ท่ามกลางการโจมตีโครงการจำนำข้าวจากกลุ่มนายทุนและผู้มีรายได้ประจำ กลับได้เห็นน้ำใจของชาวนาไทย"ยอมลดเงินจำนำข้าวต่อตัน"
ซึ่งมันต่างกันมาก กับ การยอมลดกำไรของกลุ่มนายทุน โรงสี พ่อค้าคนกลาง หรือกลุ่มธุรกิจอื่นๆ
คิดเหมือนกันไหม?
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ส.ชาวนาไทย เห็นใจรัฐยอมลดเงินจำนำข้าวต่อตัน
นายกสมาคมชาวนาไทย แสดงความเห็นต่อกรณีการขาดทุนในโครงการรับจำนำข้าว โดยระบุว่า ชาวนาเห็นใจรัฐบาล และยินดีที่ให้ปรับลดเงินจำนำ เหลือตันละ 1 หมื่นบาทและไม่จำเป็นต้องจำนำทุกเม็ด
นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย กล่าวว่า ชาวนาส่วนใหญ่รับทราบข่าวสารเกี่ยวกับผลการดำเนินงานที่ขาดทุนของรัฐบาลในโครงการรับจำนำข้าว จึงทำให้ชาวนาต่างกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนของโครงการดังกล่าว และจากการหารือกับชาวนาส่วนใหญ่ พวกเขาต่างยินดีให้รัฐบาลปรับลดราคารับจำนำลงมาอยู่ที่ 1 หมื่นบาท และอาจไม่ต้องรับจำนำข้าวทุกเม็ดตามนโยบาย
โดยให้รัฐสามารถกำหนดปริมาณรับจำนำต่อรายที่เหมาะสมกับชาวนาส่วนใหญ่ เพื่อแก้ปัญหาโกดังล้นและเงินงบ ประมาณไม่เพียงพอใช้ โดยที่ผ่านมาแม้รัฐบาลจะประกาศราคาจำนำที่ตันละ 1 หมื่น 5 พันบาท - 2 หมื่นบาท แต่ในความเป็นจริงกลับมีการคอรัปชั่น ทำให้ชาวนาได้รับเงินไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย
นอกจากนี้ ต้นทุนการผลิตต่างๆก็ยังปรับตัวสูงขึ้น เช่น ค่าแรงเพิ่มจาก 200 บาท เป็น 300 บาท และค่าเช่าที่นา เพิ่มจากไร่ละ 800-1,000 บาทเป็นไร่ละ 2,000 บาท เป็นต้น
ดังนั้น สมาคมชาวนาไทยจึงเห็นว่ารัฐควรกำหนดราคาจำนำที่ตันละ 1 หมื่นบาท แต่ต้องจ่ายตรงให้แก่ชาวนา โดยมีเงื่อนไขเกี่ยวกับความชื้นเพียงกว้างๆ เช่นความชื้นอาจจะอยู่ที่ร้อยละ 30 และรับจำนำครัวเรือนละ 25 ตัน เพราะยิ่งกระบวนการซับซ้อน จะเป็นช่องทางของการคอรัปชั่น ทั้งนี้ เพื่อให้ชาวนาอยู่ได้และรัฐก็ไม่ต้องใช้งบประมาณสูงเกินความจำเป็น
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ มีกำหนดแถลงตัวเลขโครงการรับจำนำข้าววันนี้ หลังจากที่มีกระแสข่าวว่า มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ลดอันดับความน่าเชื่อถือ จากตัวเลขการขาดทุน 2 แสน 6 หมื่นล้านบาทของโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งเมื่อวานนี้(6มิ.ย.56) นายสเตฟเฟน ดิก นักวิเคราะห์ความเสี่ยงของมูดี้ส์ ได้เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ส ว่า กระแสข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง อันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ ยังไม่ได้ตกอยู่ในความเสี่ยง และยังอยู่ในขั้นบีเอเอ หนึ่ง ( Baa1) หรือในอันดับเดิม ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง
by Watsana
7 มิถุนายน 2556 เวลา 17:07 น.
ชมคลิปข่าวจากลิงค์ http://news.voicetv.co.th/business/71943.html
ท่ามกลางการโจมตีโครงการจำนำข้าวจากกลุ่มนายทุนและผู้มีรายได้ประจำ กลับได้เห็นน้ำใจของชาวนาไทย"ยอมลดเงินจำนำข้าวต่อตัน"
ซึ่งมันต่างกันมาก กับ การยอมลดกำไรของกลุ่มนายทุน โรงสี พ่อค้าคนกลาง หรือกลุ่มธุรกิจอื่นๆ
คิดเหมือนกันไหม?
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ส.ชาวนาไทย เห็นใจรัฐยอมลดเงินจำนำข้าวต่อตัน
นายกสมาคมชาวนาไทย แสดงความเห็นต่อกรณีการขาดทุนในโครงการรับจำนำข้าว โดยระบุว่า ชาวนาเห็นใจรัฐบาล และยินดีที่ให้ปรับลดเงินจำนำ เหลือตันละ 1 หมื่นบาทและไม่จำเป็นต้องจำนำทุกเม็ด
นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย กล่าวว่า ชาวนาส่วนใหญ่รับทราบข่าวสารเกี่ยวกับผลการดำเนินงานที่ขาดทุนของรัฐบาลในโครงการรับจำนำข้าว จึงทำให้ชาวนาต่างกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนของโครงการดังกล่าว และจากการหารือกับชาวนาส่วนใหญ่ พวกเขาต่างยินดีให้รัฐบาลปรับลดราคารับจำนำลงมาอยู่ที่ 1 หมื่นบาท และอาจไม่ต้องรับจำนำข้าวทุกเม็ดตามนโยบาย
โดยให้รัฐสามารถกำหนดปริมาณรับจำนำต่อรายที่เหมาะสมกับชาวนาส่วนใหญ่ เพื่อแก้ปัญหาโกดังล้นและเงินงบ ประมาณไม่เพียงพอใช้ โดยที่ผ่านมาแม้รัฐบาลจะประกาศราคาจำนำที่ตันละ 1 หมื่น 5 พันบาท - 2 หมื่นบาท แต่ในความเป็นจริงกลับมีการคอรัปชั่น ทำให้ชาวนาได้รับเงินไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย
นอกจากนี้ ต้นทุนการผลิตต่างๆก็ยังปรับตัวสูงขึ้น เช่น ค่าแรงเพิ่มจาก 200 บาท เป็น 300 บาท และค่าเช่าที่นา เพิ่มจากไร่ละ 800-1,000 บาทเป็นไร่ละ 2,000 บาท เป็นต้น
ดังนั้น สมาคมชาวนาไทยจึงเห็นว่ารัฐควรกำหนดราคาจำนำที่ตันละ 1 หมื่นบาท แต่ต้องจ่ายตรงให้แก่ชาวนา โดยมีเงื่อนไขเกี่ยวกับความชื้นเพียงกว้างๆ เช่นความชื้นอาจจะอยู่ที่ร้อยละ 30 และรับจำนำครัวเรือนละ 25 ตัน เพราะยิ่งกระบวนการซับซ้อน จะเป็นช่องทางของการคอรัปชั่น ทั้งนี้ เพื่อให้ชาวนาอยู่ได้และรัฐก็ไม่ต้องใช้งบประมาณสูงเกินความจำเป็น
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ มีกำหนดแถลงตัวเลขโครงการรับจำนำข้าววันนี้ หลังจากที่มีกระแสข่าวว่า มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ลดอันดับความน่าเชื่อถือ จากตัวเลขการขาดทุน 2 แสน 6 หมื่นล้านบาทของโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งเมื่อวานนี้(6มิ.ย.56) นายสเตฟเฟน ดิก นักวิเคราะห์ความเสี่ยงของมูดี้ส์ ได้เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ส ว่า กระแสข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง อันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ ยังไม่ได้ตกอยู่ในความเสี่ยง และยังอยู่ในขั้นบีเอเอ หนึ่ง ( Baa1) หรือในอันดับเดิม ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง
by Watsana
7 มิถุนายน 2556 เวลา 17:07 น.
ชมคลิปข่าวจากลิงค์ http://news.voicetv.co.th/business/71943.html