จาก กระทู้นี้ ที่ผมตั้งเมื่อวาน
http://pantip.com/topic/30869086
ความเห็นมากมายเหลือเกินครับ ผมก็พยายามอ่านทุกความเห็น
บ้างก็ว่าให้ลองประหยัดดูอีก ทำอาหารไปกินเอง ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น ฯลฯ
บ้างก็ว่า "เราต้องพัฒนาตัวเอง เปลี่ยนแปลงตัวเอง "
เป็นความคิดที่เข้าท่าดีครับ
ผมคิดแบบนี้ว่า
"ถ้าสังคมนี้มันค่าครองชีพสูงมากนัก แล้วเราเองก็ไม่มีทางที่จะทำให้สังคมนี้มันค่าครองชีพต่ำลงมาได้
ถ้าอยากอยู่รอด เราก็ต้องมีเงินให้มากที่สุด มีรายรับให้มากที่สุด"
ว่าแต่ การพัฒนาตัวเองมันมีอะไรบ้างหละครับ แล้วทางไหนถึงจะเหมาะกับเรามากที่สุด
สำหรับมนุษย์เงินเดือน
1. ภาษา
อันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยครับ สำคัญยิ่งนัก ผมทำงานสายวิศวฯ ทุกที่ที่ให้เงินเดือนสูงๆ สัมภาษณ์และทำงานเป็นภาษาอังกฤษหมด
Chevron PTT Technip ฯ
ยิ่งเราเก่งมากเท่าไร เราไปได้ไกลเท่านั้น
2.วิชาชีพในการทำงาน
อันนี้ผมว่าก็สำคัญนะครับ ถ้าอยากไปไกล อยากเงินเยอะ คุณต้องเป็นเบอร์ 1 ในสายงานที่คุณทำ
ผมเห็นมีการซื้อตัวกันข้ามบริษัทเป็นว่าเล่น สำหรับพวกเก่งๆ
หรือ
อีกทางหนึ่ง คุณอาจจะไม่ต้องเป็นเบอร์ 1
แต่คุณต้องทำตัวเองให้รู้ก่อนคนอื่นเค้า รู้ในเรื่องที่คนอื่นไม่รู้ เป็นคนแรกๆ ในสายงานนั้น
ทั้งนี้ต้องอย่าลืมเรื่อง สัมพันธภาพในที่ทำงานด้วยนะครับ
ต้องดี เข้ากับคนง่าย สื่อสารเข้าใจ ทุกคนอยากทำงานกับคนแบบนี้
3. การพัฒนาเงินที่เหลือในแต่ละเดือน
ศึกษาเข้าไปครับ กองทุน หุ้น ต่างๆ คิดว่ามีเยอะแยะมากมายให้ศึกษา
อาจจะลองแบบน้อยๆก่อนเสียอาจจะได้ไม่เจ็บมาก
(แบบผมนี่แหละ ซื้อ HIDIV กะ BKD ไป ตอน 11 บาท และ 5 บาท ตามลำดับ ดีนะครับลงไปไม่เยอะ

)
ทำให้มันงอกเงยเก่งก็รวยไวครับ
ผมนึกไม่ค่อยออกละ สำหรับมนุษย์เงินเดือน
ต่อไปป.....
ออกมาทำธุรกิจเองครับ
ขออนุญาตเอาความเห็นที่ 115 จากกระทู้ที่แล้วครับ
************************************************************************************************
Q "มนุษย์เงินเดือนตัวเล็กๆอย่างเรา จะทำไงดีครับ เมื่อไรจะตั้งตัวได้ ???
แล้วเราจะทำยังไงดีหละครับ
ให้ออกจากวงล้อปั่น มาทำธุรกิจก็คงไม่ง่ายนัก
ถึงแม้ทุกวันนี้จะมีหนังสือที่พูดถึงแต่ความสำเร็จมากมาย
แต่ยังมีอีกจำนวนมากที่ทำแล้วเจ๊ง แต่ไม่มีใครทำออกมาเป็นหนังสือ"
Ans แล้วคุณได้ศึกษาหรือยังละครับ สมัยนี้การจะทำธุรกิจคงไม่ง่ายเหมือนสมัยก่อน เพราะถ้าธุรกิจดีและทำง่ายเดียวก็จะโดนกอปมาทำ แต่การศึกษาการทำธุรกิจมันก็ง่ายขึ้นเยอะมาก(จากหนังสือที่คุณว่านั้นแหละ รวมถึงเวปไซต์ต่างๆ) เดียวนี้เองรัฐก็สนับสนุนให้คนไทยหันมาทำธุรกิจ เปิดกิจการของตัวเองจะได้สร้างความหลากหลายและสร้างงาน ถ้าง่ายๆก็เข้าเวปของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเลยครับ หรือจะเป็นกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือจะเป็นสวทช
Ans เดียวนี้เงินทุนในการทำธุรกิจก็หาไม่ยากนะครับ มีทั้ง venture cap(อย่างว่าคนรวยไม่รู้จะเอาเงินไปอะไร) เงินกู้ต่างๆ การร่วมทุน เยอะมากมาย ขอแค่อย่างเดียว คือ มีสินค้าและแผนธุรกิจที่ดี
Ans ผมมองว่าของยิ่งแพง ยิ่งมีช่องให้ทำธุรกิจ (อ่านแล้วอาจจะงง) ต้องอย่าลืมว่าคนเราทำหลายอย่างในเวลาพร้อมกันไม่ได้ ในเมื่อเค้าเก่งด้านนึงก็อาจจะด้อยอีกด้าน ด้วยความว่าเวลาเค้าอาจมีค่ามากกว่าที่จะลงไปทำกิจกรรมที่ไม่ถนัดก็จะหาผู้ที่ถนัดมาทำแทนและคุ้มค่ากับเงินและเวลาที่เสียไป ซึ่งนี่ก็คือช่องว่างให้คนที่มองเห็นเข้ามาทำ อย่างเช่น คนทำงานเก่งเงินเดือนดีๆ อยากได้บ้านทำเลดีๆ ก็จะไปหานายหน้าให้คัดเลือกลักษณะบ้านที่ต้องการให้ (ไม่รู้ในเมืองไทยมียัง) หรือช่างซ่อมรถยนต์ก็เป็นตัวอย่างที่ดีอย่างนึง หรือธุรกิจนวด
Ans ถ้าไม่เชื่อก็ดูในสิงคโปร์ ธุรกิจบริการเติบโตดีมากทุกปี เพราะบ้านมันค่าแรงแพง ค่าครองชีพแพง ลองค่าครองชีพถูกๆธุรกิจพวกนี้เจ๊งไม่เป็นท่า เพราะไม่คุ้มที่จะทำ และธุรกิจพวกนี้เองกลับเติบโตในพม่าหรือกัมพูชาน้อย
สุดท้ายนี้ผมอยากให้คุณมองทุกอย่างเป็นโอกาส ไม่ใช่มองเพื่อจะกดให้ตัวเองหดหู่ แต่ต้องยอมรับอย่างนึงว่า พื้นที่ที่จะยืนเหนือคนอื่นมันมีจำกัดตามสามเหลี่ยมระบบนิเวศน์ ฉะนั้นก็อยู่ที่คุณจะเลือกแล้วว่าจะอยู่ชั้นไหนในรูปสามเหลี่ยมนั้น (พม่า ลาว กัมพูชา กำลังจะพัฒนาตัวเองให้ขึ้นมา นั้นหมายถึงคู่แข่งคุณจะเยอะขึ้นมาอีก) และถ้าอยากให้อยู่เหนือคนอื่น คุณก็ต้องมีความสามารถเหนือคนอื่นด้วย นั้นก็คือ คุณต้องศึกษาให้มากๆในสิ่งที่คุณอยากจะทำหรืออยากจะเป็น
************************************************************************************************
ผมค่อนข้างเห็นด้วย แต่ก็ต้องมีเงินทุนและความรู้พอสมควรครับ
ยืนยันคำเดิมนะครับ สำหรับผมเอง
"ถ้าสังคมนี้มันค่าครองชีพสูงมากนัก แล้วเราเองก็ไม่มีทางที่จะทำให้สังคมนี้มันค่าครองชีพต่ำลงมาได้
ถ้าอยากอยู่รอด เราก็ต้องมีเงินให้มากที่สุด มีรายรับให้มากที่สุด"
จขกท ขออนุญาตไป พัฒนาตัวเองก่อนครับ
สวัสดี

{แตกประเด็น} เมื่อเลือกที่จะสวนกระแส ค่าครองชีพสูงไม่ได้ เราจึงต้องหารายได้ให้มากที่สุด !!??!! (พัฒนาตัวเอง)
ความเห็นมากมายเหลือเกินครับ ผมก็พยายามอ่านทุกความเห็น
บ้างก็ว่าให้ลองประหยัดดูอีก ทำอาหารไปกินเอง ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น ฯลฯ
บ้างก็ว่า "เราต้องพัฒนาตัวเอง เปลี่ยนแปลงตัวเอง "
เป็นความคิดที่เข้าท่าดีครับ
ผมคิดแบบนี้ว่า
"ถ้าสังคมนี้มันค่าครองชีพสูงมากนัก แล้วเราเองก็ไม่มีทางที่จะทำให้สังคมนี้มันค่าครองชีพต่ำลงมาได้
ถ้าอยากอยู่รอด เราก็ต้องมีเงินให้มากที่สุด มีรายรับให้มากที่สุด"
ว่าแต่ การพัฒนาตัวเองมันมีอะไรบ้างหละครับ แล้วทางไหนถึงจะเหมาะกับเรามากที่สุด
สำหรับมนุษย์เงินเดือน
1. ภาษา
อันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยครับ สำคัญยิ่งนัก ผมทำงานสายวิศวฯ ทุกที่ที่ให้เงินเดือนสูงๆ สัมภาษณ์และทำงานเป็นภาษาอังกฤษหมด
Chevron PTT Technip ฯ
ยิ่งเราเก่งมากเท่าไร เราไปได้ไกลเท่านั้น
2.วิชาชีพในการทำงาน
อันนี้ผมว่าก็สำคัญนะครับ ถ้าอยากไปไกล อยากเงินเยอะ คุณต้องเป็นเบอร์ 1 ในสายงานที่คุณทำ
ผมเห็นมีการซื้อตัวกันข้ามบริษัทเป็นว่าเล่น สำหรับพวกเก่งๆ
หรือ
อีกทางหนึ่ง คุณอาจจะไม่ต้องเป็นเบอร์ 1
แต่คุณต้องทำตัวเองให้รู้ก่อนคนอื่นเค้า รู้ในเรื่องที่คนอื่นไม่รู้ เป็นคนแรกๆ ในสายงานนั้น
ทั้งนี้ต้องอย่าลืมเรื่อง สัมพันธภาพในที่ทำงานด้วยนะครับ ต้องดี เข้ากับคนง่าย สื่อสารเข้าใจ ทุกคนอยากทำงานกับคนแบบนี้
3. การพัฒนาเงินที่เหลือในแต่ละเดือน
ศึกษาเข้าไปครับ กองทุน หุ้น ต่างๆ คิดว่ามีเยอะแยะมากมายให้ศึกษา
อาจจะลองแบบน้อยๆก่อนเสียอาจจะได้ไม่เจ็บมาก
(แบบผมนี่แหละ ซื้อ HIDIV กะ BKD ไป ตอน 11 บาท และ 5 บาท ตามลำดับ ดีนะครับลงไปไม่เยอะ
ทำให้มันงอกเงยเก่งก็รวยไวครับ
ผมนึกไม่ค่อยออกละ สำหรับมนุษย์เงินเดือน
ต่อไปป.....
ออกมาทำธุรกิจเองครับ
ขออนุญาตเอาความเห็นที่ 115 จากกระทู้ที่แล้วครับ
************************************************************************************************
Q "มนุษย์เงินเดือนตัวเล็กๆอย่างเรา จะทำไงดีครับ เมื่อไรจะตั้งตัวได้ ???
แล้วเราจะทำยังไงดีหละครับ
ให้ออกจากวงล้อปั่น มาทำธุรกิจก็คงไม่ง่ายนัก
ถึงแม้ทุกวันนี้จะมีหนังสือที่พูดถึงแต่ความสำเร็จมากมาย
แต่ยังมีอีกจำนวนมากที่ทำแล้วเจ๊ง แต่ไม่มีใครทำออกมาเป็นหนังสือ"
Ans แล้วคุณได้ศึกษาหรือยังละครับ สมัยนี้การจะทำธุรกิจคงไม่ง่ายเหมือนสมัยก่อน เพราะถ้าธุรกิจดีและทำง่ายเดียวก็จะโดนกอปมาทำ แต่การศึกษาการทำธุรกิจมันก็ง่ายขึ้นเยอะมาก(จากหนังสือที่คุณว่านั้นแหละ รวมถึงเวปไซต์ต่างๆ) เดียวนี้เองรัฐก็สนับสนุนให้คนไทยหันมาทำธุรกิจ เปิดกิจการของตัวเองจะได้สร้างความหลากหลายและสร้างงาน ถ้าง่ายๆก็เข้าเวปของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเลยครับ หรือจะเป็นกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือจะเป็นสวทช
Ans เดียวนี้เงินทุนในการทำธุรกิจก็หาไม่ยากนะครับ มีทั้ง venture cap(อย่างว่าคนรวยไม่รู้จะเอาเงินไปอะไร) เงินกู้ต่างๆ การร่วมทุน เยอะมากมาย ขอแค่อย่างเดียว คือ มีสินค้าและแผนธุรกิจที่ดี
Ans ผมมองว่าของยิ่งแพง ยิ่งมีช่องให้ทำธุรกิจ (อ่านแล้วอาจจะงง) ต้องอย่าลืมว่าคนเราทำหลายอย่างในเวลาพร้อมกันไม่ได้ ในเมื่อเค้าเก่งด้านนึงก็อาจจะด้อยอีกด้าน ด้วยความว่าเวลาเค้าอาจมีค่ามากกว่าที่จะลงไปทำกิจกรรมที่ไม่ถนัดก็จะหาผู้ที่ถนัดมาทำแทนและคุ้มค่ากับเงินและเวลาที่เสียไป ซึ่งนี่ก็คือช่องว่างให้คนที่มองเห็นเข้ามาทำ อย่างเช่น คนทำงานเก่งเงินเดือนดีๆ อยากได้บ้านทำเลดีๆ ก็จะไปหานายหน้าให้คัดเลือกลักษณะบ้านที่ต้องการให้ (ไม่รู้ในเมืองไทยมียัง) หรือช่างซ่อมรถยนต์ก็เป็นตัวอย่างที่ดีอย่างนึง หรือธุรกิจนวด
Ans ถ้าไม่เชื่อก็ดูในสิงคโปร์ ธุรกิจบริการเติบโตดีมากทุกปี เพราะบ้านมันค่าแรงแพง ค่าครองชีพแพง ลองค่าครองชีพถูกๆธุรกิจพวกนี้เจ๊งไม่เป็นท่า เพราะไม่คุ้มที่จะทำ และธุรกิจพวกนี้เองกลับเติบโตในพม่าหรือกัมพูชาน้อย
สุดท้ายนี้ผมอยากให้คุณมองทุกอย่างเป็นโอกาส ไม่ใช่มองเพื่อจะกดให้ตัวเองหดหู่ แต่ต้องยอมรับอย่างนึงว่า พื้นที่ที่จะยืนเหนือคนอื่นมันมีจำกัดตามสามเหลี่ยมระบบนิเวศน์ ฉะนั้นก็อยู่ที่คุณจะเลือกแล้วว่าจะอยู่ชั้นไหนในรูปสามเหลี่ยมนั้น (พม่า ลาว กัมพูชา กำลังจะพัฒนาตัวเองให้ขึ้นมา นั้นหมายถึงคู่แข่งคุณจะเยอะขึ้นมาอีก) และถ้าอยากให้อยู่เหนือคนอื่น คุณก็ต้องมีความสามารถเหนือคนอื่นด้วย นั้นก็คือ คุณต้องศึกษาให้มากๆในสิ่งที่คุณอยากจะทำหรืออยากจะเป็น
************************************************************************************************
ผมค่อนข้างเห็นด้วย แต่ก็ต้องมีเงินทุนและความรู้พอสมควรครับ
ยืนยันคำเดิมนะครับ สำหรับผมเอง
"ถ้าสังคมนี้มันค่าครองชีพสูงมากนัก แล้วเราเองก็ไม่มีทางที่จะทำให้สังคมนี้มันค่าครองชีพต่ำลงมาได้
ถ้าอยากอยู่รอด เราก็ต้องมีเงินให้มากที่สุด มีรายรับให้มากที่สุด"
จขกท ขออนุญาตไป พัฒนาตัวเองก่อนครับ
สวัสดี