ยุทธการ ยกหิน ทุ่มใส่ "ขา" ตนเอง ยุทธการ ออเดิร์ฟ มติชนออนไลน์ ....... เก็บตกฝากคุณ คนชาย และมิตรสหายชาวใต้ ....

กระทู้สนทนา
(ที่มา:มติชนรายวัน 6 ก.ย.2556)


ที่เคยเห็นผ่านการเคลื่อนไหวของ "หน้ากากขาว" ปรากฏร่องรอยให้สัมผัสได้ผ่านการเคลื่อนไหว
ม็อบชาวสวนยางเมื่อวันที่ 3 กันยายน

เพียงแต่ด้วย "ปริมาณ" ที่มากกว่า

การเคลื่อนไหวของ "หน้ากากขาว" ต้องการกรอบให้สื่อพวกเดียวกันสามารถพาดหัวในวันรุ่งขึ้นได้ว่า

"ต้านปูทั่วโลก"

จึงไม่เพียงแต่จะมีที่ภาคใต้อันเป็นเขตอิทธิพล หากแต่ยังมีที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือแม้จำนวน
จะหร็อมแหร็ม

และยังอุตส่าห์มีที่ "ต่างประเทศ"

แม้ในต่างประเทศจะดำเนินไปในลักษณะหย่อม 2 หย่อม กระจุก 1 ที่ออสเตรเลีย กระจุก 1 ที่ฮ่องกง

แต่พาดหัวได้ "ต้านปูทั่วโลก"

คำถามที่เสนอเข้ามาต่อการเคลื่อนไหวของม็อบเกษตรกรชาวสวนยางผนวกเข้ากับ
สวนปาล์มเด่นชัดยิ่งว่าถือภาคใต้เป็นศูนย์กลาง และแวดล้อมด้วยระยอง

ถือว่า "นกหวีด" เป่าแล้วหรือยัง

หากประเมินผ่าพาดหัวข่าวประเภท "ปิดถนนขึงพืดรัฐบาล/ม็อบยางใต้-ตะวันออกลุกฮือ"
ประสานเข้ากับ "7 จังหวัดลุกฮือปิดถนน/โคออป วิ่งกรูยึดสายเอเชีย"

ก็เห็นภาพแห่งการจลาจล

ยิ่งรับรู้การเดินทางเข้าไปในที่ชุมนุมของ นายเชน เทือกสุบรรณ ยิ่งรับรู้การขึ้นเวทีปราศรัยของ
นายสาคร เกี่ยวข้อง ที่กระบี่ การเป็นกำลังหลักของ นายจุมพล จุลใส ที่ชุมพร

ก็ยิ่งไม่แปลกใจ

กระนั้น เพียง 1 วันเท่านั้น ความขึงขังของการชุมนุมก็เริ่มรวนเร
เห็นได้จากการประกาศยุติที่หน้าโคออป

แต่บางส่วนกลับไม่ยอมรับมติ "ผู้นำ"

เห็นได้จากการยุติบทบาทอย่างรวดเร็วของการชุมนุมที่ระยอง เห็นได้จากการยอมรับ
ข้อต่อรองของรัฐบาลที่ร่อนพิบูลย์ ที่นาดี นครศรีธรรมราช

ก็เริ่มไม่แน่ใจว่าจะเป็นการเป่า "นกหวีด"

เพราะหากมองทางด้านรัฐบาลก็ยังยืนมาตรการช่วยเหลือทางด้านปัจจัยการผลิตเป็นหลัก
ด้วยการอนุมัติงบกลางวงเงิน 6,528 ล้านบาท พุ่งเป้าไปยังเกษตรกรผู้ปลูกยางที่มีพื้นที่
ตั้งแต่ 10 ไร่ลงมา ในวงเงิน 1,260 บาทต่อไร่

ไม่มีการแทรกแซงราคา

ต่อเมื่อสัมผัสกับบทสรุปจาก นายยู เจียรยืนยงพงศ์ ประธานสหพันธ์ขนส่ง
ทางบกแห่งประเทศไทยที่ว่า

สินค้าที่ส่งไปภาคใต้ลดลงร้อยละ 5

ในทางกลับกัน สินค้าอาหารทะเลที่ส่งจากภาคใต้มา กทม.และภาคอื่นๆ ก็หายไปร้อยละ 60

ผลก็คือ เกิดการขาดแคลนสินค้าอุปโภค บริโภค ในร้านโชห่วยและมินิมาร์ตภาคใต้บางพื้นที่

ขณะเดียวกัน ราคาอาหารทะเลจะเริ่มสูงขึ้น

ความเป็นจริงนี้เป็นผลสะเทือนจากการชุมนุมและปิดถนน ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคมเป็นต้นมา

ไม่เพียงเป็นความเดือดร้อนของผู้สัญจรโดยทั่วไป

หากที่สำคัญเป็นอย่างมาก คือ ความเดือดร้อนที่เริ่มส่งผลตกกระทบต่อชาวภาคใต้
ด้วยกันมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ อันเท่ากับเป็นการกระทำอย่างที่สำนวนจีนสรุปว่า ยก
ก้อนหินทุ่มขาตนเอง

เจ็บกันถ้วนทั่ว เดือดร้อนกันถ้วนทั่ว

น่าสนใจก็ตรงที่ปฏิบัติการอันเห็นได้จากเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ที่ควนหนองหงษ์ และบ้านตูล
กระทั่งเห็นได้จากบริเวณหน้าโคออปจึงยังไม่ใช่ "เมนคอร์ส" เป็นเพียง "ออเดิร์ฟ"

เป็น "ออเดิร์ฟ" จาก "ผู้ดี"

ถามว่าการชุมนุมเป็นปัญหาทาง "การเมือง" หรือว่าเป็นปัญหาทาง "เศรษฐกิจ"

ตอบได้เลยว่าแม้จะเป็นปัญหาทาง "เศรษฐกิจ" แต่สัมพันธ์ยึดโยงและการแสดงออกดำเนิน
ไปในลักษณะทาง "การเมือง" และเป็นการเมืองของพรรคการเมืองใดน่าศึกษาน่าสำรวจ

สำรวจผ่านกระสวน "อนาธิปัตย์"



ร่วมเป็นแฟนเพจเฟซบุ๊กกับมติชนออนไลน์
www.facebook.com/MatichonOnline

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1378453579&grpid=&catid=12&subcatid=1200

หากเพื่อนแบบคุณคนชาย แอนด์เดอะแก็งค์จะบอกว่าที่เขียนมาทั้งหมด  ไม่จริ๊ง  ไม่จริง
ก็ขอให้ค้านมาด้วย
หากไม่มีใครวิจารณ์บทความนี้  จะถือว่า  นี่คือความจริงที่เกิดขึ้น  ในแผ่นดินปลายด้ามขวาน
ที่พวกคุณยอมรับ  .......หัวเราะ

สาวแว่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่