๆ มันสั่นคลอดไปตามลม ทำให้เห็นได้ชัดว่าต้นซากุระนั้นอ่อนลง อีกสามวัน ดอกจะเบ่งบานอย่างแน่นอน เหมือนที่พวกเขาเฝ้ารอถึงเวลานั้นอย่างฉุนเฉียว ดอกตูมก็เก็บแสงแดดฤดูใบไม้ร่วงไปเสียหมด ที่ฐานของต้นซากุระ ที่โอบล้อมด้วยอิฐสีน้ำตาลแดง ดอกไม้หลากสีก็เบ่งบานก่อนหน้า

“ยังไม่บานเลยสักนิด”

รินกล่าวด้วยนั้นเสียงที่ไม่ได้เสียใจ

“มาโคะจังถึงได้บอกไง มันเร็วไปจริงๆ”

นางิสะพูดให้ตลกโดยที่ไม่ได้ตั้งใจว่าอีกฝ่าย

“แต่นี่ ฉันจะเห็นมันเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะ ก็เลยอยากเห็น”

รินมองไปยังดอกตูมทีละดอกอย่างหลงใหล

“แต่ แปลงดอกไม้บานนะ ดอกอะไรน่ะซากิจัง?”

มาโคโตะนั่งยองแล้วยื่นมือไปยังดอกไม้ ผ้าพันคอเปื้อนสีน้ำตาลอ่อนพัดปลิวไปตามลม อากิก็นั่งยองข้างมาโคโตะ

“ดอกแพนซี่ อาจจะนะ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”

เมื่อเธอกล่าวจบก็หัวเราะ มีดอกอีกดอกที่บาน

<<มีต่อ>>
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่