เมื่อวานผมตั้งกระทู้ : สภาพตลาดหลักทรัพย์เมื่อวาน ทำให้รู้ว่าถ้าเชื่อความสามารถต่างๆ ที่นายกิติรัตน์โม้ไว้ ประเทศไทยเราต้องย่ำแย่แน่
http://pantip.com/topic/30596136
ได้อ้างอิงถึงหุ้นที่ตกรุนแรงเพราะทางบ.จัดเครดิต S&P ได้ให้สหรัฐมีสถานะจาก 'แง่ลบ' เป็น 'มีเสถียรภาพ' ทำให้นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นในไทยและประเทศอื่นๆ นอกจากสหรัฐฯ อย่างรุนแรง เพื่อนำเงินกลับไปซื้อพันธบัตรหรือลงทุนในสหรัฐ
แต่เสื้อแดงในห้องศุภฯ หลายคนกลับบอกว่า 'หุ้นขึ้นไม่ชมรัฐบาล หุ้นลงด่ารัฐบาล) ... ผมไปด่าตรงไหน
มีบางคนถามว่า แล้วทำไมธปท. (จริงๆ ต้องกนง.ที่เขาตัดสินใจทั้งคณะ ถึงแม้ผู้ว่าธปท. คุณประสารจะเป็นประธานกรรมการก็ตาม) สุดท้ายก็ต้องขึ้นดอกเบี้ย
ทำไมถึงถาม ถามเหมือนที่รมต.โต้งบอกว่า อยากปลดผู้ว่าแบ็งค์ชาติทุกวัน ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่มีสิทธิ์ตามกฏหมาย เพราะอัตราดอกเบี้ยไม่ใช่ทุกอย่างในการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยน ไม่รู้ว่ารมต.โต้งมาเป็นรองรมต.เศรษฐกิจร่วม 2 ปี และมาเป็นรมต.คลังมาร่วมปี นี่ก็ไม่รู้จักวิธี manage อัตราแลกเปลี่ยนเลย กว่าจะร่วมกับหลายๆ หน่วยงานในการวาง 4 steps ในการจัดการกับอัตราแลกเปลี่ยนจากหนักไปหาเบา
ทั้งที่ผมก็บอกในกระทู้แล้วว่า ที่กนง.เขาไม่ลดดอกเบี้ยนโยบายตั้งแต่ต้นปี (เพื่อให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทแข็งขึ้นตามที่รมต.กิติรัตน์ต้องการ) เพราะดอกเบี้ยแต่ละประเทศขึ้นกับปัจจัยทางเศรษฐกิจเทียบกับประเทศอื่น ตอนช่วงที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยแข็งแกร่ง ดังนั้น อัตราดอกเบี้ยจะสูงกว่าชาวบ้านบ้าง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
และบอกในกระทู้แล้วว่า ที่กนง.เพิ่งลดดอกเบี้ยไป ไม่ได้เกี่ยวกับรมต.โต้งเลย พวกเขาตัดสินใจร่วมกันว่าจะลดเพียง .25% เพราะตัวเลขทางเศรษฐกิจบอกให้เห็นชัดแล้วว่า มีแนวโน้มจะเติบโตลดลง แต่ลดเพียง .25% เพราะกลัวตลาดฯ เข้าใจผิด จะตื่นตระหนก และแค่ .25% แล้วดูแนวโน้มก่อนตัดสินใจต่อไป (รมต.โต้งยังบอกบ่อยๆ ว่า ลดน้อยไปอีก ... เฮ้อ)
นี่ได้อ่านบ้างหรือเปล่า ? หรือความรู้ความเข้าใจด้านเศรษฐกิจไม่เพียงพอ
บางคนก็บอกทำนองว่า จะให้ไปเอาอดีตรมต.กรณ์มาแทนใช่ไหม ... ผมไม่ได้พูดถึงอดีตรมต.กรณ์สักคำ แต่จะให้พูดสักหน่อยก็ได้ว่า :
1. อย่างน้อย แกก็ไม่กดดันธปท. (จริงๆ ต้องกนง. ที่มีผู้ว่าธปท.เป็นประธานโดยตำแหน่ง)
2. ไม่นำค่าใช้จ่ายเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานมาของบรัฐสภานอกงบประมาณ เพราะมันจะทำให้ การตรวจสอบจากภาครัฐด้วยกันเป็นไปได้ยาก (ที่มีเงินกู้มิยาซาว่า เพราะมีเหตุวิกฤตเกิดขึ้น ตามกฏหมายอนุญาตให้ทำได้)
3. ก็ไม่โม้ว่าตัวเองเก่ง สามารถจัดการกับวิกฤตเศรษฐกิจได้ทุกรุปแบบแบบรมต.โต้ง เพราะนี่ขนาดมีปัญหาเรื่องขาดทุนจากนโยบายข้าว, ส่งออกทรุด, การส่งออกและเศรษฐกิจประเทศลดลงอย่างชัดเจน แค่นี้รมต.โต้งยังไม่เห็นจะทำอะไรได้เลย ไม่ต้องพูดถึงวิกฤตการเงินของโลกหรอก
4. รู้ว่าไม่ควรโม้ว่า เศรษฐกิจไทยจะดีโดยเฉลี่ย 5-6% ไปอีก 50 ปี (เพื่อ support การลงทุนรถไฟฟ้า) เพราะอีก 50 ปี อะไรก็เกิดขึ้นได้ ใกล้ๆ นี้ เศรษฐกิจยูโรโซนมีปัญหามาเนิ่นนาน ยังไม่มีอะไรดีขึ้น, ญี่ปุ่นตอนนี้เศรษฐกิจหดตัว ซึ่งรัฐบาลและผู้ว่าแบ็งค์ชาติญี่ปุ่นก็จนปัญญหาที่จะทำอะไรได้ และธ.โลกลดอัตราเติบโตเศรษฐกิจของแต่ละประเทศและโลกลงเป็นระยะ ... แค่ 1-2 ปีหน้านี้ เศรษฐกิจไทยจะโดนผลกระทบมากเท่าไหร่ ยังไม่รู้เลย ... ไม่ต้องพูดถึง 50 ปีหรอก
เห็นได้ชัดว่าแถกัน ไม่ได้อ่านกระทู้ หรือ อ่านแล้วไม่เข้าใจก็ไม่ทราบ ถึงได้ถามในสิ่งที่ได้อธิบายไปชัดเจนแล้ว ... แน่หล่ะขนาดรมต.โต้งที่เก่งและฉลาดที่สุดในรมต.เพื่อไทยทั้งหมด จนตอนนี้ยังไม่เข้าใจครบถ้วน ... แล้วพวกลูกขุนพลอยพยักในห้องราชดำเนินจะไปรู้ไปเข้าใจได้ยังไง
(ผมก็ไม่ได้ว่าตัวเองฉลาดมากถึงเข้าใจ แต่ผมศึกษาข้อมูลบ่อยๆ ทั้งข้อมูลของฝ่ายรัฐบาล, ฝ่ายค้าน, ธปท., กนง. และความเห็นของนักวิชาการต่างๆ ถึงเอามาสังเคราะห์ ไม่ใช่ว่ารมต.พรรคตัวเองว่ายังไง ก็ถูก ก็ดีไปหมด)
ผมเพิ่งรู้ว่านอกจากจะแถ+ต่อว่าโดยไม่เกี่ยวกับกระทู้แล้ว เสื้อแดงห้องนี้ยังมีความรู้ด้านเศรษฐกิจอ่อนด้อยไม่แพ้รมต.โต้งเลย
http://pantip.com/topic/30596136
ได้อ้างอิงถึงหุ้นที่ตกรุนแรงเพราะทางบ.จัดเครดิต S&P ได้ให้สหรัฐมีสถานะจาก 'แง่ลบ' เป็น 'มีเสถียรภาพ' ทำให้นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นในไทยและประเทศอื่นๆ นอกจากสหรัฐฯ อย่างรุนแรง เพื่อนำเงินกลับไปซื้อพันธบัตรหรือลงทุนในสหรัฐ
แต่เสื้อแดงในห้องศุภฯ หลายคนกลับบอกว่า 'หุ้นขึ้นไม่ชมรัฐบาล หุ้นลงด่ารัฐบาล) ... ผมไปด่าตรงไหน
มีบางคนถามว่า แล้วทำไมธปท. (จริงๆ ต้องกนง.ที่เขาตัดสินใจทั้งคณะ ถึงแม้ผู้ว่าธปท. คุณประสารจะเป็นประธานกรรมการก็ตาม) สุดท้ายก็ต้องขึ้นดอกเบี้ย
ทำไมถึงถาม ถามเหมือนที่รมต.โต้งบอกว่า อยากปลดผู้ว่าแบ็งค์ชาติทุกวัน ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่มีสิทธิ์ตามกฏหมาย เพราะอัตราดอกเบี้ยไม่ใช่ทุกอย่างในการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยน ไม่รู้ว่ารมต.โต้งมาเป็นรองรมต.เศรษฐกิจร่วม 2 ปี และมาเป็นรมต.คลังมาร่วมปี นี่ก็ไม่รู้จักวิธี manage อัตราแลกเปลี่ยนเลย กว่าจะร่วมกับหลายๆ หน่วยงานในการวาง 4 steps ในการจัดการกับอัตราแลกเปลี่ยนจากหนักไปหาเบา
ทั้งที่ผมก็บอกในกระทู้แล้วว่า ที่กนง.เขาไม่ลดดอกเบี้ยนโยบายตั้งแต่ต้นปี (เพื่อให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทแข็งขึ้นตามที่รมต.กิติรัตน์ต้องการ) เพราะดอกเบี้ยแต่ละประเทศขึ้นกับปัจจัยทางเศรษฐกิจเทียบกับประเทศอื่น ตอนช่วงที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยแข็งแกร่ง ดังนั้น อัตราดอกเบี้ยจะสูงกว่าชาวบ้านบ้าง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
และบอกในกระทู้แล้วว่า ที่กนง.เพิ่งลดดอกเบี้ยไป ไม่ได้เกี่ยวกับรมต.โต้งเลย พวกเขาตัดสินใจร่วมกันว่าจะลดเพียง .25% เพราะตัวเลขทางเศรษฐกิจบอกให้เห็นชัดแล้วว่า มีแนวโน้มจะเติบโตลดลง แต่ลดเพียง .25% เพราะกลัวตลาดฯ เข้าใจผิด จะตื่นตระหนก และแค่ .25% แล้วดูแนวโน้มก่อนตัดสินใจต่อไป (รมต.โต้งยังบอกบ่อยๆ ว่า ลดน้อยไปอีก ... เฮ้อ)
นี่ได้อ่านบ้างหรือเปล่า ? หรือความรู้ความเข้าใจด้านเศรษฐกิจไม่เพียงพอ
บางคนก็บอกทำนองว่า จะให้ไปเอาอดีตรมต.กรณ์มาแทนใช่ไหม ... ผมไม่ได้พูดถึงอดีตรมต.กรณ์สักคำ แต่จะให้พูดสักหน่อยก็ได้ว่า :
1. อย่างน้อย แกก็ไม่กดดันธปท. (จริงๆ ต้องกนง. ที่มีผู้ว่าธปท.เป็นประธานโดยตำแหน่ง)
2. ไม่นำค่าใช้จ่ายเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานมาของบรัฐสภานอกงบประมาณ เพราะมันจะทำให้ การตรวจสอบจากภาครัฐด้วยกันเป็นไปได้ยาก (ที่มีเงินกู้มิยาซาว่า เพราะมีเหตุวิกฤตเกิดขึ้น ตามกฏหมายอนุญาตให้ทำได้)
3. ก็ไม่โม้ว่าตัวเองเก่ง สามารถจัดการกับวิกฤตเศรษฐกิจได้ทุกรุปแบบแบบรมต.โต้ง เพราะนี่ขนาดมีปัญหาเรื่องขาดทุนจากนโยบายข้าว, ส่งออกทรุด, การส่งออกและเศรษฐกิจประเทศลดลงอย่างชัดเจน แค่นี้รมต.โต้งยังไม่เห็นจะทำอะไรได้เลย ไม่ต้องพูดถึงวิกฤตการเงินของโลกหรอก
4. รู้ว่าไม่ควรโม้ว่า เศรษฐกิจไทยจะดีโดยเฉลี่ย 5-6% ไปอีก 50 ปี (เพื่อ support การลงทุนรถไฟฟ้า) เพราะอีก 50 ปี อะไรก็เกิดขึ้นได้ ใกล้ๆ นี้ เศรษฐกิจยูโรโซนมีปัญหามาเนิ่นนาน ยังไม่มีอะไรดีขึ้น, ญี่ปุ่นตอนนี้เศรษฐกิจหดตัว ซึ่งรัฐบาลและผู้ว่าแบ็งค์ชาติญี่ปุ่นก็จนปัญญหาที่จะทำอะไรได้ และธ.โลกลดอัตราเติบโตเศรษฐกิจของแต่ละประเทศและโลกลงเป็นระยะ ... แค่ 1-2 ปีหน้านี้ เศรษฐกิจไทยจะโดนผลกระทบมากเท่าไหร่ ยังไม่รู้เลย ... ไม่ต้องพูดถึง 50 ปีหรอก
เห็นได้ชัดว่าแถกัน ไม่ได้อ่านกระทู้ หรือ อ่านแล้วไม่เข้าใจก็ไม่ทราบ ถึงได้ถามในสิ่งที่ได้อธิบายไปชัดเจนแล้ว ... แน่หล่ะขนาดรมต.โต้งที่เก่งและฉลาดที่สุดในรมต.เพื่อไทยทั้งหมด จนตอนนี้ยังไม่เข้าใจครบถ้วน ... แล้วพวกลูกขุนพลอยพยักในห้องราชดำเนินจะไปรู้ไปเข้าใจได้ยังไง
(ผมก็ไม่ได้ว่าตัวเองฉลาดมากถึงเข้าใจ แต่ผมศึกษาข้อมูลบ่อยๆ ทั้งข้อมูลของฝ่ายรัฐบาล, ฝ่ายค้าน, ธปท., กนง. และความเห็นของนักวิชาการต่างๆ ถึงเอามาสังเคราะห์ ไม่ใช่ว่ารมต.พรรคตัวเองว่ายังไง ก็ถูก ก็ดีไปหมด)