ทำไมผมรู้สึกแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้...

ทำไมผมรู้สึกแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้...
ทุกวัน... ถึงแม้ตลาดหุ้นจะลงแรงๆ ติดๆกันหลายวัน
แต่... หลายๆ กระทู้มีถาม รับอะไรกันมาบ้างยกมือขึ้น,ของถูกเต็มตลาด ฯลฯ
ปิดตลาดแต่ละวันรายย่อยก็รับตลอด
เม่าชอปปิ้ง
เนื่องจาก... พอหุ้นลงหนักๆ เดี๋ยวซักพักมันก็ขึ้นทุกที
จนหลายๆ คน... เริ่มลืมเหตุการณ์เก่าๆ ไปแล้ว
เหมือนหลายคน... เริ่มๆ ชินกับน้ำร้อนในหม้อแล้ว
ถึงฝรั่งจะปล่อยของอย่างไร... รายย่อยก็เข้าไปรับตลอด
(รวมถึงผมเองด้วยน่ะ ถึงแม้ตอนแรกจะมองกิจการ,มองอนาคต,
แกะงบการเงินแล้วก็ตาม แต่สุดท้ายก็แพ้ให้กับอารมณ์ทุกที 555+)
เม่าฝึกจิต

เหมือนว่าคนส่วนใหญ่เริ่มกล้ามากกว่ากลัวแล้วหรือป่าว...

ส่วนตัวผมยังมีหุ้นอยู่น่ะครับ และก็ยังมีเงินสดอีกราวๆ สามสิบเปอร์เซ็นต์ของพอร์ท
เป็นสามสิบเปอร์เซ็นต์สุดท้ายที่จะไม่ให้อารมณ์พาไปอีกแล้ว
ซึ่งวิธีที่ผมจะใช้ประจำเมื่อคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้
(ปล.การคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้ ยกตัวอย่างเช่น พอดูจอหุ้นลงซักพักเฮ้ย!!! ถูกกว่าที่ซื้อเว้ยอัดเพิ่ม
อีกซักสิบห้านาทีถัดมาอยากคัทลอสซะอย่างงั้น ฮิ้ว...)

ผมจะใช้วิธี...เปิดดูราคาหุ้นประมาณอาทิตย์ละครั้งในวันเสาร์
แล้วค่อยๆ คิดทบทวนว่าควรทำอยากไรกับมันดี
อ่าน SWOT analysis ที่ตัวเองเคยบันทึกไว้
อ่านงบการเงิน, 56-1 พยามมองภาพรวมของเศรษฐกิจให้ออก
เม่าอ่านหนังสือพิมพ์

ยกตัวอย่างเช่น
ปีที่แล้วรัฐปรับราคาค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท
ประกอบกับค่าเงินไทยแข็งขึ้นอย่างมาก
ผมเคยถือหุ้นเกี่ยวกับธุรกิจส่งออกอาหารทะเลไว้ (ได้เป็นเด้งๆ กับเขาเหมือนกันน่ะเออ แต่ถือหลายปีน่ะ)
ธุรกิจนี้ต้องใช้ แรงงานเยอะ ไม่สามารถทดแทนด้วยเครื่องจักรได้มากนั้ก
ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นสูงมาก แล้วเงินบาทก็ยังมาแข็งขึ้นอีก
ทำให้รายรับที่เข้ามาพอแปลงกลับเป็นเงินบาทแล้วลดลงมาก อนาคตไม่น่ารุ่ง
ทำให้ผมขายหุ้นออกไป มีเงินสดเหลือ จากนั้นก็หากิจการที่จะลงทุนต่อไป


เม่าออกรถ

เอ๊ะ!!! หลายๆ คนได้เริ่มรับรถคันแรกแล้วน่ะ
คงไม่ได้เอามาไว้เข็นแน่ๆ ยังไงรถก็ต้องใช้น้ำมัน
แล้วบริษัทน้ำมันบางเจ้าเมื่อราคาตลาดโลกขึ้น
เขาก็ปรับราคาขึ้น ลงก็ปรับลง อาจมีลงทุนบ้าง
แต่ยังไงกำไรขั้นต้นก็ยังอยู่ที่ 7-8% มาตลอด
รายได้ก็เติบโตมาตลอด บริษัทก็มั้นคง ขนาดตอนปี 40 ยังผ่านมาได้
ตอนนี้มองไปหลายๆ อย่างก็ดีกว่าตอนนั้นตั้งเยอะ
(คู่แข่งก็หายไปเกือบหมดแล้วแถมยังเทคโอเวอร์เค้ามาอีก)
สุดท้ายปันผลถ้าเทียบกับผลตอบแทนเงินฝากระยะยาวหลายๆ ตัวก็ยังดีกว่า
(ไม่นับหุ้นกู้น่ะครับ เพราะคนตัวเล็กๆ อย่างผม ไม่เคยซื้อได้เลย ร้องไห้ )

แล้วจะกลัวไปทำไมกับราคารายวัน........ปิดจอ ดื่มวิต้า แล้วไปนอนกระดิก... ซ่ะ

ปล.ขออภัยที่เขียนเหมือนเชียร์หุ้นบางตัวเนื่องจากนึกตัวอย่างอื่นๆ เพื่อให้เห็นภาพไม่ออกจริงๆ ครับ
ถ้าใครเห็นว่าไม่เหมาะสมแจ้งลบได้เลยนะครับ

ปล.2 ถึงแม้ปันผลจะเป็นปัจจัยสำคัญอย่างนึงที่ ผมใช้ในการตัดสินใจซื้อหุ้น
แต่ผมไม่ได้มองที่ปันผลอย่างเดียวน่ะ ถึงตอนนี้หุ้นหลายๆ ตัวปันผล 7-8 %
แต่ถ้ามองอนาคตไม่ออก อยู่กับฝันลมๆ แล้งๆ ผมไม่เอาเด็ดขาด
(เคยพลาดจากบ้านปูขาดทุนเป็นหมื่น เจ็บแล้วจำ 555+)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่