ฝากนิยายเรื่องใหม่ด้วยนะคะ
เป็นแนว Action- Fantasy
ปฐมบท
http://pantip.com/topic/30724109
Login ครั้งที่ 1
http://pantip.com/topic/30783066
\\\\\\\\\\\\\\\\
เสียงคมดาบบาดลึกผ่านหัวงูดังมากพอที่จะทำให้โมเว็ทมั่นใจได้ว่าสัตว์ร้ายต้องโดนปลิดชีพแล้ว แต่ทว่าแทนที่หัวงูจะกุดดังคาด มันกลับไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าคมดาบที่บาดผ่านเนื้อของมันเป็นเพียงลมและอากาศเท่านั้น โมเว็ทเลิกสนใจ เขากระโดดสูงพร้อมกับวาดดาบสะบัดใส่เจ้างู ฟาดฟันคอมันหลายครั้งจนอีกฝ่ายอ่อนแรงลง
ทางด้านของเจเรมีย์ก็หลบกรงเล็บคู่หน้า หัวแพะและหัวสิงโตร้องคำรามหัวเสียเมื่อถูกอีกฝ่ายพยายามหลอกล่อให้มันฟาดอุ้งตีนใส่ทางซ้ายทีขวาที เจ้าสัตว์ร้ายฉุนโกรธจึงพ่นไฟร้อนใส่โดยพลัน เด็กหนุ่มไม่ทันตั้งตัวจึงถูกเปลวไฟครอกทั่วร่างร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดและทรมาน ความร้อนถาโถมใส่ร่างนั้นขณะที่ตัวปลิวถอยออกมา แม้ว่าเพียงไม่กี่วินาทีเปลวไฟจะหายไปจากชุดเกราะแต่เจเรมีย์ก็ยังคงรู้สึกได้ว่าร่างกายบาดเจ็บสาหัสและเขาก็รู้สึกปวดแสบปวดร้อนจนเลือดไหลผ่านริมฝีปาก เด็กหนุ่มอยากจะร้องโอดโอยออกมาอีกครั้งแต่คราวนี้ปากของเขากลับไม่ขยับเปิด สายตายังคงจดจ้องมองศัตรูตัวยักษ์และขาทั้งสองก็ขยับเข้าหาเป้าหมายทันที ราวกับไม่รู้สึกทุกข์ร้อนต่อพิษสงของสัตว์ยักษ์และความทรมานที่ได้รับเมื่อครู่เลยสักนิด
เมื่อโมเว็ทจัดการกับหัวงูได้เรียบร้อยแล้ว หางของคิเมียร่าก็สลายไปต่อหน้าต่อตากลายเป็นเพียงละอองแสงรางเลือนในบรรยากาศ เด็กหนุ่มตบเท้าวิ่งขึ้นไปบนหลังของศัตรู เขาไม่มีทางรู้ว่าเพราะเหตุใดตนเองสามารถกระโดดได้สูงถึงสี่เมตรเช่นนี้แต่เขาก็เลิกสงสัย รีบหันมามองเป้าหมายเดียวที่มีอยู่ในขณะนี้ซึ่งก็คือเจ้าหัวแพะและหัวสิงโตที่กำลังกลั่นแกล้งเพื่อนของเขาเสียสนุก
วืด!
ดาบสองคมเล่มหนาตวัดซ้ายขวาหมายจะตัดคอเหยื่อให้ขาดในคราเดียวทว่าก็ไม่ได้ผล มีเพียงเสียงร้องแสดงความเจ็บปวดเมื่อคมดาบกรีดไปตามแผ่นหลัง
ไม่มีแผลเหวอหวะใดๆปรากฏขึ้นบนผิวหนัง ราวกับว่าน้ำหนักการลงดาบในแต่ละครานั้นล่องหนและความคมที่เชือดเฉือนศัตรูก็เกิดขึ้นเพียงการจำลองเท่านั้น
เจ้าคิเมียร่าตัวโตดีดสะบัดจนเด็กหนุ่มตกลงไปกองบนพื้น เจเรมีย์รีบสวนเข้ามาทันที เขาก้มหลบเปลวเพลิงร้อนที่หัวสิงโตและหัวแพะผลัดกันอ้าปากพ่นไฟใส่ เด็กหนุ่มหมุนดาบอย่างชำนิชำนาญ เหวี่ยงด้วยกระบวนท่าพิสดารที่ทั้งชีวิตนี้เขาไม่เคยคิดเลยว่าตนเองสามารถร่ายรำดาบได้เป็นลำดับอย่างสมบูรณ์ถึงเพียงนี้ ทุกท่วงท่าที่ฟาดดาบใส่ก็เกิดประกายไฟสีส้มสว่างพร้อมทั้งตัวอักษรที่โผล่ออกมาจากการโจมตีแต่ละครั้งว่า ‘Combo’ ซึ่งหมายถึงการโจมตีอย่างต่อเนื่องด้วยท่วงท่าที่สวยงาม ทำให้เจ้าคิเมียร่าตัวโตชะงักค้างล้มตัวลงนอนบนพื้นสนาม
ทั้งสองไม่รอช้ารีบใช้จังหวะนี้กระโดดขึ้นไปยืนบนแผ่นหลังของศัตรู ดาบของพวกเขาหายไป มือทั้งสองข้างของโมเว็ทถือกระบี่คมด้ามสั้นซึ่งปลายด้ามมีโกร่งสีทองประดับอยู่ ทั้งสองหนุ่มตวัดมือจ้วงลงไปบนผิวหยาบๆของคิเมียร่าทะลุผ่านเนื้อหนากระซวกทะลวงลึกจนถึงเครื่องใน เลือดนั้นพุ่งออกมาราวกับสายน้ำ ทุกหยดโลหิตที่รินไหลเลือนหายไปในพริบตาเดียวทันทีที่ปลิวกระทบพื้นสนาม
แทนที่คิเมียร่าจะหมดฤทธิ์เพราะการโจมตีอย่างต่อเนื่องด้วยกระบี่สี่เล่ม แต่มันกลับฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้ง เจ้าสัตว์ร้ายพลิกกายหมายจะทับร่างของทั้งสองให้แบนติดดินแต่พวกเขาก็สามารถหมุนตัวหลบออกมาได้ทันท่วงที
ตึง!
เสียงของเท้าทั้งสี่ย่ำลงบนพื้นหนักๆ คิเมียร่าส่งแววตาสีเพลิงกราดเกรี้ยวนั้นสบมองคู่ต่อสู้ก่อนจะคำรามออกมาอีก มันพ่นไฟร้อนใส่เจเรมีย์พลางสะบัดหัวหันหาโมเว็ท ทั้งสองต้องกลิ้งหลบพยายามหาจังหวะเข้าโจมตีแต่ก็ไร้ผลเพราะคิเมียร่าสามารถสกัดพวกเขาได้ด้วยการพ่นไฟอย่างต่อเนื่อง
เพลิงร้อนแผดเผาเกราะหนาจนร่างกายภายในแทบละลายเหลว โมเว็ทฝืนกลั้นความเจ็บปวด เขาไม่นึกเลยว่าสถานที่จำลองแห่งนี้สามารถทำอันตรายเขาได้จริงๆ
บัดนี้เขารู้แล้วว่าเพราะเหตุใดที่นี่คือแดนประหาร
เพราะฉันสามารถตายได้จริงในสถานที่จำลอง
ฉันสามารถตายได้จริง
ความกลัวแล่นเข้าจับขั้วหัวใจ มือที่เคยแข็งแรงชาวาบพยายามต่อต้านการควบคุมที่ระบบจำลองแห่งนี้ตรึงพวกเขาเอาไว้
เหงื่อไหลท่วมใบหน้าสายตาที่พร่าเลือนยังคงสบมองศัตรูนิ่งๆ สักครู่ร่างกายที่เขาไม่สามารถควบคุมได้ด้วยตนเองก็ถลาเข้าใส่คิเมียร่าอีกครั้ง
โมเว็ทสับเท้าวิ่งด้วยความเร็วก่อนจะกระโจนตัวพร้อมกระบี่สองมือ เจ้าสัตว์ร้ายเลื่อนนัยน์ตาวาวโรจน์สบมองอย่างรู้ทัน มันยกขาหน้าหมายจะตะปบเหยื่อให้ดับดิ้นสิ้นใจเสียตรงนั้นแต่เด็กหนุ่มก็สามารถหมุนตัวหลบได้ ก่อนจะเหวี่ยงแขนวาดกระบี่ใส่คิเมียร่าทันที เจ้าสัตว์สี่เท้าดุร้ายตัวนี้ก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆมันพ่นไฟใส่เขาจนร่างปลิวกระเด็นถอยห่างออกไปไกล
โมเว็ทกลิ้งหลายตลบแทบสลบไปบนพื้นสนาม แม้ว่าเปลิวเพลิงนั้นไม่สามารถทำอันตรายแก่ร่างกายใต้เกราะได้แต่ทว่าผิวหน้าของเขาก็ไหม้จนลอกออกมาเป็นแผ่น เขานึกตกใจแต่สีหน้าก็ยังคงความเรียบนิ่งไม่รับคำสั่งใดๆ กายที่เจ็บระบมยืนหยัดขึ้นบนลำแข้งที่อ่อนปวกเปียก เขาหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนปราศจากเรี่ยวแรงต่อสู้หากแต่ร่างกายซึ่งเลิกฟังคำสั่งของสมองยังสามารถฝืนทนต่อความเจ็บปวดได้ แล้วสักพักก็วิ่งเข้าไปหาศัตรูอีกครา
เด็กหนุ่มหอบแฮ่กมองเจ้าสัตว์ร่างโตด้วยแววตาขุ่นหมองมองเห็นทั้งเจเรมีย์และคิเมียร่าเป็นเพียงภาพรางเลือน
ฟู่!
ปากสิงโตอ้ากว้าง ไฟร้อนถูกพ่นออกมาอีกคำรบหนึ่ง ประกายเพลิงสีเหลืองสว่างพวยพุ่งสูงสู่ยอดโดม บรรดาคนดูต่างส่งเสียงอุทานด้วยความตกตะลึง
สองหนุ่มรีบม้วนตัวหนีเปลวไฟร้อนๆนั้นทันที พวกเขากลิ้งต่อไปเรื่อยๆจนถึงกำแพงอิฐแล้วโมเว็ทก็เปลี่ยนอาวุธเป็นดาบเล่มยาวดังเดิม เส้นลำแสงสีเขียวล้อมรอบข้อมือข้างซ้ายครั้นแล้วโล่เงินก็ปรากฏขึ้น ทันทีที่คิเมียร่าพ่นไฟใส่โมเว็ท เขาก็ใช้โล่บังกาย พยายามขยับเท้าเขยื้อนต้านแรงปะทะของเปลวเพลิงนั้นจนเข้าประชิดตัวสัตว์ร้ายได้อย่างง่ายดาย
เขาเบี่ยงตัวให้พ้นจากเปลวเพลิงก่อนจะพุ่งเข้าจ้วงดาบใส่คอหนาๆของคิเมียร่า
ฉับ!
คราวนี้ได้ผลเพราะการโจมตีที่ผ่านมาได้สร้างบาดแผลให้แก่มันไม่ใช่น้อย จากการโจมตีที่ทำให้เกิดเพียงความระคายผิวกลายเป็นความเจ็บปวดอันแสนสาหัส เจ้าสัตว์ร้ายร้องลั่นเลื่อนอุ้งเท้าหมายจะยกขึ้นตะปบอีกฝ่ายให้ดับดิ้นสิ้นใจแต่ความเร็วก็ลดลงจนกลายเป็นเพียงอาการสั่น โมเว็ทเขยิบถอยออกมาอย่างง่ายดายปล่อยให้เจเรมีย์กระโดดขึ้นไปบนหัวคิเมียร่าบ้าง
ผู้ชมบนอัฒจันทร์เห็นดังนั้นก็ทราบได้ในทันทีว่าการต่อสู้กำลังจะจบลง พวกเขาส่งเสียงเฮลั่นสั่งให้สองหนุ่มรีบปลิดชีพคิเมียร่าทิ้งเสียที
เจเรมีย์ไม่ชักช้าอีก เขาใช้กระบี่ทั้งสองเล่มออกแรงปักบนหัวของสิงโตนั้นแล้วจึงลากคมกระบี่ตลอดกลางสันหลัง เลือดนั้นพุ่งสาดเป็นแนวยาว ร่างกายใต้ชุดเกราะแปดเปื้อนโลหิตคาวของสัตว์ร้าย คิเมียร่าร้องอีกครั้งด้วยเสียงครวญดังสนั่นโดม
ในวินาทีถัดมาเจ้าสัตว์ดุร้ายก็สิ้นใจ ลำตัวใหญ่ยักษ์นับสี่เมตรล้มลงบนพื้นสนามก่อนที่ร่างของมันจะเปลี่ยนเป็นเพียงเศษขี้เถ้าสีดำลอยคลุ้งฟุ้งในอากาศ
ไม่ทันที่โมเว็ทจะได้พักหยุดหายใจ ร่ายกายของเขาก็พุ่งเข้าหาเจเรมีย์พร้อมดาบด้ามยาวทันที
เฮ้ย! เดี๋ยว! ไม่! ไม่!
สมองของเด็กหนุ่มกู่ร้อง เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเพื่อน แต่จะทำเช่นไรได้ในเมื่อกายของเขาตกอยู่ใต้การควบคุมของแรงปริศนา
วืด! วืด!
โมเว็ทตวัดดาบซ้ายทีขวาทีอย่างคล่องแคล่วว่องไว อีกฝ่ายก็สามารถเคลื่อนตัวหลบได้ก่อนจะก้มลงแล้วสวนด้วยกระบี่เล่มเล็กปะทะเข้ากับจุดอ่อนใต้ชุดเกราะ
ในจังหวะที่ปลายแหลมคมของกระบี่กำลังเสียดแทงผ่านซอกเกราะสัมฤทธิ์ โมเว็ทก็พลิกกายหนีกระโดดถอยออกไปยืนตั้งรับโดยไว
โชคดีที่เขาและเจเรมีย์ยังปลอดภัย ... เด็กหนุ่มคิดในใจ
คราวนี้ทั้งสองจับจ้องมองกันตาไม่กระพริบ ต่างฝ่ายต่างกระชับอาวุธในมือให้แน่นดีขณะยืนหอบแฮ่ก
บรรดากองเชียร์หันมาสนใจการต่อสู้รอบใหม่ การต่อสู้ที่ทุกคนเฝ้ารอคอย ...
... การต่อสู้ระหว่างโมเว็ทกับเจเรมีย์
“โมเว็ทๆๆ!!!!”
“เจเรมีย์ๆๆ!!!!”
ทั้งสองอยู่ในท่าตั้งรับสายตาหยั่งเชิงคู่ต่อสู้
ไม่! ไม่!
โมเว็ทตะโกนใส่ใต้จิตสำนึกที่ลืมตัวตนของเขาจนหมดสิ้น เขาอยากหวีดร้องแต่กายของเขาหรือจะยอมฟัง?
ทันทีที่เจเรมีย์เริ่มขยับปลายเท้า โมเว็ทก็พุ่งเข้าโจมตีทันที!
วินาทีนั้นเอง!
ฟุ่บ!
Run! วิ่งฝ่าเกมอันตราย- Login ครั้งที่ 1.5
เป็นแนว Action- Fantasy
ปฐมบท
http://pantip.com/topic/30724109
Login ครั้งที่ 1
http://pantip.com/topic/30783066
\\\\\\\\\\\\\\\\
เสียงคมดาบบาดลึกผ่านหัวงูดังมากพอที่จะทำให้โมเว็ทมั่นใจได้ว่าสัตว์ร้ายต้องโดนปลิดชีพแล้ว แต่ทว่าแทนที่หัวงูจะกุดดังคาด มันกลับไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าคมดาบที่บาดผ่านเนื้อของมันเป็นเพียงลมและอากาศเท่านั้น โมเว็ทเลิกสนใจ เขากระโดดสูงพร้อมกับวาดดาบสะบัดใส่เจ้างู ฟาดฟันคอมันหลายครั้งจนอีกฝ่ายอ่อนแรงลง
ทางด้านของเจเรมีย์ก็หลบกรงเล็บคู่หน้า หัวแพะและหัวสิงโตร้องคำรามหัวเสียเมื่อถูกอีกฝ่ายพยายามหลอกล่อให้มันฟาดอุ้งตีนใส่ทางซ้ายทีขวาที เจ้าสัตว์ร้ายฉุนโกรธจึงพ่นไฟร้อนใส่โดยพลัน เด็กหนุ่มไม่ทันตั้งตัวจึงถูกเปลวไฟครอกทั่วร่างร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดและทรมาน ความร้อนถาโถมใส่ร่างนั้นขณะที่ตัวปลิวถอยออกมา แม้ว่าเพียงไม่กี่วินาทีเปลวไฟจะหายไปจากชุดเกราะแต่เจเรมีย์ก็ยังคงรู้สึกได้ว่าร่างกายบาดเจ็บสาหัสและเขาก็รู้สึกปวดแสบปวดร้อนจนเลือดไหลผ่านริมฝีปาก เด็กหนุ่มอยากจะร้องโอดโอยออกมาอีกครั้งแต่คราวนี้ปากของเขากลับไม่ขยับเปิด สายตายังคงจดจ้องมองศัตรูตัวยักษ์และขาทั้งสองก็ขยับเข้าหาเป้าหมายทันที ราวกับไม่รู้สึกทุกข์ร้อนต่อพิษสงของสัตว์ยักษ์และความทรมานที่ได้รับเมื่อครู่เลยสักนิด
เมื่อโมเว็ทจัดการกับหัวงูได้เรียบร้อยแล้ว หางของคิเมียร่าก็สลายไปต่อหน้าต่อตากลายเป็นเพียงละอองแสงรางเลือนในบรรยากาศ เด็กหนุ่มตบเท้าวิ่งขึ้นไปบนหลังของศัตรู เขาไม่มีทางรู้ว่าเพราะเหตุใดตนเองสามารถกระโดดได้สูงถึงสี่เมตรเช่นนี้แต่เขาก็เลิกสงสัย รีบหันมามองเป้าหมายเดียวที่มีอยู่ในขณะนี้ซึ่งก็คือเจ้าหัวแพะและหัวสิงโตที่กำลังกลั่นแกล้งเพื่อนของเขาเสียสนุก
วืด!
ดาบสองคมเล่มหนาตวัดซ้ายขวาหมายจะตัดคอเหยื่อให้ขาดในคราเดียวทว่าก็ไม่ได้ผล มีเพียงเสียงร้องแสดงความเจ็บปวดเมื่อคมดาบกรีดไปตามแผ่นหลัง
ไม่มีแผลเหวอหวะใดๆปรากฏขึ้นบนผิวหนัง ราวกับว่าน้ำหนักการลงดาบในแต่ละครานั้นล่องหนและความคมที่เชือดเฉือนศัตรูก็เกิดขึ้นเพียงการจำลองเท่านั้น
เจ้าคิเมียร่าตัวโตดีดสะบัดจนเด็กหนุ่มตกลงไปกองบนพื้น เจเรมีย์รีบสวนเข้ามาทันที เขาก้มหลบเปลวเพลิงร้อนที่หัวสิงโตและหัวแพะผลัดกันอ้าปากพ่นไฟใส่ เด็กหนุ่มหมุนดาบอย่างชำนิชำนาญ เหวี่ยงด้วยกระบวนท่าพิสดารที่ทั้งชีวิตนี้เขาไม่เคยคิดเลยว่าตนเองสามารถร่ายรำดาบได้เป็นลำดับอย่างสมบูรณ์ถึงเพียงนี้ ทุกท่วงท่าที่ฟาดดาบใส่ก็เกิดประกายไฟสีส้มสว่างพร้อมทั้งตัวอักษรที่โผล่ออกมาจากการโจมตีแต่ละครั้งว่า ‘Combo’ ซึ่งหมายถึงการโจมตีอย่างต่อเนื่องด้วยท่วงท่าที่สวยงาม ทำให้เจ้าคิเมียร่าตัวโตชะงักค้างล้มตัวลงนอนบนพื้นสนาม
ทั้งสองไม่รอช้ารีบใช้จังหวะนี้กระโดดขึ้นไปยืนบนแผ่นหลังของศัตรู ดาบของพวกเขาหายไป มือทั้งสองข้างของโมเว็ทถือกระบี่คมด้ามสั้นซึ่งปลายด้ามมีโกร่งสีทองประดับอยู่ ทั้งสองหนุ่มตวัดมือจ้วงลงไปบนผิวหยาบๆของคิเมียร่าทะลุผ่านเนื้อหนากระซวกทะลวงลึกจนถึงเครื่องใน เลือดนั้นพุ่งออกมาราวกับสายน้ำ ทุกหยดโลหิตที่รินไหลเลือนหายไปในพริบตาเดียวทันทีที่ปลิวกระทบพื้นสนาม
แทนที่คิเมียร่าจะหมดฤทธิ์เพราะการโจมตีอย่างต่อเนื่องด้วยกระบี่สี่เล่ม แต่มันกลับฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้ง เจ้าสัตว์ร้ายพลิกกายหมายจะทับร่างของทั้งสองให้แบนติดดินแต่พวกเขาก็สามารถหมุนตัวหลบออกมาได้ทันท่วงที
ตึง!
เสียงของเท้าทั้งสี่ย่ำลงบนพื้นหนักๆ คิเมียร่าส่งแววตาสีเพลิงกราดเกรี้ยวนั้นสบมองคู่ต่อสู้ก่อนจะคำรามออกมาอีก มันพ่นไฟร้อนใส่เจเรมีย์พลางสะบัดหัวหันหาโมเว็ท ทั้งสองต้องกลิ้งหลบพยายามหาจังหวะเข้าโจมตีแต่ก็ไร้ผลเพราะคิเมียร่าสามารถสกัดพวกเขาได้ด้วยการพ่นไฟอย่างต่อเนื่อง
เพลิงร้อนแผดเผาเกราะหนาจนร่างกายภายในแทบละลายเหลว โมเว็ทฝืนกลั้นความเจ็บปวด เขาไม่นึกเลยว่าสถานที่จำลองแห่งนี้สามารถทำอันตรายเขาได้จริงๆ
บัดนี้เขารู้แล้วว่าเพราะเหตุใดที่นี่คือแดนประหาร
เพราะฉันสามารถตายได้จริงในสถานที่จำลอง
ฉันสามารถตายได้จริง
ความกลัวแล่นเข้าจับขั้วหัวใจ มือที่เคยแข็งแรงชาวาบพยายามต่อต้านการควบคุมที่ระบบจำลองแห่งนี้ตรึงพวกเขาเอาไว้
เหงื่อไหลท่วมใบหน้าสายตาที่พร่าเลือนยังคงสบมองศัตรูนิ่งๆ สักครู่ร่างกายที่เขาไม่สามารถควบคุมได้ด้วยตนเองก็ถลาเข้าใส่คิเมียร่าอีกครั้ง
โมเว็ทสับเท้าวิ่งด้วยความเร็วก่อนจะกระโจนตัวพร้อมกระบี่สองมือ เจ้าสัตว์ร้ายเลื่อนนัยน์ตาวาวโรจน์สบมองอย่างรู้ทัน มันยกขาหน้าหมายจะตะปบเหยื่อให้ดับดิ้นสิ้นใจเสียตรงนั้นแต่เด็กหนุ่มก็สามารถหมุนตัวหลบได้ ก่อนจะเหวี่ยงแขนวาดกระบี่ใส่คิเมียร่าทันที เจ้าสัตว์สี่เท้าดุร้ายตัวนี้ก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆมันพ่นไฟใส่เขาจนร่างปลิวกระเด็นถอยห่างออกไปไกล
โมเว็ทกลิ้งหลายตลบแทบสลบไปบนพื้นสนาม แม้ว่าเปลิวเพลิงนั้นไม่สามารถทำอันตรายแก่ร่างกายใต้เกราะได้แต่ทว่าผิวหน้าของเขาก็ไหม้จนลอกออกมาเป็นแผ่น เขานึกตกใจแต่สีหน้าก็ยังคงความเรียบนิ่งไม่รับคำสั่งใดๆ กายที่เจ็บระบมยืนหยัดขึ้นบนลำแข้งที่อ่อนปวกเปียก เขาหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนปราศจากเรี่ยวแรงต่อสู้หากแต่ร่างกายซึ่งเลิกฟังคำสั่งของสมองยังสามารถฝืนทนต่อความเจ็บปวดได้ แล้วสักพักก็วิ่งเข้าไปหาศัตรูอีกครา
เด็กหนุ่มหอบแฮ่กมองเจ้าสัตว์ร่างโตด้วยแววตาขุ่นหมองมองเห็นทั้งเจเรมีย์และคิเมียร่าเป็นเพียงภาพรางเลือน
ฟู่!
ปากสิงโตอ้ากว้าง ไฟร้อนถูกพ่นออกมาอีกคำรบหนึ่ง ประกายเพลิงสีเหลืองสว่างพวยพุ่งสูงสู่ยอดโดม บรรดาคนดูต่างส่งเสียงอุทานด้วยความตกตะลึง
สองหนุ่มรีบม้วนตัวหนีเปลวไฟร้อนๆนั้นทันที พวกเขากลิ้งต่อไปเรื่อยๆจนถึงกำแพงอิฐแล้วโมเว็ทก็เปลี่ยนอาวุธเป็นดาบเล่มยาวดังเดิม เส้นลำแสงสีเขียวล้อมรอบข้อมือข้างซ้ายครั้นแล้วโล่เงินก็ปรากฏขึ้น ทันทีที่คิเมียร่าพ่นไฟใส่โมเว็ท เขาก็ใช้โล่บังกาย พยายามขยับเท้าเขยื้อนต้านแรงปะทะของเปลวเพลิงนั้นจนเข้าประชิดตัวสัตว์ร้ายได้อย่างง่ายดาย
เขาเบี่ยงตัวให้พ้นจากเปลวเพลิงก่อนจะพุ่งเข้าจ้วงดาบใส่คอหนาๆของคิเมียร่า
ฉับ!
คราวนี้ได้ผลเพราะการโจมตีที่ผ่านมาได้สร้างบาดแผลให้แก่มันไม่ใช่น้อย จากการโจมตีที่ทำให้เกิดเพียงความระคายผิวกลายเป็นความเจ็บปวดอันแสนสาหัส เจ้าสัตว์ร้ายร้องลั่นเลื่อนอุ้งเท้าหมายจะยกขึ้นตะปบอีกฝ่ายให้ดับดิ้นสิ้นใจแต่ความเร็วก็ลดลงจนกลายเป็นเพียงอาการสั่น โมเว็ทเขยิบถอยออกมาอย่างง่ายดายปล่อยให้เจเรมีย์กระโดดขึ้นไปบนหัวคิเมียร่าบ้าง
ผู้ชมบนอัฒจันทร์เห็นดังนั้นก็ทราบได้ในทันทีว่าการต่อสู้กำลังจะจบลง พวกเขาส่งเสียงเฮลั่นสั่งให้สองหนุ่มรีบปลิดชีพคิเมียร่าทิ้งเสียที
เจเรมีย์ไม่ชักช้าอีก เขาใช้กระบี่ทั้งสองเล่มออกแรงปักบนหัวของสิงโตนั้นแล้วจึงลากคมกระบี่ตลอดกลางสันหลัง เลือดนั้นพุ่งสาดเป็นแนวยาว ร่างกายใต้ชุดเกราะแปดเปื้อนโลหิตคาวของสัตว์ร้าย คิเมียร่าร้องอีกครั้งด้วยเสียงครวญดังสนั่นโดม
ในวินาทีถัดมาเจ้าสัตว์ดุร้ายก็สิ้นใจ ลำตัวใหญ่ยักษ์นับสี่เมตรล้มลงบนพื้นสนามก่อนที่ร่างของมันจะเปลี่ยนเป็นเพียงเศษขี้เถ้าสีดำลอยคลุ้งฟุ้งในอากาศ
ไม่ทันที่โมเว็ทจะได้พักหยุดหายใจ ร่ายกายของเขาก็พุ่งเข้าหาเจเรมีย์พร้อมดาบด้ามยาวทันที
เฮ้ย! เดี๋ยว! ไม่! ไม่!
สมองของเด็กหนุ่มกู่ร้อง เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเพื่อน แต่จะทำเช่นไรได้ในเมื่อกายของเขาตกอยู่ใต้การควบคุมของแรงปริศนา
วืด! วืด!
โมเว็ทตวัดดาบซ้ายทีขวาทีอย่างคล่องแคล่วว่องไว อีกฝ่ายก็สามารถเคลื่อนตัวหลบได้ก่อนจะก้มลงแล้วสวนด้วยกระบี่เล่มเล็กปะทะเข้ากับจุดอ่อนใต้ชุดเกราะ
ในจังหวะที่ปลายแหลมคมของกระบี่กำลังเสียดแทงผ่านซอกเกราะสัมฤทธิ์ โมเว็ทก็พลิกกายหนีกระโดดถอยออกไปยืนตั้งรับโดยไว
โชคดีที่เขาและเจเรมีย์ยังปลอดภัย ... เด็กหนุ่มคิดในใจ
คราวนี้ทั้งสองจับจ้องมองกันตาไม่กระพริบ ต่างฝ่ายต่างกระชับอาวุธในมือให้แน่นดีขณะยืนหอบแฮ่ก
บรรดากองเชียร์หันมาสนใจการต่อสู้รอบใหม่ การต่อสู้ที่ทุกคนเฝ้ารอคอย ...
... การต่อสู้ระหว่างโมเว็ทกับเจเรมีย์
“โมเว็ทๆๆ!!!!”
“เจเรมีย์ๆๆ!!!!”
ทั้งสองอยู่ในท่าตั้งรับสายตาหยั่งเชิงคู่ต่อสู้
ไม่! ไม่!
โมเว็ทตะโกนใส่ใต้จิตสำนึกที่ลืมตัวตนของเขาจนหมดสิ้น เขาอยากหวีดร้องแต่กายของเขาหรือจะยอมฟัง?
ทันทีที่เจเรมีย์เริ่มขยับปลายเท้า โมเว็ทก็พุ่งเข้าโจมตีทันที!
วินาทีนั้นเอง!
ฟุ่บ!